แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ T-7 แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ T-7 แสดงบทความทั้งหมด

วันอาทิตย์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

กองทัพอากาศสหรัฐฯเริ่มการทดสอบการบินเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A

USAF launches T-7A EMD flight-testing





Boeing and the US Air Force undertook the inaugural flight of the service's first T-7A Red Hawk on 28 June, marking the start of the engineering and manufacturing development phase of the programme. (Boeing)





กองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force) ได้ดำเนินการทดสอบการพัฒนาทางวิศวกรรมและการผลิต(EMD: Engineering and Manufacturing Development) ของเครื่องบินฝึกไอพ่นขั้นก้าวหน้า Boeing-Saab T-7A Red Hawk
โดยการบินครั้งแรกได้รับการประกาศเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2022(https://aagth1.blogspot.com/2022/04/boeing-t-7a-red-hawk.html, https://aagth1.blogspot.com/2021/06/t-7a.html, https://aagth1.blogspot.com/2021/02/boeing-t-7a-red-hawk.html)

การบินครั้งแรกในขั้นระยะ EMD ได้เห็นนักบินกองทัพอากาศสหรัฐฯจากฝูงบินทดสอบการบินที่416(416th Flight Test Squadron) และนักบินทดสอบของบริษัท Boeing สหรัฐฯ
ทำการบินออกจากโรงงานอากาศยาน St Louis ของบริษัท Boeing ผู้ผลิตในมลรัฐ Missouri ในวันเดียวกับที่มีการประกาศ การบินทดสอบระยะ EMD ครั้งแรกของเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A เครื่องต้นแบบหนึ่งเครื่องทำการบินล่าสุดเป็นเวลา 1ชั่วโมง 3นาที

ได้ถูกพัฒนาโดยความเป็นหุ้นส่วนกับบริษัท Saab สวีเดน เครื่องบินฝึกไอพ่นT-7A Red Hawk ได้ถูกเลือกภายใต้โครงการการฝึกนักบินขั้นก้าวหน้า T-X Advanced Pilot Training 
เพื่อทดแทนเครื่องบินฝึกไอพ่น Northrop T-38 Talon ของกองทัพอากาศสหรัฐฯที่ได้เข้าประจำการมาตั้งแต่ปี 1960s(https://aagth1.blogspot.com/2020/01/saab-t-7a-red-hawk.html)

Boeing กำลังอยู่ภายใต้สัญญาที่จะส่งมอบเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A Red Hawk ใหม่จำนวน 351เครื่อง เช่นเดียวกับเครื่องจำลองการบิน 46ระบบ และอุปกรณ์ภาคพื้นดินที่เกี่ยวข้องแก่กองทัพอากาศสหรัฐฯ
Boeing ยังเสนอเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A แก่กองทัพอากาศสหรัฐฯสำหรับความต้องการโครงการเครื่องบินฝึกทางยุทธวิธีขั้นก้าวหน้า Advanced Tactical Trainer เป็นจำนวนราว 100เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2021/02/clean-sheet.html)

และกองทัพเรือสหรัฐฯ(USN: US Navy)สำหรับความต้องการโครงการเครื่องบินตัวแทนทางยุทธวิธี Tactical Surrogate Aircraft เป็นจำนวน 64เครื่อง
และความต้องการโครงการระบบการฝึกเครื่องบินไอพ่นศิษย์การบิน Undergraduate Jet Training System เป็นจำนวนเครื่องที่ยังไม่แน่นอน(https://aagth1.blogspot.com/2021/08/boeing-lockheed-martin-leonardo.html)

รวมอยู่ในคำสั่งจัดหาปัจจุบันของกองทัพอากาศสหรัฐฯ Boeing สหรัฐฯ และ Saab สวีเดนวาดภาพตลาดทั่วโลกวงเงิน $40 billion สำหรับเครื่องบินฝึก T-7A Red Hawk ถึง 2,600เครื่องระหว่างหลายปีข้างหน้าที่จะถึง
เครื่องบินฝึก T-7A มีกำหนดการจะเข้าสู่สายการผลิตในปี 2025 ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2020/08/t-7a-red-hawk.html, https://aagth1.blogspot.com/2020/07/boeing-t-7-f-5-alpha-jet.html, https://aagth1.blogspot.com/2020/03/ft-7x.html)

วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

Boeing สหรัฐจะเผชิญคนงานหยุดงานประท้วงในสามโรงงานผลิตอากาศยานทางทหาร

Boeing faces possible labour strike at three US defence plants







Boeing workers who produce the F-15 and F/A-18 fighters, the T-7A Red Hawk trainer and the MQ-25 Stingray unmanned tanker could soon go on strike. (Boeing)



สหภาพแรงงาน ณ สามโรงงานอากาศยานทางทหารสามแห่งของบริษัท Boeing สหรัฐฯ ในบริเวณใกล้มลรัฐ St Louis และมลรัฐ Missouri อาจจะผละออกจากงานของพวกตนในเร็วนี้เนื่องจากข้อพิพาทผลประโยชน์เมื่อเกษียณอายุงาน
สมาคมช่างกลและแรงงานการบินนานชาติ(IAM: International Association of Machinists and Aerospace Workers) เขต 837(District 837) ประกาศเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2022 ว่า สมาชิกของตนเกือบ 2,500คน ได้ลงมติที่จะหยุดงานประท้วงในวันที่ 1 สิงหาคม 2022

กิจกรรมของคนงานจะส่งผลต่อโรงงานอากาศยานของบริษัท Boeing ในเมือง St Louis และเมือง St Charles มลรัฐ Missouri และเมือง Mascoutah มลรัฐ Illinois ที่ผลิตเครื่องบินขับไล่ F-15(https://aagth1.blogspot.com/2022/03/f-15.html
และเครื่องบินขับไล่ F/A-18(https://aagth1.blogspot.com/2022/07/fa-18ef.html), เครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A Red Hawk(https://aagth1.blogspot.com/2022/04/boeing-t-7a-red-hawk.html) และอากาศยานไร้คนขับเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ MQ-25 Stingray

สมาคมช่างกลและแรงงานการบินนานชาติ IAM กล่าวว่าตนปฏิเสธข้อเสนอสัญญาปัจจุบันของบริษัท Boeing เพราะว่าบริษัท "ได้เอาเงินบำนาญไปจากสมาชิกของเราแล้วก่อนหน้านี้" และตอนนี้ "ไม่มีความเต็มใจที่จะชดเชยอย่างเพียงพอต่อสมาชิกของเราด้วยแผน 401(k)
ในแถลงการณ์ Boeing แสดงความผิดหวังว่าสหภาพแรงงานปฏิเสธ "ข้อเสนอที่แข็งแกร่งและแข่งขันได้สูง" ของบริษัท Boeing กล่าวว่าตน "กำลังเปิดการใช้แผนฉุกเฉินที่จะสนับสนุนความต่อเนื่องของการปฏิบัติงานในเหตุการณ์ของการหยุดงานประท้วง"

ข่าวความเป็นไปได้ของการหยุดงานประท้วงมีตามมาน้อยกว่าสามเดือนหลังจากที่ภาคธุรกิจกลาโหม, อวกาศ และความมั่นคงของ Boeing(BDS: Boeing Defense, Space & Security) รายงานการขาดทุนเป็นวงเงิน $29 million จากการประกอบการในไตรมาสแรกของปี 2022 
ที่ขับเคลื่อนโดยรายได้วงเงิน $1.3 billion ที่ได้รับเกี่ยวกับโครงการพัฒนาอากาศยานทางทหารสี่โครงการที่รวมถึงเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7 และอากาศยานไร้คนขับเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ MQ-25(https://aagth1.blogspot.com/2021/12/cvn-77-uss-george-hw-bush.html)

BDS มี "ไตรมาสที่ยุ่งเหยิง" ประธานและผู้อำนวยการบริหารบริษัท Boeing สหรัฐฯ Dave Calhoun กล่าวต่อนักวิเคราะห์เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2022 (https://aagth1.blogspot.com/2022/02/f-15id.html) Boeing สหรัฐฯได้ประสบการขาดทุนอย่างหนักมาต่อเนื่องสามปีตั้งแต่ปี 2019 
โดยได้ขาดทุนสุทธิเป็นวงเงินรวมถึง $18.1 billion ซึ่งส่วนใหญ่มาจากภาคธุรกิจอากาศยานพาณิชย์ที่เป็นผลของการสั่งงดบินเครื่องบินโดยสาร Boeing 737 MAX จากอุบัติเหตุตก และความต้องการเครื่องบินใหม่เพื่อการเดินทางที่ลดลงจากภาวะโรคระบาด Covid-19 ครับ

วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2565

Boeing เปิดตัวเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A Red Hawk สำหรับใช้ทดสอบเครื่องแรกของกองทัพอากาศสหรัฐฯ

Boeing debuts the USAF's first test T-7A Red Hawk trainer



Boeing rolls out its first T-7A Red Hawk jet in St Louis, Missouri. (Boeing/Eric Shindelbower)



บริษัท Boeing สหรัฐฯได้เปิดตัวเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A Red Hawk เพื่อใช้ทดสอบเครื่องแรกสำหรับกองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force) ที่โรงงานอากาศยานของตนใน St Louis มลรัฐ Missouri เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2022
เครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A Red Hawk จะถูกใช้เพื่อทดแทนเครื่องบินฝึกไอพ่น Northrop Grumman T-38 Talon ของกองทัพอากาศสหรัฐฯสำหรับการฝึกนักบินขับไล่และนักบินทิ้งระเบิด(https://aagth1.blogspot.com/2021/06/t-7a.html)

เครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A เครื่องทดสอบเป็นเครื่องแรกจาก 5เครื่องสำหรับขั้นระยะการพัฒนาทางวิศวกรรมและการผลิต(EMD: Engineering and Manufacturing Development) ของโครงการ
เครื่องบินทดสอบขั้นระยะ EMD ทั้ง 5เครื่องควรจะทำการบินครั้งแรกและเข้าร่วมโครงการการพัฒนาทางการทดสอบและประเมินค่า(DT&E: Developmental Test and Evaluation) ในปี 2022 Paul Niewald รองประธาน Boeing ฝ่ายโครงการ T-7 กล่าวกับ Janes ก่อนหน้าในปี 2022

Boeing สหรัฐฯกล่าวว่าเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A เครื่องทดสอบจะยังอยู่ที่ St Louis เพื่อจะเข้าสู่การทดสอบภาคพื้นดินและการทดสอบการบินก่อนที่จะถูกส่งมอบให้กองทัพอากาศสหรัฐฯ(https://aagth1.blogspot.com/2021/02/boeing-t-7a-red-hawk.html
เครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A เครื่องแรกมีกำหนดที่จะมาถึงฐานทัพร่วม Joint Base San Antonio-Randolph ในปี 2023 กองทัพอากาศสหรัฐฯคาดว่า T-7A จะเข้าสู่ความพร้อมปฏิบัติการขั้นต้น(IOC: Initial Operational Capability) ได้ในปีงบประมาณ 2024

ทีม Boeing-Saab สหรัฐฯ-สวีเดนเอาชนะบริษัท Lockheed Martin สหรัฐฯสำหรับสัญญาโครงการเครื่องบินฝึกไอพ่นใหม่ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ วงเงิน $9.2 billion ในปี 2018
ขั้นต้นกองทัพอากาศสหรัฐฯต้องการเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A จำนวน 351เครื่อง และระบบการฝึกภาคพื้นดิน(GBTS: Ground-Based Training System) 46ระบบ แต่เครื่องบินและระบบจำลองการบินเพิ่มเติมสามารถจะถูกเพิ่มในสัญญาได้

บริษัท Boeing และกองทัพอากาศสหรัฐฯไม่ได้มีการประกาศต่อสาธารณชนถึงอัตราการผลิตต่อปีสำหรับเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A แต่ Boeing ได้กล่าวกับ Janes ว่า
ตนสามารถที่จะผลิตเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A ได้ถึง 48เครื่องต่อปีสำหรับสัญญาของกองทัพอากาศสหรัฐฯปัจจุบัน โดยมีขีดความสามารถที่จะผลิตเพิ่มขึ้นได้

สายการผลิตจำนวนมากสำหรับเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A Red Hawk จะมีขึ้นที่ ณ โรงงานอากาศยาน St Louis ของบริษัท Boeing อย่างไรก็ตามโครงการได้รับผลกระทบด้านค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นและความล่าช้า
Boeing ยังเชื่อว่าตนมีโอกาสในตลาดนานาชาติสำหรับ T-7 ในฐานะเครื่องบินฝึก(https://aagth1.blogspot.com/2021/08/boeing-lockheed-martin-leonardo.html), เครื่องบินโจมตีเบา(https://aagth1.blogspot.com/2021/12/hawk-108hawk-208.html) และเครื่องบินข้าศึกสมมุติครับ

วันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2564

มาเลเซียเริ่มการประเมินค่าข้อเสนอเครื่องบินขับไล่ฝึก/เครื่องบินรบเบาทดแทน Hawk 108/Hawk 208

Malaysia begins evaluating proposals to replace fleet of Hawk Mk 108/208s





A file image depicting a Royal Malaysian Air Force Hawk 208 in the foreground with a Hawk 108 in the background. (BAE Systems)

รัฐบาลมาเลเซียได้เริ่มต้นการประเมินค่าข้อเสนอต่างๆที่จะทดแทนฝูงเครื่องบินขับไล่ฝึก Hawk Mk 108 และเครื่องบินโจมตีเบา Hawk Mk 208 ของกองทัพอากาศมาเลเซีย(RMAF: Royal Malaysian Air Force, TUDM: Tentera Udara Diraja Malaysia) ที่มีอายุการใช้งานมานาน

ประเด็นดังกล่าวได้ถูกเปิดเผยโดยรัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซีย Hishammuddin Hussein เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2021 ในการตอบของเขาต่อการตั้งคำถามจากรัฐสภามาเลเซียเกี่ยวกับอุบัติเหตร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินขับไล่ฝึก Hawk Mk 108
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2021 ที่ฐานทัพอากาศ RMAF Butterworth ใน Penang มีนักบินเสียชีวิต 1นาย และบาดเจ็บ 1นาย เป็นอุบัติเหตุตกร้ายแรงล่าสุดที่เกิดกับเครื่องบินขับไล่ฝึก Hawk 108 ตั้งแต่ปี 1998

ในการตอบของรัฐมนตรีกลาโหมต่อคำถามจาก Ahmad Nazlan Indris สมาชิกสภามาเลเซีย Hishammuddin กล่าวว่าล่าสุดรัฐบาลมาเลเซียได้เชิญผู้รับสัญญานานาชาติต่างๆที่จะส่งข้อเสนอแต่ละรายของตน
ที่จะทดแทนเครื่องบินขับไล่ฝึก Hawk 108 และเครื่องบินโจมตีเบา Hawk 208 ภายใต้โครงการเครื่องบินรบเบา/เครื่องบินขับไล่ฝึก LCA/FLIT(Light Combat Aircraft/Fighter Lead-In Trainer)

โครงการมีจุดประสงค์ที่จะจัดหาเครื่องบินรบเบา/เครื่องบินขับไล่ฝึก LCA/FLIT จำนวน 36เครื่องในสองระยะ แบ่งเป็น 18เครื่องที่จะได้รับการจัดหาในขั้นตอนปี 2021 โดยเครื่องบินที่เหลือจะได้รับการจัดหาตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป
ระยะการยื่นส่งสำหรับโครงการ LCA/FLIT ได้ปิดรับเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2021 และขณะนี้กระทรวงกลาโหมมาเลเซียกำลังอยู่ในขั้นตอนการประเมินค่าข้อเสนอจากหลายผู้รับสัญญา Hishammuddin กล่าว

Hishammuddin เสริมว่ากระบวนการจัดซื้อจัดจ้างอยู่ในแนวทางกับแผนการเปลี่ยนแปลงของกองทัพอากาศมาเลเซียที่รู้จักในชื่อ CAP55(https://aagth1.blogspot.com/2018/08/blog-post_9.html) เขาได้ตัดบทที่จะไม่เปิดเผยว่ามีเครื่องบินแบบใดบ้างที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการประเมินค่า
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้มาเลเซียได้แสดงความสนใจใน Korea Aerospace Industries FA-50 Golden Eagle สาธารณรัฐเกาหลี, M-346FA Master อิตาลี และ Boeing-Saab T-7A Red Hawk สำหรับความต้องการนี้ครับ

