วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

ความคืบหน้าโครงการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพไทยในปี ๒๕๖๘-๑๐




One of two maritime patrol-configured Airbus C295W MSA (Maritime Surveillance Aircraft) operated by the Irish Air Corps. Ireland has taken delivery of its third and final C295W aircraft in transport-configured on 7 October 2025. (Irish Defence Forces)

Naval Acquisition Management Office (NAMO), Royal Thai Navy (RTN) issued announcement on bidding for new two of tactical transport aircraft for support Naval and Royal Thai Marine Corps (RTMC) operations on 9 September 2025, sole tender is Airbus Defence and Space (DS) S.A.U for middle price at 3,769,999,987 Baht ($115,285,280).

Website ประกาศจัดซื้อจัดจ้างของกองทัพเรือไทยได้เผยแพร่เอกสารประกาศโดย สำนักงานจัดหายุทโธปกรณ์ทหารเรือ สยป.ทร.(NAMO: Naval Acquisition Management Office) เมื่อวันที่ ๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๘(2025) เรื่อง โครงการจัดหาเครื่องบินลำเลียงสนับสนุนปฏิบัติการทางเรือ วงเงิน ๓,๗๖๙,๙๙๙,๙๘๗บาท($115,285,280) 
โดยระบุแหล่งที่มีราคากลางจากรายเดียวคือ บริษัท Airbus Defence and Space (DS) S.A.U ราชอาณาจักรสเปน ทำให้น่าจะเป็นไปได้ชัดว่าในโครงการจัดหาเครื่องบินลำเลียงใหม่เพื่อสนับสนุนทางยุทธการให้แก่หน่วยนาวิกโยธินไทยและปฏิบัติการทางเรือ จำนวน ๒เครื่องเพื่อทดแทนเครื่องบินลำเลียงแบบที่๑ บ.ลล.๑ Fokker F-27 MK-400 ที่มีรายงานว่าปลดประจำการไปตั้งแต่สิ้นปี พ.ศ.๒๕๖๖(2023) นั้น
น่าจะเป็นการจัดหาเครื่องบินลำเลียง Airbus C295W เช่นเดียวกับที่กองทัพบกไทยมีใช้งาน(https://aagth1.blogspot.com/2024/08/c295.html) ซึ่งยังจะได้ประโยชน์จากข้อตกลงความร่วมมือกับบริษัทอุตสาหกรรมการบิน จำกัด(TAI: Thai Aviation Industries) สำหรับการสนับสนุนและซ่อมบำรุงเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ของ Airbus ในไทยด้วย

การที่กองทัพเรือไทยน่าจะเลือกจัดหาเครื่องบินลำเลียง C295W สำหรับทดแทน บ.ลล.๑ Fokker F-27 MK-400 จำนวน ๒เครื่องที่เคยประจำการ ณ ฝูงบิน๒๐๑(201 Naval Air Squadron) กองบิน๒(Naval Air Wing 2) กองการบินทหารเรือ กบร.(RTNAD: Royal Thai Naval Air Division) ทำให้สร้างความเป็นไปได้เพิ่มเติมสำหรับโครงการจัดหาเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล(MPA: Maritime Patrol Arcraft) จำนวน ๓เครื่อง
ในการทดแทนเครื่องบินต่อต้านเรือผิวน้ำ บ.ตผ.๒ Lockheed P-3T Orion จำนวน ๓เครื่อง ที่ปลดประจำการในปี พ.ศ.๒๕๕๗(2014) และเครื่องบินต่อต้านเรือผิวน้ำแบบที่๑ บ.ตผ.๑ Fokker F-27 MK200 Maritime Enforcer(ME) จำนวน ๓เครื่อง ที่ประจำการ ณ ฝูงบิน๑๐๒(102 Naval Air Squadron) กองบิน๑(Naval Air Wing 1) กองการบินทหารเรือ กบร. ที่ถูกปลดประจำการในปลายปี พ.ศ.๒๕๖๔(2024)
ว่าอาจจะเลือกจัดหาเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล C295 MPA ที่มีพื้นฐานร่วมกันกับ บ.ล.C295W โดยเอกสารประกาศโครงการจัดหาเครื่องบินลำเลียงใหม่ก่อนหน้าแก้ไขล่าสุดยังมีรายชื่อ PT Dirgantara Indonesia(PTDI) อินโดนีเซียที่เสนอเครื่องบินลำเลียง CN235-220 เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล CN235-220 MPA ของตนแก่กองทัพเรือไทย(https://aagth1.blogspot.com/2025/01/ptdi-cn235-220-mpa.html)

อย่างไรก็ตามเมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล Boeing P-8A Poseidon สหรัฐฯซึ่งได้รับการจัดหาไปใช้งานแล้วหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงลูกค้าใน ASEAN รายแรกคือสิงคโปร์(https://aagth1.blogspot.com/2025/09/p-8a-poseidon-4.html) เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล C295 MPA และเครื่องบินตรวจการณ์ทางทะเล C295 MSA(Maritime Surveillance Aircraft) ดูจะมีขีดความสามารถน้อยกว่า
โดยที่ C295 MPA จะมีข้อจำกัดมีอาวุธรองรับไม่มากนอกจาก torpedo เบาปราบเรือดำน้ำอย่าง Mk 46/Mk 54 ก็เคยมีการทดสอบยิงอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้นต่อต้านเรือผิวน้ำ MBDA Marte MK2/S ซึ่งเป็นรุ่นเก่ามีระยะยิงสั้นเพียง 30km เทียบกับเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล P-8 Poseidon ที่ติดอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้นต่อต้านเรือผิวน้ำ AGM-84N Harpoon Block II+ รุ่นใหม่ และอาวุธอื่นๆได้อีกหลายแบบมากกว่า
ตามที่ปัจจุบันกองทัพเรือไทยปัจจุบันไม่มีอากาศยานที่ยิงอาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำได้ของตนเองหลังการปลดประจำการบ.ตผ.๑ Fokker F-27 MK 200 ติดอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น AGM-84A Harpoon ได้ไป ทำให้ต้องพึ่งเครื่องบินขับไล่แบบที่๒๐/ก Gripen C/D ฝูงบิน๗๐๑ กองบิน๗ สุราษฎร์ธานี กองทัพอากาศไทย ที่ติดอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้นต่อต้านเรือผิวน้ำ RBS 15F ได้ในภารกิจนี้ครับ




