วันพุธที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2564

กองทัพอากาศไทยทำพิธีปลดประจำการเฮลิคอปเตอร์ ฮ.๖ข Bell 412 Twin และ ฮ.๖ค Bell 412HP











Succeed in all mission 1982-2021, Royal Thai Air Force (RTAF) held Farewell and Decommissioning ceremony for its Bell 412 Twin and Bell 412HP helicopters of 202nd Squadron, Wing 2 Lop Buri in 19 October 2021. 

กองบิน ๒ จัดพิธีปลดประจำการ เฮลิคอปเตอร์แบบที่ ๖ ข. (BELL 412 Twin) และเฮลิคอปเตอร์แบบที่ ๖ ค. (BELL 412 HP)
พลอากาศโท เสริมเกียรติ  ก้อนมณี ผู้บังคับศูนย์สนับสนุนการถวายบิน ๙๐๔ เป็นประธานในพิธีปลดประจำการเฮลิคอปเตอร์แบบที่ ๖ ข. (BELL 412 Twin) และเฮลิคอปเตอร์แบบที่ ๖ ค. (BELL 412 HP) อย่างเป็นทางการ 
โดยมีนาวาอากาศเอก ชวภณ  ยิ้มพงษ์ ผู้บังคับการกองบิน ๒ ให้การต้อนรับ พร้อมด้วยหัวหน้าหน่วยขึ้นตรง และข้าราชการ กองบิน ๒ เข้าร่วมพิธีฯ ณ บริเวณโรงเก็บฝูงบิน ๒๐๒ กองบิน ๒ จังหวัดลพบุรี เมื่อวันที่ ๑๙ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๔

พิธีปลดประจำการเฮลิคอปเตอร์แบบที่๖ข ฮ.๖ข Bell 412 Twin และเฮลิคอปเตอร์แบบที่๖ค Bell 412HP/Bell 412SP ฝูงบิน๒๐๒ กองบิน๒ โคกกระเทียม จังหวัดลพบุรี กองทัพอากาศไทย(RTAF: Royal Thai Air Force) อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ ๑๙ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๔(2021)
มีขึ้นตามมาให้หลังเกือบหนึ่งเดือนจากที่กองทัพอากาศไทยwfgทำพิธีปลดประจำการเฮลิคอปเตอร์แบบที่๖ ฮ.๖ Bell UH-1H Huey ณ ฝูงบิน๒๐๓ กองบิน๒ อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ ๒๓ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๔(https://aagth1.blogspot.com/2021/09/uh-1h.html)

เฮลิคอปเตอร์ที่ผลิตโดยบริษัท Bell Helicopter สหรัฐฯ-แคนาดา ที่กองทัพอากาศไทยกำหนดแบบเป็น ฮ.๖ ที่ปลดประจำการไปก่อน ฮ.๖ UH-1H คือเฮลิคอปเตอร์แบบที่๖ก ฮ.๖ก Bell UH-1N จำนวน ๒เครื่องซึ่งเข้าประจำการในช่วงปี พ.ศ.๒๕๑๙-๒๕๔๓(1976-2000)
กองทัพอากาศไทยเคยน้อมเกล้าฯถวาย ฮ.๖ก UH-1N เป็นเฮลิคอปเตอร์พระราชพาหนะ ซึ่งเครื่องทะเบียน ฮ.๖ก-๑/๑๙ และ ฮ.๖ก-๒/๑๙ ได้ถูกโอนย้ายจากฝูงบิน๓๒ กองบิน๓ โคราชหลังยุบกองบิน๓ ในปี พ.ศ.๒๕๒๐(1977)ไป ฝูงบิน๒๐๓ กองบิน๒ ปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ

เฮลิคอปเตอร์ ฮ.๖ข Bell 412 Twin จำนวน ๒เครื่อง ทะเบียน ฮ.๖ข-๑/๒๕ และ ฮ.๖ข-๒/๒๕ ได้ถูกนำเข้าประจำการในปี พ.ศ.๒๕๒๕(1982) ซึ่งกองทัพอากาศไทยเคยน้อมเกล้าฯถวาย ฮ.๖ข เป็นเฮลิคอปเตอร์พระราชพาหนะ ประจำการในฝูงบิน๒๐๓ กองบิน๒ 
ต่อมามีการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ ฮ.๖ค Bell 412SP ๒เครื่อง/Bell 412HP ๑เครื่อง รวมจำนวน ๓เครื่องในปี พ.ศ.๒๕๓๔(1991) ทะเบียน ฮ.๖ค-๑/๓๔, ฮ.๖ค-๒/๓๔ และ ฮ.๖ค-๓/๓๔ โดยกองทัพอากาศไทยน้อมเกล้าฯถวาย ฮ.๖ค-๒/๓๔ เฮลิคอปเตอร์พระราชพาหนะ ส่วนอีกสองเครื่องเป็นเฮลิคอปเตอร์สำรองในปี พ.ศ.๒๕๓๕(1992)