วันพุธที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2564

Boeing, Lockheed Martin และ Leonardo เข้าแข่งขันโครงการจัดหาเครื่องบินฝึกไอพ่นใหม่กองทัพเรือสหรัฐฯ

Update: Competitors declare for US Navy jet trainer requirement
A conceptual image of the Boeing T-7A Red Hawk in US Navy colours. Along with Lockheed Martin and Leonardo, the company is to compete the service's T-45 Goshawk replacement programme. (Boeing)

Lockheed Martin would offer the T-50A with support from co-developer Korea Aerospace Industries (KAI). (Lockheed Martin)

Leonardo would compete the M-346 Master (seen as T-100). (Leonardo)

The US Navy's Undergraduate Jet Training System (UJTS) programme to replace the Boeing T-45 Goshawk. (US Navy)



สามบริษัทได้ประกาศความตั้งใจของตนที่จะเข้าแข่งขันสำหรับการจัดหาเครื่องบินฝึกไอพ่นใหม่ของกองทัพเรือสหรัฐฯ(USN: US Navy) บริษัท Boeing สหรัฐฯ และบริษัท Lockheed Martin สหรัฐฯ ยืนยันกับ Janes เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2021 ว่า
พวกตนจะเข้าแข่งขันในโครงการระบบการฝึกเครื่องบินไอพ่นศิษย์การบิน(UJTS: Undergraduate Jet Training System) เพื่อทดแทนเครื่องบินฝึกไอพ่น Boeing T-45 Goshawk ขณะที่บริษัท Leonardo อิตาลีได้ประกาศก่อนหน้าถึงความตั้งใจของตนที่จะเข้าแข่งขัน

Boeing ตอบสนองว่าตนจะนำเสนอเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A Red Hawk ของตน(https://aagth1.blogspot.com/2021/06/t-7a.html) โดยย้ำว่า "Boeing พร้อมเสมอที่จะสนับสนุนกองทัพเรือสหรัฐฯในภารกิจการฝึกของตน"
Lockheed Martin กล่าวกับ Janes ว่าตนจะเสนอเครื่องบินฝึกไอพ่น T-50A โดยการสนับสนุนจากผู้พัฒนาร่วม บริษัท Korea Aerospace Industries(KAI) สาธารณรัฐเกาหลี(https://aagth1.blogspot.com/2015/12/kai-t-50-t-x.html)

Lockheed Martin กล่าวว่า "เราเสนอการดัดแปลงอย่างเล็กน้อยที่สุดต่อแบบพื้นฐานเครื่องบินฝึกไอพ่น T-50A เพื่อจะตรงความต้องการที่ระบุในเอกสารขอข้อมูล(RFI: Request for Information) ของกองทัพเรือสหรัฐฯ"
Leonardo กล่าวว่าตนจะส่งเครื่องบินฝึกไอพ่น M-346 Master เข้าแข่งขัน(https://aagth1.blogspot.com/2017/02/leonardo-t-100-t-x.html) โดยเสริมว่า "M-346 เป็นที่เหมาะสมสำหรับความต้องการการฝึกกองทัพเรือสหรัฐฯ เรากำลังทำการประเมินที่ครอบคลุมก่อนขั้นต่อๆไปในกระบวนการ"

นอกเหนือจากสามบริษัทเหล่านี้ บริษัท BAE Systems สหราชอาณาจักรได้ให้ข้อมูลที่ไม่ผูกมัดว่าตนจะเสนอหรือไม่เสนอเครื่องบินฝึกไอพ่น Hawk AJT ของตนหรือไม่แต่อย่างใด 
โดยกล่าวเพียงว่า "การมุ่งเน้นหลักของเรายังคงเป็นการสนับสนุนความพร้อมและจำนวนเครื่องที่ใช้งานได้ของ T-45 Goshawk ผ่านการผลิตชิ้นส่วนอะไหล่และมอบความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม"

"เรายังคงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนกองทัพเรือสหรัฐฯและเดินหน้าที่จะร่วมมือกับหุ้นส่วนต่างๆของเราในการสนับสนุนความต้องการในอนาคต" BAE Systems เสริม
เครื่องบินฝึกไอพ่น T-45 Goshawk มีพื้นฐานจากเครื่องบินฝึกไอพ่น BAE Systems Hawk ที่มีการดัดแปลงอย่างมาก โดยเข้าประจำการในกองทัพเรือสหรัฐฯตั้งแต่ปี 1991

เอกสารขอข้อมูล RFI ที่ออกโดยกองบัญชาการระบบอากาศนาวี(NAVAIR: Naval Air Systems Command) ในเดือนพฤษภาคม 2020 ไม่ได้ระบุความต้องการว่าเครื่องบินฝึกไอพ่นใหม่จะต้อมีขีดความสามารถปฏิบัติการจากเรือบรรทุกเครื่องบินได้เหมือน T-45 หรือไม่
โดยระบุถึงเครื่องบินฝึกไอพ่นสองที่นั่งใช้งานจากสนามบินบนบก มีความเร็วสูงสุดเกิน Mach 0.84 มีเพดานบิน 41,000ft ติดตั้ง synthetic radar และระบบตรวจจับอื่นๆ เช่นเดียวกับการจำลองการใช้อาวุธอากาศสู่อากาศและอากาศสู่พื้น และยังควรมีตำบลอาวุธอย่างน้อยสองจุดแข็งครับ

วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2564

กองทัพอากาศสหรัฐฯคาดความล่าช้าเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A โดยร้องขอเงินที่น้อยลง

US Air Force delays expected T-7A Milestone C decision, requests less money


An undated photo of the USAF Boeing T-7A Red Hawk jet trainer. The USAF is delaying its Milestone C decision for the programme because of parts shortages, initial design delays, and additional testing required due to discovery of aircraft wing rock. (Boeing)



กองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force) ได้มีความล่าช้าตามที่คาดไว้กับการตัดสินในหลักขั้นก้าวย่าง Milestone C สำหรับเครื่องบินฝึกไอพ่น Boeing T-7A Red Hawk เนื่องจากปัญหาทางเทคนิค
และกำลังร้องขอเงินที่น้อยลงสำหรับโครงการในปีงบประมาณ 2022 ที่น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า(https://aagth1.blogspot.com/2021/02/boeing-t-7a-red-hawk.html)

การทบทวนสำหรับโครงการเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A ว่าควรจะจะเข้าสู่สายการผลิตระดับต่ำ(LRIP: Low-Rate Initial Production) จากขั้นการพัฒนาทางวิศวกรรมและการผลิต (EMD: Engineering and Manufacturing Development) หรือไม่นั้น
มีกำหนดการในเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2023 ตามที่กองทัพอากาศสหรัฐฯร้องของบประมาณประจำปี 2022(https://aagth1.blogspot.com/2020/01/saab-t-7a-red-hawk.html)

ในการเสนองบประมาณประจำปี 2021 ของกองทัพอากาศสหรัฐฯถูกคาดว่าหลักขั้นก้าวย่าง Milestone C ควรจะมีขึ้นในเดือนเมษายน-มิถุนายน 2022
โฆษกกองทัพอากาศสหรัฐฯ เรืออากาศเอก Jacob Bailey กล่าวเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2021 ว่า การประเมินล่าสุดของ Milestone C วางแผนจะมีขึ้นในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2022

เรืออากาศเอก Bailey กล่าวเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2021 ว่าความล่าช้าของ Milestone C เกิดจากการขาดแคลนชิ้นส่วน และความล่าช้าการออกแบบขั้นต้น และการทดสอบเพิ่มเติมมีความจำเป็นเนื่องจากการค้นพบปรากฏการณ์ปีกโยก(wing rock)
ตามข้อมูลจาก เรืออากาศเอก Bailey ปรากฏการณ์ wing rock เป็นสิ่งที่มากจะเกิดขึ้นกับอากาศยานที่ใช้ปีกแบบลู่หลัง(swept wings) ที่มุมปะทะ(AOA: Angles of Attack) สูง ปีกข้างใดข้างหนึ่งอาจจะเริ่มเข้าสู่การร่วงหล่น(stall) เป็นพลให้อากาศยานหมุน(roll) เล็กน้อยที่ปีกด้านนั้น

