วันจันทร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2568

กองทัพเรือไทยและจีนทำพิธีเปิดการฝึกผสม Blue Strike 2025




Blue Strike 2025: On March 25, Royal Thai Navy (RTN) naval taskforce, FFG-455 HTMS Chao Phraya and FFG-457 HTMS Kraburi, the Chao Phraya-class frigates, OPV-552 HTMS Prachuap Khiri Khan, the Krabi-class offshore patrol vessel and LPD-791 HTMS Angthong landing platform dock (LPD) arrived at a military port in south China's Zhanjiang city 
for China-Thailand Blue Strike 2025 joint naval training exercise, which is to be held from late March to early April. (China Military, Royal Thai Navy)




Royal Thai Navy LPD-791 HTMS Angthong landing platform dock (LPD) with Royal Thai Marine Corps (RTMC) units departed at Laem Thian Pier, Sattahip naval base in Chonburi province, Gulf of Thailand on 19 March 2025 for joint exercise BLUE STRIKE 2025 at Zhanjiang naval base, People's Liberation Army Navy (PLAN) Southern Theater Command Navy (STCN) headquarters, 
People's Republic of China (PRC) on 18 March to 10 Arpil 2025. (Royal Thai Navy)




The exercise Blue Strike 2025 opening ceremony on 26 March 2025 at Maxie naval port and Nan Ting Camp People's Liberation Army Navy Marine Corps (PLANMC) 1st and 2nd Marine Brigades, Zhanjiang, China. 
China and Thailand officially commenced their sixth joint maritime exercise, "Blue Strike-2025", on Wednesday morning at a military port in Zhanjiang, South China's Guangdong Province, with the drills set to continue until early April. (Royal Thai Marine Corps)





พิธีส่งหมู่เรือฝึก Blue Strike 2025
วันที่ 19 มีนาคม 2568 เวลา 0839 น. พลเรือเอก ณัฏฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นประธานในพิธีส่งหมู่เรือฝึก Blue Strike 2025 โดยมี พลเรือตรี อารยะ  สิงหเสมานนท์ ผู้บังคับการหมู่เรือฝึก Blue Strike 2025 ให้การต้อนรับ ณ เรือหลวงอ่างทอง ท่าเรือแหลมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
กองทัพเรือได้อนุมัติจัดกำลังเดินทางไปเข้าร่วมการฝึกผสม Blue Strike 2025 ณ เมืองจ้านเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่าง 18 มีนาคม - 10 เมษายน 2568 ประกอบด้วย เรือหลวงอ่างทอง กำลังพลนาวิกโยธิน และนักเรียนนายเรือชั้นใหม่ โดยการฝึกในครั้งนี้เป็นการฝึกผสม ในกรอบทวิภาคี ทำการฝึกระหว่างฝ่ายไทย และฝ่ายสาธารณรัฐประชาชนจีน
เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่าง กองทัพเรือไทย - กองทัพเรือ กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ที่มุ่งเน้นการฝึกการปฏิบัติการผสมระดับยุทธวิธีทางเรือ และ นาวิกโยธิน ประกอบด้วยการฝึกแลกเปลี่ยนประสบการณ์ (Cross Training Exercise : CTX) การฝึกแลกเปลี่ยนผู้ชำนาญการเฉพาะทาง (Subject Matter Expert Exchange : SMEE) การฝึกปฏิบัติการร่วมในทะเล 
โดยเฉพาะการบรรเทาสาธารณภัย (Humanitarian Assistance and Disaster Relief : HADR) โดยแบ่งการฝึกออกเป็น 2 ส่วน คือ การฝึกในท่า (Harbour Phase) และ การฝึกในทะเล (Sea Phase) 

พิธีเปิดการฝึกผสม Blue Strike 2025 ณ เมืองจ้านเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน
วันที่ 26 มี.ค.68  เวลา 09.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของจีน กองทัพเรือสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้จัดพิธีเปิดการฝึกผสม Blue Strike 2025 ณ ท่าเทียบเรือ Maxie เมืองจ้านเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีรองผู้บัญชาการทหารเรือ สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นประธานฝ่ายกองทัพเรือสาธารณรัฐประชาชนจีน 
และ พลเรือโท กรวิทย์  ฉายะรถี รองผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ผู้แทนกองทัพเรือ เป็น ประธานฝ่ายกองทัพเรือไทย พร้อมด้วย พลเรือตรี อารยะ สิงหเสมานนท์ ผู้บัญชาการกองเรือยกพลขึ้นบก และยุทธบริการ ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการฝึกผสม Blue Strike 2025 และกำลังพลหมู่เรือฝึกผสม Blue Strike 2025 รวมทั้งนักเรียนนายเรือได้เข้าร่วมพิธีเปิดการฝึก
สำหรับการฝึกในครั้งนี้เป็นการฝึกผสมระดับทวิภาคี ระหว่างกองทัพเรือไทย กับ กองทัพเรือสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน ในด้านการฝึกการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ (HADR) และการปฏิบัติการทางเรือ 
รวมทั้งการฝึกทางยุทธวิธีของนาวิกโยธินในระดับหน่วยทหารขนาดเล็ก ตลอดจนเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีและความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกองทัพเรือทั้ง 2 ชาติ

