วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2565

Boeing เปิดตัวเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A Red Hawk สำหรับใช้ทดสอบเครื่องแรกของกองทัพอากาศสหรัฐฯ

Boeing debuts the USAF's first test T-7A Red Hawk trainer



Boeing rolls out its first T-7A Red Hawk jet in St Louis, Missouri. (Boeing/Eric Shindelbower)



บริษัท Boeing สหรัฐฯได้เปิดตัวเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A Red Hawk เพื่อใช้ทดสอบเครื่องแรกสำหรับกองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force) ที่โรงงานอากาศยานของตนใน St Louis มลรัฐ Missouri เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2022
เครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A Red Hawk จะถูกใช้เพื่อทดแทนเครื่องบินฝึกไอพ่น Northrop Grumman T-38 Talon ของกองทัพอากาศสหรัฐฯสำหรับการฝึกนักบินขับไล่และนักบินทิ้งระเบิด(https://aagth1.blogspot.com/2021/06/t-7a.html)

เครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A เครื่องทดสอบเป็นเครื่องแรกจาก 5เครื่องสำหรับขั้นระยะการพัฒนาทางวิศวกรรมและการผลิต(EMD: Engineering and Manufacturing Development) ของโครงการ
เครื่องบินทดสอบขั้นระยะ EMD ทั้ง 5เครื่องควรจะทำการบินครั้งแรกและเข้าร่วมโครงการการพัฒนาทางการทดสอบและประเมินค่า(DT&E: Developmental Test and Evaluation) ในปี 2022 Paul Niewald รองประธาน Boeing ฝ่ายโครงการ T-7 กล่าวกับ Janes ก่อนหน้าในปี 2022

Boeing สหรัฐฯกล่าวว่าเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A เครื่องทดสอบจะยังอยู่ที่ St Louis เพื่อจะเข้าสู่การทดสอบภาคพื้นดินและการทดสอบการบินก่อนที่จะถูกส่งมอบให้กองทัพอากาศสหรัฐฯ(https://aagth1.blogspot.com/2021/02/boeing-t-7a-red-hawk.html
เครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A เครื่องแรกมีกำหนดที่จะมาถึงฐานทัพร่วม Joint Base San Antonio-Randolph ในปี 2023 กองทัพอากาศสหรัฐฯคาดว่า T-7A จะเข้าสู่ความพร้อมปฏิบัติการขั้นต้น(IOC: Initial Operational Capability) ได้ในปีงบประมาณ 2024

ทีม Boeing-Saab สหรัฐฯ-สวีเดนเอาชนะบริษัท Lockheed Martin สหรัฐฯสำหรับสัญญาโครงการเครื่องบินฝึกไอพ่นใหม่ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ วงเงิน $9.2 billion ในปี 2018
ขั้นต้นกองทัพอากาศสหรัฐฯต้องการเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A จำนวน 351เครื่อง และระบบการฝึกภาคพื้นดิน(GBTS: Ground-Based Training System) 46ระบบ แต่เครื่องบินและระบบจำลองการบินเพิ่มเติมสามารถจะถูกเพิ่มในสัญญาได้

บริษัท Boeing และกองทัพอากาศสหรัฐฯไม่ได้มีการประกาศต่อสาธารณชนถึงอัตราการผลิตต่อปีสำหรับเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A แต่ Boeing ได้กล่าวกับ Janes ว่า
ตนสามารถที่จะผลิตเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A ได้ถึง 48เครื่องต่อปีสำหรับสัญญาของกองทัพอากาศสหรัฐฯปัจจุบัน โดยมีขีดความสามารถที่จะผลิตเพิ่มขึ้นได้

สายการผลิตจำนวนมากสำหรับเครื่องบินฝึกไอพ่น T-7A Red Hawk จะมีขึ้นที่ ณ โรงงานอากาศยาน St Louis ของบริษัท Boeing อย่างไรก็ตามโครงการได้รับผลกระทบด้านค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นและความล่าช้า
Boeing ยังเชื่อว่าตนมีโอกาสในตลาดนานาชาติสำหรับ T-7 ในฐานะเครื่องบินฝึก(https://aagth1.blogspot.com/2021/08/boeing-lockheed-martin-leonardo.html), เครื่องบินโจมตีเบา(https://aagth1.blogspot.com/2021/12/hawk-108hawk-208.html) และเครื่องบินข้าศึกสมมุติครับ

วันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2565

สหรัฐฯจะประเมินความพร้อมของกองทัพอากาศไทยสำหรับเครื่องบินขับไล่ F-35A




The US Air Force Lockheed Martin F-35A Lightning II. (USAF)

A U.S. Air Force inspection team will reportedly be sent to Thailand to assess the readiness of the Royal Thai Air Force to operate and maintain fifth-generation fighter jets.
As part of the inspection, the U.S. team will look closely at the RTAF's resources and capabilities to see if they can support the purchase of advanced stealth fighters.
According to reports, a committee tasked with overseeing the planned military procurement has been looking closely at fifth-generation aircraft with advanced stealth capabilities, including Lockheed Martin F-35 jets, to replace Thailand’s aging F-16s.
Although the Cabinet approved a budget of 13.8 billion baht in January for the purchase of four jets, the jets would most likely need to be purchased using funds from next year's budget.

