วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557
Thales ใกล้สิ้นสุดการส่งมอบ CN-235 MELTEM II ชุดสุดท้ายให้ตุรกี
http://www.navyrecognition.com/index.php?option=com_content&task=view&id=1772
Thales ประกาศอย่างเป็นทางการว่าโครงการจัดหาเครื่องบินตรวจการณ์ทางทะเลแบบ CN-235 MELTEM II ของกองทัพเรือและหน่วยยามฝั่งตุรกีที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2002
ได้ใกล้สิ้นสุดแล้วโดยเครื่องลำสุดท้ายของโครงการคือเครื่องที่ 6 จะถูกส่งมอบภายในให้กองทัพเรือตุรกีไม่เกินช่วงฤดูร้อนปีนี้ และอีก 3เครื่องสำหรับหน่วยยามฝั่งตุรกีในปลายปีนี้
CASA CN-235MP เป็นเครื่องบินตรวจการณ์ทางทะเลที่ดัดแปลงจากเครื่องบินลำเลียง CN-235 โดยใช้ระบบหลายระบบจาก Thales ร่วมกับบริษัทของตุรกีเช่น TAI ครับ
วันจันทร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2557
รัฐมนตรีกลาโหมนอร์เวย์ให้ข้อแนะนำว่าควรจะเพิ่มงบประมาณด้านความมั่นคง
http://www.aftenposten.no/nyheter/iriks/Vil-investere-2_8-milliarder-i-Forsvaret-7546651.html
รัฐมนตรีกลาโหมนอร์เวย์ได้ให้ข้อแนะนำว่านอร์เวย์ควรจะเพิ่มงบประมาณด้านความมั่นคงอีก 2.8billion NOK
ซึ่งบประมาณในส่วนที่จะเพิ่มนี้ส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้ในโครงการจัดหา F-35 สำหรับกองทัพอากาศนอร์เวย์ เช่นในส่วนสิ่งอำนวยความสะดวก 619million NOK
และอีก 1.8billion NOK จะถูกนำไปใช้ในส่วนการปรับปรุงระบบป้องกันภัยทางอากาศของเรือฟริเกตชั้น Fridtjof Nansen เป็นต้นครับ
วันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2557
ขอบพระคุณทุกท่านที่อุดหนุนนิยายภาพ "บุกบูรพา"
ขอบพระคุณทุกท่านที่ได้มาอุดหนุนนิยายภาพ: บุกบูรพา ทหารม้าเกรียงไกร เหรียญชัยสมรภูมิ
ในงาน Original and Community only event ที่จัดขึ้นที่ แหล่งสมาคมนายทหาร กองพลทหารม้าที่ ๒ รักษาพระองค์
จากจำนวนเล่มที่วางแผง ๑๘เล่ม ขายได้ถึง ๑๖เล่ม นับว่าเกินเป้าที่ตั้งไว้ว่าคงไม่น่าจะเกิน ๕เล่มมาก
สำหรับเล่มที่ยังเหลือ ๒เล่มยังคงอยู่ในสถานะที่รอว่าจะได้ขายให้ผู้สนใจหรือไม่ ก่อนจะทำการจัดเก็บไปทำอย่างอื่นตามสมควรต่อไป
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้มีโอกาสจัดพิมพ์ผลงานและนำมาวางขายในงานลักษณะนี้อีก รวมถึงท่านที่แวะมาทักทายในงานโดยไม่ได้กล่าวชื่อด้วยต่อไปในอนาคต
ขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งครับ
ในงาน Original and Community only event ที่จัดขึ้นที่ แหล่งสมาคมนายทหาร กองพลทหารม้าที่ ๒ รักษาพระองค์
จากจำนวนเล่มที่วางแผง ๑๘เล่ม ขายได้ถึง ๑๖เล่ม นับว่าเกินเป้าที่ตั้งไว้ว่าคงไม่น่าจะเกิน ๕เล่มมาก
สำหรับเล่มที่ยังเหลือ ๒เล่มยังคงอยู่ในสถานะที่รอว่าจะได้ขายให้ผู้สนใจหรือไม่ ก่อนจะทำการจัดเก็บไปทำอย่างอื่นตามสมควรต่อไป
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้มีโอกาสจัดพิมพ์ผลงานและนำมาวางขายในงานลักษณะนี้อีก รวมถึงท่านที่แวะมาทักทายในงานโดยไม่ได้กล่าวชื่อด้วยต่อไปในอนาคต
ขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งครับ
วันเสาร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2557
สวีเดนต้องการอาวุธปล่อยนำวิถีร่อนสำหรับ Gripen E
http://www.dn.se/nyheter/sverige/regeringen-vill-ha-kryssningsrobotar-pa-jas/
รัฐมนตรีกลาโหมสวีเดน Karin Enstrom เปิดเผยต่อสื่อว่ากองทัพอากาศวีเดนต้องการขีดความสามารถในการโจมตีเป้าหมายทางลึกในระยะไกลอย่างแม่นยำ
ในขณะที่ประเทศรอบๆสวีเดนโดยเฉพาะรัสเซียต่างมีอาวุธปล่อยนำวิถีร่อน(Cruise Missile) ประจำการในกองทัพของตน สวีเดนก็ควรจะมีเช่นกัน
ซึ่งการกำหนดแบบแผนความต้องการระบบอาวุธปล่อยนำวิถีร่อนสำหรับเครื่องบินขับไล่ Gripen E จะมีการเปิดเผยในราววันที่ 29 เมษายน และรัฐสภาสวีเดนจะมีการตัดสินภายในปีหน้า
ระบบอาวุธปล่อยร่อนแบบหนึ่งที่มีข้อมูลว่าสามารถติดตั้งกับ Gripen ได้คือ Taurus KEPD
แต่ที่ผ่านมาไม่มีข้อมูลว่ากองทัพอากาศสวีเดนจัดหา Taurus KEPD มาใช้ครับ
วันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2557
อียิปต์จะได้รับมอบ Apache จากสหรัฐฯ
http://www.reuters.com/article/2014/04/23/us-usa-egypt-apaches-idUSBREA3M03L20140423?feedType=RSS&feedName=worldNews
รัฐบาลสหรัฐฯอาจจะพิจารณาการส่งมองเฮลิคอปเตอร์โจมตี Apache จำนวน 10เครื่องให้กองทัพอียิปต์
หลังมีการระงับการส่งมอบไปหลังจากเกิดเหตุรุนแรงทางการเมืองในการขับไล่อดีตประธานาธิบดี Mohamed Mursi ซึ่งกองทัพอียิปต์มีส่วนเกี่ยวข้อง
โดยโฆษกของ Pentagon ให้เหตุผลว่าการส่งมอบ ฮ.Apache ให้อียิปต์เป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนการต่อต้านการก่อการร้ายในคาบสมุทร Sinai ที่ทวีความรุนแรงขึ้น
อย่่างไรก็ตามมีข่าวว่าก่อนหน้านี้กองทัพอียิปต์เจรจากับรัสเซียในการจัดหา ฮ.โจมตี Mi-35 ด้วยครับ
วันอังคารที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2557
กองทัพบกนอร์เวย์ทดสอบการใช้ Oculus Rift กับ M113
กองทัพบกนอร์เวย์ทดสอบการใช้อุปกรณ์ Virtual Reality แบบ Oculus Rift กับพลประจำรถสายพานลำเลียง M113