เมื่อ ๒๕ มี.ค.๒๕๖๘ หน่วยฝึกนาวิกโยธิน ที่เข้าร่วมการฝึกผสม ทร.ไทย - ทร.สปจ. (BLUE STRIKE 2025) ณ เมืองจ้านเจี้ยง มณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน 
ได้เคลื่อนย้ายกำลังพลจาก ร.ล.อ่างทอง ณ ท่าเรือ หม่าเสี่ย เมืองจ้านเจียง ไปยัง ณ ค่ายหนานถิง เมืองจ้านเจียง โดยมีพิธีต้อนรับอย่างสมเกียรติ เป็นกันเอง ในการนี้ การฝึกผสมฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยน เรียนรู้ ระหว่างหน่วยทหารนาวิกโยธิน ทั้ง ๒ ประเทศ และเน้นการฝึกทางด้านองค์บุคคล องค์ยุทธวิธี และความรู้ที่ได้รับจะนำไปพัฒนาขีดความสามารถ เพิ่มทักษะให้กับทหารนาวิกโยธิน ต่อไป 

การฝึกผสม Blue Strike 2025 ระหว่างกองทัพเรือไทย(RTN: Royal Thai Navy) และกองทัพเรือปลดปล่อยประชาชนจีน(PLAN: People's Liberation Army Navy) ซึ่งเป็นการฝึกครั้งที่๖ ได้มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๘(2025) ณ ท่าเทียบเรือ Maxie(麻斜, หม่าเสี่ย) เมือง Zhanjiang(湛江, จ้านเจียง) มณฑล Guangdong(广东, กว่างตง) สาธารณรัฐประชาชนจีน 
การฝึกผสม Blue Strike เป็นการฝึกทวิภาคีที่จัดขึ้นทุกสองปีโดยสลับกันเจ้าภาพระหว่างไทยและจีน โดยการฝึกผสม Blue Strike 2023 ซึ่งเป็นการฝึกครั้งที่๕ มีกองทัพเรือไทยเป็นเจ้าภาพทำการฝึกที่อ่าวไทยในระหว่างวันที่ ๑-๑๐ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๖(2023)(https://aagth1.blogspot.com/2023/09/type-039g-blue-strike-2023.html, https://aagth1.blogspot.com/2023/09/blue-strike-2023-open.html)

การฝึกผสม Blue Strike 2025 ปีนี้เป็นครั้งแรกที่กองทัพเรือไทยได้จัดหมู่เรือฝึกนักเรียนนายเรือชั้นปีที่ ๑-๔ ประจำปีการศึกษา พ.ศ.๒๕๖๗(2024) จำนวน ๓๓๘นาย ของโรงเรียนนายเรือ(RTNA: Royal Thai Naval Academy) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งการฝึกภาคปฏิบัติในทะเลต่างประเทศระหว่างวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์- ๑๑ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๘ ไปพร้อมกันด้วย
หมู่เรือฝึกนักเรียนนายเรือที่ประกอบด้วยเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชุดเรือหลวงกระบี่ เรือหลวงประจวบคีรีขันธ์, เรือฟริเกตชุดเรือหลวงเจ้าพระยา ร.ล.เจ้าพระยา และเรือหลวงกระบุรี ได้ออกเดินทางจากท่าเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ในอ่าวไทยเมื่อวันที่ ๖ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๘

หมู่เรือฝึกนักเรียนนายเรือชั้นปีที่ ๑-๔ ปีการศึกษา ๒๕๖๗ ร.ล.กระบี่, ร.ล.เจ้าพระยา และ ร.ล.กระบุรี ได้เดินทางมาถึงท่าเรือ Subic ฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ ๑๑ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๘ และต่อมาออกเดินทางไปถึงท่าเรือ White Beach หมู่เกาะ Okinawa ญี่ปุ่นเมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๘ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ ๒๑ปีที่หมู่เรือของกองทัพเรือไทยเดินทางมาเยือน Okinawa
พิธีส่งหมู่เรือฝึก เรือยกพลขึ้นบกอู่ลอย เรือหลวงอ่างทอง พร้อมหน่วยฝึกนาวิกโยธินไทย(RTMC: Royal Thai Marine Corps) ที่จัดกำลังรวมถึง กองพันลาดตระเวนนาวิกโยธิน พัน.ลว.นย.(Marine Reconnaissance Battalion), กองพันรถสะเทินน้ำสะเทินบก พัน.รนบ.นย.(Marine Assault Amphibian Vehicle Battalion) และกองพันรถถัง พัน.ถ.นย.(Marine Tank Battalion) ออกจากท่าเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ ได้มีขึ้นเมื่อวันที่ ๑๙ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๘