ผู้บัญชาการทหารอากาศ เดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อหารือข้อราชการและร่วมงาน CSAF & CMSAF International Honor Roll ตามคำเชิญของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา
พลอากาศเอก นภาเดช  ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และคณะ เดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อหารือข้อราชการกับผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา และหน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐอเมริกา ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. 
พร้อมทั้งร่วมงาน Chief of Staff of the Air Force and Chief Master Sergeant of the Air Force International Honor Roll (CSAF & CMSAF International Honor Roll) ณ ฐานทัพอากาศ Maxwell รัฐอลาบามา ระหว่างวันที่ 12 - 19 เมษายน 2565 ตามคำเชิญของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา
 
ในโอกาสนี้ ได้ร่วมหารือเกี่ยวกับประเด็นการขยายความร่วมมือด้านการปฏิบัติการทางทหาร การแลกเปลี่ยนแนวคิดการปฏิบัติการของกำลังทางอากาศในภูมิภาค การพัฒนากำลังทางอากาศในอนาคต และการปฏิบัติการทางอากาศด้วยเครื่องบินขับไล่/โจมตี
สำหรับงาน Chief of Staff of the Air Force and Chief Master Sergeant of the Air Force International Honor Roll (CSAF & CMSAF International Honor Roll) จัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ศิษย์เก่าของสถาบัน Air University ที่ประสบความสำเร็จในการรับราชการ 
และได้ดำรงตำแหน่งระดับสูงของกองทัพอากาศ โดยผู้บัญชาการทหารอากาศ เคยเข้ารับการศึกษาหลักสูตรเสนาธิการทหารอากาศสหรัฐอเมริกา (ACSC) เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2538 - 13 มิถุนายน 2539 ณ ฐานทัพอากาศ Maxwell รัฐอลาบามา สหรัฐอเมริกา

NBT World ช่องโทรทัศน์ภาษาอังกฤษของกรมประชาสัมพันธ์ รัฐบาลไทย รายงานข่าวเมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๕(2022)ว่า ทีมตรวจสอบของกองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force) จะถูกส่งมายังไทย เพื่อประเมินความพร้อมของกองทัพอากาศไทย(RTAF: Royal Thai Air Force) ที่จะปฏิบัติการและบำรุงรักษาเครื่องบินขับไล่ยุคที่๕ ในฐานะส่วนหนึ่งของการตรวจสอบทีมจากสหรัฐฯจะประเมินทรัพยากรและขีดความสามารถต่างๆกองทัพอากาศไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เห็นว่าตนสามารถที่จะสนับสนุนการจัดหาเครื่องบินขับไล่ขั้นก้าวหน้าตรวจจับได้ยาก stealth ให้ได้หรือไม่

กองทัพอากาศไทยได้แสดงเจตนารมณ์ของตนมาหลายครั้งก่อนหน้าแล้วว่าต้องการจัดหาเครื่องบินขับไล่ขับไล่ยุคที่๕ แบบ Lockheed Martin F-35A Lightning II สหรัฐฯ(https://aagth1.blogspot.com/2022/03/f-16ab-f-35a.html) ซึ่งเครื่องบินขับไล่ยุคที่๕ แบบเดียวที่มีสายการผลิตในปัจจุบัน
เพื่อทดแทนเครื่องบินขับไล่แบบที่๑๙ บ.ข.๑๙/ก Lockheed Martin F-16A/B Block 15 Fighting Falcon ที่ใช้งานมานานมากกว่า ๓๐ปีของตน(https://aagth1.blogspot.com/2022/03/f-16a-adf.html) ซึ่งน่าจะถูกนำเข้าประจำการในฝูงบิน๑๐๒ กองบิน๑ โคราชเป็นฝูงบินแรก

ในต้นปี ๒๕๖๕ ที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีไทยเห็นชอบอนุมัติวงเงินประมาณ ๑๓,๘๐๐,๐๐๐,๐๐๐บาท($415 million) สำหรับโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-35A ระยะที่๑ จำนวน ๔เครื่อง ที่ยังจำเป็นต้องได้รับมติเห็นชอบจากรัฐสภาไทยสำหรับงบประมาณผูกพันปี พ.ศ.๒๕๖๖-๒๕๖๙(2023-2026)
อย่างไรก็ตามวงเงินสำหรับโครงการนี้จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติเห็นชอบโดยรัฐสภาไทยเพื่อบรรจุในงบประมาณกลาโหมปี พ.ศ.๒๕๖๖(2023)ก่อน(https://aagth1.blogspot.com/2022/03/covid-19.html) รวมถึงรัฐบาลสหรัฐฯและสภา Congress สหรัฐฯจะต้องเห็นชอบการขาย F-35 ให้ไทยด้วย

ก่อนหน้านี้ไม่นาน พลอากาศเอก นภาเดช  ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศไทยและคณะนายทหารกองทัพอากาศไทยได้เดินทางเยือนสหรัฐฯตามคำเชิญของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ระหว่างวันที่ ๑๒-๑๙ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๕ เป็นที่เข้าใจว่าการจัดหา F-35 ของไทยจะเป็นประเด็นในการพูดคุยด้วย
การที่มีรายงานตามหลังว่ากองทัพอากาศสหรัฐฯจะส่งทีมมาประเมินความพร้อมของกองทัพอากาศไทย น่าะเป็นส่วนหนึ่งเป็นการนำไปสู่การพิจารณาความเป็นไปได้ในการขายเครื่องบินขับไล่ F-35A แก่ไทยในรูปแบบความช่วยเหลือทางทหารต่อมิตรประเทศ Foreign Military Sales(FMS)

การจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์จากสหรัฐฯในรูปแบบความช่วยเหลือทางทหารของกองทัพไทยก่อนหน้านั้น ระบบที่มีสมรรถนะและความซับซ้อนสูง ก็จำเป็นที่ต้องมีประเมินความพร้อมของสถานที่ที่จะระบบเข้าประจำการมีความเหมาะสมหรือไม่ ต้องปรับปรุงอะไรเพิ่ม และฝึกกำลังพลที่จะใช้งานอย่างไร
โดยการขายเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๑๙ F-16A/B ให้กองทัพอากาศไทยในอดีตสหรัฐฯก็มีการส่งทีมมาประเมินความพร้อมที่ไทยเช่นกัน ซึ่งช่วงนั้นกองทัพอากาศไทยต้องการ F-16A/B Block 15 OCU ไม่ใช่รุ่น F-16/79 รุ่นส่งออกที่มีสมรรถนะต่ำกว่าที่กองทัพอากาศสหรัฐและชาติยุโรป NATO ใช้เอง

การจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-35 ของลูกค้ารูปแบบการขาย FMS ในกลุ่มประเทศเอเชีย-แปซิฟิกที่เข้าประจำการไปแล้วอย่างญี่ปุ่น(https://aagth1.blogspot.com/2022/04/ai-uav.html) และสาธารณรัฐเกาหลี(https://aagth1.blogspot.com/2022/03/f-35a-40.html
หรือที่กำลังสั่งจัดหาเช่นสิงคโปร์(https://aagth1.blogspot.com/2022/03/blog-post.html) ก็เป็นไปในแนวทางนี้เช่นกัน อย่างไรก็ตามในขณะนี้บริษัท Lockheed Martin สหรัฐฯผู้ผลิต และตัวแทนของรัฐบาลสหรัฐฯยังไม่อยู่ในสถานะที่จะออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับการขาย F-35 ให้ไทยได้ครับ

วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2565

อังกฤษทำพิธีวางกระดูกงูเรือฟริเกตชั้น Type 31 ลำแรก HMS Venturer

Babcock lays keel for first Royal Navy Type 31 frigate




Babcock lays the keel for the UK Royal Navy's first Type 31 frigate, HMS Ventura , at its Rosyth facility in Scotland on 26 April. (Babcock)

บริษัท Babcock สหราชอาณาจักรได้ทำพิธีวางกระดูกงูเรือสำหรับเรือฟริเกตอเนกประสงค์ชั้น Type 31 Inspiration ลำแรกจากทั้งหมด 5ลำตามคำสั่งจัดหาสำหรับกองทัพเรือสหราชอาณาจักร(RN: Royal Navy)
พิธีวางกระดูงูเรือสำหรับเรือฟริเกตชั้น Type 31 ลำแรกเรือฟริเกต HMS Venturer มีขึ้นที่อู่เรือ Rosyth ของบริษัท Babcock ใน Scotland เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2022(https://aagth1.blogspot.com/2021/09/type-31-hms-venturer.html)

บริษัท Babcock กำลังสร้างเรือฟริเกตชั้น Type 31 ห้าลำภายใต้สัญญามูลค่าวงเงิน 1.25 billion British Pound($1.58 billion) ที่ได้รับการประกาศในเดือนพฤศจิกายน 2019(https://aagth1.blogspot.com/2019/09/babcock-type-31.html)
เรือฟริเกตชั้น Type 31 มีพื้นฐานจากแบบเรือ Arrowhead 140 ที่เป็นวิวัฒนาการของเรือฟริเกตชั้น Iver Huitfeldt กองทัพเรือเดนมาร์ก(RDN: Royal Danish Navy) ซึ่งออกแบบโดยบริษัท OMT เดนมาร์ก และถูกปรับแต่งเพื่อความต้องการของสหราชอาณาจักรโดย Babcock และ BMT

พิธีวางกระดูงูเรือฟริเกต HMS Venturer ได้จัดขึ้นที่โรงประกอบเรือใหม่ของบริษัท Babcock ที่ได้รับการตั้งชื่อว่าอาคาร Venturer เป็นสถานที่มีหลังคาคลุมเต็มอาคารที่สามารถทำให้เรือฟริเกตสองลำจะถูกสร้างคู่ขนานพร้อมกันได้
ภายใต้แผนปัจจุบัน เรือฟริเกต HMS Venturer มีกำหนดจะปล่อยเรือลงน้ำในปี 2023 และเข้าประจำการกับกองทัพเรือสหราชอาณาจักรในปี 2027(https://aagth1.blogspot.com/2021/09/babcock-arrowhead-140.html)

เรือฟริเกตชั้น Type 31 ลำที่สองเรือฟริเกต HMS Active มีแผนที่จะเริ่มต้นการดำเนินการสร้างในปี 2023 การส่งมอบเรือทั้ง 5ลำคาดว่าจะเสร็จสิ้นในปี 2028 โดยเรือทั้งหมดวางแผนจะเข้าประจำการภายในปี 2030
เรือฟริเกตชั้น Type 31 มีวัตถุประสงค์ที่จะทดแทนเรือฟริเกตอเนกประสงค์ชั้น Type 23 โดยจะถูกใช้สำหรับการปฏิบัติการวางกำลังส่วนหน้ารักษาความปลอดภัยทางทะเล การแสดงกำลัง, และการมีส่วนร่วมทางกลาโหม

เรือฟริเกตชั้น Type 31 จะทำให้เรือฟริเกตชั้น Type 26(https://aagth1.blogspot.com/2018/06/bae-systems-hunter-9.html) และเรือฟริเกตชั้น Type 45(https://aagth1.blogspot.com/2021/10/aw159-wildcat-martlet.html) ของกองทัพเรือสหราชอาณาจักร
จะมุ่งความสำคัญเกี่ยวกับภารกิจหมู่เรือเฉพาะกิจกับเรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Queen Elizabeth(https://aagth1.blogspot.com/2022/01/f-35-2021.html) และฉากำบังการป้องปรามทางยุทธศาสตร์ได้

เรือฟริเกต HMS Venturer ถูกตั้งชื่อตามเรือดำน้ำชั้น V สมัยสงครามโลกครั้งที่สองเรือดำน้ำ P68 HMS Venturer ซึ่งสามารถจมเรือดำน้ำเยอรมนี U-Boat ได้สองลำขณะเรือกำลังดำอยู่ใต้น้ำทั้งคู่
เรือฟริเกตชั้น Type 31 Inspiration ทั้งห้าลำได้รับการตั้งชื่อว่า เรือฟริเกต HMS Venturer, เรือฟริเกต HMS Active, เรือฟริเกต HMS Bulldog, เรือฟริเกต HMS Campbeltown และเรือฟริเกต HMS Formidable ครับ

วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2565

เกาหลีเหนือแสดงขีปนาวุธยิงจากเรือดำน้ำ SLBM แบบใหม่ในการสวนสนามล่าสุด

North Korea showcases new SLBM in the military parade

Source: North Korean Rodong Shinmun newspaper / South Korea KBS TV channel
North Korea presented its new SLBM (submarine-launched ballistic missile) during the military parade held on April 25th, in celebration of its 90th year of the establishment of the KPA (Korean People’s Army). 

Pukguksung-5 SLBM.

North Korean SLBM progression. 



สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีได้แสดงขีปนาวุธยิงจากเรือดำน้ำ(SLBM: Submarine-Launched Ballistic Missile) แบบใหม่ของตนระหว่างพิธีสวนสนามทางทหารล่าสุด
ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2022 เนื่องในโอกาสครบรอบ 90ปีของการก่อตั้งกองทัพประชาชนเกาหลี(KPA: Korean People’s Army)(https://aagth1.blogspot.com/2021/04/3000tons.html)

ขีปนาวุธยิงจากเรือดำน้ำ SLBM ขนาดเล็กกว่าที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีอ้างว่าประสบความสำเร็จในการทดสอบยิงจากเรือดำน้ำในเดือนตุลาคม 2021 ยังถกแสดงด้วย
ขีปนาวุธยิงจากเรือดำน้ำ SLBM ขนาดเล็กปรากฎว่ามีส่วนหัวรบที่แหลมกว่า ขีปนาวุธ SLBM รุ่นนี้โดยมีพิสัยยิงที่ต่างกันดูน่าจะบ่งชี้ว่าพวกมันน่าจะสามารถที่จะวางกำลังเพื่อทำการยิงได้ในเวลาที้่สั้นมาก

ขีปนาวุธยิงจากเรือดำน้ำ SLBM ใหม่มีหัวรบขนาดใหญ่กว่าและยาวกว่าขีปนาวุธยิงจากเรือดำน้ำ Pukguksung-5 ซึ่งถูกจัดแสดงครั้งแรกในการสวนสนามทางทหารในเดือนมกราคม 2021(https://aagth1.blogspot.com/2021/01/kim-jong-un.html)
การปรับปรุงนี้หมายความว่าขีปนาวุธ SLBM ใหม่จะมีพิสัยยิงไกลขึ้นมากๆ และสามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ย่อยแยกโจมตีหลายเป้าหมายอย่างอิสระ(MIRV: Multiple Independently targetable Re-entry Vehicle) ที่สามารถทำลายหลายๆเมืองในการยิงขีปนาวุธ SLBM พร้อมหัวรบเพียงครั้งเดียว

เป็นที่ประมาณว่าความยาวของขีปนาวุธ SLBM ใหม่ยาวขึ้น 3m จากขีปนาวุธ Pukguksung-5 SLBM รุ่นก่อนซึ่งน่าจะถูกเรียกได้ว่าขีปนาวุธยิงจากเรือดำน้ำ Pukguksung-6 หรือ Pukguksung-5 รุ่นปรับปรุง
จากขนาดของขีปนาวุธ SLBM สามารถที่จะติดตั้งได้กับเรือดำน้ำติดขีปนาวุธใหม่ขนาด 3,000tons ของกองทัพเรือประชาชนเกาหลี(KPN: Korean People's Navy) ที่ปัจจุบันอยู่ในขั้นสุดท้ายของการสร้างที่อู่เรือ Sinpo

Mr. Uk Yang จากสมาคมผู้ร่วมวิจัยแห่งสถาบันเพื่อการศึกษานโยบาย Asan(The Associate Research Fellow of the Asan Institute for Policy Studies) ได้วิเคราะห์ขีปนาวุธ SLBM ใหม่ในการให้สัมภาษณ์สื่อของสาธารณรัฐเกาหลีว่า
"เส้นผ่าศูนย์กลางของขีปนาวุธ SLBM ใหม่และรุ่นก่อนไม่เปลี่ยนแปลง ความสู่งของขีปนาวุธและห้องส่วนระบบส่งเป็นแบบเดียวกัน SLBM ใหม่ยื่นออกมากมากกว่า 0.5mm เกินส่วนหน้าของส่วนบรรทุกหัวรบ ยืนยันได้ว่าขีปนาวุธใหม่ยาวกว่าเล็กน้อย"

Yang เสริมว่าการเพิ่มความยาวเป็นเนื่องจากการเพิ่มเติมชิ้นส่วนเผาไหม้มากขึ้นเพื่อเพิ่มระยะยิง เช่นเดียวกับการขยายขนาดหัวรบ สันนิษฐานว่าสำหรับการติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ MIRV
หลังการแสดงอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์รวมถึงขีปนาวุธยิงจากเรือดำน้ำ SLBM, ขีปนาวุธข้ามทวีป(ICBM: Intercontinental Ballistic Missile), อาวุธปล่อยนำวิถีทางยุทธวิธี และอื่นๆ

ผู้นำสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี Kim Jong Un กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับหลักนิยมนิวเคลียร์ใหม่ของเขา ซึ่งวาดภาพการลดการยับยั้งการเข้าหลักเกณฑ์สำหรับการเริ่มใช้อาวุธนิวเคลียร์ 
และการใช้อาวุธนิวเคลียร์ของเขาจะเป็นในเชิงรุกมากขึ้นเมื่อผลประโยชน์ทางนิวเคลียร์ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีถูกละเมิด โดยเน้นขีดความสามารถในการป้องปราม

Kim Jong Un ไม่ได้ระบุว่าอะไรคือ "ผลประโยชน์หลัก" ของระบบการปกครองของตน และมีจุดประสงค์ที่จะขยายขอบเขตสำหรับการใช้อาวุธนิวเคลียร์อย่างไร
ในการตอบสนองทีมการเปลี่ยนผ่านของประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลีฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่ได้รับการเลือกตั้งใหม่ Yoon Suk-yeol ได้จัดการประชุมสื่อเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2022 ที่ให้ความเห็นถึงการสวนสนามล่าสุดของเกาหลีเหนือ

รองโฆษกประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี Ilhee Won พูดในนามทีมทีมเปลี่ยนผ่านว่า "มันพิสูจน์ว่าเกาหลีเหนือเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี, เอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ และโลก ขณะแสร้งทำเป็นผลักดันเพื่อสันติภาพและพูดคุยกันมาเป็นเวลาห้าปี
เพราะว่าเกาหลีเหนือแสดงท่าทีที่เป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงและแท้จริงต่อเรา(เกาหลีใต้) การป้องปรามคือลำดับความสำคัญสูงสุดของเรา เราจะแสวงหามาซึ่งทั้งระบบอาวุธตรงกันข้ามและสุดยอดช่วงว่างในวิทยาการทางทหารควบคู่กัน" เขากล่าวครับ

