วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

Navantia สเปนปล่อยเรือคอร์เวต Avante 2200 ลำแรกของซาอุดีอาระเบีย Al Jubail ลงน้ำ

Navantia launches the first Corvette for Saudi Arabia



The construction NB 546/848 AL JUBAIL was launched at 5:22 p.m.




The Chairwoman of Navantia, Susana de Sarriá, has highlighted the good development of the Avante2200 program



It has been several months of work in order to meet deadlines and deliver the last of the five corvettes in 2024



วันที่ 22 กรกฎาคม 2020 เวลา 1722 บริษัท Navantia สเปนประสบความสำเร็จการปล่อยเรือลงน้ำของเรือคอร์เวต Al Jubail (828) เรือคอร์เวตแบบ Avante 2200 ลำแรกจาก 5ลำที่ถูกสร้างสำหรับกองทัพเรือซาอุดีอาระเบีย(RSNF: Royal Saudi Naval Forces)
พิธีปล่อยเรือลงน้ำจัดขึ้นในทางลาดกว้านเรือหมายเลข2 ณ อู่เรือ San Fernando และเป็นประธานโดยผู้บัญชาการกองทัพเรือซาอุดีอาระเบีย พลเรือโท Fahad Bin Abdullah Al-Ghofaily, ประธาน Navantia สเปน Susana de Sarriá,
รักษาการผู้อำนวยการบริหาร Saudi Arabian Military Industries(SAMI) ซาอุดีอาระเบีย Eng. Walid Abukhaled และผู้บัญชาการฝ่ายสนับสนุนการส่งกำลังบำรุงอ่าว Cádiz กองทัพเรือสเปน(Spanish Navy, Armada Española) พลเรือโท Ricardo A. Hernández López(Alardiz)

พิธีเริ่มต้นด้วยการสวดพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานโดยนายทหารกองทัพเรือซาอุดีอาระเบีย จากนั้นได้มีการเปิดวิดีทัศน์เกี่ยวกับเมือง Al Jubail(ที่ถูกนำมาตั้งเป็นชื่อเรือ) 
วิดีทัศน์เร่งความเร็วเวลาได้แสดงผลลัพธ์ของการสร้างซึ่งเป็นเวลาหลายเดือนและสามารถชมได้จาก Website ของ Navantia ถัดมาเพลงชาติราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียและราชอาณาจักรสเปนได้ถูกบรรเลง

ผู้บัญชาการกองทัพเรือซาอุดีอาระเบียได้เน้นย้ำความสำคัญของการทำสัญญาโครงการ ALSARAWAT กับ Navantia สเปนในฐานะหนึ่งในโครงการจัดหา-ขีดความสามารถที่ใหญ่ที่สุดสำหรับกองทัพเรือซาอุดีอาระเบีย
ซึ่งสะท้อนความสัมพันธ์ทางยุทธศาสตร์ที่แข็งแกร่งระหว่างซาอุดีอาระเบียและสเปน และขยายความร่วมมือระหว่างกองทัพเรือซาอุดีอาระเบียและกองทัพเรือสเปนในการสร้างเรือ, การศึกษา และการฝึก

ผู้บัญชาการกองทัพเรือซาอุดีอาระเบียยังได้บ่งชี้ว่าความสำเร็จของโครงการนี้เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับความต้องการโครงการต่างๆในอนาคตและความเป็นหุ้นส่วนที่ยั่งยืน
ผู้บัญชาการกองทัพเรือซาอุดีอาระเบียยังแถลงว่าก้าวย่างนี้มาภายใต้กรอบการทำงานของยุทธศาสตร์ของ SAMI ซาอุดีอาระเบียเพื่อสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมทางทหารในซาอุดีอาระเบีย เช่นเดียวกับการเพิ่มขยายความอิสระทางยุทธศาสตร์และความพร้อมทางทหารของตน

ประธาน Navantia สเปนเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัทต่อกองทัพเรือซาอุดีอาระเบียเพื่อทำซ้ำการนำรูปแบบที่ประสบความสำเร็จมาใช้ตลอดหลายปีกับกองทัพเรือสเปน และระหว่างหลายปีล่าสุดกับกองทัพเรือชาติอื่นเช่นกองทัพเรือออสเตรเลีย(RAN: Royal Australian Navy)
และมอบขีดความสามารถระดับสูงแก่ทั้งกองทัพเรือซาอุดีอาระเบียและภาคอุตสาหกรรมทางทหารของซาอุดีอาระเบียในโครงการเรือคอร์เวตและยังรวมถึงสำหรับโครงการอื่นๆในอนาคต

ต่อมา ผู้สนับสนุนเรือ, ผู้บัญชาการกองทัพเรือซาอุดีอาระเบีย ออกคำสั่งต่อ นาวาเอก Abdullah Alshehri ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารโครงการ(PMO: Project Management Office) ALSARAWAT กองทัพเรือซาอุดีอาระเบีย ตัดริบบิ้นในนามของเขา 
และเรือคอร์เวต Al Jubail ได้ถอยออกจากจากลาดกว้านเรือและสัมผัสน้ำเป็นครั้งแรก Al Jubail มีความยาวเรือ 104m กว้าง 14m และรองรับกำลังพลได้ 102นาย(ลูกเรือและกำลังพลเสริม) ทำความเร็วได้สูงสูงสุด 27 knots ในด้านอื่นๆ มีระยะเวลาปฏิบัติการได้ 21วันด้วยเสบียงภายในตัวเรือ

