U.S. Navy Started LRASM Anti-Ship Missile Integration Tests on F/A-18E/F Super Hornet
A Long Range Anti-Ship Missile (LRASM) integrated on F/A-18E/F Super Hornet Aug. 12 at NAS Patuxent River, Md.
The program's flight test team is conducting initial testing to ensure proper loading, unloading and handling of the LRASM on the F/A-18 E/F. (U.S. Navy photo)
Initial fit checks are conducted on the Long Range Anti-Ship Missile (LRASM) Aug. 12 at NAS Patuxent River's Air Test and Evaluation Squadron (VX) 23 facility
in preparation for the first phase of airworthiness testing with the F/A-18 E/F. (U.S. Navy photo)
File picture: This is a view of 1/10-scale sting-mounted AIM-120C store and F/A-18E/F aircraft models during a break in store separation testing inside AEDC’s 16-foot transonic wind tunnel. (Photo by David Housch)
CGI: An F/A-18E Super Hornet fitted with two LRASM missiles.
CGI: A LRASM is launched from an F/A-18E Super Hornet
http://www.navyrecognition.com/index.php?option=com_content&task=view&id=3021
กองทัพเรือสหรัฐฯเริ่มการทดสอบขั้นต้นกับการติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำแบบใหม่ Long Range Anti Ship Missile (LRASM) กับเครื่องบินขับไล่ F/A-18E/F Super Hornet
ตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม ที่ผ่านมาที่ฝูงบินทดสอบ VX-23 สถานีอากาศนาวี Patuxent River
ตามขั้นตอนทดสอบก่อนหน้านี้ได้มีการทดสอบจำลองการติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีในการตอนการติดตั้งตัวจรวดติดกับแบบจำลองตัวเครื่องในอุโมงค์ลมมาแล้ว ตามกำหนดการณ์การทดสอบติดตั้งและทำการบินกับเครื่องจริงจะมีขึ้นภายในเดือนนี้
โดย Greg Oliver ผู้ช่วยผู้จัดการโครงการ LRASM Deployment Office (LDO) ที่รับผิดชอบการทดสอบประเมินผลนี้ได้กล่าวว่า
"ขั้นต้นจะเป็นการสร้างความคุ้นเคยของทีมทดสอบในการติดตั้งติดและถอด LRASM กับ F/A-18E/F การทดสอบนี้จะเป็นการตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีผลกระทบในเชิงลบเเมื่อทำการติดตั้งจรวดกับตัวเครื่องบิน"
การทดสอบการบินเมื่อติดตั้ง LRASM จะมีขึ้นต่อไปจนถึงราวปีหน้าที่จะมีการทดสอบการปล่อยอาวุธจากเครื่องที่สถานีการใช้อาวุธทางอากาศนาวี China Lake
"นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าตื้นเต้นสำหรับกองทัพเรือ อาวุธปล่อยนำวิถีรุ่นนี้จะช่วยให้เราก้าวผ่านภัยคุกคามทางทะเลได้มากขึ้น และทำให้เครื่องบินขับไล่มีความสามารถที่จำเป็นเร่งด่วนในการโจมตีเป้าหมายการรบในผิวน้ำจากระยะไกลมากขึ้น"
นาวาเอก Jaime Engdahl ผู้จัดการโครงการ Precision Strike Weapons ของกองทัพเรือสหรัฐฯกล่าว
เมื่อมีความพร้อมปฏิบัติการ LRASM จะเป็นอาวุธปล่อยนำวิถีที่ตรวจจับได้ยาก มีความยืดหยุ่น มีพิสัยยิงไกล มีความก้าวหน้าสูง และมีขีดความสามารถในการต่อต้านเป้าหมายผิวน้ำภัยคุกคามทางทะเลที่มีคุณค่าสูง
ซึ่งมีการวางแผนจะนำ LRASM ไปติดตั้งใช้กับเครื่องบินทิ้งระเบิด B-1B Lancer ของกองทัพอากาศสหรัฐฯในปี 2018 และเครื่องบินขับไล่ F/A-18E/F Super Hornet ในปี 2019 รวมถึง F-35 และยิงจากแท่นยิง Mk41 VLS ในเรือรบผิวน้ำ
โดย LRASM ซึ่งพัฒนาโดย Lockheed Martin เป็นโครงการร่วมกับ DARPA (Defense Advanced Research Projects Agency), กองบัญชาการระบบอากาศนาวี กองทัพเรือสหรัฐฯ และกองทัพอากาศสหรัฐฯครับ