USAF to take Turkish F-35s forfeited over Russian GBAD procurement
The first of a planned 100 F-35As for Turkey seen at its rollout before the country was excluded from the programme in July 2019.
The USAF is to take six such aircraft that were to be built in Lot 14, and is expected to absorb the already-built and in-production Turkish jets as well. (Lockheed Martin)
กองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force) จะได้รับเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-35A Lightning II Joint Strike Fighter(JSF) ที่เดิมมีกำหนดจะส่งมอบให้ตุรกี
ก่อนที่ตุรกีจะถูกตัดออกจากโครงการ JSF(https://aagth1.blogspot.com/2019/07/f-35.html) ตามที่ตุรกีจัดหาระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 ของรัสเซีย(https://aagth1.blogspot.com/2019/07/s-400.html)
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯประกาศเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2020 ว่าเครื่องบินขับไล่ F-35A สายการผลิต Lot 14 จำนวน 8เครื่องที่ตั้งไว้สำหรับตุรกีขณะนี้จะถูกโอนไปยังกองทัพอากาศสหรัฐฯแทน
ความเคลื่อนไหวซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากการตัดสินใจของรัฐบาลตุรกีที่จะเดินหน้าการจัดหาระบบป้องกันภัยทางอากาศภาคพื้นดิน(GBAD: Ground-Based Air-Defence) แบบ S-400 ตุรกี
เครื่องบินขับไล่ F-35A สำหรับตุรกีเดิมทั้ง 8เครื่องจะได้รับการดัดแปลงเป็นรูปแบบการปฏิบัติการเต็มอัตราของกองทัพอากาศสหรัฐฯ F-35A ตุรกีเดิม 6เครื่องที่เป็นหัวข้อของการประกาศสัญญานี้
เป็นส่วนหนึ่งของการจัดหา F-35A สายการผลิต Lot 14 จำนวน 14เครื่องของกองทัพอากาศสหรัฐฯวงเงิน $861.7 million ซึ่งทั้งหมดมีกำหนดจะถูกส่งมอบในเดือนพฤษภาคม 2026
ตุรกีเคยมีกำหนดจะจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-35A จำนวน 100เครื่อง และเคยถูกตั้งในบทบาทส่วนหลักในสายส่งอุปทานทั่วโลกสำหรับฝูงบิน JSF นานาชาติที่กว้างขวาง(https://aagth1.blogspot.com/2020/01/f-35-2020.html)
อย่างไรก็ตามสหรัฐฯคัดค้านแผนของตุรกีที่จะซื้อระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 รัสเซีย ด้วยความกลัวว่าระบบรัสเซียจะสามารถเรียนรู้วิธีที่ดีที่สุดที่จะเอาชนะ F-35 และความรู้ดังกล่าวนี้จะถูกส่งต่อไปยังรัฐบาลรัสเซียผ่านเครือข่ายชุดคำสั่ง
ถ้าระบบ S-400 รัสเซียเรียนรู้วิธีที่จะกำจัดขีดความสามารถตรวจจับได้ยาก(Stealth) ของ F-35 จากนั้นประสิทธิภาพการปฏิบัติการโดยรวมของโครงการความมั่นคงที่แพงที่สุดในโลกจะอยู่ในความเสี่ยง
และด้วยเหตุนี้ในเดือนกรกฎาคม 2019 ตรุกีจึงได้ถูกตัดออกจากโครงการ JSF อย่างเป็นทางการ ตามด้วยห่วงโซ่อุปทานส่วนใหญ่ของ F-35 ได้ถูกย้ายออกจากตุรกีในเดือนมีนาคม 2020
ชิ้นส่วนของอากาศยานเกือบ 900ส่วน รวมถึงโครงสร้างลำตัวส่วนกลางและจอแสดงผลห้องนักบินได้ถูกผลิตในตุรกี โดยมีภาคอุตสาหกรรมภายในตุรกีหลายรายมีส่วนร่วม เช่น Turkish Aerospace รัฐวิสาหกิจอุตสาหกรรมอากาศยานของตุรกี
นักบินและช่างอากาศยานราว 25นายของกองทัพอากาศตุรกี(Turkish Air Force) ได้ถูกแจ้งให้ทราบในวันที่ 17 กรกฎาคม 2019 ว่าพวกเขาจะไม่ได้รับการอนุญาตให้เข้าถึงพื้นที่ F-35 JPO อีกต่อไป และมีกำหนดที่ต้องเดินทางกลับตุรกีครับ(https://aagth1.blogspot.com/2019/04/f-35a.html)