เรือหลวงอ่างทอง พร้อมหน่วยฝึกนาวิกโยธินไทย และหมู่เรือฝึกนักเรียนนายเรือ ร.ล.กระบี่, ร.ล.เจ้าพระยา และ ร.ล.กระบุรี ได้เดินทางมาถึงท่าเทียบเรือ Maxie เมือง Zhanjiang เมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๘ และหน่วยฝึกนาวิกโยธินไทยได้เดินทางเข้าที่ตั้งค่าย Nan Ting(หนานถิง) ของ นาวิกโยธินกองทัพเรือปลดปล่อยประชาชนจีน(PLANMC: People's Liberation Army Navy Marine Corps) ในวันเดียวกัน
เมือง Zhanjiang เป็นที่ตั้งของกองบัญชาการกองทัพเรือภาคใต้(STCN: Southern Theater Command Navy) หรือที่รู้จักในชื่อกองเรือทะเลจีนใต้(South Sea Fleet) และเป็นที่ตั้งของกองพลน้อยนาวิกโยธินที่๑(1st Marine Brigade) และกองพลน้อยนาวิกโยธินที่๒(2nd Marine Brigade) กองทัพเรือปลดปล่อยประชาชนจีนซึ่งเป็นเจ้าภาพในการฝึก Blue Strike 2025 ที่จะดำเนินไปจนถึงวันที่ ๒ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๘ ครับ

วันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2568

กองทัพอากาศไทย-สหรัฐฯ-สิงคโปร์เสร็จสิ้นการฝึกผสม Cope Tiger 2025












The Royal Thai Air Force (RTAF), the United States Air Force (USAF) and the Republic of Singapore Air Force (RSAF) held closing ceremony of the exercise Cope Tiger 2025 at Wing 1 Korat RTAF base on 28 March 2025. 31st iteration of the exercise was concluded during 16 to 28 March 2025. (RTAF, RSAF, and USAF)

พิธีปิดการฝึกผสม COPE TIGER 2025
วันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2568 พลอากาศเอก พันธ์ภักดี  พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ พร้อมด้วย Major General Kelvin Fan ผู้บัญชาการทหารอากาศสาธารณรัฐสิงคโปร์ และ Major General Christopher J. Sheppard ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศสหรัฐอเมริกา ภาคพื้นแปซิฟิก ด้านการป้องกันประเทศทางอากาศ ร่วมเป็นประธานในพิธีปิดการฝึกผสม COPE TIGER 2025 ณ กองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา

การฝึกผสมโคปไทเกอร์ (Multi-Lateral Exercise Cope Tiger) ถือได้ว่าเป็นการฝึกผสมทางอากาศ ที่มีการสนธิกำลังทางอากาศใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีการนำกำลังทางอากาศจาก 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย สาธารณรัฐสิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา เข้าร่วมการฝึก มีการพัฒนารูปแบบการฝึกให้เข้ากับสถานการณ์การสู้รบในปัจจุบันให้ทันสมัย โดยมีการสมมติสถานการณ์เสมือนจริง 
ทั้งด้านการควบคุมและสั่งการ การฝึกยุทธวิธีการรบระหว่างเครื่องบินรบต่างแบบ การฝึกโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายภาคพื้นดินที่มีการต่อต้านจากอาวุธของหน่วยต่อสู้อากาศยานภาคพื้น การฝึกด้านการข่าวกรองยุทธวิธีโดยใช้อากาศยานไร้คนขับ และการให้การสนับสนุนของหน่วยสนับสนุนต่าง ๆ 
โดยมีวัตถุประสงค์ในการฝึกครั้งนี้ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถของหน่วยบิน รวมถึงหน่วยต่อสู้อากาศยานที่เข้าร่วมการฝึกฯ และเพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการปฏิบัติการทางอากาศผสม และเพิ่มทักษะของผู้เข้าร่วมการฝึกฯ ไม่ว่าจะเป็นด้านยุทธวิธีและการสื่อสาร รวมไปถึงการดำเนินกลยุทธ์ โดยเฉพาะการวางแผนทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ อีกทั้งยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างมิตรประเทศที่เข้าร่วมการฝึกอีกด้วย

การฝึกผสมโคปไทเกอร์ 2025 ในครั้งนี้มี นาวาอากาศเอก กฤษณะ เปี่ยมศรี ผู้อำนวยการกองอำนวยการฝึกผสม COPE TIGER 2025 กองทัพอากาศ, COL.Lee Yew Chern Benjamin ผู้อำนวยการกองอำนวยการฝึกผสม COPE TIGER 2025 กองทัพอากาศสาธารณรัฐสิงคโปร์ และ Lt.Col.Daniel Trueblood ผู้อำนวยการกองอำนวยการฝึกผสม COPE TIGER 2025 ฝ่ายกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา 
และในการฝึกฯ ครั้งนี้ นอกจากกำลังพลและยุทโธปกรณ์จากกองทัพอากาศแล้ว ยังมีกำลังพลจากกองทัพบก กองทัพเรือ ร่วมทั้งเจ้าหน้าที่จาก บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กระทรวงคมนาคม เข้าร่วมการฝึกฯ 