วันอังคารที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2565

อินโดนีเซียเปิดตัวบริษัท Defend ID เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ

Indonesia launches Defend ID holding firm



Defend ID, Indonesia's new defence holding company, is expected to play a role in major state projects such as the production of the country's new Harimau medium tank (pictured). (Janes/Patrick Allen)





อินโดนีเซียได้เปิดตัวบริษัทที่ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้น(holding company) ที่จะรวบรวมสร้างความแข็งแกร่งขีดความสามารถด้านพื้นฐานรัฐวิสาหกิจอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของอินโดนีเซีย
การจัดตั้งบริษัทใหม่ชื่อ Defend ID มีจุดประสงค์ที่จะกระตุ้นขีดความสามารถทางอุตสาหกรรมภายในประเทศ และลดการพึ่งพาการนำเข้าทางทหารของอินโดนีเซีย

บริษัท Defend ID อินโดนีเซียเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2022 ตามการออกคำสั่งของรัฐบาลอินโดนีเซียในเดือนมกราคม 2022
ภายใต้คำสั่งบริษัท Defend ID จะถือครองและดำเนินงานโดย PT Len Industri รัฐวิสาหกิจอุตสาหกรรมไฟฟ้าอินโดนีเซีย(https://aagth1.blogspot.com/2022/04/c-705.html)

คำสั่งรัฐบาลอินโดนีเซียที่บริษัท Defend ID ใหม่นั้นจะยัง "ถือครอง" ความรับผิดชอบสำหรับกิจการแห่งชาติของอินโดนีเซียอื่นๆสี่บริษัทประกอบด้วย(https://aagth1.blogspot.com/2022/04/scorpene-aip.html)
PT PAL รัฐวิสาหกิจผู้สร้างเรืออินโดนีเซีย, PT Pindad รัฐวิสาหกิจระบบภาคพื้นดินอินโดนีเซีย, PT Dirgantara รัฐวิสาหกิจการบินอินโดนีเซีย และ PT Dahana รัฐวิสาหกิจผู้ผลิตวัตถุระเบิดและดินส่งอินโดนีเซีย

ณ พิธีเปิดตัวบริษัท Defend ID ที่โรงงานของ PT PAL ใน Surabaya อินโดนีเซีย ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย Joko Widodo กล่าวว่า "เราจำเป็นจะต้องผลักดันการการพัฒนาความเป็นอิสระในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศภายในประเทศ เพื่อจะเข้าสู่ยุคใหม่ของการแข่งขัน"
ประธานาธิบดี Widodo ร่างเค้าโครงเป้าหมายสำหรับ Defend ID เพื่อให้ตรงความต้องการทางทหารของอินโดนีเซีย และเพื่อที่จะถูกนำมาบูรณาการเข้าส่ห่วงโซ่อุปทานนานาชาติทั่วโลก

ประธานาธิบดี Widodo กล่าวว่าแหล่งที่มาการจัดหาของอินโดนีเซียประมาณร้อยละ40 ของผลิตภัณฑ์ด้านกลาโหมต่างๆมาจากกิจการภายในประเทศ เขาเสริมว่า
"เราได้รอมานานสำหรับ Defend ID และเราจะผลักดันเสมอสำหรับรัฐวิสาหกิจอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของเราที่จะทำให้แข็งแกร่งมากขึ้น มีระบบนิเวศที่แข็งแรงขึ้น และสามารถที่จะแข่งขันได้"

ตามระเบียบข้อบังคับรัฐบาลอินโดนีเซีย บริษัท Defend ID จะดำเนินกิจการธุรกิจในภาคส่วนอย่างเช่น ไฟฟ้า, อากาศยานและชิ้นส่วนประกอบ, การสร้างเรือ, ยานยนต์, อาวุธ, เครื่องกระสุน และวัตถุระเบิด
เป็นที่คาดว่า Defend ID อินโดนีเซียจะมีบทบาทในโครงการสำคัญของรัฐเช่นการผลิตรถถังขนาดกลาง Harimau ใหม่สำหรับกองทัพอินโดนีเซีย(Indonesian Armed Forces, TNI: Tentara Nasional Indonesia) ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2021/05/allison-harimau.html)

วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2565

ฝรั่งเศสเสนอสร้างเรือดำน้ำ Scorpene พร้อมระบบ AIP สองลำในอินโดนีเซีย

Naval Group offers to build two AIP submarines in Surabaya



A Royal Malaysian Navy Scorpene submarine. Naval Group has offered to build two AIP-capable variants of the submarine for Indonesia in Surabaya. (Naval Group)



บริษัท Naval Group ผู้สร้างเรือฝรั่งเศสได้เสนอที่จะสร้างเรือดำน้ำโจมตีดีเซล-ไฟฟ้า(SSK) ที่มีขีดความสามารถระบบขับเคลื่อนแบบไม่ใช้อากาศ(AIP: Air-independent Propulsion) สองลำ
ใน Surabaya อินโดนีเซียสำหรับกองทัพเรืออินโดนีเซีย(Indonesian Navy, TNI-AL: Tentara Nasional Indonesia-Angkatan Laut)(https://aagth1.blogspot.com/2022/02/scorpene.html)

ตามเอกสารนำเสนอที่ได้ถูกมอบให้แก่ Janes โดยแหล่งข่าวในภาคอุตสาหกรรมความมั่นคง เรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้าพร้อมระบบขับเคลื่อน AIP จะเป็นรุ่นหนึ่งของเรือดำน้ำโจมตีดีเซล-ไฟฟ้าแบบ Scorpene
และบริษัท Naval Group ฝรั่งเศสได้เสนอที่จะสร้างเรือดำน้ำ Scorpene ทั้งสองลำในอินโดนีเซียทั้งหมดที่อู่เรือของ PT PAL รัฐวิสาหกิจผู้สร้างเรืออินโดนีเซีย(https://aagth1.blogspot.com/2020/12/naval-group-riachuelo.html)

