Thai F-5s to fight on with IRIS-T missiles
The Royal Thai Air Force is to arm its Northrop F-5 fighters with IRIS-T short-range air-to-air missiles, following the signature of a repeat order with German manufacturer Diehl Defence.
https://www.flightglobal.com/news/articles/thai-f-5s-to-fight-on-with-iris-t-missiles-449537/
Royal Thai Air Force F-5F Super Tigris Prototype Roll Out Ceremony at 211st Squadron, Win21 Ubon Ratchathani, 23 May 2018(https://www.facebook.com/ball.kittidej)
Royal Thai Air Force F-5ST Super Tigris SMART Weapons include IRIS-T, Python-5, Derby and LIZARD 3
กองทัพอากาศไทย(RTAF: Royal Thai Air Force) จะติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้ IRIS-T กับเครื่องบินขับไล่แบบที่ ๑๘ข/ค Northop F-5E/F-5F Tiger II
เมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายนที่ผ่านมากองทัพอากาศไทยได้มีการลงนามสัญญาจัดหาอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ IRIS-T เพิ่มเติมจากบริษัท Diehl Defence เยอรมนีที่ได้ประกาศเมื่อวันที่ ๑๘ มิถุนายน โดยไม่มีการเปิดเผยจำนวนและวงเงินการจัดหา
อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้ Diehl IRIS-T เยอรมนีได้รับการจัดหาโดยกองทัพอากาศไทยครั้งแรกสำหรับเป็นอาวุธของเครื่องบินขับไล่แบบที่ ๒๐/ก Saab Gripen C/D ฝูงบิน๗๐๑ กองบิน๗ สุราษฎร์ธานี ที่ปัจจุบันมี ๑๑เครื่อง
และรวมถึงเครื่องบินขับไล่แบบที่ ๑๙/ก Lockheed Martin F-16AM/BM EMLU ฝูงบิน๔๐๓ กองบิน๔ ตาคลี จำนวน ๑๘เครื่อง ซึ่งได้รับการปรับปรุงขีดความสามารถโดยบริษัท อุตสาหกรรมการบิน Thai Aviation Industries(TAI) ไทยที่ได้รับความร่วมมือการดำเนินงานจากสหรัฐฯ
บริษัท Diehl Defence เยอรมนีเน้นย้ำว่า "แผนการจัดหาใหม่เพื่อบูรณาการอาวุธเข้ากับ F-5 ได้ทำให้ IRIS-T เป็นอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศมาตรฐานของกองทัพอากาศไทย"
ซึ่ง IRIS-T จะถูกนำไปติดตั้งกับเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๑๘ข/ค F-5E/F ฝูงบิน๒๑๑ กองบิน๒๑ อุบลราชธานี ๑๔เครื่องที่เข้ารับการปรับปรุงขีดความสามารถ F-5ST SUPER TIGRIS โดยบริษัท Elbit System อิสราเอล และ TAI ไทย(http://aagth1.blogspot.com/2018/05/f-5ef-super-tigris.html)
Flight Fleets Analyzer แสดงข้อมูลว่ากองทัพอากาศไทยยังคงประจำการเครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดี่ยว บ.ข.๑๘ข F-5E จำนวน ๓๐เครื่อง และเครื่องบินขับไล่สองที่นั่ง บ.ข.๑๘/ค F-5F จำนวน ๔เครื่อง ซึ่งมีอายุการใช้งานระหว่าง ๓๐-๔๐ปี
รวมถึงเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๑๙/ก F-16A/B Block 15 OCU ฝูงบิน๑๐๓ กองบิน๑ โคราช, F-16A/B ADF ฝูงบิน๑๐๒ กองบิน๑ และ F-16AM/BM EMLU ฝูงบิน๔๐๓ กองบิน๔ รวมทั้งสามฝูงบินจำนวน ๕๓เครื่อง(http://aagth1.blogspot.com/2018/06/f-16ab.html)
การสั่งจัดหาจากกองทัพอากาศไทยล่าสุดนับเป็นการบูรณาการอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้ IRIS-T เข้ากับเครื่องบินขับไล่ F-5 ที่มีอายุการใช้งานมานานเป็นครั้งแรก โดยคาดว่าจะใช้งานร่วมกับหมวกบินติดจอแสดงผล DASH IV
การปรับปรุง F-5ST SUPER TIGRIS ยังรวมถึงขีดความสามารถในการใช้อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้ Rafael Python-5 อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยกลางนอกระยะสายตา Rafael I-Derby และระเบิดนำวิถี Laser แบบ Elbit LIZARD 3 อิสราเอลด้วย
IRIS-T เป็นอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้นำวิถีด้วย Infrared แบบ all-aspect มีมิติขนาดและน้ำหนักเท่ากับอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้ Raytheon AIM-9L/M Sidewinder แต่ IRIS-T มีพิสัยยิงไกลสุดถึง16nmi(25km) และทำงานร่วมกับหมวกติดศูนย์เล็งได้
โดยหลังการบูรณาการระบบเข้ากับ F-5E/F กองทัพอากาศไทยมีแผนที่จะนำอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ IRIS-T ทดแทน AIM-9 Sidewinder อย่างเต็มอัตราในอนาคต
นอกจากเครื่องบินขับไล่ Gripen C/D, F-16AM/BM EMLU และ F-5E/F Super Tigris กองทัพอากาศไทย อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ IRIS-T ยังถูกใช้งานกับเครื่องบินขับไล่ Boeing F/A-18, Eurofighter Typhoon และ Panavia Tornado ที่ประจำการในหลายประเทศทั่วโลก
ที่เป็นชาติยุโรปที่เป็นหุ้นส่วนโครงการพัฒนาคือเยอรมนี, อิตาลี, สเปน, นอร์เวย์, สวีเดน และกรีซ และส่งออกต่างประเทศคือ ออสเตรีย, แอฟริกาใต้ และซาอุดิอาระเบีย ตามที่ Diehl Defence กล่าวครับ