วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2558

อังกฤษส่งข้อเสนอต่อสหรัฐฯในการปรับปรุงเฮลิคอปเตอร์โจมตี Apache ของตนให้เป็นมาตรฐาน AH-64E Guardian

UK requests remanufacture of Apaches to AH-64E standard
The UK has requested that 50 of its older model WAH-64D Apache attack helicopters be remanufactured to the latest AH-64E standard. Source: IHS/Patrick Allen
http://www.janes.com/article/53882/uk-requests-remanufacture-of-apaches-to-ah-64e-standard

สหราชอาณาจักรได้ส่งข้อเสนอต่อรัฐบาลสหรัฐฯในการปรับปรุงเฮลิคอปเตอร์โจมตี AgustaWestland-Boeing WAH-64D Block I Apache Longbow AH.1
ของกองทัพบกสหราชอาณาจักร(British's Royal Army) จำนวน50เครื่องให้เป็นมาตรฐาน AH-64E Guardian (หรือเดิมคือ Apache Block III)

โดยตามการเปิดเผยเอกสารของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯและองค์การความร่วมมือด้านการรักษาความปลอดภัยและความมั่นคงสหรัฐฯ(DSCA:Defense Security Cooperation Agency) เมื่อวันที่ 27 สิงหาคมผ่านมา
ข้อเสนอความเป็นไปได้ในการปรับปรุง ฮ.โจมตี Apache AH Mk.1 ของกองทัพอังกฤษ จำนวน 50เครื่องวงเงินไม่ต่ำกว่า $3 billion ประกอบไปด้วยการจัดหาและปรับปรุงอุปกรณ์ต่างๆหลายรายการเช่น
เครื่องยนต์ General Electric T-700-GE-701D ใหม่ 110เครื่องแทนเครื่องยนต์ Rolls-Royce RTM 322 เดิม
ซ่อมคืนสภาพและปรับปรุงสมรรถนะระบบตรวจจับทั้ง AN/ASQ-170 Modernized Target Acquisition and Designation Sight (M-TADS) 53ระบบ, AN/AAR-11 Modernized Pilot Night Vision Sensor (PNVS) 53ระบบ
, AN/APG-78 Fire Control Radar ("Longbow" FCR) 52ระบบ, Radar Electronics Unit ที่เป็นส่วนประกอบย่อยของ Radar Longbow 55ระบบ, AN/APR-48B Modernized Radar Frequency Interferometer 52ระบบ
ระบบแจ้งเตือนภัย AAR-57(V) 3/5 Common Missile Warning Systems (CMWS) 60ระบบ, ระบบ GPS/INS ใหม่ 120ระบบ และหมวกนักบิน Apache Aviator Integrated Helmet 300ใบ เป็นต้น และระบบอื่นๆอีกจำนวนมาก

กองทัพบกอังกฤษได้จัดหา ฮ.โจมตี WAH-64D Apache AH Mk.I จำนวน 67เครื่อง โดยสูญเสียไปหนึ่งเครื่องจากอุบัติเหตุในจังหวัด Helmand อัฟกานิสถาน
หลังจากถอนกำลังจากปฏิบัติการเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังผสมนานาชาติ ISAF ในอัฟกานิสถาน กองทัพบกอังกฤษได้เก็บสำรอง ฮ.Apache จำนวน 16เครื่อง ทำให้คงเหลือประจำการที่ 50เครื่อง
ทั้งนี้ ฮ.โจมตี Apache ของอังกฤษกำลังประสบปัญหาชิ้นส่วนอุปกรณ์ Electronic คือวงจรรวม transistor chip หมดสภาพการใช้งาน โดยที่ไม่มีสายการผลิตใหม่แล้ว
และจากผลปฏิบัติการที่ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมในอัฟกานิสถานและลิเบียทำให้กระทรวงกลาโหมอังกฤษมีแผนที่จะใช้งาน ฮ.Apache ต่อไปจนถึงปี 2040

ซึ่งกระทรวงกลาโหมอังกฤษได้มีการพิจารณาทางเลือกในการแก้ไขปัญหา ฮ.Apache ที่มีอยู่สามแนวทางคือ
1.จัดหา ฮ.โจมตี AH-64E ที่สร้างใหม่จากโรงงาน 2.ซื้อสิทธิบัตร ฮ.โจมตี AH-64E โดยทำการประกอบใช้ชิ้นส่วนและระบบของอังกฤษ และ 3.ปรับปรุง ฮ.Apache ที่มีอยู่เดิม
อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาสองทางเลือกแรกคือการจัดหา ฮ.โจมตี AH-64E ใหม่จากบริษัท Boeing สหรัฐฯนั้นจะต้องใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า GBP20 million หรือ $31 million ต่อเครื่อง
หรือการจัดซื้อสิทธิบัตรเครื่องมาสร้างเองในอังกฤษเช่นเดียวกับ WAH-64D ที่เป็นความร่วมมือระหว่าง AgustaWestland และ Boeing นั้นก็จะทำให้เครื่องมีราคาสูงมากกว่าเครื่องมาตรฐานที่สหรัฐฯใช้ด้วย
ดังนั้นแนวการปรับปรุง ฮ.โจมตี Apache กองทัพบกอังกฤษมีอยู่เดิมโดยการเปลี่ยนชิ้นส่วนใหม่ที่ปิดสายการผลิตไปแล้วและปรับปรุงให้มีสมรรถนะตามมาตรฐาน AH-64E จึงเป็นทางเลือกที่ประหยัดที่สุด

อย่างไรก็ตามทาง DSCA ได้มีการแจ้งข้อมูลไปยังกระทรวงกลาโหมอังกฤษว่าแนวทางการปรับปรุง ฮ.Apache ใหม่จากโครงสร้างเครื่องทีมีอยู่เดิมอาจจะต้องใช้งบประมาณถึง $60 million ต่อเครื่อง ซึ่งสูงกว่าเครื่องสร้างใหม่ถึงสามเท่า
ซึ่งเหตุผลว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้นยังไม่มีความชัดเจนในขณะนี้ ซึ่งทางสหรัฐฯและอังกฤษจำเป็นที่จะต้องมีการเจรจาหาข้อตกลงในโครงการนี้ให้ลงตัวไม่ให้สูงเกินกว่าแผนการใช้งบประมาณที่วางไว้ของทั้งสองประเทศครับ