แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ U214 แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ U214 แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2568

ตุรกีทำพิธีปล่อยเรือลงน้ำเรือดำน้ำชั้น Reis ลำที่สาม S-332 TCG Muratreis

Turkish Navy launches 3rd Reis-class AIP submarine, TCG Muratreis



The future TCG Muratreis while meeting with the water (Turkish MoD picture)

กระทรวงกลาโหมตุรกีได้ประกาศว่าเรือดำน้ำโจมตีดีเซล-ไฟฟ้า(SSK) ติดตั้งระบบขับเคลื่อนแบบไม่ใช้อากาศ(AIP: Air Independent Propulsion) ชั้น Type 214TN Reis ลำที่สาม เรือดำน้ำ S-332 TCG Muratreis สำหรับกองทัพเรือตุรกี(Turkish Navy)
ได้ถูกปล่อยลงน้ำแล้วเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2025 ณ อู่เรือ Gölcük Naval Shipyard กระทรวงกลาโหมตุรกีประกาศทางสื่อสังคม online ทางการของตน โดยเผยแพร่ภาพที่เรือดำน้ำ TCG Muratreis ถูกนำลงผิวน้ำที่อู่เรือ Gölcük ในวันเดียวกัน

"Muratreis เป็นเรือดำน้ำชั้น Reis ลำที่สามจาก 6ลำที่อยู่ภายใต้การสร้างที่กองบัญชาการอู่เรือ Gölcük ของกรมการอู่เรือของเราได้ถูกปล่อยลงน้ำในโอกาสครบรอบ 572ปีการพิชิต Istanbul" กระทรวงกลาโหมตุรกีกล่าวในบัญชี X(Twitter เดิม) ทางการของตน
เรือดำน้ำ TCG Muratreis ถูกนำเข้าอู่แห้งเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2024 เรือดำน้ำชั้น Reis ลำแรก เรือดำน้ำ S-330 TCG Pirireis ถูกทำพิธีขึ้นระวางประจำการเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2024(https://aagth1.blogspot.com/2024/08/reis-s-330-tcg-pirireis.html)

เรือดำน้ำชั้น Reis ลำที่สอง เรือดำน้ำ S-331 TCG Hizirreis ปัจจุบันกำลังระหว่างการทดลองเรือในทะเล ตั้งแต่ปี 2025 นี้เป็นต้นไปเรือดำน้ำชั้น Reis หนึ่งลำจะถูกขึ้นระวางประจำการในทุกๆปี และเรือทั้ง 6ลำจะเข้าประจำการในกองทัพเรือตุรกีครบภายในปี 2028
สัญญาที่ลงนามในเดือนกรกฎาคม 2009 ระหว่างสำนักงานอุตสาหกรรมกลาโหมตุรกี(Secretariat of Defence Industries, SSB: Savunma Sanayii Başkanlığı) และบริษัท thyssenkrupp Marine Systems(tkMS) เยอรมนีเพื่อจะสร้างเรือดำน้ำจำนวน 6 ลำและนำเข้าประจำการในกองทัพเรือตุรกี

โครงการเรือดำน้ำชั้น Reis เป็นโครงการที่มีความสำคัญยิ่งสำหรับกองทัพเรือตุรกี เรือดำน้ำเหล่านี้จะเพิ่มขยายความแข็งแกร่งของกองเรือดำน้ำในทะเลโดยรอบด้วยคุณลักษณะขีดความสามารถระบบขับเคลื่อนแบบไม่ใช้อากาศ AIP
ปัจจุบันกองทัพเรือตุรกีมีเรือดำน้ำในประจำการจำนวน 13ลำ ประกอบด้วยเรือดำน้ำชั้น Ay(Type 209/1200) จำนวน 4ลำ, เรือดำน้ำชั้น Preveze(Type 209T/1400) จำนวน 4ลำ, เรือดำน้ำชั้น Gür(Type 209T2/1400) จำนวน 4ลำ และเรือดำน้ำชั้น Reis จำนวน 1ลำ

