Boeing sees T-7 as combat replacement for Northrop F-5 and Dassault/Dornier
Alpha Jet
Boeing T-7A
Northrop F-5E of the Royal Thai Air
Force(https://www.facebook.com/groups/441463545871708/permalink/4381649348519755/)
Dassault/Dornier Alpha Jet of the Royal Thai Air
Force(https://www.facebook.com/groups/441463545871708/permalink/4473608249323864/)
บริษัท Boeing สหรัฐฯเชื่อว่ารุ่นเครื่องบินโจมตีเบาของเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A
Red Hawk ของตนจะสามารถทดแทนฝูงบินเครื่องบินขับไล่ Northrop F-5
และเครื่องบินโจมตี Dassault/Dornier Alpha Jet
ที่มีอายุการใช้งานมานานทั่วโลกได้
Boeing ได้ชี้ชวนการขายมายาวนานถึง "ศักยภาพการเติบโต" ของ T-7
โดยให้ข้อสังเกตว่าเครื่องบินฝึกไอพ่นแบบนี้สามารถจะปรับแต่งให้ติดตั้งอาวุธเช่นอาวุธปล่อยนำวิถีหรือระเบิดเพื่อใช้งานในฐานะเครื่องบินรบ
Boeing สหรัฐฯได้กล่าวว่าตนเชื่อว่ามีโอกาสในตลาดนานาชาติสำหรับ T-7 จำนวน
2,600เครื่อง ในฐานะเครื่องบินฝึก, เครื่องบินโจมตีเบา และเครื่องบินข้าศึกสมมุติ
(https://aagth1.blogspot.com/2020/03/ft-7x.html,
https://aagth1.blogspot.com/2020/01/saab-t-7a-red-hawk.html,
https://aagth1.blogspot.com/2019/09/boeing-saab-t-x-t-7a-red-hawk.html)
Boeing ซึ่งมีที่ตั้งสำนักงานใหญ่ใน Chicago
สหรัฐฯปฏิเสธที่จะกล่าวว่าประเทศใดบ้างที่จะเป็นผู้ซื้อ T-7
อย่างไรก็ตามบริษัทย้ำในการตอบสนองต่อคำถามจาก FlightGlobal ว่า
เครื่องบินรบขนาดเบาเช่น F-5 และ Alpha Jet จะเป็นตัวแทนที่ดีที่จะถูกทดแทนด้วย
T-7
โดยอากาศยานทั้งสองแบบยังคงประจำการในฐานะเครื่องบินฝึกไอพ่นภายในหลายกองทัพอากาศทั่วโลก
มีเครื่องบินขับไล่ F-5 ราว 435เครื่องที่ยังประจำการทั่วโลกจากข้อมูลของ Cirium
เครื่องบินขับไล่ขนาดเบานี้ถูกส่งมอบครั้งแรกในปี 1964 และยุติสายการผลิตในปี
1989 ตามข้อมูลจากบริษัท Northop Grumman สหรัฐฯ
ฝูงบิน F-5 ที่ยังคงประจำการทั่วโลกมีอายุการใช้งานเฉลี่ยที่ 41.4ปี
โดยประจำการใน 17ประเทศรวมถึงบราซิล, เคนย่า, โมร็อกโก และกองทัพอากาศไทย(RTAF:
Royal Thai Air Force)
มีเครื่องบินฝึกไอพ่น/โจมตีเบา Alpha Jet ราว
174เครื่องที่ยังประจำการทั่วโลกตามที่ข้อมูลของ Cirium แสดง
เครื่องบินไอพ่นขนาดเบาที่เป็นโครงการสร้างรวมกันของฝรั่งเศสและเยอรมนีทำการบินครั้งแรกในปี
1973 ตามข้อมูลจากบริษัท Dassault ฝรั่งเศส
ฝูงบิน Alpha Jet ที่ยังประจำการทั่วโลกมีอายุการใช้งานเฉลี่ยที่ 38ปี
โดยประจำการใน 11ประเทศรวมถึงอียิปต์, ฝรั่งเศส, โมร็อกโก และกองทัพอากาศไทย
Boeing สหรัฐฯย้ำว่ามีโอกาสความเป็นไปได้สำหรับการขาย T-7
ในฐานะเครื่องบินฝึกหรือเครื่องบินรบที่น่าจะมาจากกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
"เราเห็นความสนใจอย่างแรงบางอย่างในภูมิภาคนี้"
Thomas Breckenridge รองประธานฝ่ายขายนานาชาติของแผนกธุรกิจระบบโจมตี, ตรวจการณ์
และความคล่องแคล่วการเคลื่อนที่ของ Boeing กล่าว
Boeing และบริษัท Saab
สวีเดนหุ้นส่วนโครงการได้รับสัญญาเพื่อสร้างเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A Red Hawk
จำนวน 351เครื่องสำหรับกองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force)
โดยเครื่องแรกมีกำหนดส่งมอบในปี 2023
เครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A มีกำหนดจะบรรลุความพร้อมปฏิบัติการขั้นต้น(IOC: Initial
Operational Capability) ในปี 2024 และความพร้อมปฏิบัติการเต็มอัตรา(FOC: Full
Operational Capability) ในปี 2034
การทดสอบ T-7A เครื่องต้นแบบ 2เครื่องกำลังดำเนินอยู่ โดยเสร็จสิ้นการบินมากกว่า
200เที่ยวบินแล้วในตอนนี้ Boeing ได้เริ่มต้นการสร้างเครื่องในรุ่น
การพัฒนาทางวิศวกรรมและการผลิต (EMD: Engineering and Manufacturing Development)
สำหรับกองทัพอากาศสหรัฐฯแล้ว แต่ปฏิเสธว่าเมื่อไรที่เครื่องจะทำการบินครั้งแรก
เฉพาะในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกกลุ่มประเทศ ASEAN กองทัพอากาศไทยมีเครื่องบินขับไล่
บ.ข.๑๘ข/ค F-5E/F ฝูงบิน๒๑๑ กองบิน๒๑ อุบลราชธานี จำนวน
๑๔เครื่องที่ได้รับการปรับปรุงความทันสมัยเป็นมาตรฐาน F-5TH Super Tigris
โดยบริษัท Elbit System อิสราเอล
ร่วมกับ บริษัท อุตสาหกรรมการบิน Thai Aviation Industries(TAI) ไทย และบริษัท RV
Connex ไทย(https://aagth1.blogspot.com/2020/02/f-5th-super-tigris-rtaf-u1-m-singapore.html,
https://aagth1.blogspot.com/2019/11/f-5th-super-tigris-iris-t.html)
และกองทัพอากาศไทยมีเครื่องบินโจมตี บ.จ.๗ Alpha Jet ฝูงบิน๒๓๑ กองบิน๒๓ อุดรธานี
ที่ ๑๔เครื่องจะได้รับการปรับปรุงความทันสมัยด้วยระบบ Avionic ห้องนักบิน Glass
Cockpit และเครือข่าย Datalink Link-T โดยบริษัท RV Connex ไทย
ตามแผนสมุดปกขาว RTAF White Paper 2020(https://aagth1.blogspot.com/2020/02/2020.html) กองทัพอากาศไทยมีแผนจัดหาเครื่องบินโจมตีเบาใหม่
๑๒เครื่องทดแทนเครื่องบินขับไล่และฝึก บ.ขฝ.๑ Aero Vodochody L-39ZA/ART Albatros
ฝูงบิน๔๑๑ กองบิน๔๑ เชียงใหม่ ครับ