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาระบบอำนวยการสนามรบ(BMS:Battle Management System)ยุคอนาคตครับ
วันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2557
แคนาดาจะส่ง CF-18 ไปยุโรปตะวันออก
http://www.cbc.ca/news/politics/canada-to-send-6-cf-18s-for-nato-operation-in-eastern-europe-1.2613636
นายกรัฐมนตรีแคนาดา Stephen Harper ประกาศที่ Ottawa เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า แคนาดาจะส่งเครื่องบินขับไล่ CF-18 จำนวน 6เครื่องไปประจำในยุโรปตะวันออก
ซึ่งการวางกำลังดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลัง NATO ในการรับมือสถานการณ์ในยูเครนขณะนี้
โดยการประกาศส่ง CF-18 มีก่อนการประชุมร่วมสี่ฝ่าย สหรัฐฯ สหภาพยุโรป ยูเครน และรัสเซีย ที่เจนีวาซึ่งผลการประชุมดูเหมือนจะมีสัญญาณที่ดีขึ้นบ้าง
ถึงแม้ว่ากลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซียในยูเครนภาคตะวันออกจะไม่ยอมออกจากอาคารรัฐบาลที่ยึดครองและมีการปะทะกับเจ้าหน้าความมั่นคงของยูเครนครับ
วันศุกร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2557
NATO เพิ่มการวางกำลังในยุโรปตะวันออกรับมือสถานการณ์ในยูเครน
A US F15C Eagle jet fighter takes off April 16 near Siauliai Zuokniai, Lithunaia, deployed on NATO's Baltic Air Policing mission. (Petras Malukas / AFP)
http://www.defensenews.com/article/20140416/DEFREG01/304160027/Rasmussen-NATO-Deploy-More-Forces-Eastern-Europe
Anders Fogh Rasmussen ได้กล่าวต่อตัวแทนทูตชาติสมาชิก NATO ทั้ง 28ชาติที่บรัสเซลว่าตั้งแต่วันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา
NATO ได้วางแผนส่งกำลังทั้งทางบกทางเรือและทางอากาศเข้าไปวางกำลังในยุโรปตะวันออกมากขึ้น
โดยเฉพาะการวางกำลังทางอากาศในสามรัฐบอลติก ลิทัวเนีย แลทเวีย และเอสโตเนีย ซึ่งนับเป็นการเคลื่อนกำลังครั้งใหญ่ของ NATO นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเย็น
สถานการณ์ในยูเครนทวีความรุนแรงและเสี่ยงต่อการเกิดสงครามกลางเมืองเมื่อรัฐบาลรักษาการเริ่มเปิดการส่งกำลังทหารเข้ายึดเมืองทางภาคตะวันออกคืนจากกลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซีย
ทางสื่อของรัสเซียเองก็มีการรายงานว่าทหารยูเครนที่ส่งไปในเมืองที่กลุ่มนิยมรัสเซียยึดครองอยู่ส่วนหนึ่งได้แปรพักตร์ไปเข้ากับฝ่ายรัสเซียแล้ว
ซึ่งการเผชิญหน้าระหว่าง NATO และรัสเซียจะรุนแรงยิ่งขึ้นถ้ารัสเซียตัดสินใจส่งทหารแทรกแซงภาคตะวันออกของยูเครนโดยตรงเช่นเดียวกับไครเมีย
ทั้งนี้ผลการเจรจาสี่ฝ่ายที่เจนีวาระหว่าง สหรัฐฯ สหภาพยุโรป ยูเครน และรัสเซีย ในวันที่ 17 เมษายนนี้จะน่ามีผลต่อสถานการณ์ในยูเครนครับ
http://www.defensenews.com/article/20140416/DEFREG01/304160027/Rasmussen-NATO-Deploy-More-Forces-Eastern-Europe
Anders Fogh Rasmussen ได้กล่าวต่อตัวแทนทูตชาติสมาชิก NATO ทั้ง 28ชาติที่บรัสเซลว่าตั้งแต่วันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา
NATO ได้วางแผนส่งกำลังทั้งทางบกทางเรือและทางอากาศเข้าไปวางกำลังในยุโรปตะวันออกมากขึ้น
โดยเฉพาะการวางกำลังทางอากาศในสามรัฐบอลติก ลิทัวเนีย แลทเวีย และเอสโตเนีย ซึ่งนับเป็นการเคลื่อนกำลังครั้งใหญ่ของ NATO นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเย็น
สถานการณ์ในยูเครนทวีความรุนแรงและเสี่ยงต่อการเกิดสงครามกลางเมืองเมื่อรัฐบาลรักษาการเริ่มเปิดการส่งกำลังทหารเข้ายึดเมืองทางภาคตะวันออกคืนจากกลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซีย
ทางสื่อของรัสเซียเองก็มีการรายงานว่าทหารยูเครนที่ส่งไปในเมืองที่กลุ่มนิยมรัสเซียยึดครองอยู่ส่วนหนึ่งได้แปรพักตร์ไปเข้ากับฝ่ายรัสเซียแล้ว
ซึ่งการเผชิญหน้าระหว่าง NATO และรัสเซียจะรุนแรงยิ่งขึ้นถ้ารัสเซียตัดสินใจส่งทหารแทรกแซงภาคตะวันออกของยูเครนโดยตรงเช่นเดียวกับไครเมีย
ทั้งนี้ผลการเจรจาสี่ฝ่ายที่เจนีวาระหว่าง สหรัฐฯ สหภาพยุโรป ยูเครน และรัสเซีย ในวันที่ 17 เมษายนนี้จะน่ามีผลต่อสถานการณ์ในยูเครนครับ
วันพุธที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2557
ThyssenKrupp จะขาย Kockums ให้ SAAB
http://gcaptain.com/thyssenkrupp-talks-sell-swedish-shipyard-business-saab/
ThyssenKrupp เยอรมนีซึ่งเป็นเครือบริษัทขนาดใหญ่ที่มีกิจการอู่ต่อเรือหลายบริษัทในเครือ ซึ่งรวมถึง Kockums บริษัทอู่ต่อเรือสวีเดนนั้น
ทาง ThyssenKrupp ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจที่จะขายอู่ต่อเรือของ Kockums ในเมือง Malmo, Karlskrona และ Musko ให้ SAAB สวีเดน
หลังจากที่รัฐบาลสวีเดนประกาศชัดเจนว่าจะไม่ซื้อเรือดำน้ำที่สร้างมาจากเครือบริษัทของเยอรมนี
เดิม Kockums กำลังดำเนินการพัฒนาเรือดำน้ำแบบ A26 สำหรับกองทัพเรือสวีเดนเพื่อทดแทนเรือดำน้ำแบบเก่าชั้น Sodermanland 2ลำ
แต่ภายหลังสำนักงานจัดหายุทโธปกรณ์สวีเดนได้ยกเลิกโครงการ A26 ไปเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
โดยพนักงานของ Kockums เดิมราว 200คนได้ย้ายไปทำงานกับ SAAB แทน