กองทัพเรืออินโดนีเซียมีกองเรือดำน้ำที่ประจำการด้วยเรือดำน้ำชั้น Nagapasa(DSME 209/1400) สามลำที่สร้างโดยสาธารณรัฐเกาหลีที่เข้าประจำการในช่วงปี 2017-2021(https://aagth1.blogspot.com/2021/03/nagapasa-kri-alugoro-405.html)
และเรือดำน้ำชั้น Cakra หนึ่งลำที่เข้าประจำการในปี 1981 เรือดำน้ำชั้น Cakra ลำที่สอง KRI Nanggala(402) ได้สูญเสียจากการจมในปี 2021(https://aagth1.blogspot.com/2021/04/kri-nanggala-402-53.html

อินโดนีเซียยังได้ลงนามสัญญาที่จะจัดหาเรือดำน้ำโจมตีดีเซล-ไฟฟ้าชั้น Nagapasa เพิ่มอีก 3ลำกับบริษัท Daewoo Shipbuilding and Marine Engineering(DSME) สาธารณรัฐเกาหลีในปี 2019(https://aagth1.blogspot.com/2020/04/nagapasa.html)
นอกเหนือจากเรือดำน้ำที่ได้รับการสั่งจัดหาหรือประจำการแล้ว กองทัพเรืออินโดนีเซียมีที่ยังไม่เสร็จสิ้นสำหรับเรือดำน้ำคั่นระยะอย่างน้อยอีก 1ลำ(https://aagth1.blogspot.com/2021/07/1.html)

เรือดำน้ำอย่างน้อย 1ลำเป็นตามที่กำหนดไว้ในแผนแม่บทการปรับปรุงความทันสมัยกองทัพอินโดนีเซีย(Indonesian National Armed Forces, TNI: Tentara Nasional Indonesia) ที่รู้จักในชื่อแผนกำลังรบจำเป็นขั้นต่ำ(MEF: Minimum Essential Force)
ทั้งเรือดำน้ำชั้น Cakra จำนวน 1ลำ, เรือดำน้ำชั้น Nagapasa ที่ประจำการแล้ว 3ลำและที่จะสั่งจัดหาเพิ่ม 3ลำ ไม่มีลำใดที่มีขีดความสามารถคุณสมบัติระบบขับเคลื่อน AIP

"แม้ว่าระบบขับเคลื่อน AIP ได้ถูกนำเสนอเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาที่ไม่ใช่ระบบขับเคลื่อนพลังงานนิวเคลียร์ที่จะเพิ่มความเป็นอิสระใต้น้ำของเรือดำน้ำตามแบบ
ต้นกำเนิดของมันเกี่ยวข้องกับกองทัพเรือที่ปฏิบัติการในพื้นที่ทางทะเลที่จำกัดและปราศจากความทะเยอทะยานที่จะออกสู่มหาสมุทรหลัก" Naval Group กล่าวในเอกสารนำเสนอที่ถูกส่งต่อให้ Janes ครับ

วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2565

โปแลนด์จะเลือกเฮลิคอปเตอร์โจมตีใหม่ระหว่าง AH-64E Apache หรือ AH-1Z Viper สหรัฐฯ

Poland to choose between Apache and Viper for attack helo requirement







The AH-64E Apache Guardian and Bell AH-1Z Viper are two attack helicopter types that Poland is considering for its Kruk requirement. (Boeing/Bell)

โปแลนด์จะเลือกระหว่างเฮลิคอปเตอร์โจมตี Boeing AH-64E Apache Guardian และเฮลิคอปเตอร์โจมตี Bell AH-1Z Viper ที่จะเติมเต็มความต้องการเฮลิคอปเตอร์โจมตีของตน รัฐบาลโปแลนด์กล่าวเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2022
เฮลิคอปเตอร์โจมตีสหรัฐฯสองแบบได้อยู่ในรายชื่อที่จะเติมเต็มความต้องการโครงการ Kruk(นกกา Raven) ของกระทรวงกลาโหมโปแลนด์ที่จะทดแทนเฮลิคอปเตอร์โจมตี Mil Mi-24(NATO กำหนดรหัส 'Hind') ที่มีอายุการใช้งานมานานของกองทัพบกโปแลนด์

"เรามีสองข้อเสนอบนโต๊ะสำหรับเฮลิคอปเตอร์โจมตี หนึ่งจากบริษัท Boeing สหรัฐฯ และ(อีกหนึ่งจาก)บริษัท Bell สหรัฐฯ เราจะเลือกข้อเสนอที่ดีที่สุด เราต้องการระบบอาวุธดังกล่าวที่จะวางตัวเป็นยุทโธปกรณ์โดยเร็วที่สุดที่จะเป็นไปได้" 
Mariusz Błaszczak รัฐมนตรีกลาโหมโปแลนด์กล่าว โปแลนด์กำลังอยู่ในระหว่างความพยายามการปรับสถานะโครงสร้างกำลังเฮลิคอปเตอร์ที่จะทดแทนเฮลิคอปเตอร์ยุคอดีต Warsaw ที่มีในประจำการ

โดยการมุ่งเน้นที่ล่าสุดได้รับคือเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป Sikorsky S-70i Black Hawk ในฐานะเฮลิคอปเตอร์สำหรับหน่วยรบพิเศษใหม่(https://aagth1.blogspot.com/2020/06/sikorsky-s-70i-black-hawk.html) ที่จะทดแทนเฮลิคอปเตอร์ Mil Mi-8/17(NATO กำหนดรหัส 'Hip') ที่มีอายุการใช้งานมานาน
เช่นเดียวกับเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำ Leonardo AW101 Merlin(https://aagth1.blogspot.com/2019/04/aw101.html) ที่จะทดแทนเฮลิคอปเตอร์ Mil Mi-14(NATO กำหนดรหัส 'Haze') โดยการประกาศจาก Błaszczak การมุ่งเน้นจะย้ายไปที่การทดแทนเฮลิคอปเตอร์โจมตี Mi-24

เฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E ได้รับการเพิ่มความสามารถจากเฮลิคอปเตอร์โจมตี Apache รุ่นก่อนหน้าด้วยคุณสมบัติใหม่ และปรับปรุงระบบส่งกำลังขับเคลื่อน(drivetrain) และระบบใบพัดวัสดุผสม ทำให้มีความเร็วสูงสุดเพิ่มขึ้น 25 knots มากกว่ารุ่นเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64D
เฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E ติดตั้งด้วยการปรับปรุงระบบ avionic สถาปัตยกรรมเปิด และขีดความสามารถที่จะควบคุมอากาศยานไร้คนขับ(UAV: Unmanned Aerial Vehicle) จากห้องนักบิน

บริษัท Boeing ได้ส่งมอบเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64 Apache มากกว่า 500เครื่อง แก่กองทัพบกสหรัฐฯ(US Army) และลูกค้านานาชาติเช่น อินเดีย(https://aagth1.blogspot.com/2019/09/ah-64e.html), อินโดนีเซีย(https://aagth1.blogspot.com/2017/05/ah-64e-apache-guardian.html)
,โมร็อกโก(https://aagth1.blogspot.com/2020/06/ah-64e-apache.html), เนเธอร์แลนด์, กาตาร์(https://aagth1.blogspot.com/2019/05/ah-64e.html), ซาอุดีอาระเบีย(https://aagth1.blogspot.com/2020/12/ah-64e-sdb-sniper-atp.html),

สาธารณรัฐเกาหลี(https://aagth1.blogspot.com/2021/04/36.html), ไต้หวัน และสหราชอาณาจักร(https://aagth1.blogspot.com/2022/02/apache.html, https://aagth1.blogspot.com/2022/01/ah-64e-apache.html)
เฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E ได้รับการอนุมัติในปี 2020 สำหรับความเป็นไปได้ในการขายแก่ฟิลิปปินส์(https://aagth1.blogspot.com/2020/05/ah-64e-apache-ah-1z-viper.html)

ขณะที่ในปี 2021 Boeing สหรัฐฯกล่าวกับ Janes ว่าออสเตรเลียได้ร้องขอการจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E จำนวน 29เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2021/06/ah-64e-apache.html)
และเยอรมนีได้แสดงความสนใจในเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E  ด้วยการออกเอกสารขอข้อมูล(RFI: Request for Information) ให้แก่รัฐบาลสหรัฐฯ(https://aagth1.blogspot.com/2021/11/ah-64-apache.html)

ส่วนเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-1Z Viper มีผู้ใช้งานหลักคือนาวิกโยธินสหรัฐฯ(USMC: US Marine Corps) และได้รับการสั่งจัดหาจากสาธารณรัฐเช็ก(https://aagth1.blogspot.com/2020/09/ah-1z-uh-1y.html) และและบาห์เรน(https://aagth1.blogspot.com/2021/10/bell-ah-1z.html)
โดยที่ปากีสถานถูกระงับการส่งมอบให้(https://aagth1.blogspot.com/2020/02/z-10-t129-ah-1z.html) และล่าสุดรัฐบาลสหรัฐฯได้อนุมัติความเป็นไปได้ในการขายแก่ไนจีเรียครับ(https://aagth1.blogspot.com/2022/04/ah-1z.html)

วันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2565

รถถังเบาสะเทินน้ำสะเทินบก VN16 นาวิกโยธินไทยฝึกดำเนินกลยุทธด้วยกระสุนจริง การฝึกกองทัพเรือประจำปี ๒๕๖๕






















Norinco VN16 Tracked Amphibious Assault Vehicles of Marine Assault Amphibian Vehicle Battalion; BTR-3E1 8x8 armored personnel carrier of Armored Company and HMMWV 4x4 with TOW 2RF anti-tank guided missile of Anti Tank Compamy, 
Marine Tank Battalion; ATMG (Autonomous Truck Mounted Gun) 155mm/52caliber wheeled self-propelled howitzer 6x6 of 4th Artillery Battalion, Marine Artillery Regiment, Royal Thai Marine Corps (RTMC) 
and Artillery batteries of Naval Air and Coastal Defence Command (ACDC), Royal Thai Navy (RTN) was conduct CALFEX (Combined Arms Live Fire Exercise) during RTN Annual Exercise 2022 at Ban Chan Krem, Chanthaburi Province on 21 April 2022.



ผู้บัญชาการทหารเรือ ตรวจเยี่ยมการฝึกยิงอาวุธทางยุทธวิธี และการฝึกสนธิกำลังดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง ในการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2565
วันที่ 21 เมษายน 2565 พลเรือเอก สมประสงค์  นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือเดินทางไปตรวจเยี่ยมการฝึกสนธิกำลังดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง ของหน่วบบัญชาการนาวิกโยธิน ในการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2565 
ณ  สนามฝึกกองทัพเรือหมายเลข 16 บ้านจันทเขลม อ.เขาคิชกูฏ จ.จันทบุรี โดยมี พลเรือเอก ธีรกุล กาญจนะ รองผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะ ผู้อำนวยการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2565 ให้การต้อนรับ
การตรวจเยี่ยมการฝึกของผู้บัญชาการทหารเรือและคณะ มีจุดประสงค์สำคัญเพื่อการรับทราบรายละเอียดการปฏิบัติในการฝึก ขีดความสามารถและความพร้อมในการปฏิบัติการของหน่วยต่าง ๆ ที่เข้ารับการฝึก
เพื่อนำไปสู่การพัฒนาความพร้อมของหน่วยต่าง ๆ ในการป้องกันประเทศตามภารกิจของกองทัพเรือ รวมถึงเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจแก่กำลังพลที่เข้ารับการฝึกอีกด้วย 
กองทัพเรือ ได้กำหนดให้หน่วยกำลังรบในทุกระดับ ดำเนินการเตรียมความพร้อมในระดับหน่วยตามความเชี่ยวชาญเฉพาะของกิจที่ได้รับ จนถึงการบูรณาการกำลังขนาดใหญ่เข้าด้วยกัน เพื่อฝึกการปฏิบัติการภายใต้สถานการณ์การฝึกตามแผนป้องกันประเทศในแต่ละด้าน 
โดยกำหนดแนวคิดหลักอ้างอิงจากสถานการณ์ที่มีโอกาสเกิดขึ้นมากที่สุดไว้ในการฝึกกองทัพเรือประจำปี ซึ่งนอกจากจะเป็นการเตรียมความพร้อมของกำลังรบในการป้องกันประเทศตามภารกิจของกองทัพเรือแล้ว
ยังเป็นการทดสอบแผนการปฏิบัติ ระบบการควบคุม การบังคับบัญชา ระบบการสื่อสารและระบบการส่งกำลังบำรุงในภาพรวม ตลอดจนเป็นการทดสอบการปฏิบัติการร่วมระหว่างเหล่าทัพ ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติการในสถานการณ์จริงอีกด้วย