Cessna T-337H-SP Skymaster observation aircraft serial number "1316" of 103 Naval Air Squadron, Naval Air Wing 1, Royal Thai Naval Air Division (RTNAD), Royal Thai Fleet (RTF), Royal Thai Navy (RTN) has damaged after emergency landing due landing gears malfunction at Phuket International Airport on 8 October 2025, pilots and air crews are safe. (Royal Thai Navy)
Royal Thai Navy (RTN) ordered 3 systems include 7 air vehicles of Elbit Systems Hermes 900 Unmanned Aerial Vehicles (UAVs) since 2022 and was originally scheduled to be delivered in 2025.



T-337 อายุ 42 ปี ของทร.ล้อกางไม่สมบูรณ์ ลงจอดฉุกเฉินที่ภูเก็ต ...
กองทัพเรือ แจงเหตุ เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเลของกองทัพเรือ ประสบเหตุล้อไม่กาง ขณะลงจอดบริเวณสนามบินนานาชาติภูเก็ต  นักบินปลอดภัย…
พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า  วันที่ 8 ตุลาคม 2568 เวลา 11.00 น. เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเลแบบ T-337  สังกัด หมวดบินเฉพาะกิจ ทัพเรือภาคที่ 3 ประสบเหตุ ล้อไม่กางในขณะลงจอดบริเวณสนามบินนาชาติภูเก็ต  ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจในการลาดตระเวนทางทะเล ในพื้นที่รับผิดชอบ    
โฆษกกองทัพเรือกล่าวว่า ขณะนำเครื่องบินลงจอดและนักบินตรวจพบว่าล้อกางไม่สมบูรณ์ จึงได้ปฏิบัติตามคู่มือในการลงจอดฉุกเฉินเพื่อลดความเสียหายของอากาศยาน ในขณะที่ นักบินได้รับความปลอดภัย  ขณะนี้ เครื่องบินกีดขวางอยู่บนทางวิ่งของสนามบิน (รันเวย์) ส่งผลให้กระทบตารางการบินทั้งขาเข้าและ ขาออก  
โดยกองทัพเรือร่วมกับท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต กำลังเร่งรัดการเคลื่อนย้ายอากาศยาน  เพื่อไม่ให้กีดขวาง ซึ่งอาจต้องใช้เวลา 1-2 ชั่วโมง ทั้งนี้กองทัพเรือจะสอบสวนหาสาเหตุเพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้นอีก กองทัพเรือต้องขออภัยต่อผู้มาใช้บริการสนามบินในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์นี้ด้วย
สำหรับเครื่องบิน T-337 หรือที่รู้จักในชื่อ Cessna 337 Skymaster ผลิตโดยบริษัทหลักคือ Cessna ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตอากาศยานจากสหรัฐอเมริกา  ถูกใช้งานอย่างกว้างขวางในบทบาทการควบคุมอากาศยานหน้า (FAC) โดยกองทัพอากาศสหรัฐฯ ในช่วงสงครามเวียดนาม 
สำหรับ เครื่องที่ประสบอุบัติเหตุ หมายเลข 1316 รุ่น SP เข้าประจำการในกองการบินทหารเรือ  กองเรือยุทธการเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2526  มีอายุราชการ 42 ปี…

T-337 เครื่อง บ.ตช.1 หมายเลข  1316 ประจำการเมื่อ 26 ก.ค. 2526 รวมอายุ 42 ปี...
เครื่องบิน T-337 หรือที่รู้จักในชื่อ Cessna 337 Skymaster ผลิตโดยบริษัทหลักคือ Cessna ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตอากาศยานจากสหรัฐอเมริกา 
T-337 เป็นเครื่องบินที่มีการออกแบบที่โดดเด่นไม่เหมือนใครด้วยคุณสมบัติหลักดังนี้:
ผู้ผลิตหลัก: Cessna (จากสหรัฐอเมริกา)
การกำหนดรูปแบบเครื่องยนต์: ใช้รูปแบบ "Push-Pull" (ผลัก-ดึง) โดยมีเครื่องยนต์หนึ่งติดตั้งที่ส่วนหัวของลำตัวเครื่อง (ทำหน้าที่ดึง) และอีกเครื่องยนต์หนึ่งติดตั้งที่ส่วนท้ายของลำตัวเครื่อง (ทำหน้าที่ผลัก) การออกแบบนี้ช่วยขจัดปัญหาการควบคุมเมื่อเครื่องยนต์ดับเพียงเครื่องเดียว (Asymmetric Thrust) ซึ่งเป็นปัญหาปกติของเครื่องบินสองเครื่องยนต์ทั่วไป
ชื่อรุ่น:
รุ่นพลเรือน: Cessna 337 Super Skymaster
รุ่นทหาร: Cessna O-2 Skymaster (ถูกใช้งานอย่างกว้างขวางในบทบาทการควบคุมอากาศยานหน้า (FAC) โดยกองทัพอากาศสหรัฐฯ ในช่วงสงครามเวียดนาม) 
ผู้ผลิตอื่น: Reims Aviation ในฝรั่งเศส ก็มีการผลิตเครื่องบินรุ่นนี้ภายใต้ชื่อ Reims FTB337 Milirole ในรูปแบบทหารด้วย 
T-337 เครื่อง บ.ตช.1 หมายเลข  1316 ประจำการ 26 ก.ค. 2526 ได้รับการซ่อมปรับปรุง Referbished เมื่อปี 2564 ที่ ปทุมธานี มีอายุประจำการ 42 ปี
- บินครั้งสุดท้าย 19 ก.ย. 68
- จะเข้าซ่อมใหญ่ในระดับโรงงาน วงรอบ 5 ปี หรือ 1,000 ชั่วโมง  ที่ ศซอ.กบร. ในวันที่ 7 ธ.ค. 68 นี้ครับ…

