วันพุธที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2567

สาธารณรัฐเช็กลงนามจดหมายขอข้อเสนอและตอบรับสำหรับจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-35A สหรัฐฯ 24เครื่อง

Czech Republic signs LOA for F-35



A model of Lockheed Martin F-35A in Czech colours at the IQPC International Fighter Conference on 6 November 2023. (Janes/Gareth Jennings)

สาธารณรัฐเช็กได้ลงนามจดหมายขอข้อเสนอและตอบรับ(LOA: Letter of Offer and Acceptance) สำหรับการจัดซื้อจัดจ้างเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-35A Lightning II Joint Strike Fighter สหรัฐฯ 
กระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐเช็กประกาศเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2024 จดหมาย LOA สำหรับเครื่องบินขับไล่ F-35A รุ่นบินขึ้นลงตามแบบ(CTOL: Conventional Take-Off and Landing) จำนวน 24เครื่อง

ได้ถูกลงนามสี่เดือนให้หลังจากรัฐบาลสาธารณรัฐเช็กได้อนุมัติการจัดหาในเดือนกันยายน 2023(https://aagth1.blogspot.com/2023/10/f-35a-24.html) สร้างความชัดเจนให้แก่กองทัพอากาศสาธารณรัฐเช็ก(CzAF: Czech Air Force)
ที่จะเริ่มต้นกระบวนการทดแทนเครื่องบินขับไล่ Saab Gripen C/D ที่เช่าจากสวีเดน และเครื่องบินโจมตีเบา Aero L-159 ที่สร้างในประเทศของตน(https://aagth1.blogspot.com/2023/01/l-159.html)

"ฉันได้ให้คำมั่นว่าสัญญาสำหรับเครื่องบินขับไล่ F-35 ของสหรัฐฯจะสรุปผลเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนมีนาคมอย่างช้าที่สุด และวันนี้ฉันได้เติมเต็มคำมั่นนี้แล้ว ด้วยข้อตกลงระหว่ารัฐบาล ประเทศของเราและยังรวมถึงกองทัพของเราได้เข้าสู่ยุคใหม่" 
รัฐมนตรีกลาโหมสาธารณรัฐเช็ก Jana Černochová กล่าวระหว่างพิธีลงนาม เมื่อกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯอนุมัติการขายเครื่องบินขับไล่ F-35A แก่สาธารณรัฐเช็กในเดือนมิถุนายน 2023(https://aagth1.blogspot.com/2023/07/f-35a-24.html)

การขายรูปแบบ Foreign Military Sales(FMS) ครอบคลุมเครื่องบินขับไล่ F-35A จำนวน 24เครื่อง, อาวุธอากาศสู่อากาศและอาวุธอากาศสู่พื้นต่างๆ, อะไหล่, การฝึกและการสนับสนุน
เป็นวงเงินประมาณ $5.62 billion ขณะที่ราคาการจัดซื้อจัดจ้าแท้จริงที่กล่าวอ้างอิงโดยกระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐเช็กอยู่ที่ $4.57 billion(https://aagth1.blogspot.com/2022/10/f-35a-24.html)

โครงการจัดซื้อจัดจ้างสำหรับเครื่องบินขับไล่ F-35A, สิ่งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องของเครื่อง และระบบอาวุธต่างๆจะดำเนินการตั้งแต่ปี 2024-2034 โดยเครื่องจะเข้าประจำการในปี 2035
เมื่อเข้าประจำการในกองทัพอากาศสาธารณรัฐเช็ก เครื่องบินขับไล่ F-35A จะมีที่ตั้งปฏิบัติการจากฐานทัพอากาศ Čáslav ในสองฝูงบินรวม 24เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2022/07/f-35a-24.html)

กองทัพอากาศสาธารณรัฐเช็กจะได้รับมอบเครื่องบินขับไล่ F-35A เครื่องแรกของตนในปี 2031 ซึ่งจะเป็นมาตรฐานเครื่องบินขับไล่ F-35A Block 4 ที่มีความก้าวหน้ารุ่นล่าสุด
สาธารณรัฐเช็กได้เข้าร่วมกลุ่มประเทศผู้ใช้งานเครื่องบินขับไล่ F-35 เป็นชาติที่ 18จากทั่วโลก ซึ่งในกลุ่มประเทศยุโรปมากกว่า 10ชาติที่จะประจำการเครื่องบินขับไล่ F-35 มากกว่า 600เครื่องเมื่อเข้าสู่ปี 2030s ครับ