เรือดำน้ำชั้น Ay, เรือดำน้ำชั้น Preveze, เรือดำน้ำชั้น Gür และเรือดำน้ำชั้น Reis ทั้งหมดเป็นเรือดำน้ำโจมตีดีเซล-ไฟฟ้าพลังงานตามแบบ(conventionally-powered) ภายในปี 2028 กองทัพเรือตุรกีจะมีเรือดำน้ำชั้น Reis พร้อมระบบ AIP ประจำการ 6ลำ
เรือดำน้ำชั้น Reis จะเป็นประโยชน์ไม่เพียงแต่เฉพาะกับกองทัพเรือตุรกีแต่ยังกับพื้นฐานทางด้านวิทยาการและด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของตุรกีด้วย(https://aagth1.blogspot.com/2024/10/stm-stm500.html)

องค์ความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับจากโครงการเป็นแหล่งอ้างอิงที่แข็งแรงสำหรับโครงการพัฒนาเรือดำน้ำภายในประเทศของตุรกีที่รู้จักในชื่อโครงการเรือดำน้ำแห่งชาติ(National Submarine, MİLDEN: Milli Denizaltı) ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นระยะการออกแบบและคาดว่าจะถูกสร้างในปี 2030s
โครงการยังมีผู้รับสัญญารองของตุรกีเป็นจำนวนมากรวมถึง บริษัท ASELSAN ตุรกี, บริษัท HAVELSAN ตุรกี, บริษัท MilSOFT ตุรกี, บริษัท STM ตุรกี, บริษัท Koç Information and Defense ตุรกี, สภาวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตุรกี(Scientific and Technological Research Council of Turkey, TÜBİTAK) และบริษัท AYESAŞ ตุรกี กำลังทำงานในระบะย่อยต่างๆของเรือดำน้ำชั้น Reis รวมถึงระบบนำร่องและการจัดการข้อมูล, data link ระบบระบบมาตรการต่อต้าน torpedo(TCM: Torpedo Countermeasures) และอื่นๆ

เรือดำน้ำชั้น Reis มีคุณลักษณะเรือดำน้ำตัวเรือเดี่ยว(single-hull), ออกแบบมีหนึ่งพื้นที่ภายใน(one-compartment) และระบบขับเคลื่อนแบบไม่ใช้อากาศ AIP แบบ fuel cell ของ Howaldswerke-Deutsche Werft(HDW) เยอรมนีที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว
เรือดำน้ำชั้น Reis มีความยาวตัวเรือที่ 68.35m, เส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกที่ 6.33m มีระวางขับน้ำที่ 1,850tons และมีความจุกำลังพลประจำเรือที่ 40นาย ระบบ AIP แบบวิทยาการ PEM Fuel Cell(กำลัง 120kw 2ระบบ) และ battery ความจุสูง(324หน่วย 2ชุด) ทำให้เรือมีระยะเวลาวางกำลังที่ยาวนานโดยปราศจากการใช้ท่อ snorkel 

เรือดำน้ำชั้น Reis จะติดตั้งด้วย torpedo หนักขนาด 533mm(MK48 Mod 6AT และ DM2A4), อาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำ(UGM-84 Sub-Harpoon) และทุ่นระเบิดทะเล torpedo หนักแบบ Akya และอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้นต่อต้านเรือผิวน้ำ Atmaca ที่ตุรกีพัฒนาในประเทศ(https://aagth1.blogspot.com/2025/03/atmaca.html)ถูกประกาศว่าจะได้รับการติดตั้งกับเรือ
เรือดำน้ำชั้น Reis จะสามารถดำเนินภารกิจต่างๆอย่างเช่นการปฏิบัติการน่านน้ำชายฝั่งไปจนถึงการลาดตระเวนในมหาสมุทร รวมถึงปฏฺิบัติการต่อต้านเรือผิวน้ำและเรือดำน้ำ, ข่าวกรอง ตรวจการณ์ และลาดตระเวน(ISR: Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance) และหน่วยรบพิเศษ โดยหลักต้องขอบคุณความลึกในการดำที่เพิ่มขึ้นและการผสมผสานระบบอาวุธและระบบตรวจจับแบบ modular ของเรือครับ

วันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

สิงคโปร์ลงนามจัดหาเรือดำน้ำชั้น Type 218SG Invincible เยอรมนีเพิ่มเติม 2ลำ

Singapore orders two additional Type 218SG submarines to TKMS



Type 218SG submarine mockup on TKMS booth at IMDEX Asia 2025.

