U.S. Navy Completes Flight Test of New Network-Enabled AGM-84N Harpoon Block II+ Missile
An F/A-18 carries the new AGM-84N Harpoon Block II+ missile during a free flight test Nov. 18 at Point Mugu's Sea Range in California. The Navy plans to deliver the Block II+ variant to the fleet in 2017. (U.S. Navy photo)
http://www.navyrecognition.com/index.php?option=com_content&task=view&id=3256
กองทัพเรือสหรัฐฯประสบความสำเร็จในทดสอบการบินแบบอิสระของอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้นต่อต้านเรือผิวน้ำ AGM-84N Harpoon Block II+ ที่ติดตั้งกับเครื่องบินขับไล่ F/A-18E/F Super Hornet
เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านที่สถานีทดสอบอาวุธทางทะเล Point Mugu มลรัฐ California
โดย AGM-84N Harpoon Block II+ เป็นการปรับปรุงล่าสุดของอาวุธปล่อยนำวิถีตระกูล Harpoon ที่เพิ่มขีดความสามารถในการรับข้อมูลระหว่างการบินเพื่อเพิ่มความสามารถในการค้นหาและโจมตีเป้าหมายที่กำลังเคลื่อนที่ทางทะเล
ผ่านทางระบบ Strike Common Weapon Data Link (SCWD) ผ่าน Interface Bus แบบ MIL-STD-1760 ปรับปรุงระบบนำวิถีและ Software ควบคุมการปฏิบัติการบิน แและการเชื่อมโยงและปรับปรุงเป้าหมายขณะทำการบิน
และเพิ่มขีดความสามารถด้วยระบบนำวิถีดาวเทียม GPS และระบบค้นหา Active Radar เพิ่มเติมจากรุ่น Harpoon Block II เดิม
"การทดสอบการบินอิสระที่ประสบความสำเร็จนี้เป็นความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ร่วมกันระหว่างทีมงานของ Boeing และกองทัพเรือ และยังสะท้อนถึงการทำงานอย่างหนักและการอุทิศตนของพวกเขาด้วย
เรามีกำหนดการส่งมอบขีดความสามารถอันสำคัญนี้ให้กับกองเรือภายในปี 2017 ซึ่งทำให้กองทัพเรือสหรัฐฯมีความได้เปรียบอย่างยิ่งในสงครามต่อต้านเรือผิวน้ำ"
นาวาโท Matt Farr รองผู้จัดการโครงการ Harpoon/Standoff Land Attack Missile-Extended Range กล่าว
ซึ่งการทดสอบการบินอิสระของอาวุธปล่อยนำวิถีนี้เป็นส่วนแรกของขั้นตอนการทดสอบการทำงานระบบแบบจากต้นจนจบ(end-to-end functionality test) ระหว่างที่ตัวจรวดใช้แรงเฉื่อยก่อนทำการบินจนเข้าชนเป้าหมาย
การทดสอบได้ยืนยันว่าอาวุธปล่อยนำวิถีสามารถรับข้อมูลตำแหน่งเป้าหมายที่มีการปรับปรุงข้อมูลใหม่จากเครื่องบินขับไล่ F/A-18 ขณะทำการบินผ่านเครือข่าย Datalink
โดยอาวุธปล่อยนำวิถียืนยันเป้าหมายที่กำลังเคลื่อนที่และเปิดระบบค้นหาแบบ Active Radar ของตัวจรวดและนำวิถีตัวมันเองอย่างอัตโนมัติพุ่งชนเป้าหมาย
การทดสอบนี้เป็นจุดสูงสุดของการทำงานร่วมของ 152ห้องทดสอบปฏิบัติงาน, การทดสอบอากาศยานภาคพื้นดิน 15ครั้ง และการบินทดสอบ 16เที่ยวบิน ตามมาด้วยการทดสอบตามความต้องการในการพัฒนาเพิ่มเติมในปีงบประมาณ 2016
"อาวุธปล่อยนำวิถี Harpoon เป็นผู้นำสูงสุดของระบบอาวุธต่อต้านเรือผิวน้ำที่ประจำการในวันนี้ และเรากำลังทำงานเพื่อให้แน่ใจว่ามันยังคงทำงานได้และเป็นอันตรายถึงตายต่อไปในอนาคต
Block II + เป็นขีดความสามารถอันสำคัญยิ่งสำหรับเรา และเราจะจัดการทุกอย่างที่จะมีโอกาสก้าวมาเป็นภัยคุกคามทางทะเล ด้วยการปรับปรุงเพิ่ม ระยะ ความอยู่รอด และความอันตรายของ Harpoon อย่างต่อเนื่อง"
นาวาเอก Jaime Engdah ผู้จัดการโครงการ Precision Strike Weapons กล่าว
อาวุธปล่อยนำวิถีตระกูล Harpoon เป็นระบบที่ออกแบบมาสำหรับการโจมตีเป้าหมายเรือผิวน้ำและเป้าหมายบนบกด้วยความแม่นยำสูงในพิสัยการยิงไกลเกินระยะขอบฟ้า
โดยเริ่มเข้าประจำการในกองทัพเรือสหรัฐฯตั้งแต่ปี 1977 ติดตั้งในหลายระบบยิงทั้งจากเรือรบผิวน้ำ อากาศยาน และเรือดำน้ำ ปัจจุบันมีการส่งมอบมากกว่า 7,500นัดให้กองทัพเรือสหรัฐฯและอีก 29ประเทศทั่วโลกรวมถึงกองทัพเรือไทยด้วยครับ