เมื่อปีกข้างที่ stall ลงต่ำ มันจะหยุด stall อย่างไรก็ตามปีกด้านตรงข้ามจะเริ่ม stall แทน ทำให้อากาศยานหมุนไปอีกฝั่ง กระบวนการที่เกิดซ้ำไปมานี้ทำให้อากาศยานเกิดอาการโยกไปโยกมา
โครงการเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A ได้มีความเสี่ยงด้านกำหนดการณ์โดยธรรมชาติ เนื่องจากปกติวิสัยเชิงรุกของกำหนดการของโครงการ เรืออากาศเอก Bailey กล่าว

เครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A Red Hawk เป็นผู้ชนะโครงการ T-X ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ โดยทีมบริษัท Boeing สหรัฐฯ และบริษัท Saab สวีเดน ได้เสนอเครื่องบินที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด(clean sheet)
กองทัพอากาศสหรัฐฯมีความต้องการเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A Red Hawk จำนวน 351เครื่องที่จะทดแทนเครื่องบินฝึกไอพ่น Northrop T-38 Talon ที่ประจำการมาตั้งแต่ปี 1960s ครับ

วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

Boeing สหรัฐฯเริ่มการผลิตเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A Red Hawk

Boeing begins T-7A Red Hawk production


Boeing’s roughly 90% assembled static test article forward fuselage for its T-7A Red Hawk jet trainer at its St Louis, Missouri, factory. (Boeing)



บริษัท Boeing สหรัฐฯได้เริ่มต้นการผลิตเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A Red Hawk สำหรับกองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force)
ณ โรงงานอากาศยาน St Louis มลรัฐ Missouri ของตน และได้มีความคืบหน้าคราวๆร้อยละ90 ของส่วนแบบทดสอบประจำที่(static test article) ของโครงสร้างอากาศยานส่วนหน้า

Chuck Dabundo รองประธาน Boeing และผู้จัดการโครงการ T-7A กล่าวเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2021 ว่า Boeing กำลังทำงานกับโครงสร้างอากาศยานส่วนหน้าแบบทดสอบประจำที่ตั้งแต่เดือนมกราคม 2021
แบบทดสอบประจำที่จะประกอบเสร็จสิ้นเมื่อ Boeing รวมโครงสร้างลำตัวส่วนหน้าและส่วนหลักเข้าด้วยกัน ซึ่งจะมีขึ้นในอีกราวสองสามเดือนข้างหน้า เขาเสริม

บริษัท Saab สวีเดนซึ่งกำลังพัฒนาเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A ร่วมกับ Boeing สหรัฐฯ ได้เสร็จสิ้นการสร้างส่วนโครงสร้างและกำลังทำงานการเครื่องมือวัดประกอบ Dabundo กล่าว(https://aagth1.blogspot.com/2020/01/saab-t-7a-red-hawk.html)
บริษัท Triumph Aerospace Structures สหรัฐฯ กำลังทำงานคู่ขนานกับ Boeing และกำลังสร้างส่วนปีกและส่วนแพนหางแนวนอนและแพนหางแนวตั้ง

แบบทดสอบประจำที่จะถูกใช้โดยทั่วไปในโครงการพัฒนาต่างๆโดยโครงสร้างต่างๆที่ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด เมื่อเสร็จสิ้น Boeing จะนำแบบทดสอบประจำที่เข้าสู่การทดสอบติดตรึงประจำที่(test fixture)
ที่ซึ่งส่วนแบบทดสอบจะให้ข้อมูลการแสดงตัวแทนการบินในภาระบรรทุกบนโครงสร้าง ซึ่งจะเป็นเครื่องมือในการวัดค่าภาระการบรรทุก

Dabundo กล่าวว่าขณะที่แบบทดสอบประจำที่จะมีความสำคัญในการใช้เครื่องมือเพื่อวัดค่าภารพบรรทุกต่างๆเป็นจำนวนมากเหล่านี้สำหรับเปรียบเทียบต่อแบบจำลองที่ออกแบบมา
แบบทดสอบประจำที่ที่เสร็จสมบูรณ์จะไม่มีระบบต่างๆหรือท่อ hydraulic ใดๆ ซึ่งก็เพราะว่าพวกมันไม่จำเป็นต้องมีสำหรับการทดสอบชนิดต่างๆที่ Boeing จะดำเนินการ

กองทัพอากาศสหรัฐฯมีบันทึกรายการโครงการเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A Red Hawk จำนวน 351เครื่องที่จะทดแทนเครื่องบินฝึกไอพ่น Northrop T-38 Talon ที่ประจำการมาตั้งแต่ปี 1960s
โดยเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A เครื่องแรกมีกำหนดจะส่งมอบให้ฐานทัพอากาศ Randolph AFB(Air Force Base) มลรัฐ Teaxs ในปี 2023

ความพร้อมปฏิบัติการขั้นต้น(IOC: Initial Operational Capability) ของเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A มีกำหนดการสำหรับปี 2024 ฐานบินฝึกศิษย์การบินทั้งหมดที่ในที่สุดจะเปลี่ยนแบบจากเครื่องบินฝึกไอพ่น T-38C เป็น T-7A เหล่านี้ประกอบด้วย
ฐานทัพอากาศ Columbus AFB ในมลรัฐ Mississippi, ฐานทัพอากาศ Laughlin AFB และฐานทัพอากาศ Sheppard AFB ในมลรัฐ Texas และฐานทัพอากาศ Vance AFB ในมลรัฐ Oklahoma

พลอากาศเอก Charles Brown ผู้บัญชาการกองทัพอากาศสหรัฐฯต้องการจะนำบทเรียนทางวิศวกรรม digital ที่ได้รับจากโครงการ T-7A เพื่อการจัดหาเครื่องบินรบขั้นก้าวหน้าที่ออกแบบใหม่(https://aagth1.blogspot.com/2021/02/clean-sheet.html)
โดย Boeing กล่าวว่าตนเชื่อว่ามีโอกาสในตลาดนานาชาติสำหรับ T-7 ในฐานะเครื่องบินฝึก, เครื่องบินโจมตีเบา และเครื่องบินข้าศึกสมมุติครับ(https://aagth1.blogspot.com/2020/08/t-7a-red-hawk.html, https://aagth1.blogspot.com/2020/07/boeing-t-7-f-5-alpha-jet.html)  

วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

กองทัพอากาศสหรัฐฯพิจารณาการจัดหาเครื่องบินขับไล่ที่ออกแบบใหม่ clean-sheet สำหรับการรบขั้นต่ำ

US Air Force considers procuring clean-sheet design aircraft for low-end fight



The Boeing-Saab T-7A Red Hawk jet trainer utilised digital engineering for its development. 
The USAF chief of staff wants to leverage digital engineering lessons from the T-7A to procure a new clean-sheet advanced aircraft that would have capabilities in the range of a 4th–5th-generation fighter. (Boeing)



ผู้บัญชาการกองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force) พลอากาศเอก Charles Brown ต้องการจะจัดหาเครื่องบินรบขั้นก้าวหน้าที่ออกแบบใหม่ทั้งหมดแต่ต้น(clean-sheet)
ที่จะมีขีดความสามารถระหว่างเครื่องบินขับไล่ยุคที่4(เช่น F-16C/D และ F-15E) และเครื่องบินขับไล่ยุคที่5(เช่น F-22A และ F-35A) เพื่อดำเนินการปฏิบัติการรบในระดับล่างขั้นต่ำ

กองทัพอากาศสหรัฐฯจะเดำเนินการศึกษาอากาศยานทางยุทธวิธีโดยการใช้การสร้างแบบจำลองและการจำลองสถานการณ์(M&S: Modelling and Simulation) เพื่อประเมินค่าการผสมระบบอากาศยานทางยุทธวิธีที่เหมาะสมที่จะให้ขีดความสามารถสูงสุด
พลอากาศเอก Brown กล่าวเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2021 ว่าการศึกษานี้จะให้ข้อมูลเชิงลึกที่กองทัพอากาศสหรัฐฯจำเป็นว่า มีเครื่องบินจำนวนเท่าไรที่ต้องจัดหา และถ้าเป็นเครื่องเป็นที่ออกแบบใหม่จะต้องมอบก้าวกระโดดในด้านวิทยาการด้วย