บริษัท thyssenkrupp Marine Systems(tkMS) เยอรมนีได้ประกาศการลงนามสัญญากับสำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหมสิงคโปร์(DSTA: Defence Science and Technology Agency) 
สำหรับการจัดหาเรือดำน้ำโจมตีดีเซล-ไฟฟ้า(SSK) ชั้น Invincible(Type 218SG) เพิ่มเติม 2ลำ ทำให้กองทัพเรือสิงคโปร์(RSN: Republic of Singapore Navy) จะมีเรือดำน้ำชั้น Invincible เพิ่มจำนวนเป็นรวม 6ลำ

เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2025 บริษัท tkMS เยอรมนีและ DSTA สิงคโปร์ได้ลงนามสัญญาสำหรับการสร้างเรือดำน้ำ Type 218SG เพิ่มเติม 2ลำ การสั่งจัดหานี้เป็นการเพิ่มรายการคำสั่งซื้อของบริษัท tkMS ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ราว 16 billion Euros การพัฒนาเชิงบวกในภาคทางทะเลยังคงมีต่อเนื่อง

Oliver Burkhard ผู้อำนวยการบริหารของบริษัท tkMS เน้นย้ำว่า "การขยายคำสั่งซื้อเน้นย้ำสถานการณ์ตลาดเชิงบวกโดยรวมในการสร้างเรือและมอบโอกาสให้เราที่ขยายคำสั่งซื้อที่มีอยู่ให้เต็มได้มากขึ้นอย่างดี เรายังภูมิใจว่าสิงคโปร์ได้วางความไว้วางใจของตนอีกครั้งในเรา 
ในฐานะหุ้นส่วนที่ไปไกลเกินกว่าการผลิตเรือดำน้ำ เรารู้สึกเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งต่อสิงคโปร์และเสริมความแข็งแกร่งต่อขีดความสามารถด้านความมั่นคงการป้องกันประเทศของประเทศของลูกค้าของเราด้วยผลิตภัณฑ์ของเรา"

ตามข้อมูลจาก tkMS เยอรมนี การเพิ่มขยายคำสั่งซื้อสามารถดำเนินการได้ภายในขีดความสามารถการสร้างที่มีอยู่ในเยอรมนี แม้ว่าการนำขีดความสามารถการสร้างสูงได้นำมาใช้จนถึงปี 2040s
ในเดือนธันวาคม 2024 บริษัท tkMS ได้รับคำสั่งซื้อหลักมูลค่าหลายพันล้าน Euros รวมถึงเรือดำน้ำชั้น Type 212CD เพิ่มเติม 4ลำสำหรับกองทัพเรือเยอรมนี(German Navy, Deutsche Marine)(https://aagth1.blogspot.com/2025/01/type-212cd-4.html),

เรือตัดน้ำแข็งวิจัย Polarstern ใหม่, และงบประมาณสำหรับการเริ่มต้นโครงการเรือฟริเกตป้องกันภัยทางอากาศชั้น Type 127 ใหม่สำหรับกองทัพเรือเยอรมนี(https://aagth1.blogspot.com/2025/01/type-127.html)
tkMS ยังได้มุ่งเน้นที่ความต้องการทางเทคนิคขั้นสูงสุดสำหรับการเพิ่มขยายคำสั่งซื้อจากสิงคโปร์ การออกแบบของเรือดำน้ำ Type 218SG ได้ถูกออกแบบเพื่อลดการแพร่สัญญาณของเรือให้น้อยที่สุด