นอกจากนี้ ยังได้จัดให้มีกิจกรรมชุมชนสัมพันธ์และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้เข้าร่วมการฝึกทั้ง 3 ประเทศ และประชาชนในพื้นที่การฝึกฯ ได้แก่ การสร้างและปรับปรุงโรงอาหาร การให้บริการด้านการแพทย์ โดยคณะแพทย์จากทั้ง 3 ประเทศ ในการตรวจรักษาโรคทั่วไป การบริการตรวจทันตกรรม การบริการตรวจวัดสายตา บริการตัดผม การมอบอุปกรณ์การศึกษาและอุปกรณ์กีฬา 
การแสดงเครื่องบินบังคับวิทยุ อีกทั้งยังการแสดงดนตรีของวงดุริยางค์ทหารอากาศร่วมกับวงดุริยางค์กองทัพสิงคโปร์  ณ โรงเรียนบ้านเขาขวาง ตำบลโคกสลุง อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2568 และโรงเรียนบ้านโป่งแมลงวัน ตำบลโคกกรวด อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2568 
รวมถึงการลงพื้นที่ของกองอำนวยการฝึกผสมทั้ง 3 ชาติ เพื่อพบปะและจัดกิจกรรมร่วมกับประชาชน รอบที่ตั้ง กองบิน 1 พร้อมทั้งมอบอุปกรณ์การศึกษา และกล่องยาสามัญประจำบ้าน ให้โรงเรียน และนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และประชาชนในชุมชน

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การฝึกผสม COPE TIGER ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างความพร้อมรบและการทำงานร่วมกันของทั้ง 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย สาธาณรัฐสิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา กองทัพอากาศขอขอบคุณ ประชาชน และหน่วยงานของรัฐที่ให้การสนับสนุนกองทัพอากาศในการฝึกฯ เพื่อเสริมขีดความสามารถในการปกป้องอธิปไตย เสมอมา

การฝึกภาคสนาม(FTX: Field Training Exercise) ของการฝึกผสมทางอากาศ Cope Tiger 2025 ระหว่างกองทัพอากาศไทย(RTAF: Royal Thai Air Force), กองทัพอากาศสิงคโปร์(RSAF: Republic of Singapore Air Force) และกองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force) ซึ่งมีพิธีเปิดเมื่อวันที่ ๑๖ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๘(2025) ณ กองบิน๑ โคราช โดยดำเนินไประหว่างวันที่ ๑๖-๒๘ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๘ 
ณ กองบิน๑ จังหวัดนครราชสีมา, กองบิน๒ โคกกระเทียม และ สนามฝึกใช้อาวุธทางอากาศชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี และกองบิน๒๓ จังหวัดอุดรธานี ได้เสร็จสิ้นลงแล้วตามพิธีปิดเมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๘ ณ กองบิน๑ โคราช ด้วยยการมีส่วนรวมของกำลังพลมากกว่า ๑,๘๔๐นาย อากาศยานกว่า ๘๔เครื่อง และระบบป้องกันภัยทางอากาศอีก ๑๙ระบบ

อากาศยานของกองทัพอากาศไทยที่เข้าร่วมการฝึก Cope Tiger 2025 ได้รวมถึง เครื่องบินขับไล่แบบที่๑๙/ก บ.ข.๑๙/ก Lockheed Martin F-16A/B Block 15 OCU และ F-16A/B ADF ฝูงบิน๑๐๓ กองบิน๑ และเครื่องบินขับไล่แบบที่๑๙/ก บ.ข.๑๙/ก F-16AM/BM EMLU ฝูงบิน๔๐๓ กองบิน๔ ตาคลี, เครื่องบินขับไล่แบบที่๒๐/ก บ.ข.๒๐/ก SAAB Gripen C/D ฝูงบิน๗๐๑ กองบิน๗ สุราษฎร์ธานี, 
เครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศแบบที่๑ บ.ค.๑ Saab 340 ERIEYE AEW(Airborne Early Warning) ฝูงบิน๗๐๒ กองบิน๗, เครื่องบินขับไล่แบบที่๑๘ข/ค บ.ข.๑๘ข/ค Northrop F-5E/F TH Super Tigris ฝูงบิน๒๑๑ กองบิน๒๑ อุบลราชธานี, เครื่องบินขับไล่และฝึกแบบที่๒ บ.ขฝ.๒ Korea Aerospace Industries(KAI) T-50TH Golden Eagle ฝูงบิน๔๐๑ กองบิน๔ ตาคลี,

เครื่องบินลำเลียงแบบที่๘ บ.ล.๘ Lockheed Martin C-130H/C-130H-30 Hercules ฝูงบิน๖๐๑ กองบิน๖ ดอนเมือง, และเฮลิคอปเตอร์แบบที่๑๑ ฮ.๑๑ EC725(Airbus Helicopters H225M) ฝูงบิน๒๐๓ กองบิน๒ ในส่วนกองทัพอากาศสหรัฐฯเป็นครั้งแรกที่นำเครื่องบินขับไล่ F-16C/D สังกัดฝูงบินขับไล่โพ้นทะเลที่77(77th Expeditionary Fighter Squadron) จากฐานทัพอากาศ Shaw AFB มลรัฐ South Carolina เข้าร่วมการฝึก
ส่วนกองทัพอากาศสิงคโปร์อากาศยานที่เข้าร่วมการฝึกรวมถึง เครื่องบินขับไล่ Boeing F-15SG Strike Eagle ฝูงบิน149(149 Squadron), เครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-16C/D Block 52 Fighting Falcon ฝูงบิน143(143 Squadron) และ F-16D Block 52+ ฝูงบิน145(145 Squadron), เครื่องบินลำเลียง C-130H Hercules ฝูงบิน122(122 Squadron), 

