วันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

Saab สวีเดนเสนอเรือดำน้ำโพ้นทะเล C718 แก่เนเธอร์แลนด์

Saab offers four Expeditionary Submarines to the Netherlands



Supported by Sweden and the United Kingdom, Saab has today submitted its proposal for the replacement of Netherland’s current submarines. 
The proposal comprises four advanced Expeditionary Submarines with the latest innovations and technologies and includes a cooperation with Dutch shipbuilder Damen Shipyards Group.





สนับสนุนโดยสวีเดนและสหราชอาณาจักร บริษัท Saab สวีเดนได้ยื่นข้อเสนอของตนสำหรับโครงการเรือดำน้ำใหม่ของเนเธอร์แลนด์เพือทดแทนเรือดำน้่ำชั้น Walrus ในปัจจุบัน(https://aagth1.blogspot.com/2022/04/walrus.html)
ข้อเสนอประกอบด้วยเรือดำน้ำโพ้นทะเล(Expeditionary Submarine) จำนวน 4ลำพร้อมนวัตกรรมและวิทยาการล่าสุด และรวมถึงความร่วมมือกับอู่เรือบริษัท Damen Shipyards Group เนเธอร์แลนด์

แนวทางที่เสนอของ Saab สวีเดนมีพื้นฐานบนการออกแบบแบบที่ประสบความสำเร็จ, ได้รับการพิสูจน์แล้ว และพิสูจน์ได้ในอนาคต จะมีความเข้ากันได้กับขีดความสามารถและวิทยาการล่าสุด
ขณะที่การออกแบบแบบ modular ที่แท้จริงของเรือจะทำให้พร้อมสำหรับวิทยาการใหม่ต่างๆ ในฐานะวิวัฒนาการเพื่อให้มั่นใจถึงความสอดคล้องเป็นเวลาอีกหลายปีมากที่จะมาถึง

Saab สวีเดนและ Damen Shipyards Group เนเธอร์แลนด์ได้มีความร่วมมือตั้งแต่ปี 2015 และเสนอที่จะสร้างเรือดำน้ำเพื่อทดแทนเรือดำน้ำชั้น Walrus ของกองทัพเรือเนเธอร์แลนด์(RNLN: Royal Netherlands Navy, Koninklijke Marine) 
เป็นการรักษาสมดุลความร่วมมือระหว่างเนเธอร์แลนด์และสวีเดน(https://aagth1.blogspot.com/2021/11/walrus.html, https://aagth1.blogspot.com/2021/06/2028.html, https://aagth1.blogspot.com/2018/06/saab-damen-a26-walrus.html)

"ขีดความสามารถที่ยอดเยี่ยมของเรือดำน้ำโพ้นทะเล C718 ตรงตามและเกินความจำเป็นและความต้องการในระยะยาวของเนเธอร์แลนด์ ข้อเสนอของเรานับว่ามีส่วนสนับสนุนอย่างมากต่อขีดความสามารถการปฏิบัติการของกองทัพเนเธอร์แลนด์
ความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมของเนเธอร์แลนด์ตลอดทั้งโครงการได้รักษาความเป็นเอกเทศทางยุทธศาสตร์สำหรับเนเธอร์แลนด์ เหล่านี้เป็นเรือดำน้ำเนเธอร์แลนด์สำหรับกองทัพเรือเนเธอร์แลนด์" Mats Wicksell รองประธานอาวุโสและหัวหน้าภาคธุรกิจแผนก Saab Kockums กล่าว

เรือดำน้ำ C718 เป็นเรือดำน้ำโพ้นทะเลขั้นก้าวหน้าที่เสนอระดับที่ไม่สามารถเปรียบเทียบได้ของระยะเวลาปฏิบัติงานและเกินความต้องการของกองทัพเรือเนเธอร์แลนด์สำหรับการปฏิบัติการระยะทางไกล, 
มีที่พักกำลังพลเพียงพอ, กำลังพลประจำเรือมีความสะดวกสบาย และเพิ่มความจุการบรรทุกอาวุธ ในฐานะส่วนหนึ่งของข้อเสนอ Saab เสนอระบบยิงอาวุธบูรณาการที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว และหนึ่งในระบบตรวจจับที่ดีที่สุดในโลก

