วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

รถหุ้มเกราะล้อยาง Chaiseri First Win II น่าจะเป็นผู้ชนะโครงการจัดหายานยนต์หุ้มเกราะอเนกประสงค์ 4x4 ๖คันของกองทัพเรือไทย

Chaiseri First Win II 4x4 Armoured Multi-Purpose Vehicle with M134 Minigun 7.62x51mm NATO gatling gun on turret was displayed at Defense and Security 2019.(My own photo)


Chaiseri First Win II to win bidding new 6 Armoured Multi-Purpose Vehicle 4x4 for Royal Thai Navy.
ด่วน! ชัยเสรีฯ จะชนะการประมูลยานยนต์หุ้มเกราะล้อยาง 4 X 4 ซึ่งกองทัพเรือจัดหาใหม่จำนวน 6 คัน ด้วยงบประมาณ 99.9 ล้านบาท 
ซึ่งเป็นรุ่น First Win II มีน้ำหนักเปล่า 12,500 กก. นน.พร้อมรบ 14,500 กก. ความยาว 6.20 เมตร กว้าง 2.45 เมตร สูง 2.68 เมตร บรรทุกทหารได้ 10 นาย(9+1) โดยจะต้องทำการส่งมอบภายใน 90 วัน

Panus Assembly AFV-420P (Armoured Fighting Vehicle-420 Panus) Mosquito with M2HB .50cal on ASELSAN SARP (Stabilized Advanced Remote Weapon Platform) Remote Controlled Weapon Station (RCWS) was conduct test firing for first time at Naval Ordnance Department, Royal Thai Navy's weapons range with Royal Thai Marine Corps observe in 18 May 2019.

ทร.เตรียมจัดหารถหุ้มเกราะ 4 X 4 ใหม่! กองทัพเรือโดยกรมส่งทหารเรือประกาศจัดหายานยนต์หุ้มเกราะล้อยาง 4 X 4 จำนวน 6 คัน ด้วยงบประมาณ 99.9 ล้านบาท 
โดยมี 3 บริษัทเข้าร่วมเสนอราคา คือ ชัยเสรี เม็ททอล แอนด์รับเบอร์ , พนัส แอสเซมบลีย์ และ นันทเทรด ซึ่งราคาตกคันละประมาณ 16.65 ล้านบาท 
ซึ่งดูจากราคาแล้ว รถหุ้มเกราะ First Win ชองชัยเสรี สามารถเข้าเสนอได้ทุกรุ่น ส่วนของพนัส AFV 420P มีราคาสูงกว่าราคากลาง ดังนั้นพนัสฯ จึงต้องสร้างรถที่มีขนาดเล็กลง เพื่อเข้าแข่งขันสำหรับงานนี้ 
ถ้ากองทัพเรือเปิดกว้างให้รถที่ผลิตในประเทศได้เข้าแข่งขันกันโดยกว้างขวาง ก็น่าจะยืดเวลาการจัดหาออกไปอีกสักระยะหนึ่งเกิน 90 วัน เพื่อให้โอกาสแก่พนัสฯ จะได้มีหลายทางเลือก ส่วนรถของ นันทเทรด ยังไม่มีข้อมูลว่าเป็นรถยี่ห้ออะไร... Photo Sompong Nondhasa

Naval Transportation Department, Royal Thai Navy announced to acquire 6 Four-wheel drive (4x4) Armoured Multi-Purpose Vehicles.
ซื้อยานยนต์หุ้มเกราะอเนกประสงค์แบบขับเคลื่อน ๔ ล้อ (แบบ ๔ x ๔) จำนวน ๖ คัน