เครื่องบินแจ้งเตือนทางอากาศ Gulfstream G550 AEW ฝูงบิน111(111 Squadron), เครื่องบินเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศและลำเลียง Airbus A330-200 MRTT ฝูงบิน112(112 Squadron), เฮลิคอปเตอร์ลำเลียง Boeing CH-47F Chinook ฝูงบิน127(127 Squadron), และอากาศยานไร้คนขับ Israel Aerospace Industries(IAI) Heron 1 UAV ฝูงบิน119(119 Squadron) 
การฝึก Cope Tiger 2025 ปีนี้ยังรวมถึงการฝึกหน่วยป้องกันภัยทางอากาศจากภาคพื้น(GBAD:Ground Based Air Defense) ที่บูรณาการการมีส่วนร่วมของกองทัพบกไทย(RTA: Royal Thai Army) รวมถึงปืนใหญ่ต่อสู้อากาศ Oerlikon GDF-007 35mm Skyguard 3 กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่๔ กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่๒(4th Anti-Aircraft Artillery Battalion, 2nd Anti-Aircraft Artillery Regiment)

และกองทัพเรือไทย(RTN: Royal Thai Navy) ที่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นการนำระบบอาวุธนำวิถีพื้นสู่อากาศระยะปานกลางแบบเคลื่อนที่ FK-3 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง สอ.รฝ.(ACDC: Air and Coastal Defence Command)(https://aagth1.blogspot.com/2023/04/fk-3-kronos-radar-accs.html) เข้าร่วมการฝึกกับ ระบบอาวุธต่อสู้อากาศยาน Saab RBS 70 ของกองทัพอากาศสิงคโปร์
และระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ(C-UAS: Counter-Unmanned Aerial System) ในรูปแบบต่างๆที่สนามฝึกใช้อาวุธทางอากาศชัยบาดาลระหว่างวันที่ ๒๓-๒๘ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๘ ด้วย การฝึกผสม Cope Tiger 2025 ระหว่างไทย, สหรัฐฯ และสิงคโปร์เป็นเครื่องหมายที่แสดงถึงความสัมพันธ์ทางทหารที่แข็งแกร่งและยาวนานของทั้งสามชาติเพื่อรักษาความมั่นคงร่วมกันในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกครับ

วันเสาร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2568

โปแลนด์สั่งจัดหารถรบทหารราบ Borsuk ที่พัฒนาในประเทศชุดแรก 111คัน

Poland orders first 111 Borsuk IFVs





A Borsuk IFV displayed at HSW during the contract signing for 111 of the vehicles for Poland on 27 March 2025. (Jakub Link-Lenczowski)

สำนักงานสรรพาวุธ(AA: Armaments Agency) โปแลนด์ภายใต้กระทรวงกลาโหมโปแลนด์ได้สั่งจัดหารถรบทหารราบสายพาน Borsuk IFV(Infantry Fighting Vehicle) ชุดแรกจำนวน 111คันสำหรับกองทัพบกโปแลนด์(Polish Army) 
บริษัท Huta Stalowa Wola(HSW) โปแลนด์ในเครือกลุ่มบริษัท Polish Armaments Group(PGZ) โปแลนด์ได้รับการประกาศสัญญาวงเงิน 6.57 billion Polish zloty($1.69 billion) 

สำหรับการส่งมอบรถรบทหารราบสายพาน Borsuk IFV เพื่อทดแทนรถรบทหารราบสายพาน BWP-1 ที่ล้าสมัย(เป็นการกำหนดแบบของโปแลนด์สำหรับรถรบทหารราบสายพาน BMP-1 ที่สร้างในอดีตสหภาพโซเวียตรัสเซีย)
สัญญาได้รับการลงนามโดยตัวแทนของสำนักงานสรรพาวุธโปแลนด์, HSW โปแลนด์ และ PGZ โปแลนด์ ในนครหลวง Warsaw เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2025 โดยเชิญรัฐมนตรีกลาโหมโปแลนด์ Władysław Kosiniak-Kamysz ร่วมพิธี

ตามข้อมูลจากสำนักงานสรรพาวุธโปแลนด์ สัญญาครอบคลุมการส่งมอบของรถรบทหารราบ Borsuk, ชุดการฝึกและการส่งกำลังบำรุง และการส่งมอบเอกสารทางเทคนิคสำหรับการผลิตจำนวนมากและการทดสอบตรวจรับต่างๆ
รถรบทหารราบ Borsuk IFV ทั้งหมด 111คันคาดว่าจะถูกส่งมอบภายในสิ้นปี 2029 โฆษกสำนักงานสรรพาวุธโปแลนด์ พันโท Grzegorz Polak กล่าวกับ Janes ในพิธีลงนามสัญญาว่ารถคันแรกควรจะถูกส่งมอบได้ภายในสิ้นปี 2025

ข้อมูลนี้ได้รับการยืนยันโดยตัวแทนบริษัท HSW อย่างไรก็ตามเนื่องจากสัญญา จำนวนที่แท้จริงของรถรบทหารราบ Borsuk IFV ซึ่งขณะนี้ได้รับการประกอบแล้วไม่สามารถที่จะถูกเปิดเผยได้
โรงงานของบริษัท HSW ใน Stalowa Wola ได้รับการขยายขึ้นเพื่อที่จะเพิ่มขีดความสามารถการผลิตของตน ทั้งสายการประกอบรถแคร่ฐานและป้อมปืนขณะนี้มีขีดความสามารถที่จะส่งมอบทั้งรถรบทหารราบ Borsuk IFV