นวัตกรรมการออกแบบที่มีคุณสมบัติแนวทางแก้ไขปัญหาที่เป็นเอกลักษณ์ของ Saab จะลดการถูกตรวจพบโดย Sonar เชิงรุกให้ต่ำที่สุด การผสมผสานทั้งหมดในการไม่สามารถถูกตรวจจับได้และขีดความสามารถสุดขั้วของเรือดำน้ำ
ข้อเสนอรวมถึงการถ่ายทอดองค์ความรู้แก่เนเธอร์แลนด์ เมื่อส่งมอบเรือเรือดำน้ำจะสามารถบำรุงรักษาได้อย่างเต็มรูปแบบโดยกองทัพเรือเนอร์เธอร์แลนด์รวมถึงการปรับปรุงตลอดอายุการใช้งานของเรือ

สวีเดนผ่านแผนกธุรกิจทางเรือ Kockums ของ Saab มีประเพณีมายาวนานในการผลิตเรือดำน้ำชั้นนำของโลก มีสี่ชาติที่ปัจจุบันประจำการเรือดำน้ำและวิทยาการเรือดำน้ำที่ออกแบบโดย Saab Kockums คือสวีเดน(https://aagth1.blogspot.com/2021/09/saab-a26.html),

เรือดำน้ำ C718 ของ Saab-Damen สวีเดน-เนเธอร์แลนด์ที่มีพื้นฐานเป็นรุ่นขยายขนาดของเรือดำน้ำชั้น A26 Blekinge จะแข่งขันกับบริษัท Naval Group ฝรั่งเศสที่เสนอแบบเรือดำน้ำ Barracuda รุ่นตามแบบดีเซล-ไฟฟ้า(https://aagth1.blogspot.com/2021/06/attack.html)
และบริษัท Thyssenkrupp Marine Systems(TKMS) เยอรมนีที่เสนอเรือดำน้ำ Type 212CD ที่พัฒนาพร้อมแล้วสำหรับเยอรมนี, อิตาลี และนอร์เวย์ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2023/03/type-212-nfs.html, https://aagth1.blogspot.com/2021/07/u212cd-nsm.html)

วันอาทิตย์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

โปแลนด์ลงนามจัดหาเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ Saab 340 Erieye AEW&C สวีเดน

Update: Poland signs for Saab 340 AEW&C aircraft





Poland is set to acquire two Saab 340 AEW&C aircraft from Sweden, with a contract now signed. (Saab)

โปแลนด์ได้ลงนามสัญญาสำหรับเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ Saab 340 Erieye AEW&C(Airborne Early Warning and Control) เพื่อปกป้องน่าฟ้าของชาติตน
รองนายกรัฐมนตรีโปแลนด์และรัฐมนตรีกลาโหมโปแลนด์ Mariusz Błaszczak ได้เปิดเผบเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2023 สองเดือนหลังการประกาศเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2023 ว่า

รัฐบาลโปแลนด์ของเขาได้อยู่ในขั้นระยะที่คืบหน้าของการเจรจากับสวีเดนเพื่อจะจัดหาขีดความสามารถดังกล่าว(https://aagth1.blogspot.com/2023/05/globaleye.html)
"วันนี้สำนักงานยุทโธปกรณ์โปแลนด์ได้ลงนามสัญญาสำหรับการส่องมอบเครื่องบินแจ้งเตือนทางอากาศ Saab 340 สวีเดน ตามผลสรุป แนวกระนาบตะวันออกของ NATO จะถูกเสริมความแข็กแกร่งและน่านฟ้าของโปแลนด์จะปลอดภัยมากขึ้น" Błaszczak กล่าว