ซึ่ง SAAB อาจจะมีโครงการพัฒนาเรือดำน้ำใหม่เสนอให้กองทัพเรือสวีเดนแทนสัญญาของ ThyssenKrupp ที่รัฐบาลสวีเดนยกเลิก
อย่างไรก็ตามโฆษกของ SAAB ประกาศว่าการเจรจาระหว่างสองบริษัทกำลังอยู่ในขั้นต้นเท่านั้นครับ
วันอังคารที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2557
รถถังหลัก Oplot ของกองทัพบกไทย กับสถานการณ์ในยูเครน
credit ภาพ: กองพันทหารม้าที่หนึ่ง รักษาพระองค์ฯ https://www.facebook.com/cavalry1001
นับตั้งแต่การประท้วงในยูเครนเมื่อปลายปี 2013 ที่ผ่านมานั้น ในช่วงแรกดูจะไม่มีผลกระทบต่อโครงการจัดหารถถังหลัก BM Oplot จากยูเครนของกองทัพบกไทยนัก
เพราะรถถังหลักชุดแรกจำนวน 5คันซึ่งมีการประกอบเสร็จและทดสอบในยูเครนเมื่อปีที่แล้วก็ได้เดินทางมาถึงไทยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
โดยทางยูเครนได้แจ้งว่าความล่าช้าในการส่งมอบ ถ.Oplot ชุดต่อไปจำนวน 10คันจะเป็นในเดือนกรกฎาคมปีนี้
แต่อย่างไรก็สถานการณ์ภายในยูเครนทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่มีการขับไล่อดีตประธานาธิบดี Viktor Yanukovych ลงจากตำแหน่ง
สาธารณรัฐปกครองตนเอง Crimea ได้ประกาศแยกตัวจากยูเครนและได้ถูกรัสเซียแทรกแซงผนวก Crimea เข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัฐในสหพันธรัฐรัสเซีย
การประท้วงของกลุ่มผู้สนับสนุนรัสเซียทางเมืองภาคตะวันออกของยูเครนก็รุนแรงถึงขั้นที่มีกองกำลังติดอาวุธยึดอาคารรัฐบาลและยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของยูเครนจนมีผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่ง
สถานการณ์ใน Kharkiv ซึ่งเป็นที่ตั้งของ KMDB และโรงงาน Malyshev ซึ่งเป็นสถานที่ผลิตรถถังนั้นก็รุนแรงพอสมควร
มีการประการจัดตั้งสาธารณรัฐประชาชนKharkov แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่รัฐยูเครนจับกุมผู้สนับสนุนรัสเซียที่บุกยึดอาคารรัฐได้สำเร็จ และมีการปะทะระหว่างผู้สนับสนุนยูเครนและผู้สนับสนุนรัสเซียจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ
รวมถึงสถานการณ์ในเมืองภาคตะวันตกอื่นๆเช่น Donetsk และ Luhansk ที่ยืดเยื้อ ซึ่งรัฐบาลรักษาการยูเครนประกาศที่จะใช้กำลังบังคับให้ยุติการแบ่งแยกดินแดน
และทางรัสเซียเองก็ส่งทหารเข้าประชิดชายแดนตะวันออกของยูเครน ถ้าไม่สามารถพึ่งพาการเจรจาสี่ฝ่ายระหว่างสหรัฐฯ สหภาพยุโรป ยูเครน และรัสเซียได้แล้ว สงครามก็อาจจะเกิดขึ้นได้
ตัวแปรสำคัญคือการเลือกตั้งภายในยูเครนที่จะจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยประธานาธิบดีรักษาการยูเครน Oleksandr Turchynov ได้ให้สัมภาษณ์สื่อว่า
นอกจากจะเป็นการเลือกตั้งเพื่อจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่แล้ว อาจจะมีการลงประชามติเพื่อให้ประเทศเปลี่ยนระบบการปกครองจากสาธารณรัฐเป็นสหพันธรัฐด้วย
ซึ่งนั่นจะทำให้ความเป็นเอกภาพของยูเครนสิ้นสุดลง และจะมีผลอย่างมากต่อสถานการณ์รุนแรงในยูเครนครับ
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในยูเครนขณะนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการสร้างรถถังหลัก Oplot ส่งมอบให้กองทัพบกไทยตามสัญญาการจัดหาจำนวน 49คัน
เราก็ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าสถานการณ์ในยูเครนจะพัฒนาเป็นสงครามกลางเมืองหรือสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซียหรือไม่
ผลของสงครามอาจจะทำให้ KMDB และโรงงาน Malyshev ถูกทำลาย หรือถ้าไม่ถูกทำลาย Kharkiv ก็อาจจะต้องตกเป็นของรัสเซียเช่นเดียวกับ Crimea หรือไม่
ซึ่งสถานการณ์จะยาวนานเท่าไรและสิ้่นสุดเมื่อไรก็ไม่อาจะทราบได้ แต่ในปัจจุบันยูเครนคงไม่สามารถจะผลิตและส่ง ถ.Oplot ชุดใหม่ได้เร็วๆนี้
แต่ก็เป็นที่น่าแปลกอยู่ว่าถึงจะเกิดวิกฤติภายในยูเครนหลายเดือนต่อเนื่อง แต่อินโดนีเซียก็เพิ่งจะมีการลงนามสัญญาจัดหารถหุ้มเกราะล้อยาง BTR-4 จำนวน 50คันสำหรับหน่วยนาวิกโยธินไปเมื่อช่วงต้นปี 2014นี้เอง
รวมถึงการที่ยูเครนสามารถจัดส่ง Radar ค้นหา 3D แบบ ST68UM ให้เวียดนามได้เมื่อเดือนมีนาคมนี้นั้น
ก็อาจจะกล่าวได้ว่าคงจะเร็วเกินไปที่จะบอกว่าโครงการจัดหารถถังหลัก BM Oplot จะล้มเหลวด้วยที่กองทัพบกไทยจะได้รับมอบรถถังมาเพียง ๕คัน
และในส่วนที่กองทัพบกไทยจำเป็นต้องจัดตั้งโครงการจัดหารถถังหลักแบบใหม่มาแทน Oplot ถ้ายูเครนไม่สามารถส่งมอบให้ได้ตามสัญญาด้วยเช่นกันนั้นก็อาจจะเร็วเกินไปที่สรุปได้เช่นกัน
แต่ถ้าโครงการจัดหา ถ.Oplot ต้องสิ้นสุดลงจริงนั้นก็ไม่ใช่ความผิดของกองทัพบกแต่อย่างใดครับ(ใครจะไปทราบว่ายูเครนจะเกิดวิกฤตการณ์เช่นนี้ขึ้น)
แต่ปัญหาก็มีเช่นกันว่าในสถานการณ์ปัจจุบันของไทยและกองทัพบกเอง กองทัพบกคงจะไม่สามารถตั้งโครงการจัดหารถถังหลักใหม่เพื่อทดแทน M41A3 จำนวน ๒๐๐คันในช่วงอีกหลายปีข้างหน้าได้เช่นกัน
นั่นจะทำให้โครงการปรับกำลังหน่วยทหารม้าของกองทัพบกไทยที่ตั้งแผนไว้สะดุดลงอย่างมากด้วยครับ
วันจันทร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2557
รัสเซียอาจจะอนุมัติการขาย S-400 ให้จีน
Vladimir Putin has approved in principle the sale of Russia’s most advanced air and missile defense system to China, Russian media outlets have reported.