รวมถึงปืนใหญ่อัตตาจรสายพาน Krab SPH(Self-Propelled Howitzer)(https://aagth1.blogspot.com/2022/07/k2-k9.html) และเครื่องยิงลูกระเบิดอัตตาจรล้อยาง Rak 8x8
คำสั่งจัดหาเป็นสัญญาแรกภายใต้ข้อตกลงกรอบการทำงานสำหรับรถรบทหารราบ Borsuk IFV จำนวน 1,400คันที่ได้รับการลงนามเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2023(https://aagth1.blogspot.com/2023/03/borsuk.html)

ภายใต้ข้อตกลงกระทรวงกลาโหมโปแลนด์คาดว่าจะสั่งจัดหารถรบทหารราบ Borsuk IFV จำนวน 1,000คัน เพิ่มเติมด้วยระบบรถสายพานรุ่นอื่นๆจำนวน 400 คันอย่างเช่น รถเกราะสายพานที่บังคับการ Oset, รถเกราะสายพานลาดตระเวน Żuk และรถส่งกลับสายแพทย์ Gotem(medevac: medical evacuation)
ในรุ่นรถรบทหารราบ Borsuk IFV ติดตั้งป้อมปืน remote แบบ ZSSW-30 ติดปืนใหญ่กล Bushmaster ขนาด 30mm พร้อมปืนกลร่วมแกน UKM-2000 ขนาด 7.62mm และแท่นยิงอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถัง Spike-LR สองท่อยิงครับ

วันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568

ออสเตรเลียรับมอบจรวดหลายลำกล้องอัตตาจรล้อยาง M142 HIMARS สหรัฐฯชุดแรกจาก 42ระบบ

Australian Army takes delivery of first HIMARSs





The Australian Army has taken delivery of two out of 42 HIMARS launchers procured from the United States. (Commonwealth of Australia)

กระทรวงกลาโหมออสเตรเลียได้ประกาศการส่งมอบอย่างเป็นทางการของระบบจรวดหลายลำกล้องอัตตาจรล้อยาง M142 HIMARS( High-Mobility Artillery Rocket System) จำนวน 2ระบบแรกจาก 42ระบบ
ที่ผลิตโดยบริษัท Lockheed Martin สหรัฐฯ(https://aagth1.blogspot.com/2024/11/leopard-2a8-m142-himars.html) แก่กองทัพบกออสเตรเลีย(Australian Army)

ตามแถลงการณ์ที่ออกโดยกระทรวงกลาโหมออสเตรเลียเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2025 ระบบจรวดหลายลำกล้องอัตตาจรล้อยาง M142 HIMARS จะที่ที่ตั้ง ณ กองพลน้อยการยิงที่10(10th Fires Brigade) กองทัพบกออสเตรเลียใน Adelaide
อ้างอิงจากรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมกลาโหมและการส่งมอบขีดความสามารถออสเตรเลีย Pat Conroy แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมออสเตรเลียได้เน้นย้ำว่า

ระบบจรวดหลายลำกล้องอัตตาจรล้อยาง M142 HIMARS ของกองทัพบกออสเตรเลียมีกำหนดที่จะมีความพร้อมปฏิบัติการเต็มอัตราในสี่ปีก่อนหน้ากำหนดการ ตามข้อมูลจาก Conroy
การจัดหาของระบบจรวดหลายลำกล้องอัตตาจรล้อยาง M142 HIMARS จะเพิ่มพิสัยการโจมตีของกองทัพบกออสเตรเลียเป็นได้ "มากกว่าสิบเท่าตัว"(https://aagth1.blogspot.com/2023/12/lockheed-martin-prsm.html)

กระทรวงกลาโหมออสเตรเลียกล่าวในการนำเสนอจรวดหลายลำกล้องอัตตาจรล้อยาง M142 HIMARS สองระบบแรกจาก 42ระบบที่ได้ถูกส่งมอบแก่ออสเตรเลียโดยสหรัฐฯ ณ ท่าอากาศยาน Avalon 
ก่อนหน้างานแสดงการบินนานาชาติ Avalon 2025 ระหว่างวันที่ 25-30 มีนาคม 2025 ที่จัดขึ้นในที่เดียวกัน ออสเตรเลียได้สั่งจัดหาจรวดหลายลำกล้องอัตตาจรล้อยาง HIMARS ในสองระยะในปี 2022 และ 2023

ตามข้อมูลจาก Janes Land Warfare Platforms: Artillery & Air Defence ระบบ M142 HIMARS เป็นระบบเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง(MLRS: Multiple Launch Rocket System) ขนาด 227mm ความจุท่อยิง 6นัด
จรวดหลายลำกล้องอัตตาจร HIMARS มีพื้นฐานบนรถแคร่ฐานตระกูลรถยนต์บรรทุกทางยุทธวิธีขนาดกลาง 5tonne แบบ XM1140A1 FMTV และสามารถบรรจุกระเปาะจรวดขนาด 227mm ได้ 6นัด

