Russian Kalashnikov AK-201 5.56x45mm assault rifle. (Kalashnikov Group)
Proactive Operation Company, Marine Paramilitary Regiment, Royal Thai Marine Division, Royal Thai Navy.(https://www.facebook.com/Blacknavy63/)
Naval Ordnance Department, Royal Thai Navy announced to acquire 500 Russian Russian Kalashnikov AK-201 5.56x45mm assault rifles for Marine Paramilitary Regiment, Royal Thai Marine Corps (Eastern Area Task Force).
ซื้อปืนเล็กยาวขนาด 5.56 มม.(AK201)สำหรับ ทพ.นย.(ภาค ตอ.) จำนวน 500 กระบอก
http://www.supplyonline.navy.mi.th/pdf2/42556.pdf
http://www.supplyonline.navy.mi.th/pdf4/42556.pdf
ศูนย์ข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างและราคากลางกองทัพเรือไทย ออกเอกสารเมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๓(2020) ถึงโครงการจัดซื้อปืนเล็กยาวขนาด 5.56x45mm แบบ AK-201 จำนวน ๕๐๐กระบอก สำหรับทหารพรานนาวิกโยธิน(ภาคตะวันออก)
โดย กรมสรรพาวุธทหารเรือ เป็นวงเงิน ๔๕,๐๐๐,๐๐๐บาท($1,387,240.65) คิดเป็นราคาเฉลี่ยต่อหน่วย ๙๐,๐๐๐บาท($2,774.65) แหล่งที่มาราคากลาง บริษัท เอชแอนด์พี มิลสเปก จำกัด(H&P Milspec Company Limited) ไทย
การกำหนดร่างขอบเขตของงาน(TOR: Terms of Reference) จัดซื้อปืนเล็กยาวขนาด 5.56mm (AK-201) สำหรับ ทพ.นย.(ภาคตะวันออก) จำนวน ๕๐๐กระบอก มีดังนี้
กองทัพเรือ โดยกรมสรรพาวุธทหารเรือ มีความประสงค์จัดซื้อปืนเล็กยาวขนาด 5.56mm(AK-201) สำหรับทหารพรานนาวิกโยธิน(ภาคตะวันออก) จำนวน ๕๐๐กระบอก เพื่อสนับสนุนให้แก่หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานนาวิกโยธินภาคตะวันออก ใช้ในการปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมาย
เป็นปืนเล็กยาวที่มีขนาดความกว้างปากลำกล้อง 5.56mm ใช้ยิงกับลูกปืนขนาด 5.56x45mm มาตรฐาน NATO M855/SS109 มีความแข็งแรงทนทานต่อการปฏิบัติการทางทหารในทุกสภาพพื้นที่ปฏิบัติการ แม้ขณะเปียกน้ำ คลุกโคลน หมกทราย โดยไม่เสียสมรรถนะการยิง
คุณลักษณะเฉพาะ
๑.ขนาดความกว้างปากลำกล้องปืน 5.56mm
๒.ระบบการทำงานแบบระบบก้านลูกสูบยาวยึดติดกับลูกเลื่อน(Long Stroke Gas Piston)
๓.เกลียวลำกล้องเป็นแบบเกลียววนตามเข็มนาฬิกา ๔เกลียว หมุนครบรอบที่ระยะ 415mm
๔.ความยาวลำกล้องไม่มากกว่า 415mm
๕.ความยาวของปืนทั้งกระบอกไม่มากกว่า 845mm