According to a report on the Russian business channel RBK TV, which was reproduced by BBC Monitoring, Russian President Putin has approved the sale of between two and four S-400 air and missile defense systems to China. Such a deal has long been under negotiation, and if approved would make China the first foreign customer of the advanced defense system. Already, China deploys a number of the Soviet-era S-300 defense system.
Despite the ongoing talks, some had felt that Russia would ultimately refuse to sell China the S-400 surface-to-air missile system for a number of reasons. First, there were reports that Russia planned to withhold all foreign sales of the S-400 until Moscow’s own military needs had been satisfied, sometime later this decade. More importantly, there were widespread concerns in Russian military circles that China would purchase a few of the systems with the intent of stealing the technology and reverse engineering a domestic version. This has been a common problem with military systems Russia has sold to China in the past.
Russia and China have sought to overcome this problem by signing stronger intellectual property protection (IPP) agreements. One IPP agreement was signed in 2008, but Russian officials later dismissed it as being insufficient. Russia and China also reportedly signed a stronger IPP agreement in 2012, although few details about this deal have been released.
With regards to the S-400, Jane’s reports that Russia and China hope to overcome the issue of reverse-engineering using a combination of stronger IPP agreements as well as larger volumes of sales. If China purchases a larger quantity of S-400 missile systems up front, Russia’s arms industry will suffer less if Beijing turns around and reverse-engineers the system.
http://thediplomat.com/2014/04/putin-approves-sale-of-s-400-to-china/
มี่รายงานข่าวจากสถานีโทรทัศน์ RBK TV ของรัสเซียผ่านทาง BBC ว่า ประธานธิบดี Putin ได้ตกลงอนุมัติการขายระบบอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศพิสัยไกลแบบ S-400 จำนวนราว2-4ระบบให้จีน
ซึ่งถือเป็นความสำเร็จของจีนที่มีความต้องการ SAM พิสัยไกลรุ่นใหม่ของรัสเซียมานาน
โดยที่ผ่านมารัสเซียไม่ต้องการจะขายระบบดังกล่าวให้จีนนักเนื่องจากว่าจีนมักจะทำการศึกษาแบบอาวุธของรัสเซียไปทำการพัฒนาอาวุธของตนเองมาแล้วหลายต่อหลายระบบ
แต่จากการลงนามในสนธิสัญญาความมั่นคงร่วมล่าสุดระหว่างสองประเทศจะทำให้รัสเซียสามารถควบคุมการจำกัดการทำวิศวกรรมย้อนกลับของจีนต่อยุทโธปกรณ์รัสเซียที่ขายให้จีนได้มากขึ้นครับ
วันเสาร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2557
กองทัพเรือสหรัฐฯจะติดตั้ง Hellfire กับเรือ LCS
http://www.dodbuzz.com/2014/04/09/navy-adds-hellfire-missiles-to-lcs/
กองทัพเรือสหรัฐฯมีแผนจะติดตั้ง Longbow Hellfire รุ่นยิงจากท่อยิงแนวดิ่งเข้ากับเรือ Littoral Combat Ship เพื่อเพิ่มอำนาจการยิงของเรือ
โดย Longbow Hellfire เป็นอาวุธปล่อยนำวิถี Hellfire รุ่นที่ใช้ระบบ millimeter wave Radar ในการนำวิถีทำให้สามารถยิงทำลายเป้าหมายได้พร้อมๆกันหลายเป้า
เดิมทีเรือ LCS มีแผนที่จะติดตั้งระบบอาวุธปล่อยนำวิถีท่อยิงแนวดิ่งแบบ NLOS-LS และ Griffin สำหรับโจมตีเป้าหมายภาคพื้นดินและผิวน้ำกับเรือแต่ภายหลังได้ถูกยกเลิกไป
ซึ่ง Longbow Hellfire มีระยะยิงสั้นเพียง 8km เท่านั้น โดยคาดว่าจะมีการทดสอบในราวปี 2014 นี้ครับ
กองทัพเรือสหรัฐฯมีแผนจะติดตั้ง Longbow Hellfire รุ่นยิงจากท่อยิงแนวดิ่งเข้ากับเรือ Littoral Combat Ship เพื่อเพิ่มอำนาจการยิงของเรือ
โดย Longbow Hellfire เป็นอาวุธปล่อยนำวิถี Hellfire รุ่นที่ใช้ระบบ millimeter wave Radar ในการนำวิถีทำให้สามารถยิงทำลายเป้าหมายได้พร้อมๆกันหลายเป้า
เดิมทีเรือ LCS มีแผนที่จะติดตั้งระบบอาวุธปล่อยนำวิถีท่อยิงแนวดิ่งแบบ NLOS-LS และ Griffin สำหรับโจมตีเป้าหมายภาคพื้นดินและผิวน้ำกับเรือแต่ภายหลังได้ถูกยกเลิกไป
ซึ่ง Longbow Hellfire มีระยะยิงสั้นเพียง 8km เท่านั้น โดยคาดว่าจะมีการทดสอบในราวปี 2014 นี้ครับ
วันพฤหัสบดีที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2557
Gripen NG ทำการบินทดสอบระบบ IRST แบบ Skyward-G
Gripen NG flight-tests Skyward-G IRST
Michael J Gething, London - IHS Jane's Defence Weekly
03 April 2014
The Skyward-G infrared search-and-track (IRST) system was successfully flown on the Saab Gripen NG technology demonstrator aircraft for the first time on 31 March, Saab announced on 4 April 2014.
Skyward-G, mounted just ahead of the canopy windscreen, is able to detect heat emissions to track and identify all types of targets, will be one of the new sensors on the Gripen E.
The first flight of Skyward-G, developed by the Air and Space Systems division of Selex ES, produced "very good results", according to Saab test pilot Hans Einerth. "Multiple targets were detected, tracked, and identified and the system works perfectly as expected," he said.
This IRST test flight was to verify the system's functions and the integration on board the aircraft. The integration and development work on the Gripen E is progressing according to schedule, the company said. The sensor does not emit a signal but looks forward across a wide sector, registering long-wave infrared emissions from other aircraft, helicopters, and from objects on the ground and sea surface. Thus, without revealing the aircraft's own position, can silently detect, track, and identify all types of targets.