หรือชุดบรรจุกระเปาะจรวดเดี่ยวสำหรับระบบอาวุธปล่อยนำวิถีทางยุทธวิธี ATACMS(Army Tactical Missile System) ขนาด 610mm หนึ่งนัด ระบบ จลก.HIMARS สามารถยิงถูกเป้าหมายที่ระยะยิง 70km โดยใช้จรวดพื้นสู่พื้นตระกูล MFOM(MLRS Family of Munitions) ทั้งแบบนำวิถีและไม่นำวิถี
และที่ระยะยิง 300km ด้วยอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้น MGM-142 ATACMS ระบบ HIMARS ถูกออกแบบเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการกำลังรบส่วนล่วงหน้าและกำลังเข้าตีของหน่วยรบโพ้นทะเลด้วยอำนาจการทำลายปริมาณสูง, การยิงกดดัน และการยิงต่อต้านการยิง(counter-battery fires) ครับ

วันพฤหัสบดีที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2568

เดนมาร์กจะเข้าร่วมฝูงบินเครื่องบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ Airbus A330 MRTT นานาชาติ NATO

Denmark to join Multinational MRTT Fleet





Denmark is to join the six partner countries in the Multinational Multirole Tanker Transport (MRTT) Fleet (MMF), buying access to the capability's planned 10 Airbus A330 MRTT tanker-transport aircraft. (NATO Support and Procurement Agency)

เดนมาร์กจะเข้าร่วมฝูงบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศพหุภารกิจนานาชาติ(MMF: Multinational MRTT(Multirole Tanker Transport) Fleet) เพื่อเพิ่มขยายขีดความสามารถต่างๆของเดนมาร์กและ NATO
รัฐมนตรีกลาโหมเดนมาร์ก Troels Lund Poulsen ประกาศการตัดสินใจเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2025 กล่าวว่าการที่จะเข้าร่วมกับเบลเยียม, สาธารณรัฐเช็ก, เยอรมนี, ลักเซมเบิร์ก, เนเธอร์แลนด์ และนอร์เวย์ ในฝูงบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศพหุภารกิจนานาชาติ MMF

เป็นส่วนหนึ่งของหลากหลายชุดการเพิ่มขยายทางกลาโหมของเดนมาร์กที่จะได้รับการสนับสนับสนุนงบประมาณโดยกองทุนเร่งรัด(Acceleration Fund) ของเดนมาร์ก "มันเป็นขีดความสามารถที่จะทำให้สามารถเสริมความแข็งแกร่งการป้องกันภัยทางอากาศ
ของเดนมาร์กและราชอาณาจักรที่กว้างขวาง(รวมถึงหมู่เกาะ Faroe และเกาะ Greenland) และเพิ่มอำนาจการรบของการป้องกันประเทศของเดนมาร์ก รวมถึงความจำเป็นการปฏิบัติการของชาติเรา" 

"ตัวอย่างเช่นขีดความสามารถการเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศได้สร้างเงื่อนไขสำหรับการปฏิบัติการต่างๆกับเครื่องบินขับไล่ใน Arctic และ Atlantic เหนือ มากไปกว่านี้ มันเป็นโอกาสที่ดีสำหรับความร่วมมือในกลุ่มชาติ Nordic ในพื้นที่นี้" Poulsen กล่าว 
ตามการเน้นโดยกระทรวงกลาโหมเดนมาร์ก รัฐมนตรีกลาโหมเดนมาร์กได้ให้การแนะนำว่า เดนมาร์กได้กลายเป็นหุ้นส่วนในฝูงบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศพหุภารกิจนานาชาติ MMF โดยการสะสมชั่วโมงบินขั้นต้นสำหรับการเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ

มากไปกว่านั้น การเจรจาต่างๆริเริ่มขึ้นด้วยความปรารถนาของการจัดซื้อการแบ่งปันที่เท่าเทียมกันของเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศจำนวน 2เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2025/03/airbus-a330-mrtt.html)
การมีส่วนร่วมที่เป็นไปได้ของเดนมาร์กคาดว่าจะมีวงเงินที่ประมาณ 7.4 billion Danish krone($1.07 billion) ในช่วงปี 2025-2033(https://aagth1.blogspot.com/2023/09/f-35a.html)

ฝูงบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศพหุภารกิจนานาชาติ MMF มีที่ตั้งในฐานทัพอากาศ Eindhoven Air Base ในเนเธอร์แลนด์ และปฏิบัติงานโดยหน่วยบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศพหุภารกิจนานาชาติ(MMU: MRTT Unit)
หกประเทศหุ้นส่วนปัจจุบันและเดนมาร์กจะวางกำลังด้วยเครื่องบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ Airbus A330 MRTT จำนวน 10เครื่อง ที่ได้รับการกำหนดแบบเป็นเครื่องบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ KC-30M ในประจำการ NATO โดยระยะเวลาการส่งมอบจะเสร็จสิ้นในปี 2027 