วันอังคารที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2567

สหรัฐฯอนุมัติการขายเครื่องบินขับไล่ F-35A แก่กรีซ และ F-16 Block 70 ใหม่แก่ตุรกี 40เครื่อง

US approves combat aircraft for Greece, Turkey



Greece is set to join the growing group of European and international allies operating the F-35, with the US State Department approving the sale of up to 40 aircraft. (Royal Norwegian Air Force)




The US State Department also approving the sale of 40 new and 79 modernised of the F-16 aircraft to Turkey. (Turkish Air Force)

สหรัฐฯได้อนุมัติความเป็นไปได้ในการขายเครื่องบินขับไล่แก่กรีซและตุรกีที่มีมูลค่ารวมกันเป็นวงเงิน $31.6 billion ในสองเอกสารการแจ้งที่แยกจากกันที่เผยแพร่ในเวลาเดียวกันเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2024
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯได้อนุมัติการขายเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-35A Lightning II Joint Strike Fighter(JSF) ใหม่จำนวน 40เครื่องแก่กรีซ(https://aagth1.blogspot.com/2022/07/f-35a.html)
และเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-16C/D Block 70 ใหม่จำนวน 40เครื่อง และชุดปรับปรุงความทันสมัยเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-16 Fighting Falcon ที่มีอยู่จำนวน 79เครื่องแก่ตุรกี(https://aagth1.blogspot.com/2022/09/eurofighter-typhoon-f-16.html)

"กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯได้ตัดสินใจการอนุมัติความเป็นไปได้ในการขายรูปแบบ Foreign Military Sales(FMS) แก่รัฐบาลกรีซของเครื่องบินขับไล่ F-35 Joint Strike Fighter รุ่นบินขึ้นลงตามแบบ(CTOL: Conventional Take-Off and Landing)
และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องเป็นวงเงินประมาณ $8.6 billion" สำนักงานความร่วมมือความมั่นคงกลาโหมสหรัฐฯ(DSCA: Defense Security Cooperation Agency) กล่าวในเอกสารการอนุมัติแรก
"กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯได้ตัดสินใจการอนุมัติความเป็นไปได้ในการขายรูปแบบ FMS แก่สาธารณรัฐทูร์เคีย(ตุรกี)ของการจัดหาและปรับปรุงความทันสมัยเครื่องบินขับไล่ F-16 และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องเป็นวงเงินประมาณ $23 billion" DSCA สหรัฐฯกล่าวในเอกสารการอนุมัติที่สอง

สำหรับกรีซการอนุมัติครอบคลุมเครื่องบินขับไล่ F-35A จำนวน 40เครื่อง, สิ่งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง, อะไหล่, การฝึก และการสนับสนุน ระบอาวุธต่างๆไม่ได้ถูกรวมในเอกสารแจ้ง โดยน่าจะมีการอนุมัติตามมาภายหลัง
"เครื่องบินขับไล่ F-35 จะชดเชยความล้าสมัยที่เพิ่มขึ้นของเครื่องบินขับไล่แบบอื่นๆของกองทัพอากาศกรีซ(HAF: Hellenic Air Force) เช่น เครื่องบินขับไล่ McDonnell Douglas F-4 Phantom II และเครื่องบินขับไล่ Dassault Mirage 2000
กรีซจะไม่มีความยุ่งยากในการรับมอบสิ่งต่างๆเหล่านี้และนำเข้าประจำการในกองทัพของตน" DSCA สหรัฐฯกล่าว กองทัพอากาศกรีซตั้งใจจะทดแทนเครื่องบินขับไล่ F-16C/D Block 30 รุ่นเก่าจำนวน 40เครื่องของตนด้วย F-35A(https://aagth1.blogspot.com/2022/09/f-16v.html)