เครื่องบินตรวจการณ์ชี้เป้าแบบที่๑ บ.ตช.๑ Cessna T-337 Skymaster หมายเลข 1316 ฝูงบิน๑๐๓ กองบิน๑ กองการบินทหารเรือ กบร. กองเรือยุทธการ กร. กองทัพเรือไทย ได้เกิดอุบัติเหตุลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ ๘ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๘(2025) เนื่องจากฐานล้อขัดข้องไม่สมบูรณ์ โดยเครื่องบินได้รับความเสียหาย ขณะที่นักบินปลอดภัย
เครื่องบินตรวจการณ์ชี้เป้า บ.ตช.๑ T-337H-SP หมายเลข 1316 ที่เข้าประจำการมาตั้งแต่วันที่ ๒๖ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๒๖(1983) เป็นหนึ่งในจำนวน ๔เครื่องที่ยังคงประจำการอยู่ โดยได้รับการซ่อมปรับปรุง(Referbished) ในไทยเมื่อปี พ.ศ.๒๕๖๔(2021) และมีกำหนดที่จะเข้ารับการซ่อมใหญ่(Overhaul) วงรอบ ๑,๐๐๐ชั่วโมง โดยศูนย์ซ่อมอากาศยาน กองการบินทหารเรือ ศซอ.กบร. ในวันที่ ๗ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๘
บ.ตช.๑ T-337 ควรจะถูกแทนที่ด้วยอากาศยานไร้คนขับเพดานบินปานกลางระยะทำการนาน(MALE UAV: Medium-Altitude, Long-Endurance Unmanned Aerial Vehicle) เช่น Hermes 900 ของบริษัท Elbit Systems อิสราเอล ที่กองทัพเรือไทยที่ลงนามจัดหาในปี พ.ศ.๒๕๖๕(2022) ๓ระบบ จำนวน ๗เครื่องที่เดิมมีกำหนดจะได้รับมอบในปี พ.ศ.๒๕๖๘(2025) นี้แต่ดูเหมือนจะถูกเลื่อนออกไปครับ(https://aagth1.blogspot.com/2022/03/male-uav-hermes-900.html)




Royal Thai Air Force (RTAF) 9 of Lockheed Martin F-16A/B Block 15 OCU Fighting Falcon of 103rd Squadron, Wing 1 displayed with range of weapons equipped during Air Chief Marshal Seksan Kantha, the Commander-in-Chief of the Royal Thai Air Force visited and inspected Wing 1 Korat RTAF base on 6-7 October 2025. (Royal Thai Air Force)
Indonesia has expressed interest in acquiring the South Korea's LIG Nex1 Korean GPS-Guided Bomb (KGGB) kit increased following its first combat deployment in the Cambodia-Thailand border conflict in July 2025.

กองบิน ๑ ให้การต้อนรับผู้บัญชาการทหารอากาศ และคณะ
พลอากาศเอก เสกสรร  คันธา ผู้บัญชาการทหารอากาศ พร้อมด้วย คุณอภิษฎา  คันธา นายกสมาคมคู่สมรสทหารอากาศ นายทหารชั้นผู้ใหญ่ และคณะ เดินทางมาตรวจเยี่ยมความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจ อีกทั้งยังสร้างขวัญและกำลังใจให้กำลังพลกองบิน ๑ 
ในการนี้ นาวาอากาศเอก พิชญาณ  อะสีติรัตน์ ผู้บังคับการกองบิน ๑  พร้อมด้วยข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานราชการ และทหารกองประจำการ กองบิน ๑ ให้การต้อนรับ ณ กองบิน ๑ ระหว่างวันที่ ๖ - ๗ ตุลาคม ๒๕๖๘

การตรวจเยี่ยมความพร้อมปฏิบัติการ ณ กองบิน๑ โคราช ของพลอากาศเอก เสกสรร  คันธา ผู้บัญชาการทหารอากาศไทยท่านใหม่ระหว่างวันที่ ๖-๗ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๘(2025) ได้เห็นเครื่องบินขับไล่แบบที่๑๙/ก บ.ข.๑๙/ก Lockheed Martin F-16A/B Block 15 OCU Fighting Falcon ฝูงบิน๑๐๓ กองบิน๑ จำนวน ๙เครื่องจัดแสดงการติดตั้งอาวุธต่างๆหลากหลายแบบ
อาวุธต่างๆเหล่านี้มีตั้งแต่กระสุนปืนใหญ่อากาศ 20x102mm Vulcan, อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้ AIM-9M Sidewinder, อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น AGM-65 Maverick, ระเบิดนำวิถีร่อนดาวเทียม KGGB, ระเบิดนำวิถี Laser แบบ GBU-12 Pavaway II ขนาด 500lbs, ระเบิดนำวิถี Laser แบบ GBU-10 Pavaway II ขนาด 2,000lbs,
ลูกระเบิดอากาศทำลายอเนกประสงค์ Mk 82 ขนาด 500lbs ในรางอาวุธแฝดสาม Triple Ejector Rack(TER) และแบบ high-drag Mk 82 Snake Eye เป็นต้น ซึ่งอาวุธอากาศสู่พื้นหลายแบบเหล่านี้ได้ถูกติดตั้งกับเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๑๙/ก F-16A/B Block 15 OCU/ADF ใช้ในการรบจริงระหว่างการปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในเดือนกรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๘ แล้ว