อดีตนักบินกองทัพอากาศสหรัฐฯกล่าวกับ Janes เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2021 ว่าเครื่องบินรบทางยุทธวิธีรวมถึงเครื่องบินขับไล่เช่น เครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-35 Lightning II Joint Strike Fighter(JSF)
และเครื่องบินโจมตีเช่น เครื่องบินโจมตี Fairchild-Republic A-10 Thunderbolt II สำหรับการสนับสนุนทางอากาศแบบใกล้ชิด(CAS: Close Air Support)

อากาศยานทางยุทธวิธียังรวมถึงระบบอากาศยานไร้คนขับลาดตระเวนทางยุทธวิธีพหุภารกิจ เช่น อากาศยานไร้คนขับเพดานบินปานกลางระยะทำการนาน(MALE: Medium-Altitude Long-Endurance)
แบบ General Atomics Aeronautical Systems Inc(GA-ASI) MQ-9 Reaper UAV(Unmanned Aerial Vehicle) พร้อมระบบอาวุธ

พลอากาศเอก Brown ต้องการขีดความสามารถต่างๆ เช่น ระบบภารกิจเปิด(OMS: Open Mission Systems) ที่เข้ากล่าวว่าไม่ควรจะนำมาจากอากาศยานที่มีอยู่ เช่น เครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-16 Fighting Falcon
OMS จะทำให้กองทัพอากาศสหรัฐฯจะปรับปรุงรหัส(ชุดคำสั่ง)ในสิ่งต่างๆในไม่กี่นาทีเพื่อตอบสนองภัยคุกคามใหม่ เขากล่าวว่าการบินกับ F-16 ใช้เวลาหลายปีที่จะได้รับรูปแบบการปฏิบัติการบินใหม่สำหรับเครื่อง การร้องขอความเห็นจากบริษัท Lockheed Martin สหรัฐฯมีขึ้นก่อนการเผยแพร่บทความ

ผู้บัญชาการกองทัพอากาศสหรัฐฯต้องการจะนำบทเรียนทางวิศวกรรม digital ที่ได้รับเครื่องบินฝึกไอพ่น Boeing-Saab T-7A Red Hawk เพื่อการจัดหาเครื่องบินรบขั้นก้าวหน้าที่ออกแบบใหม่
บริษัท Boeing สหรัฐฯกล่าวว่าตนเชื่อว่ามีโอกาสในตลาดนานาชาติสำหรับ T-7 ในฐานะเครื่องบินฝึก, เครื่องบินโจมตีเบา และเครื่องบินข้าศึกสมมุติครับ(https://aagth1.blogspot.com/2020/08/t-7a-red-hawk.html, https://aagth1.blogspot.com/2020/07/boeing-t-7-f-5-alpha-jet.html)

วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2563

เซอร์เบียแสดงความสนใจเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A Red Hawk สหรัฐฯ-สวีเดน

Serbia notes interest in Boeing-Saab T-7A Red Hawk jets


Serbia would like to acquire the Boeing-Saab T-7A Red Hawk to replace its ageing Super Galeb and Orao fleets. (Janes/Gareth Jennings)

เครื่องบินฝึกไอพ่น Boeing-Saab T-7A Red Hawk สหรัฐฯ-สวีเดนเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่เซอร์เบียกำลังพิจารณาสำหรับการทดแทนฝูงบินเครื่องบินฝึกไอพ่นและเครื่องบินโจมตีเบาของตน
การพูดคุยกับสถานีโทรทัศน์แห่งชาติเซอร์เบียเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลเซอร์เบียเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2020 ที่ผ่านมาว่า(https://aagth1.blogspot.com/2020/07/boeing-t-7-f-5-alpha-jet.html)

เครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A สามารถที่จะทดแทนได้ทั้งเครื่องบินฝึก SOKO G-4 Super Galeb(Super Seagull) ในรุ่นเครื่องบินฝึกไอพ่นขั้นก้าวหน้าและรุ่นเครื่องบินโจมตี และเครื่องบินโจมตีไอพ่น SOKO J-22 Orao(Eagle)
ถึงแม้ว่ากองทัพอากาศเซอร์เบีย(Serbian Air Force) กำลังดำเนินความพยายามการปรับปรุงความทันสมัยอย่างต่อเนื่อง และมีกำหนดการปลดประจำการเครื่องบินเหล่านี้ของตน

เซอร์เบียได้แสดงความสนใจสำหรับการจัดหาเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A จำนวน 20เครื่อง รักษาการผู้ช่วยรัฐมนตรีด้านทรัพยากรยุทโธปกรณ์กระทรวงกลาโหมเซอร์เบีย Nenad Miloradović กล่าว
เขาเสริมว่า T-7A ซึ่งกำลังได้รับการพัฒนาเป็นเครื่องบินฝึกสำหรับกองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force) และทำตลาดในฐานะทางเลือกเครื่องบินขับไล่/โจมตีเบาที่มีศักยภาพสำหรับตลาดนานาชาติ ประกอบด้วย "คุณลักษณะและขีดความสามารถที่ยอดเยี่ยม"

Miloradović อธิบายว่าเซอร์เบียถูกดึงดูดโดยการผสมผสานของราคาและสมรรถนะของ T-7A โดยย้ำว่าเซอร์เบียกำลังมองที่ตัวเลือกเครื่องบินไอพ่นที่มีราคาราวครึ่งของเครื่องบินขับไล่ยุคที่4 ในปัจจุบัน(ดังเช่นประมาณเครื่องละ $50 million)
และมีขีดความสามารถระหว่างเครื่องบินโจมตี(G-4 และ J-22) และเครื่องบินขับไล่(MiG-29) ที่กองทัพอากาศเซอร์เบียมีอยู่ขณะนี้(https://aagth1.blogspot.com/2016/12/mig-29-t-72.html)

"สิ่งเหล่านี้เป็นก้าวย่างเริ่มต้นในการพัฒนาขีดความสามารถใหม่ตามที่การจัดสรรวงเงินทุนการจัดซื้อจัดจ้างหลักไม่สามารถจะเกิดขึ้นในชั่วข้ามคืนได้ ตัวเครื่องเอง(T-7A) เป็นเครื่องบินไอพ่นความเร็วเหนือเสียงและมีคุณสมบัติระบบ Avionic ยุคใหม่
และตามคุณสมบัติดังกล่าวมันจะสามารถทดแทนอากาศยานโจมตีของเราได้ทั้งหมด และความเป็นระบบพหุภารกิจยังจะสามารถที่จะสนับสนุนเครื่องบินขับไล่สกัดกั้น(MiG-29) ของเราได้ด้วย" Miloradović อธิบาย

ปัจจุบันกองทัพอากาศเซอร์เบียมีเครื่องบินฝึกไอพ่นขั้นก้าวหน้า/โจมตีเบา G-4 อยู่ราว 20เครื่อง และเครื่องบินโจมตีไอพ่น J-22 อยู่ราว 17เครื่อง ซึ่งสร้างในประเทศมาตั้งแต่สมัยอดีตยูโกสลาเวียและมีอายุการใช้งานมานาน
รวมถึงเครื่องบินขับไล่ Mikoyan MiG-29 (NATO กำหนดรหัส Falcrum) ที่มีอยู่ราว 15เครื่อง ที่มีอายุการใช้งานมานานและล้าสมัย ซึ่งส่วนหนึ่งได้รับบริจาคเครื่องส่วนเกินจากรัสเซียครับ

วันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

Boeing สหรัฐฯมองเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7 รุ่นรบเพื่อทดแทนเครื่องบินขับไล่ F-5 และเครื่องบินโจมตี Alpha Jet

Boeing sees T-7 as combat replacement for Northrop F-5 and Dassault/Dornier Alpha Jet
Boeing T-7A


Dassault/Dornier Alpha Jet of the Royal Thai Air Force(https://www.facebook.com/groups/441463545871708/permalink/4473608249323864/)