Briefing journalists during a March visit to Saab's Linkoping facility, Bob Mason of Selex ES, stated that IRST systems can detect all aircraft flying faster than about 300 kt, even if exhaust plume emissions are reduced. This was possible, he said, as a result of the aerodynamic heating of the aircraft's skin and the heat coming from the engine core being absorbed into the airframe, with the low observable coatings on 'stealth' aircraft being particularly disposed to aerodynamic heating.
http://www.janes.com/article/36437/gripen-ng-flight-tests-skyward-g-irst
เครื่องต้นแบบสาธิต SAAB Gripen NG ประสบความสำเร็จในการติดตั้งและทำการบินทดสอบระบบ IRST แบบ Skyward-G เป็นครั้งแรกในวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา
โดย Skyward-G IRST ได้ติดตั้งที่ส่วนหน้าของกระจกฝาครอบห้องนักบิน(Canopy) ซึ่งผลการทดสอบประสบความสำเร็จในการตรวจจับติดตามและพิสูจน์ได้หลายเป้าหมาย
Skyward-G IRST ของ Selex ES จะเป็นระบบตรวจจับหนึ่งที่จะทำการติดตั้งกับ Gripen E รุ่นใหม่ ซึ่งสามารถตรวจจับเป้าหมายได้ทั้ง เครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ และเป้าภาคพื้นดินและในทะเลครับ
Michael J Gething, London - IHS Jane's Defence Weekly
03 April 2014
The Skyward-G infrared search-and-track (IRST) system was successfully flown on the Saab Gripen NG technology demonstrator aircraft for the first time on 31 March, Saab announced on 4 April 2014.
Skyward-G, mounted just ahead of the canopy windscreen, is able to detect heat emissions to track and identify all types of targets, will be one of the new sensors on the Gripen E.
The first flight of Skyward-G, developed by the Air and Space Systems division of Selex ES, produced "very good results", according to Saab test pilot Hans Einerth. "Multiple targets were detected, tracked, and identified and the system works perfectly as expected," he said.
This IRST test flight was to verify the system's functions and the integration on board the aircraft. The integration and development work on the Gripen E is progressing according to schedule, the company said. The sensor does not emit a signal but looks forward across a wide sector, registering long-wave infrared emissions from other aircraft, helicopters, and from objects on the ground and sea surface. Thus, without revealing the aircraft's own position, can silently detect, track, and identify all types of targets.
Briefing journalists during a March visit to Saab's Linkoping facility, Bob Mason of Selex ES, stated that IRST systems can detect all aircraft flying faster than about 300 kt, even if exhaust plume emissions are reduced. This was possible, he said, as a result of the aerodynamic heating of the aircraft's skin and the heat coming from the engine core being absorbed into the airframe, with the low observable coatings on 'stealth' aircraft being particularly disposed to aerodynamic heating.
http://www.janes.com/article/36437/gripen-ng-flight-tests-skyward-g-irst
เครื่องต้นแบบสาธิต SAAB Gripen NG ประสบความสำเร็จในการติดตั้งและทำการบินทดสอบระบบ IRST แบบ Skyward-G เป็นครั้งแรกในวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา
โดย Skyward-G IRST ได้ติดตั้งที่ส่วนหน้าของกระจกฝาครอบห้องนักบิน(Canopy) ซึ่งผลการทดสอบประสบความสำเร็จในการตรวจจับติดตามและพิสูจน์ได้หลายเป้าหมาย
Skyward-G IRST ของ Selex ES จะเป็นระบบตรวจจับหนึ่งที่จะทำการติดตั้งกับ Gripen E รุ่นใหม่ ซึ่งสามารถตรวจจับเป้าหมายได้ทั้ง เครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ และเป้าภาคพื้นดินและในทะเลครับ
วันพุธที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2557
จีนเสนอเรือดำน้ำแบบ S20 ให้กองทัพเรือไทย
http://baodatviet.vn/quoc-phong/vu-khi/trung-quoc-chao-ban-ban-sao-tau-ngam-kilo-cho-thai-lan-3032880/
ข่าวนี้ก็อ้างมาจากแหล่งข่าวของเวียดนามอีกทีครับ ซึ่งถ้าติดตามกันมาก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่จีนเสนอเรือดำน้ำให้ไทย ตั้งแต่การเสนอให้เช่าซื้อเรือแบบ Type 039 Song เมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว
โดยคุณสมบัติของเรือก็ยังไม่มีรายระเอียดชัดเจนนักนอกจากมีตัวเรือยาว 66m กว้าง 8m สูง 8.2m ระวางขับน้ำ 1,850ton บนผิวน้ำ 2,300tons ขณะดำ
มี Sonar Torpedo ทุ่นระเบิด และอาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำ ความเร็วสูงสุด 18knots ลูกเรือ 38นาย ดำน้ำได้ลึกสุด 300m พิสัยทำการไกลสุด 8,000nm ที่ 16knot
ซึ่งถือว่าเป็นเรือดำน้ำดีเซลไฟฟ้าขนาดค่อนข้างใหญ่ แต่อย่างไรก็ตามสำหรับเรือชั้น S20 นั้นเป็นแบบเรือที่จีนออกแบบมาสำหรับส่งออกโดยเฉพาะ
นั่นหมายความว่าระบบทันสมัยระดับสูงหลายๆอย่างจะถูกตัดลงไปมาก เช่น S20 จะไม่มีระบบ AIP เป็นต้น
ในส่วนของราคาเรือก็ไม่น่าจะถูกสักเท่าไรด้วยคือน่าจะอยู่ในระดับเดียวกับเรือแบบ Kilo ที่รัสเซียส่งออกคือประมาณ $250-300 million ต่อลำขึ้นไป
อีกทั้งยังไม่มีการต่อเรือจริงในขณะนี้ด้วย ถ้าเทียบกับเรือดำน้ำแบบอื่นๆในตลาดที่ต่อจริงขายให้ลูกค้าจำนวนมากแล้ว หรือมาจากบริษัทที่มีประสบการณ์สูงมานานแล้ว
เรือดำน้ำจีนแทบจะไม่มีลูกค้าเลยครับนอกจากปากีสถานที่เคยนำเสนอข่าวไป
ที่สำคัญคือกองทัพเรือไทยเองก็มีประสบการณ์ไม่ดีนักกับเรือที่ต่อจากจีนครับ
ไม่ว่าจะเรือชุด ร.ล.เจ้าพระยา ชุด ร.ล.กระบุรี ชุด ร.ล.นเรศวร จนถึงล่าสุด ชุด ร.ล.ปัตตานี ที่เรือแต่ละชุดมีปัญหาปลีกย่อยหลายๆอย่างเป็นต้น
ตรงนี้ก็หวังว่าในอนาคตสำหรับการพิจารณาแบบเรือดำน้ำของกองทัพเรือจะเป็นไปอย่างระมัดระวังรอบคอบอย่างเหมาะสมครับ
วันอังคารที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2557
รัสเซียคืนซากเครื่องบินทิ้งระเบิดที่่เช่ายืมสมัยสงครามโลกครั้งที่2ให้สหรัฐฯ
Russia Returns Lend-Lease WWII Bomber Debris to US
KRASNOYARSK, April 3 (RIA Novosti) Andrei Marmyshev - Fragments of a US bomber that crashed near the Russian city Krasnoyarsk in southern Siberia during World War II have been delivered to San Francisco, where they will form part of a memorial commemorating pilots who lost their lives in the war, a historian in Krasnoyarsk told RIA Novosti.