สำหรับตุรกีการอนุมัติครอบคลุมเครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดี่ยว F-16C Block 70 จำนวน 32เครื่อง และเครื่องบินขับไล่สองที่นั่ง F-16D Block 70 จำนวน 8เครื่อง, ชุดปรับปรุงความทันสมัยมาตรฐานเครื่องบินขับไล่ F-16V Viper 
และยืดอายุการใช้งาน SLEP(Service Life Extension Program) สำหรับเครื่องบินขับไล่ F-16C/D Block 40 และเครื่องบินขับไล่ F-16C/D Block 50+ จำนวน 79เครื่อง และสิ่งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องและระบบอาวุธจำนวนมาก
(เครื่องบินขับไล่ F-16 Block 70 ติดตั้งระบบขับเคลื่อนเครื่องยนต์ไอพ่น turbofan แบบ General Electric F100-GE-129D ขณะที่เครื่องบินขับไล่ F-16V เป็นการกำหนดแบบหมายถึงการนำโครงสร้างอากาศยานเครื่องเดิมมาสร้างใหม่ที่ได้ทำให้มีมาตรฐานเดียวกัน) 

"ข้อเสนอการขายจะทำให้ทูร์เคีย(ตุรกี)จะขายและปรับปรุงความทันสมัยฝูงเครื่องบินขับไล่ F-16 ตามที่เครื่องบินขับไล่ F-16 รุ่นเก่ากว่าเข้าถึงการสิ้นสุดอายุการใช้งานของพวกมัน เครื่องบินใหม่และซ่อมคืนสภาพเหล่านี้จะมองฝูงบินเครื่องขับไล่พหุภารกิจที่ปรับปรุงความทันสมัยแก่ตุรกี
ทำให้ตุรกีจะมอบการป้องกันน่านฟ้าของตน, สนับสนุนภารกิจ NATO เพื่อรักษาความมั่นคงในภูมิภาคและป้องกันเหล่าพันธมิตร NATO และดำรงการทำงานร่วมกันกับกองกำลังสหรัฐฯและชาติ NATO
กองทัพอากาศตุรกี(Turkish Air Force) มีเครื่องบินขับไล่ F-16 ในประจำการของตนและจะไม่มีความยุ่งยากในการรับมอบและประจำการเครื่องบินเหล่านี้ในกองทัพของตน" DSCA สหรัฐฯกล่าวครับ

วันจันทร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2567

หน่วยรบพิเศษกองทัพบกไทย-สหรัฐฯทำการฝึกผสม Balance Torch 2024 พร้อมกันในภาคอีสานและภาคใต้
















Royal Thai Army (RTA) Special Warfare Command and US Army Special Forces of 1st Special Forces Group (Airborne) held opening ceremony of joint exercise Balance Torch 24-3 at 2nd Infantry Battalion, 3rd Infantry Regiment, 3rd Infantry Division, 2nd Army Area at Suranaree Camp, Nakhon Ratchasima Province, Thailand on 26 January 2024.
Balance Torch 24-3 is taking place from 26 January to 14 February 2024. (Royal Thai Army)








Royal Thai Army Special Warfare Command and US Army 1st Special Forces Group (Airborne) held opening ceremony of joint exercise Balance Torch 24-4 at 4th Special Training Company in Sichon Special Foeces Training Camp, 4th Army Area in Sichon District, Nakhon Si Thammarat Province, Thailand on 27 January 2024.
Balance Torch 24-4 is taking place from 27 January to 4 March 2024. (Royal Thai Army)

ไทย - สหรัฐฯ เปิดการฝึกผสม Balance Torch 24-3
พล.ต. นรธิป โพยนอก ผบ.พล.ร.3 เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกผสมระหว่าง ทบ.ไทย กับ ทบ.สหรัฐฯ รหัส Balance Torch 24-3 ณ สนามฝึก ร.3 พัน.2 ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา 
สำหรับการฝึกดังกล่าวเป็นการฝึกระหว่าง หน่วยรบพิเศษของไทยกับหน่วยรบพิเศษสหรัฐฯ โดยกองทัพบกได้มอบหมายให้ กองทัพภาคที่ 2 โดย กองพลทหารราบที่ 3 เป็นหน่วยรับผิดชอบหลัก 
และได้มอบหมายให้ กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 3 จัดการฝึก ระหว่างวันที่ 26 ม.ค. - 14 ก.พ. 67 ทั้งการฝึกในที่ตั้ง และการฝึกนอกที่ตั้ง 
เพื่อพัฒนาทักษะและเพิ่มพูนขีดความสามารถด้านการปฏิบัติการพิเศษ รวมถึงเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยรบพิเศษทั้งสองประเทศ
26/1/67

