A Su-35 fighter jet (https://russianplanes.net)
The timeframe for first batch’s delivery has not been set yet, due to restrictions imposed by the novel coronavirus outbreak
https://tass.com/defense/1157115
รัสเซียได้เปิดสายการผลิตของเครื่องบินขับไล่พหุภารกิจ Sukhoi Su-35 (NATO กำหนดรหัส Flanker-E) ของตนภายใต้สัญญากับอียิปต์ แหล่งข่าวการทูตทางทหารกล่าวกับ TASS เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2020
"โรงงานอากาศยาน Gagarin ใน Komsomolsk-on-Amur ได้เปิดสายการผลิตของเครื่องบินขับไล่ Su-35 ที่จะส่งมอบแก่กองทัพอากาศอียิปต์(Egyptian Air Force) ภายใต้สัญญาที่ลงนามในปี 2018" แหล่งข่าวกล่าว
"กรอบระยะเวลาสำหรับการส่งมอบ Su-35 ชุดแรกแก่อียิปต์ยังไม่ได้รับการกำหนดในตอนนี้ เนื่องจากการกำหนดข้อจำกัดโดยการแพร่ระบาดของ coronavirus Covid-19" แหล่งข่าวเสริม TASS ไม่สามารถยืนยันข้อมูลอย่างเป็นทางการได้ตามเวลาที่เผยแพร่นี้
หนังสือพิมพ์ Kommersant รายงานในเดือนมีนาคม 2019 ว่าอียิปต์ได้ตัดสินใจจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ Su-35 จากรัสเซียหลายเครื่องเป็นวงเงินราว $2 billion(https://aagth1.blogspot.com/2019/03/su-35.html) การลงนามข้อตกลงไม่เคยได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ
กองทัพอากาศปลดปล่อยประชาชนจีน(PLAAF: People's Liberation Army Air Force) เป็นลูกค้าส่งออกต่างประเทศรายแรกที่จัดซื้อเครื่องบินขับไล่ Su-35 รัสเซีย
เมื่อสาธารณรัฐประชาชนจีนมีการลงนามข้อตกลงวงเงิน $2.5 billion กับสหพันธรัฐรัสเซียสำหรับเครื่องบินขับไล่ Sukhoi Su-35SK รุ่นส่งออกจำนวน 24เครื่อง
ข้อตกลงการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ Su-35SK ของจีนยังรวมถึงการจัดส่งอุปกรณ์ภาคพื้นดินและเครื่องยนต์อะไหล่ การส่งมอบเครื่องให้จีนได้เสร็จสิ้นในปี 2019(https://aagth1.blogspot.com/2019/04/su-35.html)
กองทัพอากาศอินโดนีเซีย(Indonesian Air Force, TNI-AU: Tentara Nasional Indonesia-Angkatan Udara) ยังคาดว่าจะเป็นลูกค้าส่งออกรายที่สามสำหรับเครื่องบินขับไล่ Su-35 รัสเซีย แม้จะมีรายงานการยกเลิกก็ตาม(https://aagth1.blogspot.com/2020/03/su-35.html)
Su-35S เป็นเครื่องบินขับไล่พหุภารกิจยุคที่ 4++ ที่มีความคล่องแคล่วสูง ได้รับการปรับปรุงความทันสมัยอย่างหนักโดยการใช้พื้นฐานจากวิทยาการเครื่องบินขับไล่ยุคที่5 มีข้อโดดดเด่นจากการติดตั้งชุดระบบ Avionic ใหม่ที่มีพื้นฐานระบบควบคุมข้อมูล, Radar ใหม่,
ระบบจุดสันดาปเครื่องยนต์ Plasma เพื่อเพิ่มความจุ และเครื่องยนต์ปรับทิศทางแรงขับได้(TVC: Thrust Vector Control) ระบบเครื่องยนต์นี้ตรงความต้องการสำหรับเป็นเครื่องยนต์ของเครื่องบินขับไล่ยุคที่5 ทำให้สามารถทำความเร็วเหนือเสียงโดยปราศจากการใช้สันดาปท้าย(Super Cruise)
เครื่องบินขับไล่ความเร็วเหนือเสียง Su-35S ทำการบินครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2008 โดยมีพื้นฐานการพัฒนามาจากเครื่องบินขับไล่ Sukhoi Su-27S
Su-35S มีน้ำหนักเครื่อง 19tonnes ทำเพดานบินสูงสุดได้ที่ 20,000m ทำความเร็วสูงสุดได้ 2,500km/h มีพิสัยการบินไกลสุด 3,400km มีรัศมีการรบ 1,600km และมีนักบินประจำเครื่อง 1นาย
ระบบอาวุธประจำของ Su-35S ประกอบด้วยปืนใหญ่อากาศ 30mm ความจุกระสุน 150นัด และบรรทุกอาวุธแบบต่างๆได้หนักถึง 8tonnes(อาวุธปล่อยนำวิถีและระเบิดหลายรูปแบบ) บนตำบลอาวุธใต้ปีกและใต้ลำตัวรวม 12จุดแข็ง
เครื่องบินขับไล่ Su-35S ได้เข้าประจำการกองทัพอากาศรัสเซีย(Russian Aerospace Force, VKS) ตั้งแต่ปี 2015 โดยจนถึงสิ้นปี 2019 ได้รับมอบเครื่องแล้วอย่างน้อยราว 88เครื่องครับ