ขณะที่ Błaszczak ไม่ได้เปิดเผยจำนวนเครื่องหรือกำหนดเวลาการส่งมอบ บริษัท Saab สวีเดนเป็นที่คาดว่าจะส่งมอบ 2เครื่องที่ล่าสุดปลดประจำการจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(UAE: United Arab Emirates) ที่ขณะนี้ถูกเก็บรักษาในสวีเดน
(Saab ไม่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับการประกาศของรัฐมนตรีกลาโหมโปแลนด์ในเวลาที่บทความนี้เผยแพร่)(https://aagth1.blogspot.com/2020/05/saab-globaleye.html)

แผ่นใสบรรยายสรุปของกองทัพอากาศโปแลนด์(Polish Air Force) ที่แสดงในงานแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์นานาชาติ IDET 2023 ใน Brno สาธารณรัฐเช็กเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2023
แสดงกรอบระยะเวลาที่จะจัดหาเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ Saab 340 Erieye จำนวน 2เครื่อง โดยการส่งมอบจะมีขึ้นในต้นปี 2024

Saab สวีเดนกล่าวการประกาศสัญญามีมูลค่าที่วงเงินประมาณ 600 million Swedish Krona($58 million) และสัญญามีระยะเวลาในช่วงปี 2023-2025
คาดว่าโปแลนด์น่าจะมีความต้องการเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ AEW&C รวมทั้งหมดสูงสุดถึง 6เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2022/07/globaleye.html)

ปัจจุบันกองทัพอากาศโปแลนด์ไม่มีขีดความสามารถเครื่องบินแจ้งเตือนและควบคุมทางอากาศในประจำการ โดยพึ่งพากองกำลังแจ้งเตือนทางอากาศ NATO(NAEWF: NATO Airborne Early Warning Force)
และเครื่องบินแจ้งเตือนและควบคุมทางอากาศ Boeing E-3A Sentry AWACS(Airborne Warning And Control System) ของหน่วยบินเครื่องบิน E-3A ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2019/11/nato-e-3-awacs-boeing.html)

วันเสาร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

ออสเตรเลียเลือกรถรบทหารราบ Redback เกาหลีใต้เป็นผู้ชนะโครงการ IFV ใหม่

Australia selects Hanwha's Redback for IFV requirement







Canberra has selected Hanwha's Redback for a long-standing Australian Army infantry fighting vehicle requirement. The Redbacks will be built in Australia and delivered from 2027. (Hanwha)





รัฐบาลออสเตรเลียได้เลือกบริษัท Hanwha Defense Australia(HDA) สาธารณรัฐเกาหลี-ออสเตรเลียเพื่อจะส่งมอบรถรบทหารราบ Redback IFV(Infantry Fighting Vehicle) จำนวน 129คันแก่กองทัพบกออสเตรเลีย(Australian Army) ภายใต้โครงการ Land 400 Phase 3
รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมกลาโหมออสเตรเลีย Pat Conroy ประกาศในนครหลวง Canberra เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2023(https://aagth1.blogspot.com/2021/01/hanwha-defense-redback.html

การประกาศเป็นการเสร็จสิ้นกระบวนการแข่งขันระยะเวลา 5ปี ระหว่าง HDA ในเครือบริษัท Hanwha Group สาธารณรัฐเกาหลีซึ่งเป็นผู้ชนะกับรถรบทหารราบ Lynx KF41 IFV 
ที่เสนอโดยบริษัท Rheinmetall Defence Australia(RDA) เยอรมนี-ออสเตรเลียในเครือบริษัท Rheinmetall เยอรมนี(https://aagth1.blogspot.com/2020/11/rheinmetall-lynx-kf41.html)

เพื่อทดแทนรถสายพานลำเลียง M113AS4 APC(Armoured Personnel Carrier) ยุคสงครามเวียดนามของกองทัพบกออสเตรเลีย โครงการมีมูลค่าที่วงเงิน A$5-7 billion($3.3-4.6 billion)
รัฐมนตรีอุตสาหกรรมกลาโหมออสเตรเลีย Conroy กล่าวว่า รถรบทหารราบ Redback IFV จะถูกสร้างในออสเตรเลียที่โรงงานของบริษัท HDA ในภูมิภาค Geelong ใกล้นคร Melbourne และถูกส่งมอบระหว่างต้นปี 2027 ถึงปลายปี 2028