“รบอย่างไร ฝึกอย่างนั้น”
ผู้บัญชาการทหารเรือ ตรวจเยี่ยมการฝึกยิงอาวุธทางยุทธวิธีของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) - หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (นย.) ณ สนามฝึกยิงอาวุธหาดยาวทุ่งโปรง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริงของ นย. - สอ.รฝ. 
ณ สนามฝึกกองทัพเรือหมายเลข ๑๖ บ้านจันทเขลม อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี
เมื่อวันที่ ๒๑ เม.ย.๖๕ พลเรือเอก สมประสงค์  นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ ตรวจเยี่ยมการฝึกยิงอาวุธทางยุทธวิธีของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) - หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (นย.) 
ณ สนามฝึกยิงอาวุธหาดยาวทุ่งโปรง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริงของ นย. - สอ.รฝ. ณ สนามฝึกกองทัพเรือหมายเลข ๑๖ บ้านจันทเขลม อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี  
โดยมี พลเรือโท รณรงค์  สิทธินันทน์ 
ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินรับการตรวจเยี่ยมการฝึกฯ
ในการนี้ผู้บัญชาการทหารเรือ ทำการยิงอาวุธด้วยกระสุนจริง (ปืนต่อสู้อากาศยานขนาด ๔๐/๖๐, เครื่องยิงลูกระเบิดอัตโนมัติ ๔๐ มม., 
MK 19, ปืนกลหนัก ขนาด .๕๐ นิ้ว และ ปืนกล M 60) ร่วมกับผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพเรือ
การฝึกการดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถของกำลังพลส่วนต่าง ๆ ทางยุทธวิธีในสงครามตามแบบ และเพื่อเป็นการทดสอบความพร้อมรบ
ของหน่วยระดับกรม กองพัน หน่วยขึ้นตรง กองพลนาวิกโยธิน ให้เกิดความคุ้นเคย รวมทั้งเพิ่มประสบการณ์
ในการจัดทำแผนการฝึกปัญหาที่บังคับการ การดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง การควบคุมบังคับบัญชา 
การประสานการยิงสนับสนุนอากาศ - พื้นดิน การติดต่อสื่อสาร การต่อต้านข่าวกรองของข้าศึก และการประสานการปฏิบัติระหว่างหน่วย

การฝึกยิงอาวุธทางยุทธวิธีและการฝึกสนธิกำลังดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง ในการฝึกกองทัพเรือประจำปี ๒๕๖๕ ณ สนามฝึกกองทัพเรือหมายเลข๑๖ บ้านจันทเขลม อำเภอเขาคิชกูฏ จังหวัดจันทบุรี เมื่อวันที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๕(2022) ที่ผ่านมาที่มีการเผยแพร่โดยสื่อต่อสาธารณชน
เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นยานเกราะโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบก(AAV: Amphibious Assault Vessel) แบบ Norinco VN16 ของ กองพันรถสะเทินน้ำสะเทินบก กองพลนาวิกโยธิน พัน.รนบ.พล.นย. ทั้ง ๓คันแสดงการทำการยิงกระสุนปืนใหญ่ขนาด 105mm ในการยิงอาวุธจริงเป็นครั้งแรก 
ก่อนหน้าในพิธีเปิดการฝึกกองทัพเรือประจำปี ๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๕ ยานเกราะโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบก VN16 ก็ได้สาธิตการปฏิบัติการยกพลขึ้นบกร่วมกับรถสะเทินน้ำสะเทินบก AAV7A1 RAM/RS มาแล้ว(https://aagth1.blogspot.com/2022/03/walkaround-vn16.html)

การฝึกยิงปืนใหญ่สนาม ณ สนามฝึกยิงอาวุธหาดยาวทุ่งโปรง อำเภอสัตหีบ ชลบุรี ได้มีการสาธิตการยิงของปืนใหญ่อัตตาจรล้อยางแบบ ATMG(Autonomous Truck Mounted Gun) 6x6 ขนาด 155mm/52caliber ของ กองพันทหารปืนใหญ่ที่๔ กรมทหารปืนใหญ่ กองพลนาวิกโยธิน
การฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริงยังรวมถึงรถเกราะล้อยาง BTR-3E1 กองร้อยยานเกราะ และรถยนตร์บรรทุก HMMWV ติดเครื่องยิงจรวดต่อสู้รถถัง TOW 2RF กองร้อยต่อสู้รถถัง กองพันรถถัง พล.นย. ซึ่งการยิง TOW 2RF นัดที่สองมีข้อขัดข้องลูกจรวดตกพื้นก่อนถึงเป้าหมายแต่ไม่มีอันตรายใดๆ
การฝึกยิงด้วยกระสุนจริงในปีนี้ดำเนินในพื้นที่ฝั่งอ่าวไทยเป็นหลัก(https://aagth1.blogspot.com/2021/03/atmg.html) โดยไม่มีการจัดกำลังร่วมจากกองทัพบก(RTA: Royal Thai Army)เช่น รถถังหลัก Oplot ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2021/04/blog-post_11.html)