Balance Torch 2024 เพิ่มขีดความสามารถการรบพิเศษ กองทัพบกไทย-สหรัฐฯ
วันที่ 27 มกราคม 2567 เวลา 10.00 น. พลตรี อภินันท์  แจ่มแจ้ง ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 ร่วมพิธีเปิดการฝึกผสม กองทัพบกไทย - กองทัพบกสหรัฐ รหัส Balance Torch 24 – 4 (ครั้งที่ 4 ปี 2024) 
ซึ่งเป็นการฝึกเพื่อพัฒนาความเข้าใจต่อแนวทางการปฏิบัติของหน่วยปฏิบัติการพิเศษระหว่างกองทัพบกไทย และกองทัพบกสหรัฐ เพิ่มพูนขีดความสามารถในการปฏิบัติการพิเศษ 
ทั้งยังเป็นการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกองทัพบกไทย และกองทัพบกสหรัฐ โดยมี พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานพิธี ณ กองร้อยฝึกรบพิเศษที่ 4 อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช

พิธีเปิดการฝึกผสม Balance Torch 2024 ระหว่างกองทัพบกไทย(RTA: Royal Thai Amy) และกองทัพบกสหรัฐฯ(US Army) ในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๗(fiscal year FY2024) ได้ถูกแบ่งเป็นสองการฝึกคือการฝึกผสม Balance Torch 24-3 และการฝึกผสม Balance Torch 24-4
การฝึกผสม Balance Torch 24-3 ได้มีพิธีเปิดเมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม พ.ศ.๒๕๖๗(2024) ณ สนามฝึกกองพันทหารราบที่๒ กรมทหารราบที่๓ ร.๓ พัน.๒ กองพลทหารราบที่๓ พล.ร.๓ กองทัพภาคที่๒ ทภ.๒ ในค่ายสุรนารี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา เป็นหน่วยรับผิดชอบหลัก
การฝึกผสม Balance Torch 24-4 มีพิธีเปิดเมื่อวันที่ ๒๗ มกราคม พ.ศ.๒๕๖๗ ณ กองร้อยฝึกรบพิเศษที่๔ ค่ายฝึกรบพิเศษสิชล อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีกองพันทหารราบที่๒ กรมทหารราบที่๑๕ ร.๒ พัน.๑๕ กองพลทหารราบที่๕ พล.ร.๕ กองทัพภาคที่๔ ทภ.๔ เป็นหน่วยรับผิดชอบ

การฝึกผสม Balance Torch 24-3 ที่มีขึ้นระหว่างวันที่ ๒๖ มกราคม-๑๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๗ ในพื้นที่กองทัพภาคที่๒ ทางภาคอีสานของไทย และการฝึกผสม Balance Torch 24-4 ที่มีขึ้นระหว่างวันที่ ๒๗ มกราคม-๔ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๗ ในพื้นที่กองทัพภาคที่๔ ทางภาคใต้ของไทย
เป็นการฝึกร่วมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการปฏิบัติการพิเศษ(Special Operation) ร่วมกันระหว่างหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ รพศ.กองทัพบกไทย และกองรบพิเศษที่๑(ส่งทางอากาศ)(1st Special Forces Group (Airborne)) หน่วยรบพิเศษกองทัพบกสหรัฐฯ ที่รู้จักในชื่อ "Green Berets"
ในพิธีเปิดจะได้เห็นว่าทหารราบของกองทัพบกไทยมีเครื่องสนามอุปกรณ์และอาวุธที่ทันสมัย เช่นเดียวกับหน่วยรบพิเศษของกองทัพบกไทยที่มีเครื่องสนามและอาวุธและอุปกรณ์ที่ก้าวหน้าเช่น ปืนเล็กสั้น Colt M5 ติดกล้องช่วยเล็ง สวม Tactical Vest ที่ผลิตในไทย และแว่นตาดำนิรภัยกันสะเก็ดครับ

วันอาทิตย์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2567

การส่งมอบเรือฟริเกตชั้น Maharaja Lela LCS ลำแรกของมาเลเซียถูกเลื่อนเป็นปี 2026

Malaysian shipyard pushes back delivery of first LCS to 2026




Maharaja Lela , seen here under construction at Lumut, more than two years after its ceremonial launch. (Malaysia Ministry of Defence)