ระบบขับเคลื่อนแบบไม่ใช้อากาศ(AIP: Air Independent Propulsion) ยังทำให้เรือดำน้ำ Type 218SG สามารถที่จะยังคงดำอยู่ใต้น้ำได้เป็นเวลายาวนาน ตามที่เรือดำน้ำชั้น Invincible ได้ถูกสร้างขึ้นมาแล้ว 4ลำคือลำแรกเรือดำน้ำ RSS Invincible, ลำที่สองเรือดำน้ำ RSS Impeccable, 
ลำที่สามเรือดำน้ำ RSS Illustrious และลำที่สี่เรือดำน้ำ RSS Inimitable(https://aagth1.blogspot.com/2024/04/invincible-rss-inimitable.html) ขณะนี้มีเรือดำน้ำชั้น Invincible รวมทั้งหมด 6ลำที่ได้ถูกสร้างสำหรับสิงคโปร์

ในเดือนมีนาคม 2025 รัฐมนตรีกลาโหมสิงคโปร์ Dr. Ng Eng Hen ได้ประกาศแผนที่จะจัดหาเรือดำน้ำชั้น Invincible เพิ่มเติม 2ลำระหว่างสมัยประชุมรัฐสภาสิงคโปร์ที่รู้จักในชื่อคณะกรรมาธิการอภิปรายการจัดหา(Committee of Supply Debate)(https://aagth1.blogspot.com/2025/03/invincible-2.html)
ในการเพิ่มเติมต่อเรือดำน้ำชั้น Invincible สี่ลำตามแผนปัจจุบันที่จะเข้าประจำการภายในปี 2028 กองทัพเรือสิงคโปร์ได้ทำพิธีขึ้นระวางประจำการเรือสองลำแรก เรือดำน้ำ RSS Invincible และเรือดำน้ำ RSS Impeccable ในเดือนกันยายน 2024 ลำสี่เรือดำน้ำ RSS Inimitable ได้ถูกทำพิธีปล่อยเรือลงน้ำในเดือนเมษายน 2024 และน่าจะถูกส่งมอบตามมาภายในปี 2025 นี้

เรือดำน้ำชั้น Invincible มีระวางขับน้ำขณะดำใต้น้ำที่ 2,200tons มีความเร็วที่เกิน 15knots ขณะดำใต้น้ำ มีความยาวตัวเรือที่ 70m และมีและมีเส้นผ่าศูนย์กลางตัวเรือถังความดันที่ 6.3m ระบบอาวุธของเรือคือท่อยิง torpedo หนักขนาด 533mm แปดท่อยิง
เรือดำน้ำ Type 218SG มีพื้นฐานจากเรือดำน้ำ Type 214 ของ tkMS(https://aagth1.blogspot.com/2025/04/type-214-4.html) โดยนำองค์ประกอบจากเรือดำน้ำชั้น Type 212A มาใช้เช่นหางเสือรูปตัวอักษร X ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2025/04/type-212-nfs.html)

วันพุธที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2568

กรีซจะปรับปรุงความทันสมัยเรือดำน้ำชั้น Type 214 และจัดหาเรือดำน้ำใหม่ 4ลำ

Greece announces submarine fleet recapitalisation



HS Papanikolis , the oldest of the Hellenic Navy's four Type 214 submarines set to be modernised. (Hellenic Navy)


Hellenic Navy to request bids for four new submarines to replace to replace its existing Type 209 submarines. (Hellenic Navy)

กองเรือดำน้ำของกองทัพเรือกรีซ(HN: Hellenic Navy) ได้ถูกกำหนดที่จะได้รับการปรับปรุงความทันสมัยในฐานะส่วนหนึ่งของงบประมาณกลาโหมหลักวงเงิน 25 billion Euros($27.43 billion)
เพื่อการปรับปรุงยกระดับครั้งใหญ่(overhaul) สำหรับกองทัพกรีซ(Hellenic Armed Forces) ที่ได้รับการประกาศโดยนายกรัฐมนตรีกรีซ Kyriakos Mitsotakis เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2025 ที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่กองทัพเรือกรีซกล่าวกับ Janes ว่าคณะเสนาธิการทหารเรือกรีซได้รับการอนุมัติทางการเมืองอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับการปรับปรุงความทันสมัยของเรือดำน้ำโจมตีดีเซล-ไฟฟ้า(SSK) ชั้น Papanikolis ทั้ง 4ลำของตน
แบบเรือดำน้ำชั้น Type 214 ที่ติดตั้งด้วยระบบขับเคลื่อนแบบไม่ใช้อากาศ(AIP: Air-Independent Propulsion) และการร้องขอการแข่งขันสำหรับเรือดำน้ำใหม่ 4ลำ(https://aagth1.blogspot.com/2021/03/tkms-type-214.html)