บริษัท Boeing สหรัฐฯเชื่อว่ารุ่นเครื่องบินโจมตีเบาของเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A Red Hawk ของตนจะสามารถทดแทนฝูงบินเครื่องบินขับไล่ Northrop F-5 และเครื่องบินโจมตี Dassault/Dornier Alpha Jet ที่มีอายุการใช้งานมานานทั่วโลกได้
Boeing ได้ชี้ชวนการขายมายาวนานถึง "ศักยภาพการเติบโต" ของ T-7 โดยให้ข้อสังเกตว่าเครื่องบินฝึกไอพ่นแบบนี้สามารถจะปรับแต่งให้ติดตั้งอาวุธเช่นอาวุธปล่อยนำวิถีหรือระเบิดเพื่อใช้งานในฐานะเครื่องบินรบ

Boeing สหรัฐฯได้กล่าวว่าตนเชื่อว่ามีโอกาสในตลาดนานาชาติสำหรับ T-7 จำนวน 2,600เครื่อง ในฐานะเครื่องบินฝึก, เครื่องบินโจมตีเบา และเครื่องบินข้าศึกสมมุติ

Boeing ซึ่งมีที่ตั้งสำนักงานใหญ่ใน Chicago สหรัฐฯปฏิเสธที่จะกล่าวว่าประเทศใดบ้างที่จะเป็นผู้ซื้อ T-7 อย่างไรก็ตามบริษัทย้ำในการตอบสนองต่อคำถามจาก FlightGlobal ว่า
เครื่องบินรบขนาดเบาเช่น F-5 และ Alpha Jet จะเป็นตัวแทนที่ดีที่จะถูกทดแทนด้วย T-7 โดยอากาศยานทั้งสองแบบยังคงประจำการในฐานะเครื่องบินฝึกไอพ่นภายในหลายกองทัพอากาศทั่วโลก

มีเครื่องบินขับไล่ F-5 ราว 435เครื่องที่ยังประจำการทั่วโลกจากข้อมูลของ Cirium เครื่องบินขับไล่ขนาดเบานี้ถูกส่งมอบครั้งแรกในปี 1964 และยุติสายการผลิตในปี 1989 ตามข้อมูลจากบริษัท Northop Grumman สหรัฐฯ
ฝูงบิน F-5 ที่ยังคงประจำการทั่วโลกมีอายุการใช้งานเฉลี่ยที่ 41.4ปี โดยประจำการใน 17ประเทศรวมถึงบราซิล, เคนย่า, โมร็อกโก และกองทัพอากาศไทย(RTAF: Royal Thai Air Force)

มีเครื่องบินฝึกไอพ่น/โจมตีเบา Alpha Jet ราว 174เครื่องที่ยังประจำการทั่วโลกตามที่ข้อมูลของ Cirium แสดง เครื่องบินไอพ่นขนาดเบาที่เป็นโครงการสร้างรวมกันของฝรั่งเศสและเยอรมนีทำการบินครั้งแรกในปี 1973 ตามข้อมูลจากบริษัท Dassault ฝรั่งเศส
ฝูงบิน Alpha Jet ที่ยังประจำการทั่วโลกมีอายุการใช้งานเฉลี่ยที่ 38ปี โดยประจำการใน 11ประเทศรวมถึงอียิปต์, ฝรั่งเศส, โมร็อกโก และกองทัพอากาศไทย

Boeing สหรัฐฯย้ำว่ามีโอกาสความเป็นไปได้สำหรับการขาย T-7 ในฐานะเครื่องบินฝึกหรือเครื่องบินรบที่น่าจะมาจากกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก "เราเห็นความสนใจอย่างแรงบางอย่างในภูมิภาคนี้"
Thomas Breckenridge รองประธานฝ่ายขายนานาชาติของแผนกธุรกิจระบบโจมตี, ตรวจการณ์ และความคล่องแคล่วการเคลื่อนที่ของ Boeing กล่าว

Boeing และบริษัท Saab สวีเดนหุ้นส่วนโครงการได้รับสัญญาเพื่อสร้างเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A Red Hawk จำนวน 351เครื่องสำหรับกองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force) โดยเครื่องแรกมีกำหนดส่งมอบในปี 2023
เครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A มีกำหนดจะบรรลุความพร้อมปฏิบัติการขั้นต้น(IOC: Initial Operational Capability) ในปี 2024 และความพร้อมปฏิบัติการเต็มอัตรา(FOC: Full Operational Capability) ในปี 2034

การทดสอบ T-7A เครื่องต้นแบบ 2เครื่องกำลังดำเนินอยู่ โดยเสร็จสิ้นการบินมากกว่า 200เที่ยวบินแล้วในตอนนี้ Boeing ได้เริ่มต้นการสร้างเครื่องในรุ่น
การพัฒนาทางวิศวกรรมและการผลิต (EMD: Engineering and Manufacturing Development) สำหรับกองทัพอากาศสหรัฐฯแล้ว แต่ปฏิเสธว่าเมื่อไรที่เครื่องจะทำการบินครั้งแรก

เฉพาะในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกกลุ่มประเทศ ASEAN กองทัพอากาศไทยมีเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๑๘ข/ค F-5E/F ฝูงบิน๒๑๑ กองบิน๒๑ อุบลราชธานี จำนวน ๑๔เครื่องที่ได้รับการปรับปรุงความทันสมัยเป็นมาตรฐาน F-5TH Super Tigris โดยบริษัท Elbit System อิสราเอล 
ร่วมกับ บริษัท อุตสาหกรรมการบิน Thai Aviation Industries(TAI) ไทย และบริษัท RV Connex ไทย(https://aagth1.blogspot.com/2020/02/f-5th-super-tigris-rtaf-u1-m-singapore.html, https://aagth1.blogspot.com/2019/11/f-5th-super-tigris-iris-t.html)

และกองทัพอากาศไทยมีเครื่องบินโจมตี บ.จ.๗ Alpha Jet ฝูงบิน๒๓๑ กองบิน๒๓ อุดรธานี ที่ ๑๔เครื่องจะได้รับการปรับปรุงความทันสมัยด้วยระบบ Avionic ห้องนักบิน Glass Cockpit และเครือข่าย Datalink Link-T โดยบริษัท RV Connex ไทย
ตามแผนสมุดปกขาว RTAF White Paper 2020(https://aagth1.blogspot.com/2020/02/2020.html) กองทัพอากาศไทยมีแผนจัดหาเครื่องบินโจมตีเบาใหม่ ๑๒เครื่องทดแทนเครื่องบินขับไล่และฝึก บ.ขฝ.๑ Aero Vodochody L-39ZA/ART Albatros ฝูงบิน๔๑๑ กองบิน๔๑ เชียงใหม่ ครับ

วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2563

กองทัพอากาศสหรัฐฯจะจัดหาเครื่องขับไล่ฝึก F/T-7X

USAF to contract F/T-7X aircraft for fighter pilot training
Having previously failed to secure the USAF’s wider T-X advanced pilot training requirement, the Lockheed Martin-KAI T-50A looks set to be adopted in limited numbers on a contracted basis for air combat training. Source: Lockheed Martin

These aircraft will be designated F/T-7X, in line with the T-7A designation recently given to the Boeing-Saab Redhawk that was selected to satisfy the USAF's wider T-X Advanced Pilot Training (APT) requirement. Source: Boeing
https://www.janes.com/article/95008/usaf-to-contract-f-t-7x-aircraft-for-fighter-pilot-training


กองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force) มีแผนจะทำสัญญาจัดหาเครื่องบินฝึกจำนวนไม่มากเพื่อฝึกสอนทักษะเฉพาะต่อการรบทางอากาศภายใต้โครงการแนวคิดพิสูจน์การเปลี่ยนแปลงใหม่(RFX: Reforge Proof of Concept)
กาแจ้งเจตจำนงเพื่อประกาศสัญญาแหล่งที่มาเดียวแก่ Hillwood Aviation สำหรับเครื่องบินฝึกขับไล่ขั้นก้าวหน้าระหว่าง 4-8เครื่อง เพื่อเป็นแนวทางการบิน "Turn-Key" รวม
จากฐานทัพอากาศ Langley AFB(Air Force Base) ในมลรัฐ Virginia ถูกประกาศในนามของกองบัญชาการยุทธทางอากาศ(ACC: Air Combat Command)

