First transformational 5th generation aircraft arrive for UK’s Lightning Squadron
RAF MARHAM, Norfolk, UK, 5th June 2018 – The United Kingdom has welcomed home its first four F-35B advanced fighter aircraft, which will be flown by the Royal Air Force and Royal Navy.
https://www.f35.com/news/detail/lockheed-martin-built-f-35-comes-home-to-raf-marham
วันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา กองทัพอากาศสหราชอาณาจักร(RAF: Royal Air Force)ได้ทำพิธีต้อนรับการเดินทางถึงที่ตั้งของเครื่องบินขับไล่ยุคที่5 Lockheed Martin F-35B Lightning II Joint Strike Fighter(JSF) สหรัฐฯชุดแรก
ณ ฝูงบิน 617 'Dambusters' ฐานทัพอากาศ RAF Marham ใน Norfolk ซึ่ง F-35B จะถูกนำเข้าประจำการทั้งในกองทัพอากาศสหอาณาจักร และกองทัพเรือสหราชอาณาจักร(Royal Navy)
หมู่บินเครื่องบินขับไล่ F-35B อังกฤษชุดแรกทั้ง 4เครื่องซึ่งได้รับการสนับสนุนการเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศจากเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ Airbus A330 Voyager ของกองทัพอากาศสหราชอาณาจักร
ทำการบินเดินทางจากสถานีอากาศนาวิกโยธิน (MCAS: Marine Corps Air Station) Beaufort มลรัฐ South Carolina ที่เป็นสถานที่ฝึกของนักบินอังกฤษร่วมกับนาวิกโยธินสหรัฐฯ(USMC: US Marine Corps) ถึงฐานทัพอากาศ Marham โดยไม่มีการแวะพักกลางทางเป็นระยะทาง 6,500km
ด้วยวิทยาการการถูกตรวจจับได้ยาก(Stealth), ระบบตรวจจับขั้นก้าวหน้า, ขีดความสามารถในการใช้อาวุธ และพิสัยทำการ F-35 เป็นเครื่องบินขับไล่ที่มีอำนาจการสังหาร, ความอยู่รอด และการเชื่อมโยงมากที่สุดที่เคยสร้างมา
มากไปกว่าการเป็นเครื่องบินขับไล่ ขีดความสามารถในการรวบรวม, วิเคราะห์ และและแบ่งปันข้อมูลของ F-35 เป็นการขยายการทวีกำลังที่ทรงพลังแก่กำลังทางอากาศ, พื้นน้ำ และภาคพื้นดินทั้งหมดของฝ่ายเราในสนามรบ
"เครื่องบินขับไล่ F-35B เป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงของการปฏิบัติงานทางความมั่นคงของสหราชอาณาจักร และมันจะเพิ่มเติมกำลังทหารอากาศยุคหน้าให้มาถึงกองทัพอากาศสหราชอาณาจักรในโอกาสครบรอบการก่อตั้ง 100ปี
ในฐานะหุ้นส่วนหลักของโครงการ F-35 ตั้งแต่ช่วงต้น สหราชอาณาจักรได้เป็นเครื่องมือในการลับความคมการออกแบบและการพัฒนาเครื่อง โดยเฉพาะในส่วนขีดความสามารถการบินขึ้นระยะสั้นและลงจอดทางดิ่ง(STOVL: Short Take-Off and Vertical Landing)" Peter Ruddock ผู้อำนวยการบริหาร Lockheed Martin UK กล่าว
โครงการ F-35 นี้ยังให้ผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่แก่ภาคอุตสาหกรรมอังกฤษมากกว่า 500บริษัทที่เข้าร่วมห่วงโซ่อุปทาน ราวร้อยละ15 จากวงเงินที่ได้จากโครงการมากกว่า 3,000เครื่องเป็นส่วนที่ถูกผลิตในอังกฤษ และปัจจุบันโครงการได้ถูกรับประกันราว $13 billion ในสัญญาสำหรับผู้จัดส่งอังกฤษ
การมาถึงของเครื่องบินขับไล่ F-35B ก่อนกำหนดการสองเดือน จะทำให้กองกำลัง Lightning Force ของอังกฤษมุ่งความสำคัญไปที่การบรรลุความพร้อมการปฏิบัติการขั้นต้น(IOC: Initial Operational Capability) ภายในสิ้นปี 2018
การทดสอบการบินครั้งแรกของ F-35B กับเรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Queen Elizabeth คาดว่าจะมีขึ้นในปี 2018 นี้(http://aagth1.blogspot.com/2018/04/f-35b-hms-queen-elizabeth-hms-ocean.html)
โดยนอกจากฝูงบิน617 กองทัพอากาศอังกฤษแล้ว ฝูงบินอากาศนาวี809 'Immortals' (NAS: Naval Air Squadron) กองทัพเรืออังกฤษที่จัดตั้งขึ้นใหม่อีกครั้ง จะเป็นฝูงบิน F-35B ฝูงที่สองในปี 2023
อีกทั้ง F-35B อังกฤษจะถูกนำเข้าประจำการในฝูงบิน207 ในฐานะหน่วยเปลี่ยนแบบการปฏิบัติการ(OCU: Operational Conversion Unit) ตั้งแต่ปี 2019
ซึ่งฝูงบินเหล่านี้ทั้งหมดจะเจ้าหน้าที่รวมกันทั้งนักบินและช่างเครื่องของกองทัพอากาศสหอาณาจักร และกองทัพเรือสหราชอาณาจักร
การสนับสนุนที่ครบคลุมยั่งยืนสำหรับฝูงบิน F-35B อังกฤษที่ตั้ง ณ ฐานทัพอากาศ Marham จะดำเนินการโดย Lightning Team UK ซึ่งเป็นตัวแทนภาคอุตสาหกรรมร่วม
ระหว่างบริษัท BAE Systems สหราชอาณาจักร, Lockheed Martin สหรัฐฯ, Pratt & Whitney สหรัฐฯ และ Rolls Royce สหราชอาณาจักร
ปัจจุบันสหราชอาณาจักรได้รับมอบ F-35B จำนวน 15เครื่อง ซึ่งส่วนหนึ่งยังคงอยู่ที่สถานีอากาศนาวิกโยธิน MCAS Beaufort หรือฐานทัพอากาศ Edwards กองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force) มลรัฐ California
ซึ่งสหรัฐฯจะคงการทดสอบเครื่องบินขับไล่ F-35B และระบบอาวุธไปจนตามแผนที่จะประกาศความพร้อม IOC ในปี 2019 โดยปัจจุบันมี F-35 เกือบ 300เครื่องใน 15ฐานทัพทั่วโลกและได้ประสบความสำเร็จในการทำการบินแล้วมากกว่า 140,000ชั่วโมงบินครับ