ศูนย์ข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างและราคากลางกองทัพเรือไทย ประกาศถึงโครงการจัดซื้อยานยนต์หุ้มเกราะอเนกประสงค์แบบขับเคลื่อน ๔ล้อ (แบบ ๔ x ๔) จำนวน ๖คัน โดย กรมการขนส่งทหารเรือ สำหรับ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน
วันที่กำหนดราคากลาง(ราคาอ้างอิง) ๑๖ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๓(2020) เป็นวงเงิน ๙๙,๙๐๐,๐๐๐บาท($3,210,155) ราคาต่อหน่วยคันละ ๑๖,๖๕๐,๐๐๐บาท($535,026) แหล่งที่มาราคากลาง(ราคาอ้างอิง) มีสามบริษัทประกอบด้วย
บริษัท ชัยเสรี เม็ททอล แอนด์ รับเบอร์ จำกัด(Chaiseri metal & rubber Co. Ltd.) ไทย, บริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด(Panus Assembly Co Ltd.) ไทย และบริษัท นันทเทรด จำกัด ไทย

การกำหนดร่างขอบเขตของงาน(TOR: Terms of Reference) รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะยานยนต์หุ้มเกราะอเนกประสงค์แบบขับเคลื่อน ๔ล้อ (แบบ 4x4) มีดังนี้ 

คุณลักษณะทั่วไป
เป็นยานยนต์หุ้มเกราะอเนกประสงค์แบบขับเคลื่อน ๔ล้อ(แบบ 4x4) สามารถใช้บรรทุกกำลังพล พร้อมสัมภาระได้ไม่น้อยกว่า ๑๐(๙+๑)นาย(รวมพลขับ) และ/หรือภารกิจอื่นๆ 
มีความแข็งแรงทนทานต่อสภาพการใช้งานในพื้นที่ ที่มีการโจมตีและวางระเบิดแสวงเครื่อง สามารถปฏิบัติงานในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ตามภารกิจที่กองทัพเรือมอบให้อย่างมีประสิทธิภาพ