"San Francisco is planning to set up a memorial to pilots who died during the Second World War. The fragments of the Boston bomber will also be used," said Lt. Col. Vyacheslav Filippov, an aviation officer and historian.
"For example, they are going to use the plaque from the plane's cockpit that carries its serial number and production date," Filippov said.
The A-20B Boston bomber was sent to the Soviet Union by the US for their common fight against Nazi Germany under an allied wartime military equipment program, called Lend-Lease. The plane arrived via a secret route across the northwestern Pacific known as the Alaska-Siberia air road.
The plane crashed in May, 1943 just outside Krasnoyarsk. Its entire crew - Capt. Pyotr Stepanov, navigator Capt. Vasily Kravets, gunner and radio operator Sgt. Maj. Viktor Panov and technician Lt. Garif Shaikhutdinov - died in the crash.
Most of the wreckage was removed from the site in the Soviet period, but the operation to retrieve the remains of the crew had been ongoing for decades, before being eventually discovered and buried at a Krasnoyarsk cemetery several years ago.
American war planes were shipped along a route that stretched from Alaska across Kamchatka and Yakutsk in Russia's Far East all the way to Krasnoyarsk as part of the US program to supply allies with transport and attack aircraft.
A total of 7,000 planes passed through Krasnoyarsk on their way to the Eastern Front from October 1942 to October 1945. At least 119 Russian aviators died in 59 crashes during the transit flights.
http://en.ria.ru/russia/20140403/189013109/Russia-Returns-Lend-Lease-WWII-Bomber-Debris-to-US.html
ซากเครื่องบินทิ้งระเบิดสหรัฐฯที่รัสเซียเช่ายืมมาในสมัยสงครามโลกครั้งที่2 ซึ่งถูกค้นพบที่ Krasnoyarsk ทางใต้ของไซบีเรียจะถูกส่งกลับไปยังสหรัฐฯที่อนุสรณ์ในซานฟานซิสโก
A-20 Boston เป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบหนึ่งที่สหรัฐฯได้ส่งให้สหภาพโซเวียดเช่ายืมในสมัยสงครามโลกครั้งที่2 เพื่อใช้ในการรบกับนาซีเยอรมนี
ซึ่งเครื่องที่ตกที่ Krasnoyarsk ปี 1943 นักบินกองทัพอากาศโซเวียตบนเครื่องทุกนายเสียชีวิตเป็นส่วนหนึ่งของทหารอากาศ 119นายจากเครื่องที่ตก 59 เครื่องที่เสียชีวิตในการบินผ่านเส้นทางนี้ในช่วงตุลาคมปี 1942-ตุลาคม1945 ครับ
KRASNOYARSK, April 3 (RIA Novosti) Andrei Marmyshev - Fragments of a US bomber that crashed near the Russian city Krasnoyarsk in southern Siberia during World War II have been delivered to San Francisco, where they will form part of a memorial commemorating pilots who lost their lives in the war, a historian in Krasnoyarsk told RIA Novosti.
"San Francisco is planning to set up a memorial to pilots who died during the Second World War. The fragments of the Boston bomber will also be used," said Lt. Col. Vyacheslav Filippov, an aviation officer and historian.
"For example, they are going to use the plaque from the plane's cockpit that carries its serial number and production date," Filippov said.
The A-20B Boston bomber was sent to the Soviet Union by the US for their common fight against Nazi Germany under an allied wartime military equipment program, called Lend-Lease. The plane arrived via a secret route across the northwestern Pacific known as the Alaska-Siberia air road.
The plane crashed in May, 1943 just outside Krasnoyarsk. Its entire crew - Capt. Pyotr Stepanov, navigator Capt. Vasily Kravets, gunner and radio operator Sgt. Maj. Viktor Panov and technician Lt. Garif Shaikhutdinov - died in the crash.
Most of the wreckage was removed from the site in the Soviet period, but the operation to retrieve the remains of the crew had been ongoing for decades, before being eventually discovered and buried at a Krasnoyarsk cemetery several years ago.
American war planes were shipped along a route that stretched from Alaska across Kamchatka and Yakutsk in Russia's Far East all the way to Krasnoyarsk as part of the US program to supply allies with transport and attack aircraft.
A total of 7,000 planes passed through Krasnoyarsk on their way to the Eastern Front from October 1942 to October 1945. At least 119 Russian aviators died in 59 crashes during the transit flights.
http://en.ria.ru/russia/20140403/189013109/Russia-Returns-Lend-Lease-WWII-Bomber-Debris-to-US.html
ซากเครื่องบินทิ้งระเบิดสหรัฐฯที่รัสเซียเช่ายืมมาในสมัยสงครามโลกครั้งที่2 ซึ่งถูกค้นพบที่ Krasnoyarsk ทางใต้ของไซบีเรียจะถูกส่งกลับไปยังสหรัฐฯที่อนุสรณ์ในซานฟานซิสโก
A-20 Boston เป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบหนึ่งที่สหรัฐฯได้ส่งให้สหภาพโซเวียดเช่ายืมในสมัยสงครามโลกครั้งที่2 เพื่อใช้ในการรบกับนาซีเยอรมนี
ซึ่งเครื่องที่ตกที่ Krasnoyarsk ปี 1943 นักบินกองทัพอากาศโซเวียตบนเครื่องทุกนายเสียชีวิตเป็นส่วนหนึ่งของทหารอากาศ 119นายจากเครื่องที่ตก 59 เครื่องที่เสียชีวิตในการบินผ่านเส้นทางนี้ในช่วงตุลาคมปี 1942-ตุลาคม1945 ครับ
วันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2557
รัฐมนตรีกลาโหมสวีเดนต้องการ Gripen มากกว่านี้เพื่อรับมือภัยคุกคาม
Defense Minister Calls for More JAS Gripen to Counter Russian Threat
(Source: Radio Sweden; published April 4, 2014)
Sweden's Defense Mininster Karin Enstrom says the military should get a total of 70 new JAS Gripen combat aircraft, ten more than Parliament had earlier decided.
Enstrom’s comments came in the wake of the crisis in Ukraine and also of widely publicized Russian military flight incidents last year, when Moscow attack aircraft flew practice missions over Sweden.
Those flights and the ongoing insecurity in Ukraine has alarmed Swedish officials.
"Russia's actions in and around Ukraine has led to uncertainty in Europe. What happened in the past has made it really necessary to strengthen Sweden's defense," Enstrom told the Swedish daily newspaper, Dagens Nyheter.
Parliament had already agreed to purchase 60 Jas Gripen's, which are made and designed by Saab AB, but Enstrom believes that 10 more should be bought.