การปะทะตามแนวชายแดนอีสานใต้ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๘ เป็นการยืนยันถึงความสำคัญของการพัฒนากำลังรบทางอากาศตามสมุดปกขาว RTAF White Paper 2025(https://aagth1.blogspot.com/2025/06/rtaf-white-paper-2025.html) ทั้งการจัดหาเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศและลำเลียง Airbus A330 MRTT+(https://aagth1.blogspot.com/2025/09/airbus-a330-mrtt.html)
เพื่อเพิ่มระยะเวลาการปฏิบัติการได้นานขึ้นและจำนวนอาวุธที่บรรทุกไปได้มากขึ้นโดยไม่ติดถังเชื้อเพลิงสำรอง, อากาศยานรบไร้คนขับ(UCAV: Unmanned Combat Aerial Vehicle) ทดแทนเครื่องบินขับไล่แบบที่๑๘ข/ค บ.ข.๑๘ข/ค F-5E/F TH ฝูงบิน๒๑๑ กองบิน๒๑ อุบลราชธานี หรือเครื่องบินโจมตีแบบที่๗ บ.จ.๗ Alpha Jet TH ฝูงบิน๒๓๑ กองบิน๒๓ อุดรธานี จนถึงอาวุธนำวิถีอากาศสู่พื้นพิสัยไกล(Stand-Off Weapon) 
อย่างไรก็ตามยังมีช่องว่างที่จะเกิดขึ้นระหว่างการจัดหาเครื่องบินขับไล่แบบที่ ๒๐ข/ค บ.ข.๒๐ข/ค Gripen E/F ฝูงบิน๑๐๒ กองบิน๑(https://aagth1.blogspot.com/2025/08/saab-gripen-ef.html) และโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนยุคที่๕ ทดแทนเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๑๙/ก F-16AM/BM EMLU ฝูงบิน๔๐๓ กองบิน๔ ตาคลี ที่ฝูงบิน๑๐๓ จะกลายเป็นฝูงบินว่างหลังปี พ.ศ.๒๕๗๓(2030) 

ซึ่งถ้าสถานการณ์ภัยคุกคามในภาคอีสานใต้และภาคตะวันตกของไทยยังคงทวีความรุนแรงขึ้น การแก้ไขสมุดปกขาวเพื่อจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีที่บรรจุอาวุธได้จำนวนมากและมีระยะเวลาปฏิบัติการที่นานกว่าและมีพิสัยทำการไกลกว่าเครื่องบินรบที่กองทัพอากาศไทยมีอยู่ในปัจจุบันอาจจะมีความจำเป็นในการจัดหาสำหรับฝูงบิน๑๐๓ ระหว่างรอเครื่องบินขับไล่ยุคที่ห้าอย่าง F-35A Lightning II สำหรับฝูงบิน๔๐๓ 
ในแง่นี้จะหมายถึงเครื่องบินขับไล่โจมตีพหุภารกิจ(multi-role strike fighter) ที่ไม่ได้เน้นภารกิจโจมตีภาคพื้นดินเป็นหลักอย่างเครื่องบินขับไล่ทิ้งระเบิด(Fighter-Bomber) และไม่จำเป็นต้องเป็นเครื่องบินขับไล่สองเครื่องยนต์เสมอไปเพราะพิจารณาที่คุณลักษณะพิสัยการบินและน้ำหนักบรรทุก(บ.ข.๑๘ข/ค F-5E/F และ บ.จ.๗ Alpha Jet มีสองเครื่องยนต์บรรทุกอาวุธได้น้อยกว่า F-35 ใน Beast mode ที่มีเครื่องยนต์เดี่ยว)
เครื่องบินขับไล่ที่สหรัฐฯเคยเสนอให้กองทัพอากาศไทยพร้อมกับเครื่องบินขับไล่ F-16C/D Block 70/72 และการช่วยเหลือทางการเงินรูปแบบ Foreign Military Financing(FMF) คือเครื่องบินขับไล่ F-15EX Eagle II รุ่นส่งออกเช่นที่เสนอให้แก่อินโดนีเซีย หรือจะลดขนาดลงมาก็มีเครื่องบินขับไล่ F/A-18E/F Super Hornet เช่นที่ออสเตรเลียใช้ ซึ่งบริษัท Boeing ยังมีสายการผลิตไปจนถึงปี พ.ศ.๒๕๗๐(2027) ครับ








On the morning of October 16 at local time, the PLAN task group 83 arrived at the Sattahip port, Thailand, kicking off a four-day goodwill visit to the country.
Royal Thai Navy (RTN) LPD-792 HTMS Chang, Chinese export Type 071ET landing platform dock (LPD) and OPV-552 HTMS Prachuap Khiri Khan, Krabi-class offshore patrol vessel (OPV) and Royal Thai Naval Air Division (RTNAD)'s Sikorsky S-76B Helicopter welcomed and conducted Passing Exercise (PASSEX) 
with People's Liberation Army Navy (PLAN) Task Group 83, Qijiguang(83) training ship and LPD-988 Yimengshan Type 071 LPD in Gulf of Thailand on 16 October 2025 and port at Chuk Samet port RTN Sattahip naval base, Chonburi  Province, Thailand from 16 to 20 October 2025. 
On the morning of October 20 local time, the Chinese PLA Navy’s Task Group 83 successfully concluded its goodwill visit to Thailand and set sail for Singapore. 
During the visit, task group members visited the Royal Thai Navy’s aircraft carrier as well as the Royal Thai Naval Academy (RTNA), and engaged in sports and cultural exchange activities such as ball games with their Thai friends. (China Military, Royal Thai Navy)