เรือคอร์เวตชั้น Al Jubail เป็นรุ่นล่าสุดของแบบเรือรบที่ประสบความสำเร็จที่ Navantia ออกแบบและมีความเข้ากันได้กับผลิตภัณฑ์ล้ำสมัยของ Navantia เช่น ระบบการรบ CATIZ, ระบบควบคุมการยิงปืนเรือ DORNA, ระบบสื่อสารภายนอกและภายในบูรณาการ NAVCOMS/HERMESYS,
ระบบนำร่องและสะพานเดินเรือบูรณาการ MINERVA หรือระบบบูรณาการระบบอำนวยการ COMPLEX-SIMPLEX ร่วมกับอุปกรณ์อื่นที่ผลิตโดย Navantia ภายใต้สิทธิบัตร เช่น ปืนเรือหลัก Leonardo SUPER RAPID 76mm อิตาลี,
ระบบป้องกันระยะประชิด(CIWS: Close-In Weapon System) Rheinmetall Air Defence MILLENNIUM 35mm, เครื่องยนต์ดีเซลและเครื่องกำเนิดพลังงานดีเซล MTU เยอรมนี และชุด gearbox ของ RENK เยอรมนี

ตั้งแต่การตัดเหล็กแผ่นแรกมีขึ้นในเดือนมกราคม 2019 การดำเนินงานทั้งหมดของ Navantia ใน San Fernando และยังใน Puerto Real ได้มีการทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
เรือคอร์เวต Al Jubail หมายเลขเรือ 828 ได้ประสบความสำเร็จในการสร้างแม้ว่าจะมีการชะลอการทำงานที่เป็นผลจากการระบาดของ coronavirus Covid-19 
ในข้อเท็จจริงหลักการความปลอดภัยในพิธีปล่อยเรือลงน้ำได้กำหนดให้ผู้เข้างานทุกคนต้องได้รับการวัดอุณหภูมิ, สวมหน้ากากอนามัย และรักษาระยะห่างที่ปลอดภัย

สำหรับเรือคอร์เวตชั้น Al Jubail ลำต่อไปที่จะตามมา วัตถุประสงค์คือกู้คืนเวลาและตรงหลักก้าวย่างสำคัญขั้นต้น ดังนั้นเรือลำที่สองจะสามารถปล่อยเรือลงน้ำได้ในเดือนพฤศจิกายน 2020
หลังจากพิธีปล่อยเรือลงน้ำ นาวาเอก Abdullah Alshehri ผู้อำนวยการ PMO ALSARAWAT กองทัพเรือซาอุดีอาระเบีย ได้รับชมความคืบหน้าในการสร้างเรือคอร์เวต Al Diriyah (830) ในทางลาดกว้านเรือหมายเลข3

โครงการเรือคอร์เวตซึ่งเข้าสู่การบังคับใช้ในเดือนพฤศจิกายน 2018 ได้เสริมความแข็งแกร่งอนาคตอันใกล้ของ Navantia และเป็นประโยชน์ต่ออู่เรือของบริษัททั้งหมดและส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะในรอบอ่าว Cádiz
โดยเฉพาะยิ่งการกะปริมาณงานทั่วโลกราว 7ล้านชั่วโมงนั้นได้แปลงเป็นงานที่จะถึง 6,000ตำแหน่งในแต่ละปีระหว่าง 5ปีข้างหน้า จากตำแหน่งงานเหล่านี้มากกว่า 1,100คนจะเป็นพนักงานโดยตรง 
มากกว่า 1,800คนจะเป็นพนักงานในอุตสาหกรรมเสริมของ Navantia และมากกว่า 3,000ตำแหน่งจะเป็นพนักงานทางอ้อมที่ได้รับการจ้างโดยผู้รับสัญญารายอื่น ที่จะมีมากว่า 1,000บริษัทเพิ่มเติมที่มีความร่วมมือในโครงการ

โครงการซึ่งเรือลำสุดท้ายจะสามารถส่งมอบได้ในปี 2024 รวมถึงการเพิ่มเติมเพื่อสร้างการสนับสนุนตลอดอายุการใช้งานเป็นเวลา 5ปี จากการส่งมอบเรือลำแรก โดยมีตัวเลือกเพิ่มอีก 5ปี
ในอีกแง่หนึ่งสัญญายังรวมถึงการจัดส่งหลายการบริการเช่น การบูรณาการการสนับสนุนการส่งกำลังบำรุง การฝึกการปฏิบัติการและการบำรุงรักษาเพิ่มเติม, การจัดส่งการศูนย์การฝึกสำหรับระบบการรบและควบคุมระบบสำหรับเรือ, 
การสนับสนุนตลอดอายุการใช้งานที่กล่าวถึงก่อนหน้า, และระบบสำหรับการบำรุงรักษาเรือในฐานทัพเรือ Jeddah ของกองทัพเรือซาอุดีอาระเบียครับ