Any purchase would be preceded by proper procurement and pricing protocols to ensure fairness and transparency, she said.
http://www.defense-aerospace.com/article-view/release/152982/swedish-minister-wants-more-gripens.html
รัฐมนตรีกลาโหมสวีเดน Karin Enstrom กล่าวว่ากองทัพควรจะได้รับเครื่องบินขับไล่ Gripen ใหม่จำนวน 70เครื่อง มากกว่าจำนวนที่รัฐสภาอนุมัติก่อนหน้านี้ที่ 60เครื่อง
โดยให้ความเห็นว่าจากวิกฤตการณ์ในยูเครนนั้นรัสเซียได้เพิ่มการใช้อากาศยานบินลาดตระเวนใกล้น่าฟ้าประเทศยุโรปตะวันออกและยุโรปเหนือมากขึ้น
ซึ่งภัยคุกคามจากรัสเซียได้เพิ่มขึ้นอีกครั้งต่อสวีเดนภายหลังการสิ้นสุดสงครามเย็นในช่วงยุคปี 1990s ทำให้สวีเดนปรับลดกำลังทหารในการรักษาความเป็นกลางลงมาต่อเนื่องหลายปี
"การกระทำของรัสเซียต่อยูเครนได้นำไปสู่ความไม่แน่นอนในยุโรป สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมามีความจำเป็นที่จะต้องเสริมสร้างขีดความสามารถการป้องกันความมั่นคงของสวีเดน "
รัฐมนตรีกลาโหมสวีเดนกล่าวว่าขั้นตอนการจัดซื้่อ Gripen เป็นกระบวนการที่เหมาะสมมีการกำหนดราคาที่เป็นธรรมและโปร่งใสครับ
(Source: Radio Sweden; published April 4, 2014)
Sweden's Defense Mininster Karin Enstrom says the military should get a total of 70 new JAS Gripen combat aircraft, ten more than Parliament had earlier decided.
Enstrom’s comments came in the wake of the crisis in Ukraine and also of widely publicized Russian military flight incidents last year, when Moscow attack aircraft flew practice missions over Sweden.
Those flights and the ongoing insecurity in Ukraine has alarmed Swedish officials.
"Russia's actions in and around Ukraine has led to uncertainty in Europe. What happened in the past has made it really necessary to strengthen Sweden's defense," Enstrom told the Swedish daily newspaper, Dagens Nyheter.
Parliament had already agreed to purchase 60 Jas Gripen's, which are made and designed by Saab AB, but Enstrom believes that 10 more should be bought.
Any purchase would be preceded by proper procurement and pricing protocols to ensure fairness and transparency, she said.
http://www.defense-aerospace.com/article-view/release/152982/swedish-minister-wants-more-gripens.html
รัฐมนตรีกลาโหมสวีเดน Karin Enstrom กล่าวว่ากองทัพควรจะได้รับเครื่องบินขับไล่ Gripen ใหม่จำนวน 70เครื่อง มากกว่าจำนวนที่รัฐสภาอนุมัติก่อนหน้านี้ที่ 60เครื่อง
โดยให้ความเห็นว่าจากวิกฤตการณ์ในยูเครนนั้นรัสเซียได้เพิ่มการใช้อากาศยานบินลาดตระเวนใกล้น่าฟ้าประเทศยุโรปตะวันออกและยุโรปเหนือมากขึ้น
ซึ่งภัยคุกคามจากรัสเซียได้เพิ่มขึ้นอีกครั้งต่อสวีเดนภายหลังการสิ้นสุดสงครามเย็นในช่วงยุคปี 1990s ทำให้สวีเดนปรับลดกำลังทหารในการรักษาความเป็นกลางลงมาต่อเนื่องหลายปี
"การกระทำของรัสเซียต่อยูเครนได้นำไปสู่ความไม่แน่นอนในยุโรป สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมามีความจำเป็นที่จะต้องเสริมสร้างขีดความสามารถการป้องกันความมั่นคงของสวีเดน "
รัฐมนตรีกลาโหมสวีเดนกล่าวว่าขั้นตอนการจัดซื้่อ Gripen เป็นกระบวนการที่เหมาะสมมีการกำหนดราคาที่เป็นธรรมและโปร่งใสครับ
วันศุกร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2557
ญี่ปุ่นผ่อนปรนการส่งออกอาวุธ
Japan to relax arms export ban
http://www.bbc.com/news/world-asia-26830504
ตามรัฐธรรมนูญสันติภาพที่ร่างขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ทำให้ญี่ปุ่นไม่สามารถผลิตอาวุธสงครามเพื่อการส่งออกไปยังประเทศอื่นได้
ญี่ปุ่นจะสามารถผลิตอาวุธเพื่อใช้งานเฉพาะในกองกำลังป้องกันตนเองและวิจัยพัฒนาร่วมกับต่างประเทศได้เท่านั้น
โดยตามนโยบายใหม่เกี่ยวกับการผ่อนปรนการส่งออกอาวุธของรัฐบาลนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ น่าจะส่งผลดีต่อสถานการณ์ด้านความมั่นคงของญี่ปุ่นในปัจจุบัน
ซึ่งญี่ปุ่นพยายามจะลดราคายุทโธปกรณ์ที่พัฒนาเองในประเทศที่แพงกว่าถ้าเทียบกับประเทศอื่น และเพิ่มความสัมพันธ์กับมิตรประเทศด้านความมั่นคงด้วย
อย่างไรก็ตามข้อจำกัดในการส่งออกอาวุธของญี่ปุ่นใหม่นั้นก็ยังมีข้อจำกัดมากครับ อาจจะมากกว่าบางประเทศที่มีข้อจำกัดในการส่งออกอาวุธให้ประเทศอื่นด้วยซ้ำ
คือญี่ปุ่นจะไม่ส่งออกอาวุธให้กับประเทศที่ปกครองด้วยระบอบเผด็จการ มีปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน มีความขัดแย้งรุนแรงกับประเทศใกล้เคียงหรือประเทศอื่น
และยุทโธปกรณ์ที่ส่งออกจะเป็นไปเพื่อส่งเสริมการสร้างสันติภาพในภูมิภาค ไม่ใช้อาวุธเพื่อการทำลายล้างและการรุกราน
เช่น เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล เรือตรวจการณ์ เฮลิคอปเตอร์ลำเลียง ระบบอุปกรณ์ตรวจจับและค้นหา หรือยุทโธปกรณ์อื่นๆที่ไม่ใช้ในลักษณะอาวุธสงครามหนักสมรรถนะสูง
ซึ่งถ้านโยบายการส่งออกอาวุธของญี่ปุ่นยังคงเป็นในลักษณะนี้อยู่
