Embraer secures Hungarian KC-390 airlifter sale
Hungary is to become the third operator of the KC-390, after Brazil and
Portugal. The country is to receive two aircraft between 2023 and 2024.
(Janes/Gareth Jennings)
The KC-390 for Hungary will be particularly configured for air-to-air
refuelling of the service’s Saab Gripen C/D fighters.
บริษัท Embraer Defense and Security บราซิล
จะส่งมอบเครื่องบินลำเลียงทางยุทธวิธีสองเครื่องยนต์ไอพ่น KC-390 Millennium
จำนวน 2เครื่องแก่กองทัพอากาศฮังการี(HuAF: Hungarian Air Force, Magyar Légierő)
โดยการส่งมอบจะมีขึ้นระหว่างปี 2023-2024
บริษัท Embraer บราซิลประกาศเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2020
สัญญาที่ไม่เปิดเผยจำนวนวงเงินได้รับการลงนามกับรัฐบาลฮังการีในวันเดียวกันยังรวมถึงการฝึกนักบินและช่างอากาศยาน
เช่นเดียวกับการสนับสนุนการส่งกำลังบำรุงและสิ่งอุปกรณ์อื่นๆ
เครื่องบินลำเลียง KC-390 Millennium
สำหรับฮังการีจะได้รับการปรับแต่งรูปแบบโดยเฉพาะสำหรับการปฏิบัติการลำเลียงทางยุทธวิธี,
การเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศแก่เครื่องบินขับไล่ Saab Gripen C/D
ของกองทัพอากาศฮังการี
และสำหรับภารกิจการส่งกลับทางสายแพทย์ เครื่องบินลำเลียง KC-390
ฮังการีจะเป็นเครื่องบิบแบบแรกของรุ่นที่รวมการจัดเตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือสำหรับพื้นที่ห้องผู้ป่วยหนัก(ICU:
Intensive Care Unit)
ฮังการีเป็นลูกค้าส่งออกรายที่สองสำหรับเครื่องบินลำเลียง KC-390 บราซิล
ตามหลังโปรตุเกสลงนามสัญญาจัดหาวงเงิน 827 million Euros($920 million)
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2019 สำหรับ KC-390 จำนวน 5เครื่อง
โดยการส่งมอบให้แก่ฝูงบิน 501 'Bisontes'(Squadron 501, Esquadra 501)
กองทัพอากาศโปรตุเกส(Portuguese Air Force, FAP: Força Aérea Portuguesa)
มีกำหนดการเกิดขึ้นระหว่างปี 2023-2027(https://aagth1.blogspot.com/2019/07/embraer-kc-390.html)
บราซิลได้สั่งจัดซื้อเครื่องบินลำเลียง KC-390 ในสายการผลิตจำนวน
28เครื่องก่อนหน้าแล้ว โดย 3เครื่องได้รับมอบแล้วเครื่องที่4 มีกำหนดจะเข้าประจำการในปลายปี 2020 การส่งมอบเครื่องมีกำหนดจะเสร็จสิ้นในปี
2027
ตามแผนปัจจุบันของกองทัพอากาศบราซิล(Brazilian Air Force, FAB: Força Aérea
Brasileira)(https://aagth1.blogspot.com/2019/12/kc-390.html,
https://aagth1.blogspot.com/2019/09/embraer-kc-390.html)
เครื่องบินลำเลียง KC-390 Millennium มีมีพื้นที่บรรทุกภายใน
170ลูกบาศก์เมตร(รวมประตูท้าย) มีน้ำหนักบรรทุกสูงสุด
23tonnes(หรือน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 26tonnes เมื่อรวมสัมภาระไว้ที่จุดศูนย์ถ่วง)
KC-390 มีขีดความสามารถในการบินขึ้นลงจอดจากสนามบินขรุขระ
ทำให้สามารถลงจอดบนทางวิ่งที่มีพื้นผิวดินอ่อนตามการทดสอบ California Bearing
Ratio(CBR) ระดับ 4 ได้
KC-390 มีความเร็วเดินทางสูงสุดที่ 470knots(870km/h) มีเพดานบินสูงสุด
36,000feet มีพิสัยทำการไกลสุด(เมื่อบรรทุกสัมภาระหนัก 23tonnes) ที่
1,380nmi(2,556km) หรือบินได้ไกลสุดโดยใช้ถังเชื้อเพลิงภายในลำตัวที่
4,640nmi
พิสัยทำการสามารถขยายเพิ่มได้โดยการเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ KC-390
การปรับแต่งเครื่องในรูปแบบภารกิจปกติตามที่ให้มาโดยกองทัพอากาศบราซิล KC-390
สามารถติดตั้งแผ่นรองสัมภาระมาตรฐาน 463L จำนวน 7แผ่น(2.74x2.23m), แผ่น 463L
จำนวน 6แผ่น
บวกทหาร 36นาย หรือพลร่ม 30นาย, ทหาร 80นาย หรือพลร่ม
66นาย,รถยนต์บรรทุกขนาดเดียวกับ รยบ.HMMWV(High-Mobility Multipurpose Wheeled
Vehicle) จำนวน 3คัน, เฮลิคอปเตอร์ Sikorsky UH-60 Black Hawk จำนวน 1เครื่อง
และยานเกราะล้อยาง LAV-25 8x8 จำนวน 1คัน
อย่างไรก็ตามด้วยลูกค้าอย่างเป็นทางการสามรายในขณะนี้
การล่มสลายของข้อตกลงกลุ่มร่วมทุน Boeing-Embraer สหรัฐฯ-บราซิล ในเดือนเมษายน
2020 น่าจะทำให้การทำตลาดของ KC-390 มีความยุ่งยากมากขึ้นครับ(https://aagth1.blogspot.com/2020/04/boeing-embraer.html)