เรือหลวงช้าง และ เรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ ให้การต้อนรับขบวนเรือฝึกของนักเรียนนายเรือจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ประกอบไปด้วยเรือรบ CNS QI JIGUANG (83) และ CNS YIMENGSHAN (988) อย่างอบอุ่น
และร่วมฝึกผสมทางเรือ PASSEX โดยเรือรบทั้ง 2 ลำ จะเข้าจอดเข้าจอด ณ ท่าหมายเลข 4- 5 ทจม.กทส.ฐท.สส. ในโอกาสที่มาเยือนประเทศไทย 
นับเป็นการสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างประเทศ ที่มีมาอย่างยาวนานของประเทศไทย และจีน 
ทั้งนี้ เรือรบ CNS YIMENGSHAN (988 )ได้เปิดให้คนไทยเข้าชม ในวันที่ 17-18 ต.ค. เวลา 08.30 น.-11.30 น. และ 14.30 น.-17.00 น.

เรือรบจีนมาแล้ว
หมู่เรือฝึกนักเรียนนายเรือจีน เดินทางเยือนประเทศไทย
พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์  โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า   ระหว่างวันที่ 16 ถึง 20 ตุลาคม 2568 นี้  หมู่เรือฝึกนักเรียนนายเรือจีน จำนวน 2 ลำ ประกอบด้วย เรือ PLANS QI JIGUANG และ เรือ PLANS YIMENG SHAN พร้อมกำลังพลจำนวน 1,214 นาย 
ซึ่งประกอบด้วยนักเรียนนายเรือ นักเรียนเรือดำน้ำ แบะนักเรียนแพทย์ทหารเรือ จะเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยจอดเรือเทียบ ที่ท่าเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ  ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี 
สำหรับวัตถุประสงค์ในการเข้ามาเยือน ประเทศไทยในครั้งนี้ นอกจากเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกภาคปฏิบัติในทะเลต่างประเทศของนักเรียนนายเรือจีนแล้ว  ยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกองทัพเรือของทั้งสองประเทศ 
โดย พลเรือเอกกรวิทย์  ฉายะรถี  ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ได้ให้การต้อนรับเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย และ หมู่เรือฝึกนักเรียนนายเรือจีน  ณ ท่าเรือจุกเสม็ด   ในวันที่ 16 ตุลาคม 2568 เวลา 09:45 น.   
ในการนี้กองเรือยุทธการได้จัดเรือหลวงช้าง และอากาศยานจากกองการบินทหารเรือ ออกไปร่วมให้การต้อนรับพร้อมทำการฝึก PASSEX    ซึ่งมีหัวข้อการฝึกประกอบด้วย การฝึกทดลองการติดต่อสื่อสารด้วยล่ามไทยจากกองเรือดำน้ำ   การฝึกการสื่อสารทางทัศนสัญญาณ การฝึกแปรกระบวนทางยุทธวิธี 
โดยในห้วงเวลาที่อยู่ในประเทศไทยคณะนักเรียนนายเรือจีน มีกำหนดเยี่ยมชมโรงเรียนนายเรือ เรือหลวงจักรีนฤเบศร และโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์  อีกด้วย
โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า ไทยและจีนสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2518 ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศมีความใกล้ชิด มีการแลกเปลี่ยนการเยือนในทุกระดับอย่างสม่ำเสมอ และมีการขยายความร่วมมือเชิงลึกในทุกมิติ โดยในปี 2568 นี้ ครบรอบ 50 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับจีน 
โดยในส่วนของกองทัพไทยและกองทัพจีน มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและดำเนินความร่วมมือทางทหารผ่านกิจกรรมที่สำคัญ อาทิ การแลกเปลี่ยนการเยือนของผู้บังคับบัญชาและข้าราชการในทุกระดับ รวมทั้งการเยือนเมืองท่าของเรือรบ การฝึกร่วมผสม การจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ รวมถึงการแลกเปลี่ยนและการสนับสนุนความร่วมมือด้านการศึกษา  
โดยการเดินทางเยือนประเทศไทยในครั้งนี้ หมู่เรือฝึกนักเรียนนายเรือจีน  ได้เปิดโอกาสให้นักเรียนนายเรือไทยเยี่ยมชมเรือ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน   ทั้งนี้ กองทัพเรือไทยและกองทัพเรือจีนได้มีการแลกเปลี่ยนทางการศึกษาในหลักสูตรทางการทหารอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนจะมีความแน่นแฟ้นและยั่งยืนตลอดไป
สำนักงานโฆษกกองทัพเรือ

หมู่เรือฝึกเฉพาะกิจ Task Group 83 กองทัพเรือปลดปล่อยประชาชนจีน(PLAN: People's Liberation Army Navy) ที่ประกอบด้วยเรือฝึก PLANS Qi Jiguang (83) และเรือยกพลขึ้นบกอู่ลอยชั้น Type 071 เรือยกพลขึ้นบกอู่ลอย LPD-988 PLANS Yimengshan ที่ล่าสุดเดินทางมาเยือนไทย โดยเทียบท่าที่ ท่าเรือจุกสม็ด ฐานทัพเรือสัตหีบ กองทัพเรือไทย จังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่วันที่ ๑๖-๒๐ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๘
โดยได้รับการต้อนรับและทำการฝึก PASSEX(Passing Exercise) กับเรือยกพลขึ้นบกอู่ลอย เรือหลวงช้าง ซึ่งเป็นเรือยกพลขึ้นบกอู่ลอยชั้น Type 071ET ที่จีนต่อส่งออกให้แก่ไทย เรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชุดเรือหลวงกระบี่ เรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นเรือรบที่ต่อในไทย และเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงแบบที่๔ ฮ.ลล.๔ Sikorsky S-76B ฝูงบิน ๒๐๓ กองบิน ๒ กองการบินทหารเรือ
เป็นส่วนหนึ่งการฝึกภาคต่างประเทศของนักเรียนนายเรือกองทัพเรือปลดปล่อยประชาชนจีน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เดินทางเยือน Hong Kong จีน, ท่าเรือ Sihanoukville กัมพูชาระหว่างวันที่ ๑๐-๑๔ ตุลาคม ๒๕๖๘ ก่อนเดินทางมาถึงไทย และหลังจากเสร็จสิ้นการเยือนไทยหมู่เรือฝึกจีนจะเดินทางไปสิงคโปร์เป็นจุดหมายต่อไปก่อนกลับจีน ซึ่งแสดงถึงความสัมพันธ์ทางทหารของจีนกับประเทศในภูมิภาค ASEAN รวมถึงไทยครับ