"ด้วยเกราะ, ปืนใหญ่ และอาวุธปล่อยนำวิถียุคล่าสุด รถรบ Redback จะมอบการป้องกัน, ความคล่องแคล่วการเคลื่อนที่ และอำนาจการยิงที่จำเป็นต่อการขนส่งและป้องกันทหารในการรบระยะประชิด"
Redback IFV จะถูกส่งมอบให้กองทัพบกออสเตรเลียในราวช่วงเวลาเดียวกับที่ระบบเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องอัตตาจรล้อยาง M142 HIMARS(High-Mobility Artillery Rocket System) สหรัฐฯ

และเรือระบายพล Littoral Manoeuvre Vessel(LMV) ที่ถูกออกแบบเพื่อบรรทุกยานพาหนะหนักหลากหลายรูปแบบและปฏิบัติการสำหรับการเพิ่มพิสัยทำการเหนือทะเลเปิด
นี่สะท้อนต่อการเรียกร้องโดยการทบทวนยุทธศาสตร์กลาโหม(DSR: Defence Strategic Review) สำหรับกองทัพบกออสเตรเลียเพื่อจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบสำหรับปฏิบัติการการดำเนินกลยุทธ์ใกล้ชายฝั่งจากออสเตรเลีย Conroy กล่าว

มันยังสะท้อนการประเมินของการทบทวนยุทธศาสตร์กลาโหม DSR ที่รถรบทหารราบ IFV จะมีจำนวน 129คันมากกว่า 450คันที่คาดไว้ก่อนหน้าว่า "เป็นจำนวนที่เหมาะสมสำหรับสภาพแวดล้อมทางยุทธศาสตร์ในอนาคตของออสเตรเลีย" Conroy กล่าว
บริษัท HDA ยืนยันกับ Janes ว่า รถรบทหารราบ Redback IFV จำนวน 129คันจะส่งมอบในสองรุ่นคือ รุ่นรถรบทหารราบ(Infantry Fighting) และรถยิงสนับสนุนร่วม(Joint Fires) ครับ

วันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

เฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-1Z Viper เครื่องแรกมาถึงสาธารณรัฐเช็กแล้ว

First Viper helos arrive in Czech Republic







One of the first two AH-1Z Viper attack helicopters being unloaded from a US Air Force C-17 cargo aircraft on 26 July. (Czech Ministry of Defence)

เฮลิคอปเตอร์โจมตี Bell AH-1Z Viper สำหรับสาธารณรัฐเช็กเครื่องแรกเดินทางมาถึงประเทศตนแล้วเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2023 โดยได้รับการขนส่งทางอากาศจากสหรัฐฯบนเครื่องบินลำเลียง Boeing C-17 Globemaster III กองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force)
กระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐเช็กประกาศเหตุการณ์สำคัญ กล่าวว่าเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-1Z Viper สองเครื่องแรกได้ถูกส่งมอบแล้ว โดยอีก 4เครื่องจะเดินทางมาถึงในเดือนกันยายน 2023

เฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-1Z Viper ได้รับการจัดหาโดยกองทัพสาธารณรัฐเช็กกองทัพสาธารณรัฐเช็ก(ACR: Army of the Czech Republic, AČR: Armáda České republiky) ควบคู่กับเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป Bell UH-1Y Venom 
เพื่อทดแทนเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป Mil Mi-2(NATO กำหนดรหัส 'Hoplite'),เฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป Mil Mi-8/Mi-17(NATO กำหนดรหัส 'Hip') และเฮลิคอปเตอร์โจมตี Mil Mi-24(NATO กำหนดรหัส 'Hind') ยุค Warsaw Pact ของกองทัพสาธารณรัฐเช็ก

นอกเหนือจากเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-1Z Viper สร้างใหม่จำนวน 4เครื่อง และเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป UH-1Y Venom สร้างใหม่จำนวน 8เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2023/05/ah-1z-viper-uh-1y-venom.html)
สหรัฐกำลังส่งมอบเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-1Z และเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป UH-1Y ที่เก็บสำรองไว้เพื่อทำให้จำนวนเครื่องแต่ละแบบรวมเป็นแบบละ 10เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2022/08/ah-1z-uh-1y.html)

สาธารณรัฐเช็กจะเข้าร่วมการวางกำลังประจำการเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-1Z Viper เร็วๆนี้กับประเทศเพื่อนบ้านของตนสโลวาเกีย ตามการประกาศล่าสุดที่รัฐบาลสหรัฐฯสนับสนุนงบประมาณบางส่วนในการส่งมอบเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-1Z จำนวน 12เครื่อง
เพื่อแลกเปลี่ยนกับที่สโลวาเกียกำลังบริจาคเครื่องบินขับไล่ MiG-29 และระบบป้องกันภัยทางอากาศยุค Warsaw Pact แก่ยูเครน(https://aagth1.blogspot.com/2023/03/ah-1z-mig-29.html)

เฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-1Z และเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป UH-1Y แบ่งปันชิ้นส่วนและระบบร่วมกันร้อยละ84 (กลีบใบพัดวัสดุผสม, ที่นั่งแบบรองรับเหตุเครื่องตก crashworthy seats, ชิ้นส่วน hydraulic, ชิ้นส่วนระบบเชื้อเพลิง, ระบบ Avionic บูรณาการ, 
เครื่องยนต์ไอพ่น turboshaft แบบ General Electric T700-GE-401/C ที่กำลังมากขึ้น และชุด gearboxes) ซึ่งแปรเปลี่ยนไปสู่รอยเท้าการส่งกำลังบำรุงที่เล็กลงและประหยัดขึ้น เช่นเดียวกับการทำงานร่วมกันที่เหนือกว่า

นอกจากนาวิกโยธินสหรัฐฯ(USMC: US Marine Corps) ผู้ใช้งานหลัก สหรัฐฯได้ส่งออกเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-1Z Viper ให้ลูกค้ารายแรกบาห์เรนจำนวน 12เครื่องซึ่งเสร็จสิ้นการส่งมอบในปี 2023นี้(https://aagth1.blogspot.com/2021/10/bell-ah-1z.html)
ปากีสถานที่สั่งจัดหา AH-1Z จำนวน 12เครื่องถูกระงับการส่งมอบ(https://aagth1.blogspot.com/2020/02/z-10-t129-ah-1z.html) และไนจีเรียได้รับอนุมัติการขายแต่สภา congress สหรัฐฯยังไม่ผ่านความเห็นชอบให้ขายให้ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2022/04/ah-1z.html)

วันพฤหัสบดีที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

พิธีปิดการฝึกผสม Panther Gold 2023 กองทัพไทย-อังกฤษ




















Royal Thai Armed Forces (RTARF) with British Armed Forces held opening ceremony for exercise Panther Gold 2023 at Sichon Special Operations Combat Training Camp, 4th Army Area, Royal Thai Army (RTA) in Nakhon Si Thammarat Province, Thailand on 25 July 2023.
Royal Thai Army's 5th Infantry Division, Security Battalion of Royal Thai Armed Forces Headquarters (RTARFHQ) and British Army's 1st Battalion, Royal Gurkha Rifles (1 RGR) concluded exercise Panther Gold 2023 on 5-25 July 2023. (Royal Thai Army)



