แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Military Industry of Hungary แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Military Industry of Hungary แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

ฮังการีรับมอบรถรบทหารราบ Lynx ที่ผลิตในประเทศคันแรก

Hungary receives first domestically produced Lynx IFV



On 24 July the HDF received its first KF41 Lynx IFV produced in Hungary. (HDF/Gábor Kormány, Gergely Schöff)



กองทัพฮังการี(HDF: Hungarian Defence Forces) ได้ประกาศใน website ของตนเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2024 ว่าตนได้รับมอบรถรบทหารราบ KF41 Lynx IFV(Infantry Fighting Vehicle) คันแรกที่ผลิตในฮังการีแล้วในวันเดียวกัน
รถรบทหารราบ KF41 Lynx IFV คันแรกที่ผลิตในประเทศได้ถูกผลิต ณ โรงงาน Zalaegerszeg ของบริษัท Rheinmetall เยอรมนีในฮังการี(https://aagth1.blogspot.com/2022/10/lynx.html)

บริษัท Rheinmetall กล่าวในสื่อประชาสัมพันธ์เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2024 ว่า รถรบทหารราบ Lynx คันแรกที่ผลิตในฮังการีได้สร้างเสร็จในเดือนธันวาคม 2023 และได้ถูกส่งมอบแก่กองทัพฮังการีหลังได้รับการตรวจสอบการทำงาน, สมรรถนะ และคุณภาพ
รถรบทหารราบ Lynx ทั้งหมดจำนวน 209คันจะถูกจัดส่งให้กองทัพฮังการีภายใต้สัญญากับกระทรวงกลาโหมฮังการีมูลค่าวงเงิน 2 billion Euro($2.2 billion) ที่ลงนามในเดือนสิงหาคม 2020(https://aagth1.blogspot.com/2020/08/lynx.html)

นอกเหนือจากรุ่นรถรบทหารราบ IFV กองทัพฮังการีจะรับมอบในรุ่น รถเกราะที่บังคับการ, รถเกราะลาดตระเวน, รถเกราะที่ตรวจการณ์ยิงร่วม(joint fires observer), รถเกราะเครื่องยิงลูกระเบิดอัตตาจร, และรถฝึกพลขับด้วย
Rheinmetall เยอรมนีกล่าวว่าตนจะยังพัฒนารถเกราะสายพาน Lynx ในรุ่นป้องกันภัยทางอากาศโดยการติดตั้งป้อมปืนใหญ่กล Skyranger ภายใต้อีกสัญญาหนึ่งด้วย(https://aagth1.blogspot.com/2021/03/gbad.html)

บริษัท Rheinmetall กำลังสร้างรถรบทหารราบ Lynx IFV และรุ่นรถบัญชาการและควบคุมจำนวน 46คันสำหรับฮังการีในเยอรมนี กองทัพฮังการีได้รับมอบรถรบทหารราบ Lynx คันแรกของตนแล้ว
ณ ค่าย Petőfi Sándor Barracks ในนครหลวง Budapest เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2022 และมีกำหนดที่จะได้รับมอบรถเกราะสายพาน Lynx ทั้งหมด 46คันที่สร้างในเยอรมนีภายในสิ้นปี 2025

โรงงาน Zalaegerszeg ที่ถูกเปิดในนิคมอุตสาหกรรม ZalaZone industrial complex ในเดือนสิงหาคม 2023 ได้ครอบครองพื้นที่ขนาด 380,000ตารางเมตรที่รวมถึงอาคารหลักโดยมีพื้นที่ใช้ประโยชน์ที่ขนาด 24,000ตารางเมตร และมีคนงานจำนวน 220ราย 
พื้นที่ของโรงงานยังรวมถึงศูนย์ทดสอบความเข้ากันได้ทางแม่เหล็กไฟฟ้าและห้องควบคุมอุณหภูมิ, อุโมงค์ทดสอบยิงอาวุธใต้ดิน และอุปกรณ์เครื่องวัดสามมิติ โรงงานได้ตั้งเป้าที่จะผลิตระบบทางทหารให้แก่กองทัพฮังการีเช่นเดียวกับลูกค้าส่งออกต่างประเทศ
 