Royal Thai Navy (RTN) OPV-552 HTMS Prachuap Khiri Khan, Krabi-class offshore patrol vessel (OPV) conducted Passing Exercise (PASSEX) with Russian Navy's Marshal Shaposhnikov, Project 11551 Udaloy-class destroyer; Gremyashchiy, Project 20385 corvette ;and Boris Butoma olier and fareweell at Gulf of Thailand on 25 October 2025.
Russian Navy's Marshal Shaposhnikov destroyer, Gremyashchiy corvette and Boris Butoma olier concluded port visit at Chuk Samet port RTN Sattahip naval base, Chonburi  Province, Thailand from 21 to 25 October 2025. (Royal Thai Navy)

การต้อนรับเรือ กองทัพเรือสหพันธรัฐรัสเซียเข้ามาเยือนประเทศไทยของเรือกองทัพเรือรัสเซีย
เมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๘ พลเรือตรี สุรศักดิ์ เฉิดผาด ผู้อำนวยการการท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ เป็นผู้แทน ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ ให้การต้อนรับเรือ กองทัพเรือสหพันธรัฐรัสเซีย จำนวน ๓ ลำ ได้แก่ เรือ MARSHALL SHAPOSHNIKOV เรือ GREMYASCHIY และเรือ BORIS BUTOMA 
เข้าเยือนประเทศไทยในระหว่างวันอังคารที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๘ ถึงวันเสาร์ที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๘ ณ ท่าเทียบเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ
การเข้ามาเยือนประเทศไทยของเรือกองทัพเรือรัสเซียมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความร่วมมือทางทหารระหว่างกองทัพเรือทั้งสองประเทศ รับการส่งกำลังบำรุง รวมทั้งขอทำการฝึก PASSEX กับกองทัพเรือ

วันที่ 25 ต.ค.68 เรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ กตอ.กร. ปฏิบัติราชการ ทัพเรือภาคที่ 1 ออกเรือ ปฏิบัติภารกิจร่วมการฝึก PASSEX กับหมู่เรือกองทัพเรือสหพันธรัฐรัสเซีย บริเวณอ่าวไทยตอนบน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือ ความเข้าใจอันดี และเพิ่มพูนความสามารถในการปฏิบัติการร่วมกันระหว่างกองทัพเรือไทย และกองทัพเรือรัสเซีย
การมาเยือนเมืองท่าประเทศไทยของกองทัพเรือรัสเซียในครั้งนี้เป็นการมาเยือนตามวงรอบปกติ โดยมีการฝึก PASSEX ประกอบด้วยการ ฝึกแปรขบวนทางยุทธวิธี (Formation Exercise) การฝึกส่งเรือ (Steam Past/Bon Voyage) ทางทัศนสัญญาณ และการสื่อสารทางยุทธวิธี
ในการนี้ ผู้บังคับการเรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ ได้กล่าวอำลาส่งกองเรือรัสเซีย ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ ปลอดภัย และขอบคุณในมิตรภาพของกองทัพเรือรัสเซียที่ได้เดินทางมาเยี่ยมเยือนประเทศไทยอีกด้วย

หมู่เรือกองเรือแปซิฟิก(Pacific Fleet) กองทัพเรือรัสเซีย(Russian Navy) ที่ประกอบด้วยเรือพิฆาตชั้น Project 11551 Udaloy เรือพิฆาต Marshal Shaposhnikov(543), เรือคอร์เวตชั้น Project 20385 เรือคอร์เวต Gremyashchiy(337), และเรือน้ำมัน Boris Butoma ได้เสร็จสิ้นการเยือนประเทศไทยระหว่างวันที่ ๒๑-๒๕ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๘
โดยได้เข้าจอดเทียบท่า ณ ท่าเทียบเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๘ ออกเดินเรือออกจากฐานทัพเรือสัตหีบ และทำการฝึก PASSEX กับเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชุดเรือหลวงกระบี่ เรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ ในอ่าวไทยเมื่อวันที่ ๒๕ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๘
หมู่เรือของกองทัพเรือชาติมหาอำนาจสองชาติทั้งกองทัพเรือปลดปล่อยประชาชนจีน และกองทัพเรือรัสเซีย ได้เดินทางมาเยือนและทำการฝึกกับกองทัพเรือไทยในเวลาใกล้เคียงกันในห้วงเดือนตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๘ เป็นเครื่องหมายที่แสดงถึงการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับกองทัพเรือมิตรประเทศทั่วโลกโดยไม่มีการแบ่งฝ่ายครับ








FFG-457 HTMS Kraburi, the Chao Phraya-class frigate; OPV-551 HTMS Krabi the Krabi-class offshore patrol vessels (OPV); PC-541 HTMS Hua Hin, the Hua Hin class patrol gun boat; Tor.271, Tor.270-class inshore patrol boat; and Sikorsky S-76B helicopter conducted combat readiness exercise of martime operational fleet and aircraft for Royal Thai Navy (RTN) Third Naval Area Command (3rd NAC) in Andaman Sea on 19 October 2025. (Royal Thai Navy)

“ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ตรวจการฝึกความพร้อมในการปฏิบัติการทางทะเลของเรือและอากาศยานในกองเรือปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่ 3” 
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2568 พลเรือโท วีรุดม ม่วงจีน ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 และ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3 พร้อมด้วยนายทหารฝ่ายอำนวยการ ตรวจการฝึกความพร้อมในการปฏิบัติการทางทะเลของเรือและอากาศยานในกองเรือปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่ 3 
กำลังประกอบด้วย เรือหลวงกระบุรี เรือหลวงกระบี่ เรือหลวงหัวหิน เรือ ต.271 และเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงแบบที่ 4 (ฮ.ลล.4) โดยมีวัตถุประสงค์การฝึกเพื่อ ทบทวนความรู้ ขั้นตอนการปฏิบัติ และความพร้อมของอุปกรณ์ ให้เกิดความชำนาญ และสามารถตอบสนองต่อภารกิจได้อย่างทันท่วงที และมีประสิทธิภาพ 
หัวข้อการฝึก ประกอบด้วย 
1. การฝึกแปรกระบวน (SCREENEX)
2. การฝึกรับ – ส่งสิ่งของทางทะเล และการโรยตัวด้วยเชือกทางยุทธวิธี (FAST ROPE)
3. การแปรขบวนทางยุทธวิธี
4. การช่วยเหลือคนตกน้ำ 
การฝึกดังกล่าวจะทำให้ทัพเรือภาคที่ 3 มีความพร้อมในการปฏิบัติงาน ภายใต้คำขวัญ “ปีแห่งความพร้อมรบ ของกองทัพเรือ” เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นและภาคภูมิใจการปฏิบัติงานของ ทัพเรือภาคที่ 3 และ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3 ในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามัน




Two of the Naresuan-class guided-missile frigates, FFG-421 HTMS Naresuan and FFG-422 HTMS Taksin, ported at Laem Thian Pier, Sattahip naval base in Chonburi province, Gulf of Thailand, during opening ceremomy for Royal Thai Navy (RTN) individual and tactical training of Royal Thai Fleet (RTF) on 28 October 2025. (Royal Thai Navy)

กิจกรรมพิธีเปิดการฝึก อบค.๖๙
“ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกองค์บุคคลและยุทธวิธี กองเรือ กองบิน และหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๙”
พลเรือเอกกรวิทย์  ฉายะรถี ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกองค์บุคคลและยุทธวิธี กองเรือ กองบิน และหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๙ โดยมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองเรือยุทธการ พร้อมกำลังพลที่เข้ารับการฝึกเข้าร่วมพิธี 
ซึ่งก่อนที่จะเปิดพิธีผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ได้เชิญผู้ร่วมพิธียืนถวายความอาลัยแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 
โดยการฝึกขององค์บุคลและยุทธวิธีฯของกองเรือยุทธการ เป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับกำลังพล ทั้งยังเป็นการตรวจสอบความพร้อมในทุกด้าน ได้แก่ ด้านองค์บุคคล ด้านองค์วัตถุ และด้านองค์ยุทธวิธี ผลลัพธ์นอกจากจะเกิดความพร้อมแล้วยังเป็นการเสริมสร้างทักษะ และประสบการณ์ทางยุทธวิธีในการตัดสินใจ การอำนวยการยุทธ์และการบังคับบัญชาสั่งการ 
อันจะตอบสนองต่อนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือซึ่งกำหนดให้เป็น ปีแห่งความพร้อมรบของกองทัพเรือ ภายหลังพิธีเปิดการฝึก ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ได้กล่าวทักทายกำลังพล ณ ท่าเทียบเรือแหลมเทียน การท่าเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

ตามนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือไทยท่านปัจจุบัน พลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ กองทัพเรือไทยในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๙(2026) จะเป็นปีแห่งความพร้อมรบ(The Royal Thai Navy's Year of Combat Readiness) และหลักการ BRIGHT(Behave, Reasonable, Intelligent, Goal, Honor, Thoroughly) แก่กำลังพลทุกระดับเพื่อยกระดับมาตรฐานการปฏิบัติราชการ โดยได้มีการเริ่มต้นการฝึกของหน่วยต่างๆที่รวมถึง
การฝึกความพร้อมในการปฏิบัติการทางทะเลของเรือและอากาศยานในกองเรือปฏิบัติการทัพเรือภาคที่๓ ทรภ.๓(3rd NAC: Third Naval Area Command) เมื่อวันที่ ๑๙ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๘ ที่ประกอบด้วย เรือฟริเกตชุดเรือหลวงเจ้าพระยา เรือหลวงกระบุรี, เรือตรวจการณ์ไกลฝั่งเรือหลวงกระบี่, เรือตรวจการณ์ปืนเรือหลวงหัวหิน, เรือตรวจการณ์ชายฝั่ง เรือ ต.271 และเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงแบบที่๔ ฮ.ลล.๔ S-76B
และพิธีเปิดพิธีเปิดการฝึกองค์บุคคลและยุทธวิธี กองเรือ กองบิน และหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๙ เมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๘ ซึ่งเป็นหน้าที่หลักที่กระทำและพัฒนามาต่อเนื่องก่อนที่ภัยคุกคามทางทะเลของไทยจะเริ่มเพิ่มสูงขึ้น แม้ว่ากองทัพเรือยังคงเผชิญการโจมตีจากสื่อไร้จรรยาบรรณที่ไม่หวังดีต่อชาติและแอบสนับสนุนประเทศฝ่ายตรงข้ามทำลายความน่าเชื่อมาตลอดครับ 
(การสร้างเรื่องโจมตีในช่วงล่าสุดนี้มีทั้งการยกกรณีเรือคอร์เวตเรือหลวงสุโขทัยอับปางในปี พ.ศ.๒๕๖๕ มานำเสนอใหม่ตอกย้ำซ้ำๆว่า "ทหารเรือที่ดีคือทหารเรือที่ตายแล้ว" สร้างข่าวเท็จว่าเรือฟริเกตเรือหลวงภูมิพลอดุลยเดชไฟไหม้เครื่องยนต์พังทั้งลำซึ่งในความเป็นจริง ร.ล.ภูมิพลอดุลยเดชยังคงออกเดินเรือฝึกได้ตลอดทั้งปี โดยเรือมีปัญหาเครื่องยนต์จริงแต่เป็นปัญหาจากการออกแบบระบบภายในและสามารถแก้ไขได้
และการปล่อยข่าวว่ากองทัพเรือไทยจะเลือกบริษัท Navantia สเปนเป็นผู้ชนะโครงการเรือฟริเกตใหม่ที่เสนอแบบเรือฟริเกต ALFA 3000 ที่มีคุณลักษณะไม่พึ่งประสงค์และที่จะไม่มีการถ่ายทอดวิทยาการเพื่อการต่อเรือในไทย ซึ่งต่างเป็นกระบวนการที่ต้องการสร้างภาพว่ากองทัพเรือไม่มีอะไรดีจะได้ถูกตัดงบประมาณการเสริมสร้างกำลังรบ เวลาหากเกิดการรบกับประเทศฝ่ายตรงข้ามขึ้นมาจริงๆจะได้แพ้หรือเสียหายหนัก
แต่พวกกลุ่มที่สร้างข่าวปลอมหรือเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนพวกนี้ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ดูได้จากตอนที่เกิดการปะทะตามแนวชายแดนกับกองทัพต่างชาติในเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๘ คือนิ่งเงียบไม่ช่วยทำอะไรเลย แต่ทหารไทยรบเสร็จก็ออกมาโจมตีกองทัพไทยสารพัดอย่าง ซึ่งที่พวกนี้ออกมาเคลื่อนไหวไม่ได้เพราะหวังดีต่อประเทศชาติอะไรทั้งนั้น แต่ทำทุกอย่างไม่ต่างอะไรกับประเทศฝ่ายตรงข้ามเพื่อทำร้ายทหารไทยของชาติเรา)








