วันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

มาเลเซียเปิดเผยแผนในอนาคตสำหรับเครื่องบินลำเลียง A400M

Singapore Airshow 2020: Malaysia reveals future plans for A400M airlifters




A Royal Malaysian Air Force A400M, on display at Singapore Airshow 2020. Source: Jane’s/Ridzwan Rahmat


the RMAF has conducted aerial refuelling exercises from the A400M for the two other fighter aircraft types in service, the Boeing F/A-18 Hornet and the BAE Hawk 208.
https://www.janes.com/article/94323/singapore-airshow-2020-malaysia-reveals-future-plans-for-a400m-airlifters

กองทัพอากาศมาเลเซีย(RMAF: Royal Malaysian Air Force, TUDM: Tentera Udara Diraja Malaysia) ได้วางแผนที่จะเพิ่มขีดความสามารถทางยุทธวิธีเพิ่มเติม
ของเครื่องบินลำเลียงหนักทางยุทธศาสตร์ Airbus A400M จำนวน 4เครื่องของตน รวมถึงการติดตั้งขีดความสามารถการส่งทางอากาศด้วยร่มแบบเต็มรูปแบบแก่เครื่อง

แผนได้รับการเปิดเผยโดย นาวาอากาศตรี Major Lo Chee Sing นักบินเครื่องบินลำเลียง A400M ฝูงบินที่22 กองทัพอากาศมาเลเซีย ระหว่างการบรรยายที่ดำเนินการบริหารโดยบริษัท Airbus ยุโรป
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานแสดงการบินนานาชาติ Singapore Airshow 2020 ณ สนามบิน Changi สิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 11-16 กุมภาพันธ์ 2020

"กองทัพอากาศมาเลเซียมีความกระตือรือร้นที่จะดำเนินการทำและและมีส่วนร่วมมากขึ้นในขีดความสามารถทางยุทธวิธีของเครื่องบินลำเลียง A400M เหล่านี้" นาวาอากาศตรี Lo กล่าว
ตามข้อมูลจากนักบิน A400M กองทัพอากาศมาเลเซียได้ปลดล็อกขีดความสามารถเหล่านี้ในต้นปี 2018 เมื่อประสบความสำเร็จในการดำเนินปฏิบัติการเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศสองจุดด้วย A400M

การปฏิบัติการเติมเชื้อเพลิงการอากาศได้ดำเนินการกับเครื่องบินขับไล่ Su-30MKM สองเครื่อง "เราเป็นหนึ่งในรายแรกของโลกที่ดำเนินการ(ปฏิบัติการเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศสองจุดด้วย A400M)" นาวาอากาศตรี Lo เสริม
ตั้งแต่นั้นกองทัพอากาศมาเลเซียได้ดำเนินการฝึกเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศจาก A400M กับเครื่องบินขับไล่อื่นอีกสองแบบของตน เครื่องบินขับไล่ Boeing F/A-18D Hornet และเครื่องบินโจมตีเบา BAE Hawk 208

ในเร็วๆนี้กองทัพอากาศมาเลเซียจะย้ายไปสู่การปฏิบัติการบินขึ้นและลงจอดที่ทางวิ่งที่ไม่มีการเตรียมการและมีข้อจำกัด และในที่สุดกองทัพอากาศมาเลเซียจะสำรวจความเป็นไปได้ที่จะ
ให้พลร่มทำการโดดร่มส่งทางอากาศแบบ HALO(High-Altitude Low Opening) และ HAHO(High-Altitude High Opening) และทิ้งร่มสัมภาระทางอากาศด้วยระบบ CDS(Container Delivery System)

นาวาอากาศตรี Lo ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่าเมื่อไรที่จะเริ่มดำเนินการแต่ละปฏิบัติการเหล่านี้ที่คาดว่าจะได้รับการดำเนินการ แต่ไม่ได้กล่าวว่า
การมุ่งเน้นเร่งด่วนของฝูงบินคือการจะสนับสนุนแผนซ่อมบำรุงสำหรับเครื่องบินขับไล่ F/A-18D หนึ่งเครื่อง ณ Williamstown ออสเตรเลีย ที่เครื่องจะถูกขนส่งจากมาเลเซียไปออสเตรเลียด้วย A400M หนึ่งเครื่องภายหลังในปี 2020 นี้ครับ