สัญญากับกระทรวงกลาโหมฮังการียังรวมถึงการจัดส่งรถเกราะกู้ซ่อม Büffel ARV(Armoured Recovery Vehicle) จำนวน 9คัน, รถเกราะวางสะพาน AVLB(Armoured Vehicle-Launched Bridge) จำนวน 9คัน และรถยนต์บรรทุก 16คัน รวมกับกระสุน, เครื่องฝึกจำลองสถานการณ์, การฝึก, การจัดส่งชิ้นส่วนอะไหล่ขั้นต้น และการสนับสนุนการซ่อมบำรุง
บริษัท Rheinmetall MAN Military Vehicles(RMMV) เยอรมนีกำลังผลิตรถยนต์บรรทุก TGS และรถยนต์บรรทุก HX สำหรับฮังการีในนครหลวง Vienna ออสเตรียจำนวน 38คัน เพิ่มขึ้นมากกว่าในสัญญาแรกจำนวน 22คันครับ

วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ฮังการีกำลังหารือความเป็นไปได้ที่จะจัดหาเครื่องบินขับไล่ Gripen E สวีเดน

Hungary discussing potential Gripen E buy from Sweden





Already an operator of the Gripen C/D, Hungary is now in discussions to acquire the follow-on Gripen E (pictured) combat aircraft from Sweden. (Saab)

ฮังการีกำลังหารือกับสวีเดนถึงความเป็นไปได้ของการจัดหาเครื่องบินขับไล่ Gripen E เพื่อเสริมต่อเครื่องบินขับไล่ Gripen C/D ที่ตนมีประจำการอยู่แล้ว เจ้าหน้าที่อาวุโสของบริษัท Saab สวีเดนกล่าวเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2024
โดยที่กองทัพอากาศฮังการี(HuAF: Hungarian Air Force) กำลังทำการบินเครื่องบินขับไล่ Gripen C/D จำนวน 14เครื่องที่เช่าจากสวีเดน ซึ่งในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ได้สั่งจัดหาเครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดี่ยว Gripen C เพิ่มเติมจำนวน 4เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2024/02/gripen-c-4.html)

Åsa Thegström รองประธานและรองหัวหน้าแผนกการบิน Saab Aeronautics กล่าวกับผู้สื่อข่าว ณ โรงงานสายการผลิตอากาศยาน Linköping ของบริษัท Saab ทางตอนใต้ของสวีเดนว่า
การพูดคุยขณะนี้กำลังได้รับการจัดขึ้นสำหรับความเป็นไปได้ในการขายเครื่องบินขับไล่ Gripen E รุ่นล่าสุดแก่ฮังการีประเทศในยุโรปตะวันออก "เรากำลังมีการหารือที่น่าสนใจกับฮังการีที่เกี่ยวข้องกับเครื่องบินขับไล่ Gripen E" Thegström กล่าว 

Richard Smith รองหัวหน้าฝ่ายการตลาดและการขายสำหรับเครื่องบินขับไล่ Gripen ของบริษัท Saab เสริมว่า กองทัพอากาศฮังการีกำลังมองไปที่ความเป็นไปได้ในการจัดหา(เครื่องบินขับไล่ Gripen E)
เพื่อที่จะเติมเต็มความต้องการของตนและกลับไปสู่การมีฝูงบินรบปฏิบัติการแนวหน้าสองฝูงบิน มีข้อสังเกตว่าระยะเวลาสำหรับการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าวยังไม่เป็นที่ทราบในตอนนี้(https://aagth1.blogspot.com/2024/03/saab-gripen-e.html)

ฮังการีได้ทำการเช่าเครื่องบินขับไล่ Gripen C/D จำนวน 14เครื่องจากสวีเดนในปี 2001 โดยได้เข้าประจำการในกองทัพอากาศฮังการีในปี 2006 บริษัท Saab กล่าวเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2024 ว่า
ตนได้ลงนามข้อตกลงกับสำนักงานจัดหายุทโธปกรณ์กลาโหมสวีเดน(Defence Material Administration, FMV: Försvarets materielverk) สำหรับเครื่องบินขับไล่ Gripen C เพิ่มเติม 4เครื่องที่จะทำให้ฝูงบินปัจจุบันเพิ่มเป็นจำนวน 18เครื่อง

แม้ว่าจะไม่ได้ถูกกล่าวถึงในการประกาศ Gripen C เพิ่มเติมเหล่านี้จะเป็นมาตรฐานชุดคำสั่ง MS20 Block 2 ล่าสุดที่ได้รับการปรับปรุงต่อฝูงบินเครื่องบินขับไล่ Gripen C/D ที่มีอยู่ของกองทัพอากาศฮังการีแล้ว(https://aagth1.blogspot.com/2022/01/gripen-cd-ms20-block-2.html)
มาตรฐาน MS20 Block 2 รวมถึงการปรับปรุงต่อ radar Saab PS-05/A Mk4 ทั้งพิสัยการติดตามเป้าหมายอากาศสู่อากาศและสมรรถนะโดยรวม,การเพิ่มขยายขีดความสามารถเครือข่าย Link 16 datalink เช่นเดียวกับการติดตั้งระบบพิสูจน์ฝ่าย(IFF: Identification, Friend-or-Foe) มาตรฐาน NATO Mode 5 ล่าสุด 