Royal Thai Army (RTA) Stryker RTA ICV(Royal Thai Army Infantry Carrier Vehicle) 8x8 of 1st Infantry Battalion, 2nd Infantry Battalion and 3th Infantry Battalion, 112th Infantry Regiment, 11th Infantry Division crews was training on new M153 CROWS II (Common Remotely Operated Weapon Station) by conducted live firing RTA tactical training range Artillery Center in Baan Deelang, Phatthana Nikhom District in Lopburi Province, Thailand on 14 October 2025. (Royal Thai Army)

"ระบบอาวุธแบบอัตโนมัติ CROWS"
ตามที่ ทบ. จัดหายานเกราะล้อยางแบบสไตรเกอร์แบบติดตั้งอาวุธยิงอัตโนมัติ (Common Remotely Operated Weapon Station : CROWS) จำนวน 15 คัน และกำหนดการฝึกยุทโธปกรณ์ใหม่ในห้วงวันที่ 6 - 24 ต.ค.68 ณ สนามฝึก ศป. (เนิน 129) บ.ดีลัง จว.ล.บ. นั้น
เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 68 พล.ต. สังกาศ สร้อยคำ ผบ.พล.ร.11 พร้อมด้วยคณะ ผบช.พล.ร.11 และ ผบ.นขต.ฯ (ถึงระดับกองพัน) ได้กรุณาตรวจเยี่ยมการฝึกยิงปืนด้วยกระสุนจริงของผู้ปฏิบัติการประจำยานเกราะล้อยาง แบบ Stryker ประกอบระบบ Common Remotely Operated Weapon Station (CROWS Training) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับกำลังพลในการใช้งานยุทโธปกรณ์

กรมทหารราบที่๑๑๒ กองพลทหารราบที่๑๑ ร.๑๑๒ พล.ร.๑๑(112th Infantry Regiment, 11th Infantry Division) ซึ่งเป็นกรมชุดรบยานเกราะล้อยาง Stryker(SRCT: Stryker Regiment Combat Team) ที่ใช้ยานเกราะล้อยางลำเลียงพล Stryker RTA ICV(Royal Thai Army Infantry Carrier Vehicle) 8x8 ของกองทัพบกไทยที่สั่งจัดหามาแล้วราว ๑๓๐คัน ซึ่งบางคันได้รับการปรับปรุงติดเกราะตาข่าย anti-drone mesh
กำลังอยู่ระหว่างการติดตั้งและฝึกกำลังพลของระบบควบคุมอาวุธระยะไกลแบบ M153 CROWS II(Common Remotely Operated Weapon Station) ที่จัดหาจำนวน ๑๕ระบบวงเงินราว ๑๖๕,๐๐๐,๐๐๐บาท($5,070,136) สำหรับยานเกราะล้อยางลำเลียงพล Stryker RTA ICV 8x8 ที่เดิมติดตั้งด้วยแท่นยิงปืนกลหนัก M2 .50cal หรือเครื่องยิงลูกระเบิดอัตโนมัติ STK 40 AGL 40mm แบบบังคับด้วยมือ(manual)
นอกจากการปรับปรุงติดตั้งระบบอำนวยการสนามรบ(BMS: Battle Management System) MFoCS II ของบริษัท Leonardo DRS สหรัฐฯ(https://aagth1.blogspot.com/2025/02/leonardo-drs-chaiseri-bms-stryker-8x8.html) การติดตั้ง M153 CROWS II จะเพิ่มขีดความสามารถในการใช้อาวุธที่แม่นยำจากระยะไกลทั้งกลางวันกลางคืนและปกป้องพลยิงที่ทำการควบคุมการยิงจากภายในตัวรถด้วยครับ