การปรับปรุงของเรือดำน้ำชั้น Papanikolis จำนวน 4ลำคือ เรือดำน้ำ S-120 HS Papanikolis, เรือดำน้ำ S-121 HS Pipinos, เรือดำน้ำ S-122 HS Matrozos และเรือดำน้ำ S-123 HS Katsonis(https://aagth1.blogspot.com/2024/08/reis-s-330-tcg-pirireis.html)
จะรวมถึงการทดแทน torpedo หนักแบบ AEG SUT Mod 0 ด้วย torpedo หนักแบบ Atlas Elektronik DM2A4 SeaHake Mod 4 ใหม่(https://aagth1.blogspot.com/2022/01/tkms-type-214-type-209.html),

การปรับเปลี่ยนระบบอำนวยการรบ(CMS: Combat Management System) แบบ ISUS-90 ของเรือดำน้ำชั้น Papanikolis(Type 214) เพื่อใช้งานระบบอาวุธใหม่ต่างๆเหล่านี้(https://aagth1.blogspot.com/2023/12/hd-hhi.html), 
การจัดซื้อจัดจ้างของ battery ของ torpedo เพิ่มเติม, และการติดตั้งระบบมาตรการต่อต้าน torpedo(TCM: Torpedo Countermeasures)(https://aagth1.blogspot.com/2022/10/type-214.html)

torpedo หนักแบบ SeaHake นำวิถีด้วยสาย fibre-optic มีคุณลักษณะความยาว 6.22m และหนัก 1,530kg ติดตั้งหัวรบขนาด 260kg, ระบบ battery แบบ modular, motor ไฟฟ้า, ระบบตรวจจับเป้าหมาย sonar แบบ digital, 
และระบบต่อต้านมาตรการต่อต้าน electronic(ECCM: Electronic Counter-Countermeasures) เพื่อต่อต้านการก่อกวนแและหลบหลีกเป้าลวง(decoy) และระบบมาตรการต่อต้าน(countermeasure) สมัยใหม่ต่างๆ

torpedo หนัก SeaHake ถูกออกแบบให้มีความเร็วถึงที่ 50 knots ที่ระยะยิงเกิน 50km โดย torpedo เหล่านี้สามารถปฏิบัติการได้ทั้งระบบชี้เป้าหมายแบบเชิงรุกและเชิงรับ และสามารถใช้งานได้ได้จากหลากหลายระดับความลึกภายใต้สภาวะทะเลที่แตกต่างกันหลายรูปแบบ
torpedo หนัก SeaHake ชุดแรกจำนวน 44นัดมีกำหนดที่จะถูกส่งมอบในราวกลางปี 2025 นี้ และชุดที่สองจะมีตามมาภายในสิ้นปี 2025(https://aagth1.blogspot.com/2022/02/type-214.html)

กองทัพเรือกรีซยังมีความต้องการที่จะจัดหาเรือดำน้ำใหม่อย่างน้อย 4ลำเพื่อทดแทนเรือดำน้ำชั้น Glafkos(Type 209/1100) จำนวน 2ลำจากเดิม 4ลำที่ยังประจำการอยู่คือ เรือดำน้ำ S-111 HS Nirefs และเรือดำน้ำ S-112 HS Triton
และเรือดำน้ำชั้น Poseidon(Type 209/1200) จำนวน 3ลำจากเดิม 4ลำที่ยังประจำการอยู่คือ เรือดำน้ำ S-116 HS Poseidon, เรือดำน้ำ S-117 HS Amfitriti และเรือดำน้ำ S-119 HS Pontos ที่มีอายุการใช้งานมานานโดยเข้าประจำการมาตั้งแต่ปี 1970s ครับ

วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2567

ตุรกีทำพิธีประจำการเรือดำน้ำชั้น Reis ลำแรก S-330 TCG Pirireis

Turkish Navy commissions first Reis-class submarine



The commissioning ceremony for TCG Pirireis , which took place at Aksaz Naval Base on 25 August 2024. (Turkish MND)



เรือดำน้ำโจมตีดีเซล-ไฟฟ้า(SSK) ติดตั้งระบบขับเคลื่อนแบบไม่ใช้อากาศ(AIP: Air Independent Propulsion) ชั้น Type 214TN Reis ลำแรกจากทั้งหมด 6ลำที่ได้รับการสร้างสำหรับกองทัพเรือตุรกี(Turkish Navy) ได้ถูกนำเข้าประจำการแล้ว
เรือดำน้ำชั้น Reis ลำแรก เรือดำน้ำ S-330 TCG Pirireis ได้มีพิธีขึ้นระวางประจำการอย่างเป็นทางการในพิธีที่จัดขึ้น ณ ฐานทัพเรือ Aksaz ใน Marmaris ทางตะวันตกเฉียงใต้ของตุรกีเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2024 กระทรวงกลาโหมตุรกียืนยันในวันเดียวกัน

พิธีขึ้นระวางประจำการเรือดำน้ำ TCG Pirireis ยังเป็นเครื่องหมายถึงเหตุการณ์สำคัญอื่นๆอีกหลายอย่างสำหรับโครงการเรือดำน้ำชั้น Reis(https://aagth1.blogspot.com/2019/04/type-209-type-214-nagapasa.html)
รวมถึงการทดลองเรือในทะเลระยะแรกของเรือดำน้ำชั้น Reis ลำที่สอง เรือดำน้ำ S-331 TCG Hizirreis ขณะที่เรือดำน้ำชั้น Reis ลำที่สาม เรือดำน้ำ S-332 TCG Muratreis ได้อยู่ที่อู่เรือเพื่อดำเนินการติดตั้งสิ่งอุปกรณ์

ตุรกีได้เลือกแบบเรือดำน้ำชั้น Type 214 AIP ของบริษัท thyssenkrupp Marine Systems(tkMS) เยอรมนีผู้สร้างเรือ(ขณะนั้นเป็นบริษัท Howaldtswerke-Deutsche Werft(HDW) เยอรมนี) ในปี 2008
ว่าตรงความต้องการของตนสำหรับเรือดำน้ำใหม่ในการทดแทนเรือดำน้ำชั้น Type 209 ที่มีอายุการใช้งานมานานของตน รวมถึงเรือดำน้ำชั้น Ay(Type 209/1200) จำนวน 6ลำ ซึ่งส่วนหนึ่งเริ่มทยอยปลดประจำการแล้ว

สัญญามูลค่าวงเงินราว 2.5 billion Euros($3.96 billion ตามค่าเงินในเวลานั้น) ที่ได้รับการลงนามในปี 2009 ครอบคลุมการส่งมอบชุดของสิ่งวัสดุสำหรับเรือดำน้ำ 6ลำ ซึ่งกำลังได้รับการสร้างโดยอู่เรือ Gölcük Naval Shipyard ตุรกีโดยใช้เนื้อหาภายในประเทศระดับสูง
เรือดำน้ำ TCG Pirireis เริ่มการสร้างในปี 2015 และถูกนำลงน้ำในเดือนมีนาคม 2021 เรือดำน้ำชั้น Reis ลำแรกเดิมมีแผนที่จะถูกส่งมอบในปี 2022 แต่กำหนดเวลาได้ถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากผลกระทบของสถานการณ์ระบาด Covid-19