มาตรฐาน MS20 Block 2 จะทำให้ฮังการีเลือกระบบอาวุธได้จากตัวเลือกที่หลากหลาย รวมถึงอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้ Diehl IRIS-T อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยยิงนอกระยะสายตา(BVRAAM: Beyond Visual Range Air-to-Air Missile) แบบ MBDA Meteor อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยกลาง RTX AIM-120C-8 AMRAAM(Advanced Medium-Range Air-to-Air Missile) 
ระเบิดนำวิถี laser และดาวเทียม Raytheon GBU-49 Paveway และการปรับปรุงกระสุนเจาะเกราะแบบแตกหักได้ DM113 FAP(Frangible Armour Piercing) สำหรับปืนใหญ่อากาศ Mauser BK27 ขนาด 27mm ของเครื่องบินขับไล่ Gripen C ครับ

วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2567

เครื่องบินลำเลียง KC-390 ฮังการีเครื่องแรกเดินทางจากบราซิลมาถึงประเทศตนแล้ว

First KC-390 airlifter arrives in Hungary ahead of official handover







The first KC-390 for Hungary arrived in the country on 12 April to allow national personnel to become acquainted with the aircraft before it is officially handed over later in 2024. (Embraer)



เครื่องบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ Embraer KC-390 Millennium เครื่องแรกจาก 2เครื่องสำหรับฮังการีได้เดินทางมาถึงฮังการีแล้วเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2024 ที่ผ่านมา
เหตุการณ์สำคัญซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่จะมอบระยะเวลาสร้างความคุ้นเคยแก่กองทัพฮังการี(Hungarian Defence Force) กับเครื่องบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ KC-390 มีขึ้นก่อนหน้าส่งมอบอย่างเป็นทางการภายหลังในปี 2024 นี้

เหตุการณ์สำคัญนี้ได้มีขึ้น ณ ฐานทัพอากาศ Kecskemét ที่ได้เชิญเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลฮังการีและนายทหารกองทัพร่วมงาน รวมถึงรัฐมนตรีด้านนโยบายกลาโหมฮังการี Zsolt Kutnyánszky
"ช่วงเวลาอันสั้นนี้เป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมสำหรับมืออาชีพฮังการีที่จะทำความคุ้นเคยกับวิทยาการเป็นเวลานานก่อนเครื่องบินมาถึง(อย่างเป็นทางการ)" คำกล่าวของ Kutnyánszky ถูกอ้างถึงโดยกระทรวงกลาโหมฮังการี

ตามการเน้นในความเห็นของ Kutnyánszky เครื่องบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ KC-390 เครื่องแรกนี้จะยังคงอยู่ในฮังการีเป็นระยะเวลาที่ไม่เปิดเผย
ก่อนจะเดินทางกลับไปยังโรงงานการผลิตอากาศยาน Gavião Peixoto ของบริษัท Embraer บราซิล ที่ซึ่งเครื่องถูกสร้างสำหรับงานขั้นสุดท้ายและการตรวจสอบ

หลังจากนั้นเครื่องบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ KC-390 จะถูกส่งมอบอย่างเป็นทางการให้แก่กระทรวงกลาโหมฮังการีภายหลังในปี 2024 โดย KC-390 เครื่องที่สองจะส่งมอบตามมาในปี 2025
ฮังการีได้ลงนามสัญญาสำหรับเครื่องบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ KC-390 จำนวน 2เครื่อง(กำหนดแบบเป็นเครื่องบินลำเลียง C-390 ในรูปแบบลำเลียงพื้นฐาน)ในเดือนพฤศจิกายน 2020(https://aagth1.blogspot.com/2020/11/embraer-kc-390.html)

C-390 สำหรับฮังการีจะถูกจัดรูปแบบโดยเฉพาะสำหรับปฏิบัติการลำเลียงทางยุทธวิธี, การเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศของเครื่องบินขับไล่ Saab Gripen C/D ของกองทัพอากาศฮังการี(HuAF: Hungarian Air Force)(https://aagth1.blogspot.com/2024/02/gripen-c-4.html)
และสำหรับภารกิจการส่งกลับทางสายแพทย์(เครื่องบินลำเลียง C-390 ของกองทัพอากาศฮังการีจะเป็นเครื่องบิบแบบแรกของรุ่นที่รวมการจัดเตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือสำหรับพื้นที่ห้องผู้ป่วยหนัก(ICU: Intensive Care Unit))