เครื่องบินฝึกเหล่านี้จะถูกกำหนดแบบเป็น F/T-7X ในสายของการกำหนดแบบเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A ที่ล่าสุดกำหนดแบบให้กับเครื่องบินฝึกไอพ่น Boeing-Saab Redhawk ที่ถูกเลือก
เพื่อตอบสนองความต้องการโครงการการฝึกนักบินขั้นก้าวหน้า T-X ATP(Advanced Pilot Training) จำนวนมากของกองทัพอากาศสหรัฐฯ(https://aagth1.blogspot.com/2020/01/saab-t-7a-red-hawk.html, https://aagth1.blogspot.com/2019/09/boeing-saab-t-x-t-7a-red-hawk.html)
"ACC (ได้)ร่างแนวคิดการปฏิบัติการเพื่อสร้างการเปลี่ยนรูปแบบการฝึกเครื่องบินขับไล่ใหม่ (Reforge CONOP: Concept of Operations) ในการวางกำลังเครื่องบินขับไล่ฝึก F/T-7X ที่เป็นเครื่องบินฝึก T-7 รุ่นของ ACC ในโครงการฝึกที่มุ่งเน้น 12เดือน" เอกสารแจ้งกล่าว

"CONOP ตั้งใจพัฒนาและให้ประสบการณ์นักบินขับไล่ด้วยทักษะทางยุทธวิธีที่เกี่ยวข้องก่อนที่จะไปต่อหน่วยการฝึกทางการ(FTU: Formal Training Unit) ของเครื่องบินขับไล่พวกเขา
เหล่านักบินที่ได้รับการขึ้นรูปใหม่จะมีความเหมาะสมสำหรับหลักสูตร  FTU/Track-1 ที่มีระยะเวลาราวครึ่งหนึ่งของความยาวหลักสูตรพื้นฐาน"ตามการเน้นโดย ACC เครื่องบินฝึกใหม่ความจะมีขีดความสามารถเช่นเดียวกับเครื่องบินฝึก T-7A Redhawk
ที่ปัจจุบันอยู่ในขั้นการพัฒนาทางวิศวกรรมและการผลิต (EMD: Engineering and Manufacturing Development) และได้ทำการบินประมาณ 3,000เที่ยวบิน/4,500ชั่วโมงบิน หรือทำการบิน 1วันสั้นๆทุกวันต่อปีต่อเนื่อง5ปี

การแจ้งแถลงว่าศูนย์การบูรณาการจัดการการจัดซื้อจัดจ้าง(AMIC: Acquisition Management Integration Center) ได้ระบุให้ Hillwood Aviation ที่มีที่ตั้งใน Dallas ในฐานะแหล่งที่มาเดียวที่มีขีดความในการส่งมอบเครื่องบิน
ด้วย active radar ที่สามารถตรวจจับเป้าหมายขนาดเครื่องบินขับไล่ในระยะไม่เกิน 20miles หรือสามารถติดตั้ง Radar ได้โดยปราศจากเสียเวลาหรือยุดชะงักของบริการภายในหนึ่งปี,
ด้วยระบบการฝึกแบบฝังรวม(สังเคราะห์) หรือขีดความสามารถในการติดตั้งระบบการฝึกโดยปราศจากเสียเวลาหรือยุดชะงักของบริการภายในหนึ่งปี และมี closure rate อย่างน้อย 1,100knots เมื่อดำเนินการฝึกการรบอากาศ-สู่-อากาศในหน่วย

จากผู้เข้าแข่งขันที่ได้พ่ายแพ้ในโครงการจัดหาเครื่องบินฝึกไอพ่น T-X ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ต่อเครื่องบินฝึกไอพ่น Boeing-Saab T-7A Redhawk(https://aagth1.blogspot.com/2018/09/boeing-saab-t-x.html)
เครื่องบินฝึกไอพ่น Lockheed Martin-Korean Aerospace Industries(KAI) อาจจะถูกมองเพื่อจัดหามาใช้ในจำนวนจำกัดสำหรับการฝึกการรบทางอากาศ(https://aagth1.blogspot.com/2015/12/kai-t-50-t-x.html)
เช่นเดียวกับเครื่องบินฝึกไอพ่น T-100 ซึ่งมีพื้นฐานจากเครื่องบินฝึกไอพ่น Leonardo M-346 Master ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2017/02/leonardo-t-100-t-x.html)

วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2563

Saab สวีเดนเริ่มการสร้างเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A Red Hawk สหรัฐฯ

Saab begins T-X assembly


With two test jets already flying, Saab has begun building the aft-fuselage sections of seven EMD aircraft at its Linköping facility in Sweden, ahead of final assembly by Boeing in the United States. Source: Boeing
https://www.janes.com/article/93844/saab-begins-t-x-assembly

บริษัท Saab สวีเดนได้เริ่มต้นการประกอบของส่วนโครงสร้างลำตัวด้านหลังส่วนแรกของเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A Red Hawk(https://aagth1.blogspot.com/2019/09/boeing-saab-t-x-t-7a-red-hawk.html)
สำหรับขั้นตอนการพัฒนาทางวิศวกรรมและการผลิต (EMD: Engineering and Manufacturing Development) ของโครงการเครื่องบินฝึกไอพ่นใหม่ทดแทน T-X ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force)

Saab สวีเดนกล่าวเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2020 ว่าตนได้เริ่มการสร้างชิ้นส่วนแรกจากส่วนด้านหลังห้องนักบินไปจนถึงด้านหลังของเครื่องบินฝึกไอพ่นที่ตนได้พัฒนาในฐานะหุ้นส่วนกับผู้รับสัญญาหลักบริษัท Boeing สหรัฐฯ
"ในเวลาเกินปีหนึ่งเล็กน้อยตั้งแต่เราลงนามสัญญา EMD เรากำลังเริ่มการผลิตในส่วนของเราของเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A" Saab กล่าวในการแถลง(https://aagth1.blogspot.com/2019/07/boeing-t-x.html)

โดยเครื่องบินไอพ่นตัวแทนการผลิต(PRJ: Production Representative Jet) จำนวน 2เครื่องที่ได้ถูกสร้างจะทำการบินแล้ว(https://aagth1.blogspot.com/2016/12/t-x-boeing-saab.html, https://aagth1.blogspot.com/2018/09/boeing-saab-t-x.html)
การประกาศสัญญา EMD ในเดือนกันยายน 2018(https://aagth1.blogspot.com/2018/10/saab-boeing-t-x.html) สำหรับเครื่องบินอีก 5เครื่องสำหรับการบินทดสอบ เพิ่มอีก 1ส่วนโครงสร้างลำตัวสำหรับการทดสอบประจำที่บนพื้น และ 1ส่วนโครงสร้างลำตัวสำหรับการทดสอบความล้า

ขณะนี้ Saab กำลังสร้างหน่วยส่วนโครงสร้างลำตัวส่วนท้ายของ 7เครื่องในขั้น EMD ณ โรงงานอากาศยานของตนใน Linköping สวีเดน มุ่งหน้าสู่การเคลื่อนย้ายมาโรงงานอากาศยานของ Boeing ใน St. Louis มลรัฐ Missouri สหรัฐฯสำหรับการประกอบเครื่องบินขั้นสุดท้าย
ตามการเน้นโดย Saab งานปัจจุบันที่ได้รับกาดำเนินการใน Linköping จะถูกย้ายมาที่ West Lafayette ในมลรัฐ Indiana สหรัฐฯ ที่ซึ่งชิ้นส่วนสำหรับเครื่องบินราว 60เครื่องจะถูกสร้างออกมาต่อปี

ก่อนหน้านี้ Saab ได้ปฏิเสธที่จะกล่าว่าเมื่อไรที่เครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A ในขั้น EMD เครื่องแรกจะทำการบิน โดยกล่าวเพียงว่า "นี่เป็นข้อมูลที่อ่อนไหวมากสำหรับกองทัพอากาศสหรัฐฯ"
นอกเหนือจาก Boeing และ Saab กลุ่มภาคอุตสาหกรรมผู้จัดส่งรายอื่นที่ได้รับการเปิดเผยประกอบด้วย บริษัท General Electric สหรัฐฯ, บริษัท Triumph Group สหรัฐฯ, บริษัท Collins Aerospace สหรัฐฯ, บริษัท L3 Technologies สหรัฐฯ และบริษัท Elbit Systems อิสราเอล

