Brazil reveals Gripen production schedule, Embraer’s manufacturing role
Brazil has signed for 36 Gripen E/F fighters under an initial contract. The Gripen E is shown here in a rendering. Source: Saab
http://www.janes.com/article/74696/brazil-reveals-gripen-production-schedule-embraer-s-manufacturing-role
กองทัพอากาศบราซิล(FAB, Brazilian Air Force) ได้เปิดเผยรายละเอียดแผนสายการผลิตสำหรับเครื่องบินขับไล่ SAAB Gripen E/F(หรือ F-39 ในกองทัพอากาศบราซิล) สวีเดน 36เครื่องที่ได้สั่งจัดหาในปี 2014 วงเงิน $5.4 billion
และได้กล่าวกับ Jane's เมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า การส่งมอบเครื่องบินขับไล่ Gripen E/F จะมีขึ้นในช่วงปี 2019-2024
เครื่องบินขับไล่ Gripen ของบราซิลจะเริ่มขั้นตอนการรับรองอากาศยานในเดือนมกราคม 2019 และ Gripen E รุ่นที่นั่งเดี่ยว และ Gripen F รุ่นสองที่นั่งที่เป็นเครื่องเที่ยวบินกับทดสอบเครื่องวัดประกอบการบินจะทำการบินครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม 2019 และตุลาคม 2021 ตามลำดับ
บริษัท SAAB สวีเดนจะทำการผลิตเครื่องบินขับไล่ Gripen แบบเต็มทั้งเครื่องจำนวน 13เครื่อง และที่เหลืออีก 23เครื่องจะดำเนินการผลิตโดยที่บราซิลมีส่วนร่วม
สายการผลิตเครื่องบินขับไล่รุ่นที่นั่งเดี่ยว Gripen E ชุดแรก 11เครื่องจะมีการส่งมอบได้ในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน 2021 และที่เหลืออีก 8เครื่องจะมีการสร้างขั้นต้นโดย Saab พร้อมกับการฝึกคนงานชาวบราซิลและประกอบขั้นสุดท้ายในบราซิล
ช่างอากาศยานบราซิลมากกว่า 350คนจะได้รับการฝึกที่สวีเดนจนถึงปี 2024 ตามที่โฆษกของ Saab กล่าวกับ Jane's
บริษัท Embraer Defense and Security บราซิลจะมีบทบาทสำคัญในโครงการและจะดำเนินการสายการผลิต Gripen E ที่นั่งเดี่ยว 8เครื่อง และ Gripen F สองที่นั่ง 7เครื่องแบบเต็มอัตราได้ในเดือนมิถุนายน 2020
โดยเครื่องบินขับไล่ Gripen E เครื่องแรกที่ประกอบโดย Embraer บราซิลจะส่งมอบได้ในเดือนสิงหาคม 2022 และ Gripen F เครื่องแรกที่ประกอบโดย Embraer จะส่งมอบได้ในเดือนกันยายน 2023 ครับ
Canada cements interest in Australian Hornets
Canada has formally expressed interest in Australia’s used Boeing F/A-18A/B Hornets, marking a significant development in the Royal Canadian Air Force’s search for a fighter that could temporarily fill the CF-18’s mission.
https://www.flightglobal.com/news/articles/canada-cements-interest-in-australian-hornets-441980/
Three Royal Australian Air Force F/A-18A Hornet s in 2013(wikipedia.org)
แคนาดาได้แสดงความสนใจอย่างเป็นทางการในการจัดหาเครื่องบินขับไล่ Boeing F/A-18A/B Hornet ที่ผ่านการใช้งานแล้วของกองทัพอากาศออสเตรเลีย(RAAF: Royal Australian Air Force)
เป็นการแสดงพัฒนาการที่สำคัญของกองทัพอากาศแคนาดา(RCAF: Royal Canadian Air Force) ในการจัดหาเครื่องบินขับไล่ขั้นระยะชั่วคราวเพื่อเติมเต็มภารกิจของเครื่องบินขับไล่ CF-18 Hornet(CF-188 ในกองทัพอากาศแคนาดา)
เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมารัฐมนตรีกลาโหมแคนาดา Harjit Sajjan ได้แสดงความสนใจที่จะจัดหาเครื่องบินขับไล่ F/A-18A/B Hornet มือสองจากออสเตรเลียที่มีประจำการวมราว 71เครื่อง ซึ่งจะถูกทดแทนโดยเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-35A Lightning II
ซึ่งเดิมกองทัพอากาศออสเตรเลียได้จัดหา F/A-18A 57เครื่อง และ F/A-18B 18เครื่อง รวม 75เครื่องในช่วงปี 1984-1990 โดยส่วนใหญ่ทำการประกอบโดยโรงงานอากาศยานรัฐบาลออสเตรเลีย(GAF: Government Aircraft Factories)
ตามการแถลงของรัฐบาลแคนนาดาเมื่อ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา แคนาดาได้ยื่นการประกาศอย่างเป็นทางการในการแสดงถึงความสนใจนี้ต่อออสเตรเลีย โดยแคนาดาคาดว่าจะได้รับการตอบกลับภายในสิ้นปี 2017 เกี่ยวกับรายละเอียดของราคาเครื่องและจำนวนเครื่องที่จะจัดหาได้
โดยหลังที่รัฐบาลพรรคเสรีนิยมภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีแคนาดา Justin Trudeau ต้องการที่ถอนตัวจากโครงการ Joint Strike Fighter(JSF) ในการจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-35A ทดแทน CF-18
แคนาดาได้แสดงความต้องการจัดหาเครื่องบินขับไล่ Boeing F/A-18E/F Super Hornet ตามรายงานที่รัฐบาลสหรัฐฯได้อนุมัติความเป็นไปได้ในการขายให้(http://aagth1.blogspot.com/2017/09/fa-18ef-super-hornet.html)
แต่รัฐบาลแคนาดาได้ระงับการเจรจากับบริษัท Boeing สหรัฐหลังที่บริษัทกล่าวหาว่าบริษัท Bombardier แคนาดาทำการทุ่มตลาดเครื่องบินโดยสารไอพ่น CSeries ของตนในตลาดสหรัฐฯ
ทำให้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯกำลังสอบสวนเพื่อตรวจสอบว่าบริษัท Bombardier แคนาดาได้รับเงินทุนอุดหนุนอย่างไม่เป็นธรรมจากรัฐบาลแคนาดาหรือไม่
อย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ดังกล่าวคาดว่าจะไม่ทวีความร้อนแรงขึ้น หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯตัดสินใจที่จะเพิ่มภาษีอีกร้อยละ80 ในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่ได้เรียกเก็บภาษีอากรขาเข้าจากการนำเข้าเครื่องบินโดยสาร CS100 เป็นร้อยละ220 ครับ