อู่เรือบริษัท Boustead Naval Shipyard(BNS) มาเลเซียได้เลื่อนกำหนดวันส่งมอบที่คาดการณ์ไว้อีกครั้งสำหรับเรือฟริเกตชั้น Maharaja Lela ลำแรก(https://aagth1.blogspot.com/2023/10/maharaja-lela-lcs.html)
ในโครงการเรือฟริเกต Littoral Combat Ship(LCS) ของกองทัพเรือมาเลเซีย(RMN: Royal Malaysian Navy, TLDM: Tentera Laut Diraja Malaysia)(https://aagth1.blogspot.com/2023/03/10.html)

รายงานที่เผยแพร่โดยคณะกรรมาธิการติดตามการบริหารงบประมาณ(PAC: Public Accounts Committee) ที่จัดตั้งขึ้นโดยรัฐบาลสหพันธรัฐมาเลเซียเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2024 บ่งชี้ว่า
เรือฟริเกต KD Maharaja Lela ขณะนี้จะถูกส่งมอบได้ในเดือนตุลาคม 2026 นี่เป็นความล่าช้าเกือบสองปีจากเป้าหมายกำหนดส่งมอบในเดือนพฤศจิกายน 2024 ที่ถูกวางโครงการไว้ก่อนหน้า

คณะกรรมาธิการติดตามการบริหารงบประมาณร่วมสองฝ่ายจากพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ถูกจัดตั้งขึ้นโดยรัฐบาลมาเลเซียในนครหลวง Putrajaya เพื่อจะทำการสอบสวนหาเหตุผลเบื้องหลังความล่าช้าหลายต่อหลายครั้งเหล่านี้
และนำมาสู่ภาระความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลต่อโครงการเรือฟริเกต LCS ที่มีปัญหา ซึ่งจนถึงตอนนี้ได้ดำเนินการล่าช้าเป็นเวลาหลายต่อหลายปีอย่างมาก(https://aagth1.blogspot.com/2022/08/lcs-maharaja-lela.html)

เรือลำแรกของโครงการเรือฟริเกต LCS ซึ่งจะเข้าประจำการในชื่อเรือฟริเกต KD Maharaja Lela ควรจะถูกส่งมอบให้กองทัพเรือมาเลเซียในปี 2019
ตั้งแต่ถูกจัดตั้งขึ้น คณะกรรมาธิการติดตามการบริหารงบประมาณได้เผยแพร่รายงานการค้นหาความล่าช้าเหล่านี้ของตน ที่ยังได้รับการปรับปรุงต่อรัฐบาลมาเลเซียเกี่ยวกับความคืบหน้าล่าสุดที่มีขึ้นโดยอู่เรือ BNS ในโครงการ LCS

ในรายงานล่าสุดที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2024 คณะกรรมาธิการติดตามการบริหารงบประมาณได้ยกระดับความกังวลของตนขึ้นอีกครั้ง ต่อการเผชิญความล่าช้าอย่างต่อเนื่องโดยโครงการการสร้างเรือและแนะนำว่าตนจะพิจารณาภายใต้ความเข้มงวดมากขึ้น
คณะกรรมาธิการติดตามการบริหารงบประมาณไม่ได้ให้การระบุรายละเอียดใดๆว่าทำไมถึงมีการเลื่อนกำหนดการส่งมอบที่คาดไว้ออกไปเพิ่มอีก 23เดือนขึ้น

แต่คณะกรรมาธิการติดตามการบริหารงบประมาณกล่าวในรายงานของตนว่า มันจะถูกนำเสนอการค้นหาและให้คำแนะนำของตนในสภาล่างของรัฐสภามาเลเซียในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2026
โดยมีพื้นฐานจากแบบเรือคอร์เวต Gowind ของบริษัท Naval Group ฝรั่งเศส เดิมโครงการ LCS ตั้งใจจะสร้างเรือ 6ลำในมาเลเซียต่อมาลดเหลือ 5ลำ ตั้งแต่มีพิธีปล่อยเรือลำแรก KD Maharaja Lela ลงน้ำในเดือนสิงหาคม 2017 ไม่มีเรือลำใดที่ถูกสร้างเสร็จแม้แต่ลำเดียวจนถึงขณะนี้ครับ