ปัจจุบันกองทัพอากาศเดนมาร์ก(RDAF: Royal Danish Air Force, Flyvevåbnet) กำลังอยู่ระหว่างการรับมอบเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-35A Lightning II Joint Strike Fighter(JSF) จำนวน 27เครื่อง ในการทดแทนฝูงเครื่องบินขับไล่ F-16AM/BM จำนวน 40เครื่อง 
ซึ่งต่างเป็นเครื่องบินขับไล่ที่มีขีดความสามารถการเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศที่เครื่องบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิง A330 MRTT รองรับความเข้ากันได้ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2025/03/f-16ambm-24.html, https://aagth1.blogspot.com/2024/04/f-16ambm-24.html)

วันพุธที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2568

เฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E Apache ออสเตรเลียเครื่องแรกจาก 29เครื่องเข้าสู่การประกอบขั้นสุดท้ายแล้ว

Avalon 2025: First Australian Army AH-64E enters final assembly







A US Army Boeing AH-64E Apache helicopter arrives at the Avalon 2025 international airshow on 25 March. Australian Army AH-64E v6 helicopters on contract are nearly identical to US Army AH-64Es, BDA has previously said. (LAC Campbell Latch/Commonwealth of Australia, Boeing)

เฮลิคอปเตอร์โจมตี Boeing AH-64E Apache v6 เครื่องแรกจาก 29 ที่อยู่ในสัญญาจัดหาสำหรับกองทัพบกออสเตรเลีย(Australian Army) ได้เข้าสู่การประกอบขั้นสุดท้ายแล้ว บริษัท Boeing สหรัฐฯประกาศ
กำหนดรหัสเป็น AT001 เฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E Apache เครื่องแรก "จะได้รับการดำเนินการติดตั้งโครงสร้าง, การเดินสายไฟฟ้า, การประกอบย่อยหลัก และทางกลไกในการประกอบขั้นสุดท้ายก่อนเข้าสู่การบินทดสอบในกลางปี 2025"

บริษัท Boeing กล่าว ณ งานแสดงการบินนานาชาติ Avalon 2025 ระหว่างวันที่ 25-30 มีนาคม 2025 จากการพูดคุยในงาน พลจัตวา Steven Cleggett ผู้อำนวยการทั่วไปของระบบการบินกองทัพบกออสเตรเลีย(Army Aviation Systems)
ได้เน้นย้ำอีกครั้งว่า เฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E Apache v6 จำนวน 4เครื่องจะถูกส่งมอบแก่ออสเตรเลียในปี 2025(https://aagth1.blogspot.com/2025/03/ah-64e-apache-2025.html)

"เราจะทยอยรับมอบเฮลิคอปเตอร์ที่จะมาถึงเรื่อยๆตลอดไปจนถึงปี 2028 เมื่อเราจะมีเฮลิคอปเตอร์(เฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E Apache v6) จำนวน 29เครื่อง" พลจัตวา Cleggett กล่าว
ตามข้อมูลจาก พลจัตวา Andy Thomas รองผู้บัญชาการกองบัญชาการการบินกองทัพบกออสเตรเลีย(Australian Army Aviation Command) กองทัพบกออสเตรเลียจะทำการบินเฮลิคอปเตอร์โจมตี Apache โดยเร็วหลังเครื่องมาถึงในสิ้นปี 2025

"เราคาดว่าเราจะบรรลุความพร้อมปฏิบัติการขั้นต้น(IOC: Initial Operational Capability) ภายในปี 2028" พลจัตวา Thomas กล่าว(https://aagth1.blogspot.com/2023/07/1-ah-64e-apache.html)
เขายืนยันว่าออสเตรเลียจะจัดหาชุด module ระบบทีมมีคนบังคับ-ไร้คนขับ-เพิ่มขยาย(MUMT-X: Manned-Unmanned Teaming-Extended) ที่วางบนยอดแกนใบพัดประธานของเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E

ที่จะทำให้กองทัพบกออสเตรเลียจะบูรณาการการยิงตัวทำลาย(LE: Launched Effect) ทางอากาศเข้ากับเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E Apache ของตนได้(https://aagth1.blogspot.com/2025/03/ka-52-mi-28.html)
"เราคาดที่จะพัฒนาขีดความสามารถ(MUMT-X) นั้นตามที่เรานำมันเข้าสู่ประจำการที่กำลังจะไปเป็นส่วนสำคัญของยุทธวิธี, เทคนิค และขั้นตอนการปฏิบัติต่างๆของเรา" พลจัตวา Thomas กล่าว(https://aagth1.blogspot.com/2023/03/ah-64e-apache-184.html)

อย่างไรก็ตาม พลจัตวา Thomas ไม่ได้ระบุว่าระบบอากาศยานไร้คนขับ(UAS: Unmanned Aircraft System) แบบใดที่จะถูกบูรณาการกับเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E Apache v6 ต่อไปภายหน้า(https://aagth1.blogspot.com/2021/06/ah-64e-apache.html)
เฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E Apache v6 ใหม่ 29เครื่องจะทดแทนเฮลิคอปเตอร์โจมตี Airbus Helicopters Tiger ARH ของกองทัพบกออสเตรเลียที่มีแผนจะปลดประจำการในปี 2028 ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2021/01/ah-64e-apache-tiger-arh.html)