The US Air Force has designated the Boeing T-X jet trainer the T-7A Red Hawk, in tribute to the US Army Air Corps’ Tuskegee Airmen and their World War II-era P-40 Warhawks.
https://www.flightglobal.com/news/articles/video-usaf-christens-new-trainer-as-t-7a-red-hawk-460890/
กองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force) ได้กำหนดแบบเครื่องบินฝึกไอพ่น Boeing T-X เป็น T-7A Red Hawk เพื่อยกย่อง Tuskegee Airmen กลุ่มนักบินแอฟริกัน-อเมริกันของกองบินกองทัพบกสหรัฐฯ(US Army Air Corps) และเครื่องบินขับไล่ P-40 Warhawk สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง
การตั้งชื่อเครื่องบินฝึกไอพ่นใหม่นี้ได้รับการประกาศโดยว่าที่รัฐมนตรีทบวงกองทัพอากาศ Matthew Donovan ณ งานสัมนา Air, Space and Cyber Conference 2019 ของสมาคมกองทัพอากาศ(Air Force Association) ใน National Harbor มลรัฐ Maryland เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2019
เครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A Red Hawk ได้รับการทำลวดลายบนแพนหางแนวตั้งของเครื่องเป็นสีแดง(Red Tail) ตามเครื่องบินขับไล่ของเหล่านักบิน Tuskegee Airmen ในฝูงบินขับไล่ที่99(99th Pursuit Squadron) เคยทำในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง
บริษัท Boeing สหรัฐฯได้เป็นผู้ชนะในสัญญาวงเงิน $9.2 billion ในเดือนกันยายน 2018 เพื่อส่งมอบเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A 351เครื่อง, เครื่องจำลองการบิน 46ระบบ อุปกรณ์ภาคพื้นดินที่เกี่ยวข้องแก่กองทัพอากาศสหรัฐฯ(https://aagth1.blogspot.com/2018/09/boeing-saab-t-x.html)
กองทัพอากาศสหรัฐฯจะนำ T-7A เพื่อทดแทนเครื่องบินฝึกไอพ่น Northrop T-38C Talon ที่ประจำการมาตั้งแต่ปี 1961(https://aagth1.blogspot.com/2018/10/saab-boeing-t-x.html) การตั้งชื่อเครื่องมีขึ้นตามมาหลังจากที่เครื่องผ่านการทบทวนการออกแบบสำคัญในวันที่ 9 กันยายน 2019
Boeing ได้ทำการบิน T-7A เที่ยวบินที่100 เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2019 โดย T-7A เครื่องต้นแบบทำการบินครั้งแรกในเดือนธันวาคม 2016(https://aagth1.blogspot.com/2016/12/t-x-boeing-saab.html) สามปีก่อนหลังการพัฒนาขั้นต้นได้เริ่มต้นในการเป็นหุ้นส่วนกับบริษัท Saab สวีเดน
ระยะการพัฒนาที่สั้นนั้นได้รับความช่วยเหลือจาการพึ่งพาทางวิศกรรมบนแบบจำลองของบริษัท ขั้นตอนมุ่งเป้าที่การใช้การวาดแบบเครื่องบินแบบ Digital ตลอดขั้นตอนการพัฒนา Steve Parker ผู้จัดการโครงการ T-7A กล่าว
เขาปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดถึงขั้นตอนของ Boeing โดยอ้างว่ามันเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขัน "เรากำลังอยู่ในโครงการ(ขั้นการพัฒนาทางวิศวกรรมและการผลิต EMD: Engineering and Manufacturing Development)(https://aagth1.blogspot.com/2019/07/boeing-t-x.html)
มันเป็นเรื่องไม่ปกติสำหรับ(โครงการ) EMD ที่จะทำการทบทวนการออกแบบที่สำคัญ เราได้เริ่มการผลิตชิ้นส่วนแล้ว เราทำการบินทดสอบแล้ว มันเป็นสถานะการณ์ที่แปลก มันเป็นอะไรที่เราอยากจะเรียกว่าการทำลายบรรทัดฐาน" Parker กล่าว
ผู้เข้าแข่งขันในโครงการ T-X เช่น บริษัท Lockheed Martin สหรัฐฯที่เสนอเครื่องบินฝึกไอพ่น T-50A ร่วมกับบริษัท Korean Aerospace Industries(KAI) สาธารณรัฐเกาหลี(https://aagth1.blogspot.com/2015/12/kai-t-50-t-x.html)
ได้กล่าวหา Boeing ว่าลงแข่งขันโครงการ T-X โดยที่มีผลขาดทุนทางการเงิน โดยตั้งใจจะออกจากการติดตัวแดงบัญชีผ่านการทำสัญญาเพื่อคงกำไรที่สูงและการขายส่งออกระดับนานาชาติ
Parker กล่าวว่านั่นเป็นความเข้าใจผิดและการที่ Boeing สามารถเข้าแข่งขันในราคาที่ต่ำและเดินหน้าได้อย่างรวดเร็วเพราะการเข้าถึงรูปแบบการทำงานทางวิศวกรรมบนพื้นฐานแบบจำลองของตน
ก่อนสิ้นปี 2019 นี้ Boeing ตั้งเป้าที่จะเสร็จสิ้นการทบทวนการออกแบบสำคัญของระบบการฝึกภาคพื้นดิน การประกอบเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A เครื่องแรกในขั้น EMD จะเริ่มต้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ตามที่ Boeing ลังเลที่จะระบุถึงเวลาที่ชัดเจน
"มันขึ้นอยู่กับว่าคุณกำหนดถึงการประกอบเครื่องอย่างไร เราจะทำการประกอบส่วนต่างๆจากทั่วโลกอย่างแน่นอนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่เครื่องบินจะเริ่มต้นประกอบเป็นรูปร่างรวมกันในปีหน้า(2020) แน่นอนภายในฤดูร้อนปีหน้าเราจะอยู่ในเส้นทางของการประกอบด้วยดี" Parker กล่าว
สายการผลิต T-7A ที่มีตั้งขึ้นใหม่ ณ โรงงานอากาศยานใหม่ของ Boeing ในมลรัฐ Indiana ตั้งเป้าที่จะทำการผลิตได้ที่ประมาณ 60เครื่องต่อปี โดยเครื่องชุดแรกมีกำหนดที่จะถูกส่งมอบได้ในปี 2023 และมีความพร้อมปฏิบัติการขั้นต้น(IOC: Initial Operational Capability) ในปี 2024 ครับ