เครื่องบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ KC-390 เครื่องแรกของฮังการีได้ทำการบินครั้งแรกของตนเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2024(https://aagth1.blogspot.com/2024/02/kc-390.html) ปัจจุบันนอกจากบราซิลผู้ผลิตที่สั่งจัดหาแล้ว 19เครื่อง 
ฮังการีเป็นลูกค้าส่งออกรายที่สองต่อจากโปรตุเกส 5เครื่อง และยังได้รับการจัดหาจากเนเธอร์แลนด์ 5เครื่อง, ออสเตรีย 4เครื่อง, สาธารณรัฐเช็ก 2เครื่อง และสาธารณรัฐเกาหลีที่ไม่เปิดเผยจำนวน รวมมีลูกค้าล่าสุดถึง 7ประเทศ สายการผลิตรวมแล้วถึง 40เครื่องครับ

วันอาทิตย์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

ฮังการีจะจัดหาเครื่องบินขับไล่ Gripen C สวีเดนเพิ่ม 4เครื่อง

Hungary increases Gripen fleet







Hungary is to bring its Gripen fleet up to 18, with the addition of a further four aircraft announced on 23 February. (Janes/Patrick Allen)

ฮังการีจะเพิ่มขนาดของฝูงบินเครื่องบินขับไล่ Saab Gripen C/D ของตนด้วยข้อตกลงที่ประกาศเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2024 สำหรับการจัดหาเพิ่มเติมจำนวน 4เครื่อง
โดยเครื่องบินขับไล่ Gripen C/D จำนวน 14เครื่องที่ถูกเช่าจากสวีเดนในปี 2001 และเข้าประจำการในกองทัพอากาศฮังการี(HuAF: Hungarian Air Force) ในปี 2006

บริษัท Saab สวีเดนได้กล่าวว่าตนได้ลงนามข้อตกลงกับสำนักงานจัดหายุทโธปกรณ์กลาโหมสวีเดน(Defence Material Administration, FMV: Forsvarets materielverk) สำหรับเครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดี่ยว Gripen C เพิ่มเติมจำนวน 4เครื่องสำหรับกองทัพอากาศฮังการี
"สัญญานี้มีขึ้นตามการแก้ไขสัญญาระหว่างสำนักงานจัดหายุทโธปกรณ์กลาโหมสวีเดน FMV และรัฐบาลสวีเดนที่ลงนามในเดือนธันวาคม 2001 เกี่ยวกับเครื่องบินขับไล่ Gripen C/D จำนวน 14เครื่องสำหรับกองทัพอากาศฮังการี" Saab กล่าว

"การแก้ไขสัญญาสำหรับเครื่องบินขับไล่ Gripen C เพิ่มเติม 4เครื่องได้รับการลงนามโดยกระทรวงกลาโหมฮังการีและสำนักงานจัดหายุทโธปกรณ์กลาโหมสวีเดน FMV เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2024
ด้วยการแก้ไขสัญญาใหม่ กองทัพอากาศฮังการีจะมีเครื่องบินขับไล่ Gripen C/D ในประจำการทั้งหมด 18เครื่อง เพื่อปกป้องและป้องกันน่านฟ้าของฮังการีและ NATO" Saab กล่าว

แม้ว่าจะไม่ได้ถูกกล่าวถึงในการประกาศ Gripen C เพิ่มเติมเหล่านี้จะเป็นมาตรฐานชุดคำสั่ง MS20 Block 2 ล่าสุดที่ได้รับการปรับปรุงต่อฝูงบินเครื่องบินขับไล่ Gripen C/D ที่มีอยู่ของกองทัพอากาศฮังการีแล้ว(https://aagth1.blogspot.com/2022/01/gripen-cd-ms20-block-2.html)
มาตรฐาน MS20 Block 2 รวมถึงการปรับปรุงต่อ radar Saab PS-05/A Mk4 ทั้งพิสัยการติดตามเป้าหมายอากาศสู่อากาศและสมรรถนะโดยรวม,การเพิ่มขยายขีดความสามารถเครือข่าย Link 16 datalink 

เช่นเดียวกับการติดตั้งระบบพิสูจน์ฝ่าย(IFF: Identification, Friend-or-Foe) มาตรฐาน NATO Mode 5 ล่าสุด มาตรฐาน MS20 Block 2 จะทำให้ฮังการีเลือกระบบอาวุธได้จากตัวเลือกที่หลากหลาย 
รวมถึงอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้ Diehl IRIS-T และอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยยิงนอกระยะสายตา(BVRAAM: Beyond Visual Range Air-to-Air Missile) แบบ MBDA Meteor(https://aagth1.blogspot.com/2024/02/meteor-mlu-2024.html)

อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยกลาง RTX AIM-120C-8 AMRAAM(Advanced Medium-Range Air-to-Air Missile) ระเบิดนำวิถี laser และดาวเทียม Raytheon GBU-49 Paveway
และการปรับปรุงกระสุนเจาะเกราะแบบแตกหักได้ DM113 FAP(Frangible Armour Piercing) สำหรับปืนใหญ่อากาศ Mauser BK27 ขนาด 27mm ของเครื่องบินขับไล่ Gripen C ครับ

วันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

เครื่องบินลำเลียง KC-390 ฮังการีทำการบินครั้งแรก

Hungarian KC-390 makes maiden flight




The first of two KC-390s for Hungary seen on its four-hour maiden flight over Brazil. (Embraer)

เครื่องบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ Embraer KC-390 Millennium เครื่องแรกจาก 2เครื่องสำหรับฮังการีได้ทำการบินครั้งแรกของตนเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2024(https://aagth1.blogspot.com/2021/11/embraer-kc-390.html)
บริษัท Embraer บราซิลผู้ผลิตเครื่องบินประกาศเหตุกาณ์ตามมาในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2024 กล่าวว่าเครื่องบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ KC-390 Millennium ฮังการีทำการบินเป็นเวลาประมาณ 4ชั่วโมง

เครื่องบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ KC-390 Millennium ได้ทำการบินออกจากโรงงานอากาศยานของบริษัท Embraer ใน Gaviao Peixoto ที่ซึ่งเครื่องถูกสร้างขึ้น
เครื่องบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ KC-390 ขณะนี้จะเข้าสู่ขั้นระยะการทดสอบและประเมินค่าก่อนการส่งมอบแก่ลูกค้าภายหลังในปี 2024

ฮังการีได้ลงนามสัญญาสำหรับเครื่องบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ KC-390 จำนวน 2เครื่อง(กำหนดแบบเป็นเครื่องบินลำเลียง C-390 ในรูปแบบลำเลียงพื้นฐาน)ในเดือนพฤศจิกายน 2020(https://aagth1.blogspot.com/2020/11/embraer-kc-390.html)
C-390 สำหรับฮังการีจะถูกจัดรูปแบบโดยเฉพาะสำหรับปฏิบัติการลำเลียงทางยุทธวิธี, การเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศของเครื่องบินขับไล่ Saab Gripen C/D ของกองทัพอากาศฮังการี(HuAF: Hungarian Air Force)(https://aagth1.blogspot.com/2022/01/gripen-cd-ms20-block-2.html),

และสำหรับภารกิจการส่งกลับทางสายแพทย์(เครื่องบินลำเลียง C-390 ของกองทัพอากาศฮังการีจะเป็นเครื่องบิบแบบแรกของรุ่นที่รวมการจัดเตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือสำหรับพื้นที่ห้องผู้ป่วยหนัก(ICU: Intensive Care Unit))
เครื่องบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ KC-390 มีพื้นที่บรรทุกภายใน 170ลูกบาศก์เมตร(รวมประตูท้าย) มีน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 23tonnes(หรือน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 26tonnes เมื่อรวมสัมภาระไว้ที่จุดศูนย์ถ่วง)

เครื่องบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ KC-390 มีขีดความสามารถทำการบินจากทางวิ่งที่ไม่ได้ถูกเตรียมการปูพื้นผิวแข็ง(rough-field) ทำให้สามารถลงจอดบนทางวิ่งพื้นผิวอ่อน(soft-field) ที่ระดับ California Bearing Ratio(CBR) 4 ได้
บริษัท Embraer เผยแพร่คุณลักษณะสมรรถนะของเครื่องบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ KC-390 ว่ามีความเร็วเดินทางสูงสุดที่ 470knots(870km/h) มีเพดานบินสูงสุด 36,000feet,  

มีพิสัยทำการไกลสุด(เมื่อบรรทุกสัมภาระหนัก 23tonnes) ที่ 1,380nmi(2,556km) หรือบินได้ไกลสุดโดยใช้ถังเชื้อเพลิงภายในลำตัวที่ 4,640nmi พิสัยทำการสามารถขยายเพิ่มได้โดยการเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ
นอกจากบราซิลผู้ผลิตที่สั่งจัดหา KC-390 จำนวน 19เครื่อง ฮังการีเป็นลูกค้าส่งออกรายที่สองต่อจากโปรตุเกสที่สั่งจัดหาจำนวน 5เครื่องที่ได้รับมอบแล้วตั้งแต่ปี 2023(https://aagth1.blogspot.com/2023/04/kc-390-c-130k.html)