วันเสาร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2567

อินโดนีเซียลงนามจัดหาอาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำ Atmaca ตุรกี 45นัด

Indonesia awards contract for 45 Atmaca anti-ship missile rounds



An Atmaca missile seen here being launched from the Turkish corvette TCG Kınalıada. (Roketsan)


Indonesia looks set to be the first export customer of the missile. (PT PAL Indonesia)

<iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/BEJ0fJbWzSg" frameborder="0" allow="accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture; web-share" allowfullscreen></iframe>

<iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/JWl5hn4Ui2w" frameborder="0" allow="accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture; web-share" allowfullscreen></iframe>

อินโดนีเซียได้ประกาศสัญญากับบริษัท PT Republik Defensindo อินโดนีเซียเพื่อจะจัดหาอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้นต่อต้านเรือผิวน้ำ Atmaca จากตุรกีชุดแรก Janes ได้รับข้อมูลจากหลายแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดในเรื่องนี้
สัญญานี้ซึ่งครอบคลุมการจัดซื้อจัดจ้างอาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำ Atmaca จำนวน 45นัด และหน่วยแท่นยิงและอุปกรณ์ควบคุมผู้ใช้งานที่เกี่ยวข้อง(https://aagth1.blogspot.com/2023/08/merah-putih.html)

เป็นการปูทางสำหรับกองทัพเรืออินโดนีเซีย(Indonesian Navy, TNI-AL: Tentara Nasional Indonesia-Angkatan Laut) ที่จะเป็นลูกค้าส่งออกรายแรกของอาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำ Atmaca ที่พัฒนาโดยตุรกี
Atmaca("เหยี่ยว", Hawk ในภาษาตุรกี) เป็นอาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำที่พัฒนาภายในประเทศแบบแรกของตุรกีที่ถูกริเริ่มเป็นครั้งแรกเพื่อลดการพึ่งพาอาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำ RGM-84/AGM-84 Harpoon สหรัฐฯของกองทัพเรือตุรกี(Turkish Naval Forces)

อาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำ Atmaca เป็นการพัฒนาร่วมกันโดยบริษัท Roketsan ตุรกี และบริษัท Aselsan ตุรกี และบริษัท Kale Arge ตรุกีผู้ผลิตเครื่องยนต์ turbine
งานพัฒนาโครงการอาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำ Atmaca ได้เริ่มต้นในปี 2009 และ PT Republik Defensindo อินโดนีเซียทำหน้าที่เป็นตัวกลางสำหรับระบบอาวุธในอินโดนีเซีย

อาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำ Atmaca แต่ละนัดมีน้ำหนัก 750kg และประกอบด้วยส่วนโครงสร้างอากาศยานอาวุธปล่อยนำวิถีความยาว 5.2m โดยมีปีกกว้าง 1.4m และหัวรบระเบิดแรงสูงหนัก 220kg
สามารถโจมตีเป้าหมายที่ระยะไกลเกิน 220km ได้ สามารถจะนำวิถีด้วยระบบนำวิถี INS(Inertial Navigation System) และดาวเทียม GPS(Global Positioning System) ขณะบินโคจร และพุ่งเข้าหาเป้าหมายโดยหัวค้นหา radar

ตุรกีดำเนินการทดสอบยิงอาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำ Atmaca ด้วยหัวรบจริงเป็นครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 และถูกยิงจากเรือคอร์เวตชั้น Ada เรือคอร์เวต F-514 TCG Kınalıada
ในเดือนมิถุนายน 2021 อาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำ Atmaca ได้เสร็จสิ้นการทดสอบการรับรองหลังจากประสบความสำเร็จในการทดสอบยิงหลายครั้ง ซึ่งนำไปสู่การเริ่มต้นสายผลิตจำนวนมาก

กองทัพเรือตุรกีประกาศในเดือนสิงหาคม 2023 ตนมีความตั้งใจที่จะนำอาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำ Atmaca ติดตั้งกับเรือรบ 11ลำของตนเช่น เรือคอร์เวตชั้น Ada และเรือฟริเกตชั้น Istanbul(https://aagth1.blogspot.com/2024/01/istanbul.html
สำหรับกองทัพเรืออินโดนีเซียเป็นที่เข้าใจว่าอาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำ Atmaca จะได้รับการติดตั้งกับเรือรบของตนหลายแบบ รวมถึงเรือฟริเกตชั้น Merah Putih ที่ขณะนี้กำลังสร้างโดย PT PAL Indonesia รัฐวิสาหกิจผู้สร้างเรืออินโดนีเซียครับ