กองทัพอากาศสหรัฐฯมีบันทึกระเบียนโครงการองเครื่องบินฝึกไอพ่น Red Hawk จำนวน 351เครื่องที่จะทดแทนเครื่องบินฝึกไอพ่น Northrop T-38 Talon ที่ประจำการมาตั้งแต่ปี 1960s
โดยเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A เครื่องแรกมีกำหนดจะส่งมอบให้ฐานทัพอากาศ Randolph AFB(Air Force Base) มลรัฐ Teaxs ในปี 2023

ความพร้อมปฏิบัติการขั้นต้น(IOC: Initial Operational Capability) ของเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A มีกำหนดการสำหรับปี 2024 ฐานบินฝึกศิษย์การบินทั้งหมดที่ในที่สุดจะเปลี่ยนแบบจากเครื่องบินฝึกไอพ่น T-38C เป็น T-7A เหล่านี้ประกอบด้วย
ฐานทัพอากาศ Columbus AFB ในมลรัฐ Mississippi, ฐานทัพอากาศ Laughlin AFB และฐานทัพอากาศ Sheppard AFB ในมลรัฐ Texas และฐานทัพอากาศ Vance AFB ในมลรัฐ Oklahoma ครับ

วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2562

กองทัพอากาศสหรัฐฯกำหนดแบบ Boeing-Saab T-X เป็นเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A Red Hawk

VIDEO: USAF christens new trainer as T-7A Red Hawk




The US Air Force has designated the Boeing T-X jet trainer the T-7A Red Hawk, in tribute to the US Army Air Corps’ Tuskegee Airmen and their World War II-era P-40 Warhawks.
https://www.flightglobal.com/news/articles/video-usaf-christens-new-trainer-as-t-7a-red-hawk-460890/


กองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force) ได้กำหนดแบบเครื่องบินฝึกไอพ่น Boeing T-X เป็น T-7A Red Hawk เพื่อยกย่อง Tuskegee Airmen กลุ่มนักบินแอฟริกัน-อเมริกันของกองบินกองทัพบกสหรัฐฯ(US Army Air Corps) และเครื่องบินขับไล่ P-40 Warhawk สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง
การตั้งชื่อเครื่องบินฝึกไอพ่นใหม่นี้ได้รับการประกาศโดยว่าที่รัฐมนตรีทบวงกองทัพอากาศ Matthew Donovan ณ งานสัมนา Air, Space and Cyber Conference 2019 ของสมาคมกองทัพอากาศ(Air Force Association) ใน National Harbor มลรัฐ Maryland เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2019
เครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A Red Hawk ได้รับการทำลวดลายบนแพนหางแนวตั้งของเครื่องเป็นสีแดง(Red Tail) ตามเครื่องบินขับไล่ของเหล่านักบิน Tuskegee Airmen ในฝูงบินขับไล่ที่99(99th Pursuit Squadron) เคยทำในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง

บริษัท Boeing สหรัฐฯได้เป็นผู้ชนะในสัญญาวงเงิน $9.2 billion ในเดือนกันยายน 2018 เพื่อส่งมอบเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A 351เครื่อง, เครื่องจำลองการบิน 46ระบบ อุปกรณ์ภาคพื้นดินที่เกี่ยวข้องแก่กองทัพอากาศสหรัฐฯ(https://aagth1.blogspot.com/2018/09/boeing-saab-t-x.html)
กองทัพอากาศสหรัฐฯจะนำ T-7A เพื่อทดแทนเครื่องบินฝึกไอพ่น Northrop T-38C Talon ที่ประจำการมาตั้งแต่ปี 1961(https://aagth1.blogspot.com/2018/10/saab-boeing-t-x.html) การตั้งชื่อเครื่องมีขึ้นตามมาหลังจากที่เครื่องผ่านการทบทวนการออกแบบสำคัญในวันที่ 9 กันยายน 2019
Boeing ได้ทำการบิน T-7A เที่ยวบินที่100 เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2019 โดย T-7A เครื่องต้นแบบทำการบินครั้งแรกในเดือนธันวาคม 2016(https://aagth1.blogspot.com/2016/12/t-x-boeing-saab.html) สามปีก่อนหลังการพัฒนาขั้นต้นได้เริ่มต้นในการเป็นหุ้นส่วนกับบริษัท Saab สวีเดน

ระยะการพัฒนาที่สั้นนั้นได้รับความช่วยเหลือจาการพึ่งพาทางวิศกรรมบนแบบจำลองของบริษัท ขั้นตอนมุ่งเป้าที่การใช้การวาดแบบเครื่องบินแบบ Digital ตลอดขั้นตอนการพัฒนา Steve Parker ผู้จัดการโครงการ T-7A กล่าว
เขาปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดถึงขั้นตอนของ Boeing โดยอ้างว่ามันเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขัน "เรากำลังอยู่ในโครงการ(ขั้นการพัฒนาทางวิศวกรรมและการผลิต EMD: Engineering and Manufacturing Development)(https://aagth1.blogspot.com/2019/07/boeing-t-x.html)
มันเป็นเรื่องไม่ปกติสำหรับ(โครงการ) EMD ที่จะทำการทบทวนการออกแบบที่สำคัญ เราได้เริ่มการผลิตชิ้นส่วนแล้ว เราทำการบินทดสอบแล้ว มันเป็นสถานะการณ์ที่แปลก มันเป็นอะไรที่เราอยากจะเรียกว่าการทำลายบรรทัดฐาน" Parker กล่าว

ผู้เข้าแข่งขันในโครงการ T-X เช่น บริษัท Lockheed Martin สหรัฐฯที่เสนอเครื่องบินฝึกไอพ่น T-50A ร่วมกับบริษัท Korean Aerospace Industries(KAI) สาธารณรัฐเกาหลี(https://aagth1.blogspot.com/2015/12/kai-t-50-t-x.html)
ได้กล่าวหา Boeing ว่าลงแข่งขันโครงการ T-X โดยที่มีผลขาดทุนทางการเงิน โดยตั้งใจจะออกจากการติดตัวแดงบัญชีผ่านการทำสัญญาเพื่อคงกำไรที่สูงและการขายส่งออกระดับนานาชาติ
Parker กล่าวว่านั่นเป็นความเข้าใจผิดและการที่ Boeing สามารถเข้าแข่งขันในราคาที่ต่ำและเดินหน้าได้อย่างรวดเร็วเพราะการเข้าถึงรูปแบบการทำงานทางวิศวกรรมบนพื้นฐานแบบจำลองของตน

ก่อนสิ้นปี 2019 นี้ Boeing ตั้งเป้าที่จะเสร็จสิ้นการทบทวนการออกแบบสำคัญของระบบการฝึกภาคพื้นดิน การประกอบเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A เครื่องแรกในขั้น EMD จะเริ่มต้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ตามที่ Boeing ลังเลที่จะระบุถึงเวลาที่ชัดเจน
"มันขึ้นอยู่กับว่าคุณกำหนดถึงการประกอบเครื่องอย่างไร เราจะทำการประกอบส่วนต่างๆจากทั่วโลกอย่างแน่นอนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่เครื่องบินจะเริ่มต้นประกอบเป็นรูปร่างรวมกันในปีหน้า(2020) แน่นอนภายในฤดูร้อนปีหน้าเราจะอยู่ในเส้นทางของการประกอบด้วยดี" Parker กล่าว
สายการผลิต T-7A ที่มีตั้งขึ้นใหม่ ณ โรงงานอากาศยานใหม่ของ Boeing ในมลรัฐ Indiana ตั้งเป้าที่จะทำการผลิตได้ที่ประมาณ 60เครื่องต่อปี โดยเครื่องชุดแรกมีกำหนดที่จะถูกส่งมอบได้ในปี 2023 และมีความพร้อมปฏิบัติการขั้นต้น(IOC: Initial Operational Capability) ในปี 2024 ครับ