คุณลักษณะเฉพาะ
๑เครื่องยนต์(Engine)
๑.๑ เครื่องยนต์ดีเซล
๑.๒ แรงม้าสูงสุดไม่น้อยกว่า 295HP หรือ 220kW
๑.๓ แรงบิดสูงสุดไม่น้อยกว่า 1,100N-m ที่ ๑,๒๐๐-๑,๗๐๐รอบ/นาที
๒ เครื่องเปลี่ยนความเร็ว(Transmission) และเครื่องเพิ่มเพลขับ(Tranfer Case) ขับเคลื่อน 4x4 ตลอดเวลา เป็นแบบที่ใช้ทางการทหาร
๒.๑ แบบอัตโนมัติ
๒.๒ ความเร็วเดินหน้าไม่น้อยกว่า ๖ระดับความเร็ว
๒.๓ ความเร็วถอยหลังไม่น้อยกว่า ๑ระดับความเร็ว
๓ เพลาล้อ
๓.๑ เพลาล้อหน้า(Front Axle) และระบบเบรค ABS จำนวน ๑เพลา
๓.๒ เพลาล้อหน้า(Rear Axle) และระบบเบรค ABS จำนวน ๑เพลา
๔ ยางและกงล้อ
๔.๑ ใช้ยางเดี่ยวแบบไม่มียางในขนาดไม่น้อยกว่า 395/85 R 20 พร้อมวงยางในแบบตัน(Run Flat) จำนวน ๔ชุดล้อ เมื่อยางปราศจากความดันลมยังสามารถรับน้ำหนักและเคลื่อนที่ต่อไปได้ไม่น้อยกว่า 50km
๔.๒ ดอกยางสามารถใช้งานบนถนนและในภูมิประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
๔.๓ กงล้อขนาดไม่น้อยกว่า 20 Inches
๔.๔ มีระบบอัตตโนมัติในการเติมลมและปล่อยลมยางล้อรถ เพื่อวิ่งใช้งานบนถนนและเข้าพื้นที่ดินอ่อนลุ่มหรือดินทราย
๕ ระบบบังคับเลี้ยว
๕.๑ พวงมาลัยติดตั้งทางด้านขวาของตัวรถ
๕.๒ มีเครื่องช่วยผ่อนแรงการบังคับเลี้ยวแบบ Hydraulic(Power Steering)
๕.๓ มีรัศมีวงเลี้ยวด้านซ้าย-ขวาไม่เกิน 8.50m
๕.๔ มีอุปกรณ์เพิ่มความปลอดภัยช่วยการทรงตัวของรถขณะขับเคลื่อนและเมื่อยางล้อหน้าระเบิด(Safety Plus)
๖ ตัวกระดองรถ(Hull) เป็นเหล็กเกราะเชื่อมขึ้นรูป(Monocoque) ทำด้วยแผ่นเหล็กเกราะป้องกันกระสุนและระเบิดดังนี้
๖.๑ หลังคารถทำด้วยเหล็กเกราะป้องกันกระสุน(Armored Steel) มีช่องทางออกบนหลังคาขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เล็กกว่า 600mm พร้อมฝาครอบ มีชุดฐานป้อมปืนพร้อม Guard ป้องกันกระสุน(ระดับ STANAG 4569 Lv2) มีกระจกด้านข้าง ๒ด้านป้องกันกระสุน(ระดับ STANAG 4569 Lv2)
และขาตั้งปืนกลขนาด 5.56mm หรือ 7.62mm หรือ 12.7mm หรือปืนกลหลายลำกล้อง M134 ป้อมปืนหมุนเคลื่อนที่ได้ 360 degree โดยใช้เฟืองเกียร์ทดช่วยผ่อนแรงในการหมุน
๖.๒ กระดองรถด้านข้างทั้งห้องเครื่องยนต์และห้องโดยสารทำด้วยเหล็กเกราะป้องกันกระสุน(Armored Steel) ป้องกันกระสุนได้ระดับ STANAG 4569 Lv2 มีช่องยิงสำหรับสอดลำกล้องปืนออกนอกกระดองรถ สามารถเปิด-ปิดได้อย่างรวดเร็ว ๑๐ช่อง
๖.๓ กระดองรถด้านใต้ท้องรถทำด้วยเหล็กเกราะป้องกันระเบิด(Armored Steel) อัดขึ้นรูปเป็นตัวอักษร V สามารถลดแรงต้านจากการถูกระเบิดให้กระจายออกด้านข้าง ทนแรงระเบิดได้ระดับไม่น้อยกว่า STANAG 4569 Lv3b/4a
๖.๔ กระจกด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง เป็นกระจกใสพิเศษมองผ่านได้อย่างปกติกระจกทุกบานใส่อยู่ในกรอบเหล็กเกราะยึดติดกับตัวกระดองรถด้วยสกรูแบบพิเศษ(หัวกลมป้องกันกระสุน) 
กรณีกระจกแตก ร้าว หรือเป็นฝ้า สามารถยกถอดเปลี่ยนได้ทั้งกรอบด้วยการถอดสกรูออก กระจกป้องกันกระสุนระดับไม่น้อยกว่า STANAG 4569 Lv2(ยกเว้นกรณีที่ถูกยิงซ้ำที่มีระยะห่างน้อยกว่า 10cm)
๖.๕ มีที่นั่งไม่น้อยกว่า ๑๐(๙+๑)นาย(รวมพลขับ) เป็นเบาะฟองน้ำหุ้มด้วยหนังสีดำพร้อมเข็มขัดนิรภัยมีจุดยึด ๕ตำแหน่ง ที่นั่งพลปืนติดตั้งกับเสากลางสามารถพับพนักพิงลงเป็นฐานยืนยิงปืนปรับเลื่อนขึ้นลงได้ตามความต้องการของพลปืน