วันศุกร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2567

กองทัพอากาศบรูไนรับมอบเครื่องบินลำเลียง C295MW ใหม่สองเครื่องแรก

Royal Brunei Air Force receives first two C295MWs





The RBAirF's Airbus 295MW fleet will be used in a strategic and tactical transport capability within the region and beyond. (Airbus)

กองทัพอากาศบรูไน(RBAirF: Royal Brunei Air Force) ได้รับมอบเครื่องบินลำเลียง Airbus C295MW จำนวน 2เครื่องแรกจาก 4เครื่องที่ตนสั่งจัดหาแล้ว(https://aagth1.blogspot.com/2023/10/c295w.html)
เครื่องบินลำเลียง C295MW ได้เดินทางมาถึงศูนย์ความเคลื่อนไหวทางอากาศ(Air Movement Centre) ของกองทัพอากาศบรูไน ณ ฐานทัพอากาศ Rimba เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2024 ตามแถลงการณ์จากกระทรวงกลาโหมบรูไน

บรูไนได้ลงนามสัญญากับบริษัท Airbus Defence and Space SAU ยุโรปสาขาสเปนสำหรับการจัดหาเครื่องบินลำเลียง C295MW จำนวน 4เครื่องเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2022
Janes ได้รายงานก่อนหน้าว่าเครื่องบินลำเลียง C295MW จะทดแทนเครื่องบินลำเลียง Airbus CN235-110M จำนวน 1เครื่องที่ประจำการในกองทัพอากาศบรูไนมาตั้งแต่ปี 1997

เครื่องบินลำเลียง C295MW ได้ถูกกำหนดที่จะมอบขีดความสามารถการลำเลียงพหุภารกิจทางยุทธศาสตร์และทางยุทธวิธีแก่กองทัพอากาศบรูไน(https://aagth1.blogspot.com/2023/12/c295-mpa-c295-msa-16.html)
ตามข้อมูลจากกระทรวงกลาโหมบรูไน เครื่องบินลำเลียง C295MW จะสนับสนุนการปฏิบัติการต่างๆของกองทัพอากาศบรูไนในภูมิภาคและนานาชาติ(https://aagth1.blogspot.com/2023/01/airbus-c295-mpa-2023.html)

ภารกิจการปฏิบัติการของฝูงบินเครื่องบินลำเลียง C295MW รวมถึง "ปฏิบัติการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาสาธารณภัย(HADR: Humanitarian Assistance and Disaster Relief), การส่งกลับทางสายแพทย์(MEDEVAC: Medical Evacuation), 
การอพยพผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบออกจากพื้นที่ขัดแย้ง(NEO: Non-Combatant Evacuation Operation), และปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย(SAR: Search and Rescue)" กระทรวงกลาโหมบรูไนกล่าว

"เครื่องบินยังสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบเพื่อจะปฏิบัติภารกิจได้หลากหลายอย่างเช่น การลำเลียงกำลังพลหรือสัมภาระ, การขนส่งบุคคลสำคัญ VIP, การโดดร่มแบบกระตุกเอง, การโดดร่มแบบสายตรึงประจำที่, การส่งสัมภาระทางอากาศ และ MEDEVAC" กระทรวงกลาโหมบรูไนเสริม
การส่งมอบเครื่องบินลำเลียง C295MW สองเครื่องแรกมีขึ้นเกินหนึ่งเดือนหลังจากกระทรวงกลาโหมบรูไนลงนามการรับรองการทดสอบตรวจรับของลูกค้าสำหรับ C295MW เครื่องแรกเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2023

การทดสอบตรวจรับของลูกค้า(Customer Acceptance Test) เป็นส่วนหนึ่งของข้อกำหนดการตรวจรับที่จะดำเนินการก่อนที่เครื่องบินทำการบินมาถึงบรูไนเพื่อส่งมอบ
เครื่องบินลำเลียง C295MW เครื่องที่สองได้รับการดำเนินการการทดสอบตรวจรับของลูกค้าในเดือนมกราคม 2024 ณ Seville สเปนที่ตั้งของโรงงานอากาศยานทางทหารของบริษัท Airbus ยุโรปครับ