พิธีปิดการฝึกผสมกองทัพไทย- สหราชอาณาจักร ภายใต้ชื่อรหัสการฝึก Panther Gold 23 
วันนี้ (25 กรกฎาคม 2566) พลเอก อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ รองเสนาธิการทหาร และเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักร พร้อมด้วย พลตรี ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 ผู้แทนแม่ทัพภาคที่ 4 ร่วมพิธีปิดการฝึกผสมแพนเธอร์โกลด์ 23 ณ ค่ายฝึกการรบพิเศษสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช
การฝึกผสมแพนเธอร์โกลด์ 23 เป็นการฝึกปฏิบัติการผสมทางทหารที่สำคัญระหว่างกองทัพไทย และ กองทัพสหราชอาณาจักร ในวงรอบการจัดการฝึกฯปีเว้นปี 
โดยการฝึกฯ ครั้งแรก ดำเนินการไปแล้วในปี 2561 (Panther Gold 17) ใช้พื้นที่ฝึกฯ ณ จังหวัดกาญจนบุรี (พื้นที่กองทัพภาคที่ 1) และดำเนินการฝึกหมุนเวียนกองทัพภาคจนถึงปัจจุบันในครั้งนี้ ใช้พื้นที่ฝึก ณ ค่ายฝึกการรบพิเศษสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช (พื้นที่กองทัพภาคที่ 4) 
เป็นการฝึกยุทธวิธีทหารราบระดับกองร้อย ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เป็นป่าและภูเขา หรือลักษณะอื่น ตามผลการประชุมร่วมกับผู้แทนกองทัพสหราชอาณาจักร
การประกอบกำลังฝ่ายไทยจัดกำลังจากจากกองทัพบก โดยกองทัพภาคที่ 4 มอบหมายให้กองพลทหารราบที่ 5 และ กองพันระวังป้องกัน สำนักกองบัญชาการ กองบัญชาการกองทัพไทย และฝ่ายสหราชอาณาจักร จัดกำลังจาก The First Battalion The Royal Gurkha 
ซึ่งขั้นการฝึกนั้นประกอบด้วย ขั้นการฝึกเตรียมการก่อนการฝึกแลกเปลี่ยน (Pe - CTX) ขั้นการฝึกแลกเปลี่ยน/ปรับมาตรฐาน (CTX) และขั้นการฝึกภาคสนาม(Field Training Exercise : FTX) 
สำหรับวันนี้ยังมีกิจกรรมชุมชนสัมพันธ์ ชมการแสดงและมอบรางวัล มอบอุปกรณ์ส่งเสริมการศึกษาให้กับโรงเรียน ณ โรงเรียนบ้านทุ่งหัวนา อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช 
โดยมี พลเอก อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ รองเสนาธิการทหาร และ เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักร พร้อมด้วย พลตรี ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 ผู้แทนแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานร่วมในพิธีฯ
การฝึกแพนเธอร์โกลด์เปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์ ของความร่วมมือระหว่างกองทัพไทยและกองทัพสหราชอาณาจักร ซึ่งนอกจากกองทัพไทยจะได้รับประโยชน์ จากการพัฒนาขีดความสามารถและหลักนิยมทางการรบทักษะการใช้ยุทโธปกรณ์ และเทคโนโลยีทางทหารที่ทันสมัยแล้ว 
ยังเป็นการสร้างเสริมความสัมพันธ์ทางทหารกับมิตรประเทศ โดยการฝึกในครั้งนี้ จะสามารถเสริมสร้างเกียรติยศและศักดิ์ศรีของกองทัพไทย ให้เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ 
เป็นสิ่งยืนยันถึงความพร้อมของกองทัพไทย ในการรองรับกับภัยคุกคามของชาติในทุกรูปแบบ ซึ่งเป็นหลักประกันด้านความมั่นคงให้กับประเทศชาติและประชาชนต่อไป