๖.ศูนย์หน้าแบบแกนเหล็ก ศูนย์หลังแบบปรับได้
๗.ปลอกลดแสงแบบ Birdcage Flashider
๘.บรรจุลูกปืนด้วยซองบรรจุลูกปืน(Magazine)
๙.คันบังคับการยิงสามารถปรับระดับการยิงได้ ๓ระดับคือ ตำแหน่งบนสุดห้ามไก(Safe) ตำแหน่งกลางคืออัตโนมัติ(Automatic) และตำแหน่งล่างสุดคือยิงที่ละนัด(Semi-Auto)
๑๐.อัตราเร็วในการยิง(Cycle Rate of Fire) ไม่น้อยกว่า ๗๐๐นัด/นาที
๑๑.น้ำหนักปืนทั้งกระบอก(ไม่รวมซองบบรจุลูกปืน) ไม่มากกว่า 4.1kg
๑๒.พานท้ายปืนยืดหดได้ ๔ตำแหน่ง สามารถพับได้ เพื่อความคล่องตัวในการใช้งาน
๑๓.รางมาตรฐานแบบ Picatinny Rail หรือราง Mil-STD-1913 ที่ด้านบนโครงปืนและด้านล่างฝาปะกับเพื่อติดกล้องเล็งติดปืนและเครื่องยิงลูกระเบิดได้ สีของโครงปืนเป็นสีดำ
อุปกรณ์ประกอบ ปืนทุกกระบอกต้องมีอุปกรณ์ประจำปืนดังนี้
๑.ชุดเครื่องมือทำความสะอาด จำนวน ๑ชุด ประกอบด้วย
๑.๑.ตัวให้นำมันแบบพลาสติก จำนวน ๑อัน
๑.๒.แปรงขัด จำนวน ๑อัน
๑.๓.ไขควง จำนวน ๑อัน
๑.๔.แปรงทำความสะอาดปากกระบอกลำกล้อง จำนวน ๑อัน
๑.๕.ก้านเหล็ก จำนวน ๑อัน
๒.สายสะพายแบบปรับได้ จำนวน ๑เส้น
๓.มือจับหน้า จำนวน ๑อัน
๔.ดาบปลายปืน จำนวน ๑เล่ม
๕.กระเป๋าเก็บซองกระสุนและตัวให้น้ำมัน Oiler จำนวน ๑ใบ
๖.ซองบรรจุลูกปืนขนาดบรรจุ ๓๐นัด จำนวน ๕ซอง
๗.คู่มือในการใช้งานการบำรุงรักษาและการซ่อมบำรุงเป็นภาษาอังกฤษ จำนวน ๑เล่ม/กระบอก และคู่มือแปลเป็นภาษาไทย จำนวน ๑เล่ม/กระบอก
ปืนเล็กยาว AK-201 เป็นปืนเล็กในตระกูล AK-200 สำหรับส่งออกที่ Kalashnikov Group ผู้พัฒนาและผลิตอาวุธปืนรัสเซียเปิดตัวในปี 2018 ที่พัฒนาต่อจากปืนเล็กตระกูล AK-100 โดยปืนเล็กยาว AK-200 ใช้กระสุนขนาด 5.45x39mm และปืนเล็กยาว AK-203 ใช้กระสุนขนาด 7.62x39mm
เป็นที่เข้าใจว่า ทพ.นย.ภาคตะวันออก จะนำปืนเล็กยาว AK-201 มาทดแทนปืนเล็กยาว AKMS รัสเซีย/Type 56-I จีนที่ใช้มานานและล้าสมัย โดยปืนเล็กตระกูล AK-200 มีการนำคุณสมบัติบางอย่างจากปืนเล็กยาว AK-12 มาใช้(https://aagth1.blogspot.com/2015/01/ak-12-ak-103-4.html)
มีข้อสังเกตว่าปืนเล็กยาว AK-201 ที่รวมอุปกรณ์พื้นฐานมีราคาต่อกระบอก ๙๐,๐๐๐บาทนั้น ใกล้เคียงกับปืนเล็กยาว AK-102 ขนาด 5.56x45mm ที่ กองอาสารักษาดินแดน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย จัดหา ๑,๘๐๐กระบอก ในปี พ.ศ.๒๕๕๓(2010) ทีมีราคาต่อกระบอก ๘๐,๐๐๐บาทครับ(https://aagth1.blogspot.com/2018/02/kalashnikov-ak-100.html)