วันพฤหัสบดีที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2567

เครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon เยอรมนีจะติดอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น Brimstone

Germany to equip Eurofighters with Brimstone







Germany is to join Spain and the UK in integrating the Brimstone air-to-surface missile onto its Eurofighter combat aircraft. (Janes/Patrick Allen)

เยอรมนีจะติดตั้งเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon ของตนด้วยอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น MBDA Brimstone รัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีเปิดเผยเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2024(https://aagth1.blogspot.com/2023/07/aim-120c-8-amraam.html)
การเปิดเผยในเอกสารงบประมาณกองทัพเยอรมนี(Bundeswehr) ที่เปิดเผยโดยหนังสือพิมพ์ Der Spiegel กองทัพอากาศเยอรมนี(Luftwaffe) ตั้งใจที่จะจัดหาอาวุธปล่อยนำวิถีสร้างเสียหายข้างเคียงต่ำ(low-yield) จำนวน 274 นัดเพื่อติดตั้งกับฝูงเครื่องบินขับไล่ Eurofighter ของตน

โดยสัญญาจะได้รับการประกาศในไตรมาสที่สองของปี 2024 ไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมของแผนการจัดซื้อจัดจ้างถูกเปิดเผย แต่อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น Brimstone ต้องการชุดขีดความสามารถ Phase 2 Enhancement(P2E)
อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น Brimstone จะมีความเข้ากันได้กับเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon Tranche 2 จำนวน 70เครื่อง, Tranche 3 จำนวน 31เครื่อง และ Tranche 4(Project Quadriga) จำนวน 38เครื่องทั้งหมดของกองทัพอากาศเยอรมนี

เยอรมนีเข้าร่วมกับสเปนและสหราชอาณาจักรในการเลือกอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น Brimstone สำหรับเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon ของตน(https://aagth1.blogspot.com/2023/07/eurofighter-typhoon.html)
โดยอิตาลีชาติหุ้นส่วนประเทศที่สี่ของกิจการค้าร่วม Eurofighter ยังไม่ได้ประกาศการตัดสินใจเกี่ยวกับอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น Brimstone ในขณะนี้(https://aagth1.blogspot.com/2023/02/eurofighter-typhoon-tranche-1.html)

ประเทศส่งออกนอกกลุ่มชาติหุ้นส่วนผู้พัฒนาคือกาตาร์ก็เลือกจัดหาอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น Brimstone สำหรับเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon ของตนเช่นกัน(https://aagth1.blogspot.com/2022/08/eurofighter-typhoon-4.html)
แม้ว่าประเทศส่งออกอีกสี่รายคือ ออสเตรีย(https://aagth1.blogspot.com/2022/10/f-35-eurofighter-typhoon.html), คูเวต, โอมาน และซาอุดีอาระเบีย(https://aagth1.blogspot.com/2024/01/eurofighter-typhoon.html) ยังไม่มีอาวุธปล่อยนำวิถี Brimstone ใช้งาน

แม้ว่าไม่ได้ถูกเปิดเผยในเอกสารงบประมาณ มาตรฐานของอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น Brimstone ที่จะถูกบูรณาการโดยกองทัพอากาศเยอรมนีน่าจะเป็นรุ่น 3A ล่าสุดที่ถูกติดตั้งกับเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon ของสเปนและสหราชอาณาจักรแล้วเช่นเดียวกัน
อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น Brimstone 3A มีวัตถุประสงค์ที่จะทยอยทดแทนอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น Brimstone 2 ที่ติดตั้งกับเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon ไปเรื่อยๆ

ปัจจุบันมีเพียงกองทัพอากาศสหราชอาณาจักร(RAF: Royal Air Force) เท่านั้นที่ติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น Brimstone 3A มาตรฐานล่าสุดบนเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon
โฆษกของบริษัท MBDA ยุโรปกล่าวกับ Janes ก่อนหน้านี้ว่า เครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon กองทัพอากาศสเปน(Spanish Air Force, EdAE: Ejército del Aire Español) จะติดตั้ง Brimstone 3A รุ่นล่าสุดด้วยครับ