เบาะนั่งที่เหลือยึดติดกับผนังด้านข้าง ที่นั่งทั้งหมดมีชุดสปริงลดแรงกระแทกจากการถูกระเบิด
๖.๖ มีประตูทางเข้า-ออกไม้น้อยกว่า ๓บาน โดยอย่างน้อยต้องมีด้านข้างพลขับด้านข้างผู้บังคับการณ์รถและด้านท้าย
๖.๗ มีบันไดขึ้น-ลง ๒ระดับ บันไดตัวล่างสามารถพับขึ้นได้กรณีใช้งานในภูมิประเทศที่เป็นหลุมบ่อตามมาตรฐานผู้ผลิต
๗ สมรรถนะ(ไม่มีน้ำหนักบรรทุก)
๗.๑ ความเร็วสูงสุดไม่น้อยกว่า 110km/h
๗.๒ ไต่ลาดชันได้ไม่น้อยกว่า 60%
๗.๓ ไต่ลาดเอียงไม่น้อยกว่า 30%
๗.๔ มุมถึงลาด(หน้า) ไม่มากกว่า 35 degree
๗.๕ มุมถึงลาด(หลัง) ไม่มากกว่า 35 degree
๗.๖ ข้ามเครื่องกีดขวางได้สูงไม่น้อยกว่า 500mm
๗.๗ ระยะปฏิบัติการบนถนนไม่น้อยกว่า 650km
๘ มิติรถ
๘.๑ ระยะห่างระหว่างฐานล้อไม่เกิน 3.470mm
๘.๒ ความยาวไม่เกิน 6,200mm
๘.๓ ความกว้างไม่เกิน 2,450mm
๘.๔ ความสูงไม่เกิน 2,680mm
๘.๕ ระยะต่ำสุดจากพื้นไม่เกิน 520mm
๘.๖ บรรทุกน้ำหนักได้ไม่น้อยกว่า 2,000kg
๙ มีระบบปรับอากาศ สามารถปรับระดับแรงลมและความเย็นได้ จำนวน ๑ชุด
๑๐ มีกล้องสำหรับมองด้านหลังพร้อมจอภาพ จำนวน ๑ชุด
๑๑ มีไฟฉายส่องสว่างด้านหน้า สามารถส่องสว่างได้ไม่น้อยกว่า 1.5km หมุนได้รอบ 360 degree ปรับมุมสูง-ต่ำได้ จำนวน ๑ชุด
๑๒ มีพัดลมดูดควันปืนออกจากภายในห้องโดยสารของรถได้อย่างรวดเร็ว ติดตั้งบนหลังคา จำนวน ๑ชุด
๑๓ มีถังน้ำมันเชื้อเพลิงติดตั้งภายในกระดองรถบรรจุได้ไม่น้อยกว่าถังละ 120liter จำนวน ๒ถัง
๑๔ มีถังเก็บลมและแม่ปั้มเบรคติดตั้งอยู่ภายในกระดองรถ จำนวน ๒ถัง
๑๕ มีหม้อ Battery แบบมาตรฐานทางทหาร(MIL-PRF-32143) สำหรับใช้กับยานยนต์ ขนาด 12V ความจุ 120Ah จำนวน ๒ลูก
๑๖ ระบบไฟฟ้า 24V สามารถใช้กับเครื่องมือสื่อสารทางทหารได้ มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าชนิดกระแสสลับ(Alternater) แรงเคลื่อน 24V ขนาด 200A
๑๗ สีตัวรถเป็นสีกากีแกมเขียว หรือตามที่ทางราชการกำหนด
๑๘ มีหนังสือคู่มือ ชื่อ และหมายเลขชิ้นส่วนต่างๆของทุกระบบ รวมทั้งคู่มือซ่อม(ภาษอังกฤษ) ๒คันต่อชุด และคู่มือการใช้งานภาษาไทยคันละ ๑เล่ม
๑๙ กว้านประจำรถ พร้อมรอกผ่อนแรง ติดตั้งอยู่หลังกันชนหน้า มีคุณลักษณะเฉพาะดังนี้
๑๙.๑ ให้กำลังฉุดลากไม่น้อยกว่า 18,000lbs
๑๙.๒ ความยาวลวดสลิงกว้านไม่น้อยกว่า 20m
๑๙.๓ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 12.7mm
๒๐ ชุดเครื่องมือประจำรถ
๒๐.๑ มีชุดเครื่องมือประจำรถจำนวน ๑ชุด
๒๐.๒ มีแม่แรงขนาด 10tons พร้อมด้ามจำนวน ๑ชุด
๒๐.๓ มัประแจถอดล้อจำนวน ๑ชุด
๒๐.๔ มีกระบอกอัดจาระบีพร้อมสายอ่อนจำวน ๑ชุด
๒๐.๕ มีหัวเติมลมยางพร้อมมาตรวัดแรงดันลมและสายยาง จำนวน ๑ชุด
๒๐.๖ มีอุปกรณ์ที่ใช้ลากจูง(Tow Bar) แบบ ๒ก้านรูปตัว V จำนวน ๑ชุด
๒๐.๗ มีถังน้ำมันอะไหล่ขนาดบรรจุ 20liter จำนวน ๒ถัง
๒๐.๘ มีเครื่องมือโยธาสนามพร้อมกล่องเหล็กติดตั้งอยู่ด้านขวาของตัวรถ จำนวน ๑ชุด
๒๐.๙ มีเตียงพยาบาลพร้อมกล่องเหล็กติดตั้งอยู่ด้านซ้ายของตัวรถ จำนวน ๑ชุด
๒๐.๑๐ มียางอะไหล่พร้อมะทะล้อและวงยางในแบบตัว(Run Flat)(ไม่ได้ติดตั้งกับตัวรถ) จำนวน ๑วง
๒๐.๑๑ มีเหล็กหนุนล้อกันรถไหล(Wheel Choke) จำนวน ๒อัน
๒๐.๑๒ มีฐานสำหรับติดตั้งวิทยุสนามและฐานเสาอากาศ จำนวน ๑ชุด
๒๐.๑๓ มีจุดยึดตรึงเมื่อต้องเคลื่อนย้ายทางเรือ

