Korea Aerospace Industries has conducted the first engine ground test for its developmental Light Attack Helicopter (LAH).
https://www.flightglobal.com/news/articles/picture-kai-light-attack-helicopter-in-engine-grou-457396/
บริษัท Korea Aerospace Industries(KAI) สาธารณรัฐเกาหลี ได้ดำเนินการทดสอบเดินเครื่องยนต์ภาคพื้นดินครั้งแรกสำหรับการพัฒนาเฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนติดอาวุธ Light Armed Helicopter(LAH) เครื่องต้นแบบ
การทดสอบได้มีขึ้น ณ ศูนย์การผลิตของบริษัท KAI ใน Sacheon และเป็นการแสดงถึงขั้นตอนการทดสอบภาคพื้นดินขั้นสุดท้าย การบินครั้งแรกของเฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนติดอาวุธ LAH อาจจะมีขึ้นก่อนกลางปี 2019 นี้
ฮ.ลาดตระเวนติดอาวุธ LAH เกาหลีใต้ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ใหม่ของบริษัท Safran ฝรั่งเศสคือเครื่องยนต์ Turboshaft แบบ Arriel 2L2 สองเครื่อง กำลังเครื่องละ 1024shp ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่ทรงพลังมากที่สุดใน ย.ตระกูล Arriel
ขณะที่เฮลิคอปเตอร์พลเรือนเบา Light Civilian Helicopter(LCH) ซึ่งเป็นรุ่นสำหรับใช้งานทั่วไปของ ฮ.ลาดตระเวนติดอาวุธ KAI LAH จะได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ Safran Arriel 2C2
ในเดือนมิถุนายน 2016 บริษัท Safran ฝรั่งเศสกล่าวว่าบริษัท Hanhwa Techwin สาธารณรัฐเกาหลีจะเข้าร่วมการพัฒนาเครื่องยนต์ Arriel 2L2 ในเกาหลีใต้ โดยบทบาทของ Hanhwa Techwin เกาหลีใต้คือ
การจะผลิตเครื่องยนต์ภายใต้สิทธิบัตร, การผลิตชิ้นส่วนหลัก และดำเนินการประกอบขั้นสุดท้าย ณ โรงงานใน Changwon ยังรวมถึงการให้การสนับสนุนการบำรุงรักษา, ซ่อม และยกเครื่อง(MRO: Maintenance, Repair, and Overhaul) สำหรับเครื่องยนต์ด้วย
Safran กล่าวว่า ย.Arriel 2L2 จะมีวิทยาการ "ใหม่และได้รับการพิสูจน์" ชิ้นส่วนประกอบที่ได้รับการพัฒนาใหม่จะรวมถึง แกนเครื่องอัด, ตัวกระจายเครื่องอัดแรงดันสูง, วัสดุกังหัน Turbine แรงดันสูง และระบบควบคุมเครื่องยนต์ Digital(FADEC: Full Authority Digital Engine Control) สองช่องทาง
ในงานแสดงการบินนานาชาติ Paris Air Show 2017 ที่ฝรั่งเศสเมื่อเดือนมิถุนายน 2017 Safran ฝรั่งเศสและ Hanwha เกาหลีใต้ประกาศว่าพวกตนได้ดำเนินการทดสอบเดินเครื่องยนต์ Arriel 2L2 ภาคพื้นดินครั้งแรกแล้ว
KAI เกาหลีใต้ตั้งเป้าที่จะเสร็จสิ้นการพัฒนาเฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนติดอาวุธ LAH ในเดือนพฤศจิกายน 2022 เพื่อทำทางไปสู่การเข้าประจำการในปี 2023 ส่วนเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป LCH รุ่นพลเรือนจะเข้าประจำการได้ในปี 2022
ฮ.LCH/LAH มีพื้นฐานมาจากเฮลิคอปเตอร์โดยสารขนาดกลาง Airbus Helicopters H155(Eurocopter EC155 B1) ที่มีใช้งานในหลายประเทศ เช่น กองบินตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติไทย(Royal Thai Police) และกรมแผนที่ทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย(Royal Thai Armed Forces)
สายการผลิตเฮลิคอปเตอร์ LCH/LAH ของเกาหลีใต้นี้จะยืดอายุสายการผลิตของ ฮ.H155 ออกไป ซึ่งตั้งแต่ปี 2018 ฮ.H155 ได้ถูกแทนที่ด้วยเฮลิคอปเตอร์ Airbus Helicopters H160 รุ่นใหม่(https://aagth1.blogspot.com/2017/03/airbus-helicopters-h160.html)
โดยกองทัพบกสาธารณรัฐเกาหลี(ROKA: Republic of Korea Army) มีแผนจะจัดหาเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธเบา LAH จำนวน 214เครื่องเพื่อทดแทนเฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนติดอาวุธ MD Helicopters MD500 และเฮลิคอปเตอร์โจมตี Bell AH-1J/S Cobra
ฮ.LAH มีคุณสมบัติหลักติดตั้งปืนใหญ่อากาศสามลำกล้องหมุน Gatling Gun ขนาด 20mm และระบบตรวจจับ EO/IR(Electro-Optical/Infrared) ที่หัวเครื่อง
มีปีกคานอาวุธข้างลำตัวทั้งสองด้านสำหรับติดกระเปาะจรวด ลำตัวและหางเครื่องติดระบบแจ้งเตือนการถูกยิงด้วยอาวุธปล่อยนำวิถี และท่อไอเสียที่ปรับทิศทางขึ้นด้านบนเพื่อลดการแพร่สัญญาณความร้อน Infrared(IR)
พิธีเปิดตัวเฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนติดอาวุธ LAH เครื่องต้นแบบมีขึ้น ณ โรงงานอากาศยานของ KAI ใน Sacheon เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2018(https://aagth1.blogspot.com/2018/12/lah.html)
ตามที่บริษัท Airbus Helicopters ยุโรปได้กล่าวในงานแสดงการบินและอาวุธยุทโธปกรณ์นานาชาติ ADEX 2015 ที่ Seoul ว่าบริษัทคาดว่าจะสามาถขายเฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนติดอาวุธ LAH แก่ลูกค้าส่งออกต่างประเทศได้ถึง 300-400เครื่องครับ