เครื่องบินลำเลียง C-390 Millennium ยังได้รับการสั่งจัดหาจากเนเธอร์แลนด์ จำนวน 5เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2022/06/c-390-millennium-c-130h-hercules.html), ออสเตรีย จำนวน 4เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2023/09/kc-390-c-130k.html),
สาธารณรัฐเช็ก จำนวน 2เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2023/10/kc-390.html) และสาธารณรัฐเกาหลี จำนวน 3เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2023/12/kc-390.html) รวมมีลูกค้าล่าสุดถึง 7ประเทศ สายการผลิตรวมแล้วถึง 40เครื่องครับ

วันพฤหัสบดีที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

ฮังการีรับมอบเฮลิคอปเตอร์ H225M ใหม่เครื่องแรก

Hungary receives first H225M helos




One of the first two of 16 H225M helicopters for Hungary departing Airbus' Marignane production facility in southern France. (Airbus)



เฮลิคอปเตอร์พหุภารกิจ Airbus Helicopters H225M สองเครื่องแรกจาก 16เครื่องได้ถูกส่งมอบให้แก่ฮังการีแล้วเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2023 บริษัท Airbus Helicopters ยุโรปผู้ผลิตประกาศ
เฮลิคอปเตอร์ H225M ซึ่งติดตั้งระบบอาวุธ HForce Generic Weapon System(GWS) ของ Airbus ได้ทำการบินตรงจากโรงงานอากาศยานของบริษัทใน Marignane ทางตอนใต้ของฝรั่งเศสไปฐานทัพอากาศ Szolnok ทางตอนกลางของฮังการี

ข่าวการส่งมอบเฮลิคอปเตอร์ H225M ชุดแรกมาขึ้นตามมาราว 3ปี 6เดือน หลังจากเฮลิคอปเตอร์ H225M จำนวน 16เครื่องได้ถูกสั่งจัดหาโดยฮังการีในเดือนธันวาคม 2018
ภายใต้แผนการปรับปรุงความทันสมัยของกองทัพฮังการี(Hungarian Defence Forces, Magyar Honvédség) 'Zrínyi 2026'(https://aagth1.blogspot.com/2018/12/h225m-h145m.html)

ไม่มีจำนวนวงเงินของสัญญาถูกเปิดเผย และทั้งบริษัท Airbus Helicopters และกระทรวงกลาโหมฮังการีไม่มีการกล่าวว่าเมื่อไรที่การส่งมอบเฮลิคอปเตอร์ H225M จะเสร็จสิ้น
การจัดหาเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธ H225M HForce มีขึ้นตามหลังการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ Airbus H145M ที่ขนาดเล็กกว่าจำนวน 20เครื่องของฮังการี ที่ติดตั้งระบบอาวุธ HForce เช่นกันในเดือนมิถุนายน 2018

ระบบ HForce ทำให้ลูกค้าสามารถที่จะนำระบบอาวุธมาติดตั้งใช้กับเฮลิคอปเตอร์ของตนได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย โดยการนำมาใช้ของระบบ computer วัตถุประสงค์ใช้งานทั่วไป Rockwell Collins Deutschland(RCD) FMC-4212 General Purpose Computer(GPC) เยอรมนี-สหรัฐฯ,
หมวกนักบินติดจอแสดงผลตาเดียว monocular (HMSD: Helmet-Mounted Sight Display) แบบ Thales Scorpion ยุโรป, ระบบตรวจจับกล้อง electro-optical(EO) แบบ Wescam แคนาดา เช่นเดียวกับ grip ระบบควบคุมอาวุธพลยิง และกระเปาะอาวุธต่างๆ

ตัวเลือกระบบอาวุธ HForce รวมถึงกระเปาะปืนกลอากาศ(HMGP: Heavy Machine Gun Pod) ปืนกลหนักขนาด 12.7mm, กระเปาะปืนใหญ่อากาศขนาด 20mm 
และ/หรือจรวดไม่นำวิถีและจรวดนำวิถีอากาศสู่พื้นขนาด 68mm และ 70mm เช่นเดียวกับอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น และอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ

ตัวแทนของบริษัท Airbus กล่าวกับ Janes ก่อนหน้านี้ว่าสำหรับเฮลิคอปเตอร์ H145M ของตน(https://aagth1.blogspot.com/2023/05/tiger-uht-h145m.html) ฮังการีได้เลือกที่จะติดตั้งชุดระบบอาวุธที่สมบูรณ์ที่รวมถึงจรวดอากาศสู่พื้นนำวิถี
และฮังการีน่าจะได้รับมอบชุดระบบอาวุธสำหรับเฮลิคอปเตอร์ H225M เช่นเดียวกันด้วยครับ(https://aagth1.blogspot.com/2023/06/h225m-aargm-er-f-35a.html)