วันที่ 25 กรกฎาคม 2566 เวลา 10.00 น. 
พันเอก เอกคง  รัตนบุรี เสนาธิการกองพลทหารราบที่ 5 ร่วมพิธีปิดการฝึกผสม ภายใต้รหัสการฝึกแพนเธอร์โกลด์ (Panther Gold 2023) ระหว่างวันที่ 25 มิถุนายน - 25 กรกฎาคม 2566 เพื่อพัฒนาขีดความสามารถการปฏิบัติการทางทหารร่วมกัน ตามหลักนิยมของทั้ง 2 ประเทศ 2 กองทัพ 
เพื่อกระชับความสัมพันธ์ และเสริมสร้างความร่วมมือทางด้านความมั่นคง โดยมี พลเอก อภิเชษฐ์  ซื่อสัตย์ รองเสนาธิการทหาร และ Mr. David Thomas เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย เป็นประธานร่วม ณ โรงเรียนบ้านทุ่งหัวนา อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช

กองทัพไทย(RTARF: Royal Thai Armed Forces) และกองทัพสหราชอาณาจักร(British Armed Forces) ได้เสร็จสิ้นการฝึกผสมรหัส Panther Gold 2023 โดยมีพิธีปิดเมื่อวันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๖(2023) ณ ค่ายฝึกการรบพิเศษสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ประเทศไทย
การฝึกผสม Panther Gold 2023 ซึ่งเป็นการฝึกทวิภาคีปีเว้นปีระหว่างกองทัพไทยและสหราชอาณาจักร ครั้งนี้ได้จัดขึ้นพื้นที่กองทัพภาคที่๔ ทภ.๔(4th Army Area) กองทัพบกไทย(RTA: Royal Thai Army) ระหว่างวันที่ ๕-๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๖(https://aagth1.blogspot.com/2023/07/panther-gold-2023-open.html
กำลังที่ร่วมการฝึกรวมถึง กองพันทหารราบที่๒ กรมทหารราบที่๑๕ กองพลทหารราบที่๕(2nd Infantry Battalion, 15th Infantry Regiment, 5th Infantry Division) ซึ่งเป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็ว(RDF: Rapid Deployment Force) ของกองทัพภาคที่๔ และกองพันระวังป้องกัน(Security Battalion) กองบัญชาการกองทัพไทย 

กองทัพบกสหราชอาณาจักร(British Army) ได้จัดกำลังจากกองพันที่1 กรมปืนเล็ก Gurkha(1 RGR: 1st Battalion, Royal Gurkha Rifles) ซึ่งการฝึก Panther Gold 2023 ในปีนี้จะเป็นการฝึกยุทธวิธีทหารราบระดับกองร้อย ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เป็นป่าและภูเขา และพื้นที่ในเขตชุมชน
ทหารราบของกองทัพบกไทยในการฝึกนั้นพบว่าใช้เครื่องสนามที่ทันสมัยเช่นเสื้อ vest ทางยุทธวิธีของ KAIY ไทย ซึ่งถ้าเทียบกับเครื่องแบบลายพราง Multi-Terrain Pattern(MTP) ของกองทัพบกสหราชอาณาจักร ลายพรางของไทยดูจะพรางได้ดีกว่าอังกฤษในป่าดงดิบและสวนยางภาคใต้ของไทย 
การฝึกผสม Panther Gold 2023 ปีนี้ยังได้จัดขึ้นช่วงเดียวกับที่กองทัพบกไทยได้จัดการฝึกผสม Hanuman Guardian 2023 กับกองทัพบกสหรัฐฯ(US Army) ที่มีพิธีปิดไปเมื่อวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๖๖ ด้วยครับ(https://aagth1.blogspot.com/2023/07/hanuman-guardian-2023.html)

วันพุธที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

ซาอุดีอาระเบียลงนามจัดหาอากาศยานไร้คนขับ Akinci UAV ตุรกี

Update: Saudi Arabia signs for Akinci UAVs in record deal with Turkey







The Akıncı will be operated by both the Saudi air force and navy. (Janes/Akshara Parakala)