เงื่อนไขเพิ่มเติม
๑ เป็นของผลิตใหม่ไม่เคยใช้งานมาก่อนยกเว้นการทดสอบจากโรงงานผู้ผลิต อยู่ในสภาพเรียบร้อยและสามารถใช้งานในราชการได้ทันที
๒ สามารถเคลื่อนย้ายทางอากาศด้วยเครื่องบินลำเลียง C-130(ด้วยการถอดชุดฐานป้อมปืนและเกราะป้องกันกระสุนบนหลังคา และลดระดับแรงดันลมยาง)
รวมถึงการสนับสนุน อะไหล่ การซ่อมบำรุง การรับประกัน และบริการหลังการขายอื่นๆแก่รถ เป็นเวลาไม่น้อยกว่า ๒๐ปี

เป็นที่เข้าใจว่า Chaiseri น่าจะเสนอรถหุุ้มเกราะล้อยางตระกูล First Win 4x4 ของตนขณะที่ Panus น่าจะเสนอยานเกราะล้อยาง AMV-420P Mosquito 4x4 ส่วนบริษัทนันทเทรดไม่ทราบว่าเสนอรถหุ้มเกราะแบบใดสำหรับโครงการซื้อยานยนต์หุ้มเกราะอเนกประสงค์ 4x4 ของกองทัพเรือ
โดยทั้ง Chaiseri และ Panus ได้มีมีการส่งผลิตภัณฑ์รถหุ้มเกราะหลายแบบของตนให้หน่วยบัญชาการนาวิกโยธินประเมินค่าการใช้งานมาแล้วหลายครั้ง และได้ถูกนำไปใช้ในภาคสนามจริงเช่นที่ชายแดนภาคใต้มาแล้ว(https://aagth1.blogspot.com/2017/07/hmv-150-first-win-ii.html)
จะเห็นได้ว่า First Win II มีคุณสมบัติตรงข้อกำหนดของกองทัพเรือมากกว่า AMV-420P ที่มีขนาดใหญ่กว่าและราคาต่อคันแพงกว่า หากได้รับการยืนยันนี่จะเป็นโครงการที่สองที่ Chaiseri เป็นผู้ชนะต่อจากโครงการซื้อรถยานยนต์หุ้มเกราะขนาดเบา จํานวน ๒คันของกองทัพอากาศไทยครับ(https://aagth1.blogspot.com/2020/05/chaiseri.html)