วันพุธที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2565

ฮังการีรับมอบรถรบทหารราบ Lynx เยอรมนีคันแรก

Hungary receives first Lynx and Büffel and another PzH 2000







The HDF received the first of 209 Lynx armoured vehicles (foreground) and the first of nine Büffel ARVs (background) from Rheinmetall on 15 October. (HDF)



ฮังการีรับมอบรถรบทหารราบ KF41 Lynx IFV(Infantry Fighting Vehicle) และรถเกราะกู้ซ่อม Büffel ARV(Armoured Recovery Vehicle) คันแรกของตนเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2022
บริษัท Rheinmetall เยอรมนีประกาศในสื่อประชาสัมพันธ์ของตนที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2022 ว่า(https://aagth1.blogspot.com/2020/08/lynx.html)

Rheinmetall เยอรมนีได้ส่งมอบรถรบทหารราบ Lynx คันแรกจากทั้งหมด 209คันสำหรับกองทัพฮังการี(HDF: Hungarian Defence Forces) ณ ค่าย Petöfi Sándor Barracks ในนครหลวง Budapest
โฆษกบริษัท Rheinmetall กล่าวกับ Janes เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2022 ว่า รถเกราะสายพาน Lynx คันแรกที่ส่งมอบเป็นรุ่นรถรบทหารราบ IFV พื้นฐาน

ฮังการียังได้สั่งจัดหารถเกราะสายพาน Lynx ในรุ่นรถที่บังคับการ, รถลาดตระเวน, รถตรวจการณ์ยิงร่วม(joint fire observer), รถแคร่ฐานเครื่องยิงลูกระเบิดอัตตาจร, รถเกราะพยาบาล และรถฝึกพลขับ
ภาพของกองทัพฮังการีของรถรบทหาร Lynx IFV คันแรกได้แสดงรถเกราะกู้ซ่อม Büffel ARV อยู่ด้านหลัง โฆษก Rheinmetall เยอรมนียืนยันว่ามันเป็น Büffel คันแรกจาก 9คันที่ได้รับการสั่งจัดหาจากฮังการี

กระทรวงกลาโหมฮังการีได้สั่งจัดหารถเกราะสายพาน Lynx จำนวน 209คัน, รถเกราะกู้ซ่อม Büffel ARV จำนวน 8คัน, รถเกราะวางสะพาน AVLB(Armoured Vehicle-Launched Bridge) จำนวน 9คัน และรถยนต์บรรทุก 16คัน
รวมกับกระสุน, เครื่องฝึกจำลองสถานการณ์, การฝึก, การจัดส่งชิ้นส่วนอะไหล่ขั้นต้น และการสนับสนุนการซ่อมบำรุง เป็นมูลค่าวงเงินมากกว่า 2 billion Euros($1.97 billion) ในเดือนกันยายน 2020

Rheinmetall กำลังสร้างรถเกราะสายพาน Lynx จำนวน 46คันแรกในเยอรมนี ที่จะมีตามมาอีก 163คัน ซึ่งจะถูกเริ่มต้นผลิตในสิ้นปี 2023 ที่โรงงานใหม่ของบริษัท
ที่กำลังสร้างใน Zalaegerszeg ทางตะวันออกของฮังการี โดยพนักงานชาวฮังการีของบริษัท Rheinmetall กำลังทำงานกับรถเกราะ Lynx ใหม่ในเยอรมนี

ขณะเดียวกันกองทัพฮังการีได้รายงานใน website ของตนเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2022 ว่า กองพลน้อยทหารราบที่25 György Klapka(25th György Klapka Infantry Brigade) ใน Tata
ได้รับมอบปืนใหญ่อัตตาจรสายพาน PzH 2000(Panzerhaubitze 2000) ระบบที่4 และรถสายพานฝึกพลขับ ป.อัตตาจร PzH 2000 คันแรกของตนระหว่างครึ่งแรกของเดือนตุลาคม 2022 ครับ

วันศุกร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2565

ฮังการีจะจัดหาเครื่องบินฝึกไอพ่น L-39NG สาธารณรัฐเช็ก

Hungary to buy L-39NG jets from Czech Republic







The L-39NG has been acquired by Hungary for pilot training and reconnaissance. (Janes/Gareth Jennings)