ซาอุดีอาระเบียได้สั่งจัดหาอากาศยานไร้คนขับติดอาวุธ Baykar Bayraktar Akıncı UAV(Unmanned Aerial Vehicle) ตุรกีในฐานะส่วนหนึ่งของข้อตกลงการจัดซื้อจัดจ้างกลาโหมครั้งประวัติการณ์กับตุรกี
การจัดหาได้รับการประกาศเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2023 ระหว่างที่ประธานาธิบดีตุรกี Recep Tayyip Erdoğan เดินทางเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย

รัฐมนตรีกลาโหมซาอุดีอาระเบีย เจ้าชาย Khalid bin Salman ทรงประกาศว่าสองสัญญาการจัดหาอากาศยานไร้คนขับ UAV ได้รับการลงนามกับบริษัท Baykar ตุรกี เพื่อส่งเสริมขีดความสามารถทางทหารและการผลิตทางกลาโหมของซาอุดีอาระเบีย
เจ้าชาย Khalid ทรงกล่าวว่าพระองค์ยังได้ทรงลงนามข้อตกลงความร่วมมือทางทหารและการป้องกันประเทศกับรัฐมนตรีกลาโหมตุรกี Yaşar Güler ด้วย

ขณะที่เจ้าชาย Khalid ทรงไม่ได้ระบุว่าอากาศยานไร้คนขับ UAV แบบใดที่ได้รับการสั่งจัดหา บริษัท Baykar Tech ตุรกีกล่าวว่าพวกมันคืออากาศยานไร้คนขับ Akıncı UAV
โดย Haluk Bayraktar ผู้อำนวยการบริหาร Baykar ตุรกีอธิบายข้อตกลงว่าเป็น "สัญญาการส่งออกทางกลาโหมและการบินที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสาธารณรัฐตุรกี" โดยปราศจากการกล่าวว่ามีมูลค่าเป็นวงเงินเท่าไร

สัญญาการส่งออกทางกลาโหมที่ใหญ่ที่สุดก่อนหน้านี้ของตุรกีที่ได้ถูกรายงานคือการสั่งจัดหาเรือคอร์เวตชั้น Ada จำนวน 4ลำของปากีสถานในปี 2018 ที่มูลค่าวงเงินประมาณ $1-1.5 billion(https://aagth1.blogspot.com/2018/07/milgem-4.html)
ในแถลงการณ์ของตน Baykar ตุรกีกล่าวว่า Akıncı UAV จะถูกส่งมองให้กองบัญชาการทางอากาศและทางเรือของซาอุดีอาระเบีย ที่ตนจะมอบการฝึก, การสนับสนุนทางเทคนิค และบริการส่งกำลังบำรุง ไม่มีการเปิดเผยกำหนดระยะเวลา

"ด้วยข้อตกลงที่ครอบคลุม ความร่วมมือจะสร้างบนพื้นฐานการส่งมอบวิทยาการและการผลิตร่วม ในคำสั่งที่จะเดินหน้าพัฒนาขีดความสามารถทางวิทยาการขั้นสูงของทั้งสองประเทศ" Baykar ตุรกีเสริม
อากาศยานไร้คนขับ Akıncı เข้าประจำการในกองบัญชาการกองทัพอากาศตุรกี(Turkish Air Force) ในปี 2021 และถูกส่งออกให้กับปากีสถาน(https://aagth1.blogspot.com/2022/10/akinci-uav.html) และเป็นไปได้ว่ากับลิเบียด้วย

Baykar ตุรกีประกาศในเดือนมิถุนายน 2022 ว่า อากาศยานไร้คนขับ Akıncı UAV ได้ทำสถิติการทำเพดานบินของตุรกีใหม่โดยการทำการบินที่ความสูง 41,118ft(13,716m)
Akıncı UAV เป็นอากาศยานไร้คนขับเพดานบินปานกลางระยะทำการนาน(MALE: Medium-Altitude Long-Endurance) ตัวอากาศยานมีความยาว 12.2m และปีกกว้าง 20m มีน้ำหนักบินขึ้นสูงสุดที่ 5,500kg และมีน้ำหนักบรรทุกที่ 1,350kg ครับ