หลังการจัดหา ฮ.๖ค Bell 412SP/Bell 412HP ดังกล่าวในปี ๒๕๓๔ กองทัพอากาศไทยได้ลดระดับ ฮ.๖ข Bell 412 เป็นเฮลิคอปเตอร์สำรองและเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงสนับสนุนภารกิจโดยเปลี่ยนสีเครื่องจากสีขาวฟ้ามาเป็นสีพราง SEA(South East Asia)
ในปี พ.ศ.๒๕๔๐(1997) กองทัพอากาศไทยได้โอนย้าย ฮ.๖ข Bell 412 และ ฮ.๖ค Bell 412SP/HP ทั้งหมดจากฝูงบิน๒๐๓ ไปฝูงบิน๒๐๑ รักษาพระองค์ กองบิน๒ ทดแทนเฮลิคอปเตอร์แบบที่๔ก ฮ.๔ก Sikorsky S-58T ที่ปลดประจำการ

จากนั้นในปี พ.ศ.๒๕๔๑(1998) กองทัพอากาศไทยได้จัดหาเฮลิคอปเตอร์แบบที่๖ง ฮ.๖ง Bell 412EP จำนวน ๔เครื่องโดยน้อมเกล้าฯถวายเป็นฮลิคอปเตอร์พระราชพาหนะ ต่อมาจัดหาเพิ่มอีก ๒เครื่องในปี พ.ศ.๒๕๔๖(2003) รวมเป็น ๖เครื่องเข้าประจำการในฝูงบิน๒๐๑ รักษาพระองค์ กองบิน๒
กองทัพอากาศไทยเคยจัดหาเฮลิคอปเตอร์แบบที่๙ ฮ.๙ Eurocopter AS332L-2 Super Puma จำนวน ๓เครื่องในปี พ.ศ.๒๕๓๙(1996) เพื่อเป็นเฮลิคอปเตอร์พระราชพาหนะ แต่เกิดอุบัติเหตุตกที่นราธิวาส ๑เครื่องในปี พ.ศ.๒๕๔๐ ๒เครื่องที่เหลือถูกปลดประจำการในปี พ.ศ.๒๕๔๘(2005)

ต่อมา ฮ.๖ข Bell 412, ฮ.๖ค Bell 412SP/HP และ ฮ.๖ง Bell 412EP ได้ถูกปรับภารกิจการใช้งานเป็นเฮลิคอปเตอร์ค้นหาและกู้ภัย(SAR: Search and Rescue) ในสีพรางเทาฟ้า เห็นได้จาก ฮ.๖ค-๒/๓๔ Bell 412HP หมายเลข ๓๖๐๒๑ ที่ติดตั้งปืนกลอากาศ M60D 7.62mm ข้างประตูในพิธี
ในปี พ.ศ.๒๕๖๓(2020) กองทัพอากาศไทยได้โอนย้ายเฮลิคอปเตอร์ตระกูล Bell 412 ทั้งหมดจากฝูงบิน๒๐๑ รักษาพระองค์ ไปยังฝูงบิน๒๐๒ ที่กลับจัดตั้งตั้งขึ้นใหม่หลังยุบฝูง หลังจากปลดประจำการเฮลิคอปเตอร์แบบที่๘ ฮ.๘ Bell 206B Jet Ranger ในปี พ.ศ.๒๕๔๙(2006)

ปัจจุบันฝูงบิน๒๐๒ กองบิน๒ ยังคงมีเฮลิคอปเตอร์ ฮ.๖ง Bell 412EP จำนวน ๖เครื่องประจำการรวมกับเฮลิคอปเตอร์แบบที่๑๓ ฮ.๑๓ Airbus H135 จำนวน ๖เครื่องที่ได้รับมอบในปี ๒๕๖๔ นี้(https://aagth1.blogspot.com/2021/10/h135.html)
ฮ.๖ข Bell 412 ๒เครื่อง และ ฮ.๖ค Bell 412SP ๒เครื่อง และ ฮ.๖ค Bell 412HP ๑เครื่องที่เข้าประจำการมาเป็นระยะเวลารวม ๓๙ปี(1982-2021) ได้ทำหน้าที่ในฐานะเฮลิคอปเตอร์ตามภารกิจใต้เบื้องพระยุคลบาทและช่วยเหลือประชาชนมายาวนาน ก็ถึงเวลาอันสมควรที่ต้องกล่าวอำลาแล้วครับ