ฮังการีจะได้รับมอบเครื่องบินฝึกไอพ่น Aero Vodochody L-39NG(Next Generation) จำนวน 12เครื่องจากสาธารณรัฐเช็ก เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลฮังการีประกาศเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2022
ผู้ตรวจการรัฐบาลฮังการี Gaspar Maroth กล่าวกับสื่อฮังการีว่าเครื่องบินฝึกไอพ่น L-39NG ใหม่ 8เครื่องจะถูกใช้ในการฝึกนักบินขั้นก้าวหน้าก่อนเปลี่ยนแบบไปยังเครื่องบินขับไล่ Saab Gripen C(https://aagth1.blogspot.com/2022/01/gripen-cd-ms20-block-2.html)

โดยเครื่องบินฝึกไอพ่น L-39NG ใหม่อีก 4เครื่องที่เหลือจะทำการบินในฐานะเครื่องบินปฏิบัติการลาดตระเวนทางอากาศ(https://aagth1.blogspot.com/2021/02/l-39ng-12.html)
ไม่มีมูลค่าวงเงินสัญญาถูกเปิดเผย แต่ตามที่ Maroth ประกาศในช่อง Facebook 'High-tech Force' การส่งมอบเครื่องบินฝึกไอพ่น L-39NG จะเริ่ขึ้นตั้งแต่ปี 2024

ตามข้อมูลจาก Janes World Air Forces สาธารณรัฐเช็ก, ฮังการี, โปแลนด์ และสโลวาเกียได้หารือการจัดตั้งโครงการฝึกนักบินขับไล่ร่วม ที่น่าจะวางกำลังด้วยเครื่องบินฝึก L-39NG ใหม่
กองทัพอากาศสาธารณรัฐเช็ก(Czech Air Force) เป็นผู้ใช้งานเครื่องบินฝึกไอพ่น L-39NG อยู่แล้วและกองทัพอากาศฮังการี(Hungarian Air Force) กำลังจะมีตามมา ดังนั้นโรงเรียนการบินนานาชาติดังกล่าวน่าจะเห็นศิษย์การบินชุดแรกสำเร็จการศึกษาได้ตั้งแต่ปี 2025 

ยังไม่มีการตัดสินใจว่าโรงเรียนการบินนานาชาติที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่นี้จะเป็นการเสริมหรือแทนที่โครงการการฝึกการบิน NATO ในแคนาดา(NFTC: NATO Flying Training in Canada) หรือไม่
เครื่องบินฝึกไอพ่น L-39NG เปิดตัวครั้งแรกโดยบริษัท Aero Vodochody สาธารณรัฐเช็กในเดือนตุลาคม 2018(https://aagth1.blogspot.com/2018/10/l-39ng.html) โดยการบินทดสอบได้เสร็จสิ้นในช่วงต้นปี 2020 

เปรียบเทียบกับเครื่องบินฝึกไอพ่น L-39 รุ่นดังเดิมที่เป็นแบบพื้นฐาน L-39NG มีคุณสมบัติติดตั้งงเครื่องยนต์ไอพ่น Turbofan แบบ Williams International FJ44-4M สหรัฐฯที่มีกำลังขับมากขึ้น,
ปีกแบบมีถังเชื้อเพลิงภายใน(wet wing), ห้องนักบินที่ทันสมัย และโครงสร้างอากาศยานที่เบากว่าเครื่องรุ่นก่อนหน้า(https://aagth1.blogspot.com/2018/12/l-39ng.html)

เครื่องบินฝึกไอพ่น L-39NG ติดตั้งด้วยจุดแข็งจำนวน 5ตำบล(เปรียบเทียบกับสองจุดแข็งใน L-39 รุ่นเดิม) ที่จะสามารถติดตั้งอาวุธและอุปกรณ์ได้หลากหลายแบบ
ตั้งแต่อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น และระบบตรวจจับอื่นๆ รวมถึงมีตัวเลือกติดตั้งกระเปาะปืนใหญ่อากาศด้วย(https://aagth1.blogspot.com/2019/01/blog-post_20.html, https://aagth1.blogspot.com/2018/11/l-39ng.html

ตามข้อมูลจาก Janes All the World's Aircraft: Development & Production เครื่องบินฝึกไอพ่น L-39NG มีความเร็วสูงสุดที่ 420knots, มีน้ำหนักบรรทุกที่ 1,200kg 
มีระยะเวลาปฏิบัติการบินนาน 4ชั่วโมง 30นาที, มีพิสัยทำการบิน 1,400nmi และมีเพดานบินสูงสุดที่ 38,000feet มีรายงานว่าราคาของเครื่องที่จะจัดหาอยู่ที่ต่ำกว่า $10 million ครับ