วันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

Lockheed Martin สหรัฐฯผลักดันเครื่องบินลำเลียง C-130J สำหรับสวีเดน

Lockheed Martin pushes C-130J for Sweden

An artist's impression of the Lockheed Martin C-130J Hercules in Swedish markings. (Lockheed Martin)




The Swedish Air Force scoping out a replacement for its ageing C-130H Hercules fleet. (Swedish Air Force)



บริษัท Lockheed Martin สหรัฐฯกำลังผลักดันเครื่องบินลำเลียง C-130J Hercules ของตนสำหรับสวีเดน โดยการประกาศบันทึกความเข้าใจ(MOU: Memorandum of Understanding) กับภาคอุตสาหกรรมของสวีเดนเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2024
โดยกองทัพอากาศสวีเดน(SwAF: Swedish Air Force, Svenska flygvapnet) กำลังกำหนดขอบเขตการทดแทนสำหรับฝูงบินเครื่องบินลำเลียง C-130H Hercules ที่มีอายุการใช้งานมานานของตน

Lockheed Martin สหรัฐฯได้เปิดตัวการนำเสนอเครื่องบินลำเลียง C-130J-30 ของตนด้วย MOU ที่ลงนามกับบริษัท MilDef สวีเดนที่มีสำนักงานในกรุง Stockholm ผู้ให้บริการ 'แนวทางแก้ไขปัญหาวิทยาการสารสนเทศทางยุทธวิธี'(tactical IT solutions)
"Lockheed Martin และ MilDef ประกาศบันทึกความเข้าใจในวันนี้เพื่อเสริมความแข็งแกร่งความร่วมือด้านการบินผ่านเครื่องบินลำเลียงทางยุทธวิธี C-130J-30 Super Hercules ของ Lockheed Martin สำหรับกองทัพอากาศสวีเดน" Lockheed Martin กล่าว

"ผ่านความเป็นหุ้นส่วนนี้ สององค์กรจะระบุโอกาสความเป็นหุ้นส่วนที่แนวทางและความเชี่ยวชาญของ MilDef สามารถที่จะบูรณาการเข้ากับระบบสภาพแวดล้อมการบินและกลาโหมทั่วโลกของ Lockheed Martin" บริษัทผู้ผลิตกล่าว
กองทัพอากาศสวีเดนมีประจำการด้วยเครื่องบินลำเลียง C-130H จำนวน 6เครื่อง(2เครื่องจากเดิม 8เครื่องถูกเก็บสำรองไว้ตั้งแต่ปี 2015) ซึ่งเป็นเครื่องที่เก่าที่สุดที่ยังทำการบินในยุโรปที่ได้รับมอบมาตั้งแต่ปี 1965

ในปี 2017 กองทัพอากาศสวีเดนตัดสินใจที่จะคัดค้าการจัดหาเครื่องบินลำเลียงแบบใหม่ ณ เวลานั้น โดยเลือกที่จะทำการปรับปรุงเครื่องบินลำเลียง C-130H แทน
การปรับปรุงครึ่งอายุ(MLU: Mid-Life Upgrade) ครอบคลุมระบบ Avionics และระบบอื่นๆบางส่วนของเครื่องบิน แต่ไม่รวมงานทางโครงสร้างหลักอย่างเช่นการเปลี่ยนชุดกล่องปีกกลาง centre wing box

การปรับปรุง MLU เริ่มต้นในปี 2020 และจะดำเนินการไปจนถึงปลายปี 2024 โดยมุ่งเป้าที่กำลังดำรงเครื่องบินลำเลียง C-130H ในสถานะภาพการปฏิบัติการไปจนถึงต้นปี 2030s
กองทัพอากาศสวีเดนยังใช้ C-130H ของตนในรูปแบบเครื่องบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงทางอากาศ KC-130H สำหรับการเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศแก่เครื่องบินขับไล่ Saab JAS-39 Gripen(https://aagth1.blogspot.com/2023/10/fmv-gripen-e.html, https://aagth1.blogspot.com/2023/10/gripen-nato.html, https://aagth1.blogspot.com/2023/10/rm12-gripen-cd.html)

ในเดือนมิถุนายน 2022 ฝรั่งเศส, เยอรมนี และสวีเดนได้ประกาศความเห็นชอบการพัฒนาเครื่องบินลำเลียงขนาดกลางปีกตรึงแบบใหม่ในชื่อโครงการเครื่องบินลำเลียงทางยุทธวิธีขนาดกลางอนาคต FMTC(Future Mid-Size Tactical Cargo)
โครงการเครื่องบินลำเลียงทางยุทธวิธีขนาดกลางอนาคต FMTC มีวัตถุประสงค์ที่จะทดแทนฝูงบินเครื่องบินลำเลียง C-130 Hercules, เครื่องบินลำเลียง Airbus(เดิม Casa สเปน) CN235 และเครื่องบินลำเลียง Airbus A400M ภายในปี 2040

ต่อมาในเดือนมิถุนายน 2023 บริษัท Airbus ยุโรปจะได้รับงบประมาณจากกองทุนกลาโหมยุโรป(EDF: European Defence Fund) เพื่อเป็นผู้นำโครงการระบบทางอากาศยุคอนาคตสำหรับการลำเลียงทางยุทธวิธียุโรป FASETT(Future Air System for European Tactical Transportation) 
ที่จะเป็นการพัฒนาเครื่องบินลำเลียงขนาดกลางแบบใหม่เข้าประจำการในชาติสมาชิกสหภาพยุโรป(EU: European Union) 11ชาติคือ ฝรั่งเศส, เยอรมนี, โปแลนด์, สเปน, ออสเตรีย, เบลเยียม, ฟินแลนด์, กรีซ, อิตาลี, โรมาเนีย และสวีเดน ในปี 2030s-2040s ครับ