เราคงยังไม่เห็นว่ามีประเทศใดจัดหายุทโธปกรณ์หนักจากญี่ปุ่นอย่างรถถังหลัก หรือเรือดำน้ำ หรือเครื่องบินขับไล่จากญี่ปุ่นในเร็วๆนี้ครับ
http://www.bbc.com/news/world-asia-26830504
ตามรัฐธรรมนูญสันติภาพที่ร่างขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ทำให้ญี่ปุ่นไม่สามารถผลิตอาวุธสงครามเพื่อการส่งออกไปยังประเทศอื่นได้
ญี่ปุ่นจะสามารถผลิตอาวุธเพื่อใช้งานเฉพาะในกองกำลังป้องกันตนเองและวิจัยพัฒนาร่วมกับต่างประเทศได้เท่านั้น
โดยตามนโยบายใหม่เกี่ยวกับการผ่อนปรนการส่งออกอาวุธของรัฐบาลนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ น่าจะส่งผลดีต่อสถานการณ์ด้านความมั่นคงของญี่ปุ่นในปัจจุบัน
ซึ่งญี่ปุ่นพยายามจะลดราคายุทโธปกรณ์ที่พัฒนาเองในประเทศที่แพงกว่าถ้าเทียบกับประเทศอื่น และเพิ่มความสัมพันธ์กับมิตรประเทศด้านความมั่นคงด้วย
อย่างไรก็ตามข้อจำกัดในการส่งออกอาวุธของญี่ปุ่นใหม่นั้นก็ยังมีข้อจำกัดมากครับ อาจจะมากกว่าบางประเทศที่มีข้อจำกัดในการส่งออกอาวุธให้ประเทศอื่นด้วยซ้ำ
คือญี่ปุ่นจะไม่ส่งออกอาวุธให้กับประเทศที่ปกครองด้วยระบอบเผด็จการ มีปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน มีความขัดแย้งรุนแรงกับประเทศใกล้เคียงหรือประเทศอื่น
และยุทโธปกรณ์ที่ส่งออกจะเป็นไปเพื่อส่งเสริมการสร้างสันติภาพในภูมิภาค ไม่ใช้อาวุธเพื่อการทำลายล้างและการรุกราน
เช่น เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล เรือตรวจการณ์ เฮลิคอปเตอร์ลำเลียง ระบบอุปกรณ์ตรวจจับและค้นหา หรือยุทโธปกรณ์อื่นๆที่ไม่ใช้ในลักษณะอาวุธสงครามหนักสมรรถนะสูง
ซึ่งถ้านโยบายการส่งออกอาวุธของญี่ปุ่นยังคงเป็นในลักษณะนี้อยู่
เราคงยังไม่เห็นว่ามีประเทศใดจัดหายุทโธปกรณ์หนักจากญี่ปุ่นอย่างรถถังหลัก หรือเรือดำน้ำ หรือเครื่องบินขับไล่จากญี่ปุ่นในเร็วๆนี้ครับ
วันพุธที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2557
เยอรมนีส่งความช่วยเหลือทางทหารไปยังรัฐบอลติก
http://www.thelocal.de/20140330/germany-to-give-military-aid-to-baltic-states-report
รัฐบาลเยอรมนีมีแผนจะส่งกำลังทางทหารเข้าไปในรัฐบอลติก เช่นเครื่องบินของกองทัพอากาศ 6เครื่อง และเรือของกองทัพเรือ
เสริมการให้ความช่วยเหลือทางการทหารแก่รัฐบอลติก ลิทัวเนีย แลทเวีย และเอสโตเนีย ที่มีมาหลังเข้าเป็นสมาชิก NATO ตั้งแต่ปี 2004
มีการวิเคราะห์ว่าการเสริมกำลังนี้เป็นการตอบโต้ท่าทีของรัสเซียที่เข้าแทรกแซงประเทศในกลุ่มอดีตสหภาพโซเวียตเดิม
โดยเฉพาะการผนวกไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียและการเสริมกำลังทหารรัสเซียตามพรมแดนตะวันออกของยูเครน
แต่ความตึงเครียดมีท่าทีผ่อนคลายลงเมื่อรัสเซียเริ่มมีการถอนทหารบางส่วนจากพรมแดนรัสเซียยูเครน
หลังประธานาธิบดี Obama พูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดี Putin ครับ
รัฐบาลเยอรมนีมีแผนจะส่งกำลังทางทหารเข้าไปในรัฐบอลติก เช่นเครื่องบินของกองทัพอากาศ 6เครื่อง และเรือของกองทัพเรือ
เสริมการให้ความช่วยเหลือทางการทหารแก่รัฐบอลติก ลิทัวเนีย แลทเวีย และเอสโตเนีย ที่มีมาหลังเข้าเป็นสมาชิก NATO ตั้งแต่ปี 2004
มีการวิเคราะห์ว่าการเสริมกำลังนี้เป็นการตอบโต้ท่าทีของรัสเซียที่เข้าแทรกแซงประเทศในกลุ่มอดีตสหภาพโซเวียตเดิม
โดยเฉพาะการผนวกไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียและการเสริมกำลังทหารรัสเซียตามพรมแดนตะวันออกของยูเครน
แต่ความตึงเครียดมีท่าทีผ่อนคลายลงเมื่อรัสเซียเริ่มมีการถอนทหารบางส่วนจากพรมแดนรัสเซียยูเครน
หลังประธานาธิบดี Obama พูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดี Putin ครับ
วันอังคารที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2557
นิยายภาพ: บุกบูรพา ทหารม้าเกรียงไกร เหรียญชัยสมรภูมิ
แนะนำผลงานหน่อยครับสำหรับท่านผู้อ่านที่ติดตามผลงานกันมาบ้าง
นิยายภาพเรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นขนาดยาวเล่มเดียวจบ ซึ่งเป็นเรื่องราวเสี้ยวหนึ่งของสงครามไทย-ฝรั่งเศส หรือ กรณีพิพาทอินโดจีน พ.ศ.๒๔๘๓-๒๔๘๔
โดยเป็นเรื่องราวสมมุติของหมวดลาดตระเวน กองพันทหารม้าที่ ๔ จันทบุรี กองพลจันทบุรี กองทัพบูรพา ในการบุกมณฑลบูรพา คืนจากอินโดจีนฝรั่งเศส
เรื่องนี้มีจะนำไปวางขายในงาน Original and Community only event ที่จัดขึ้นที่ แหล่งสมาคมนายทหาร กองพลทหารม้าที่ ๒ รักษาพระองค์
วันที่ ๒๗ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๗ เวลา ๑๐๐๐-๑๕๐๐ โต๊ะหมายเลข B16 AAG Graphic Novel
ผังงาน OC only event
https://www.facebook.com/oconlyevent
เป็นการนำผลงานมาขายในงานลักษณะนี้เป็นครั้งแรก(และก็ไม่ทราบว่าจะมีครั้งต่อไปหรือไม่)
ท่ามกลางหนังสือทำมือเล่มอื่นๆในงานเดียวกัน ผมว่าเรื่องนี้คงจะเป็นนิยายภาพสงครามเรื่องเดียวในงานกระมัง
เอามาวางขาย ๑๘เล่มครับ เล่มละ ๑๐๐บาท (แต่คิดว่าขายได้เกิน ๕เล่มก็บุญแล้ว เกรงว่าอาจจะไม่ถึง)
สนใจจะมาแวะชมงานแล้ว(ถ้าจำไม่ผิดบัตรเข้างานราคา ๕๐บาท) แล้ว
ถ้ามีเวลาพออาจจะแวะไปคุยกันนอกงาน หรือไปสนามยิงปืนในร่ม หรือไปดูม้าที่ชมรมขี่ม้า ม.พัน.๒๙ รอ. ข้างใน พล.ม.๒ รอ. ครับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)