ภายใต้แผนปัจจุบันเรือลำที่สอง เรือดำน้ำ S-331 TCG Hizirreis จะถูกขึ้นระวางประจำการในปี 2025 ตามมาด้วยเรือลำที่สาม เรือดำน้ำ S-332 TCG Muratreis ในปี 2026 เรือดำน้ำชั้น Reis ที่เหลืออยู่ในหลากหลายขั้นระยะของการสร้าง
เรือลำที่สี่ เรือดำน้ำ S-333 TCG Aydinreis ถูกวางกระดูกงูเรือในปี 2019 ตามมาด้วยเรือลำที่ห้า เรือดำน้ำ S-334 TCG Seydialireis ถูกวางกระดูกงูเรือในปี 2020 และเรือลำที่หก เรือดำน้ำ S-335 TCG Selmanreis ถูกวางกระดูกงูเรือในปี 2020 เรือทั้ง 6ลำวางแผนที่จะเข้าประจำการครบในปี 2029

เรือดำน้ำชั้น Reis มีความยาวเรือยาวมากกว่าเรือดำน้ำ Type 214 ที่ประจำการในกองทัพเรือชาติอื่นที่ 3.35m การเพิ่มความยาวเรือและน้ำหนักเรือมีเพื่อการแก้ไขปัญหาความเสถียรภาพของตัวเรือ โดยเฉพาะที่ความลึกระดับกล้องตาเรือที่ได้รับรายงานจากกองทัพเรือชาติอื่นๆ
เรือดำน้ำชั้น Reis มีความยาวเรือที่ 68.35m, กว้างที่ 6.3m มีระวางขับน้ำที่ผิวน้ำที่ 1,850tonnes และขณะดำใต้น้ำที่ 2,050tonnes มีกำลังพลประจำเรือเต็มที่ 40นาย น้อยลงกว่า 10นายจากเรือดำน้ำที่ประจำการในกองทัพเรือตุรกีปัจจุบัน บ่งชี้ถึงการนำระบบอัตโนมัติมาใช้งานในระดับสูงครับ

วันศุกร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2566

HD HHI เกาหลีใต้จะพัฒนาแบบเรือดำน้ำของตนเองสำหรับส่งออก

HD HHI to Develop Indigenous Submarine for Export Market

HD HHI has built 6 of the 9 Sohn Won-yil-class (Type 214/KSS II) submarines of the ROK Navy.


Launch ceremony for the third and final KSS III Batch 1 submarine of the ROK Navy, held at HHI's Ulsan shipyard in September 2021.

บริษัท HD Hyundai Heavy Industries(HHI) สาธารณรัฐเกาหลีจะพัฒนาแบบเรือดำน้ำขนาดกลางภายในประเทศสำหรับการส่งออก ปัจจุบันตลาดเรือดำน้ำของสาธารณรัฐเกาหลีได้ถูกแบ่งเป็นระหว่างบริษัท HD HHI
และบริษัท Hanwha Ocean สาธารณรัฐเกาหลี(เดิมรู้จักในชื่อ DSME: Daewoo Shipbuilding & Marine Engineering)(https://aagth1.blogspot.com/2023/11/defense-security-2023-marsun-tkms-meko.html)

ระหว่างงานสัมมนาสื่อที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2023 Dr. Won-Ho Joo ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติงาน(COO: Chief Operating Officer) หน่วยธุรกิจเรือกองทัพและเรือพิเศษของบริษัท HD HHI กล่าวว่า
HD HHI ได้เริ่มต้นการพัฒนาแบบเรือรบขนาดกลางภายในสาธารณรัฐเกาหลีสำหรับส่งออก เขาให้ความเห็นว่า "มันมีเพียงสองบริษัทเท่านั้นที่สามารถเข้าสู่การแข่งขันระดับนานาชาติสำหรับการจัดหาเรือดำน้ำในเกาหลีใต้

จากนั้นเขาเสริมว่าความร่วมมือระหว่างบริษัท HD HHI และบริษัท Hanwha Ocean เป็นความสำคัญในการสร้างเรือดำน้ำในอนาคต กล่าวถึงว่าความร่วมมือนี้ระหว่าง HD HHI และ Hanwha Ocean ควรจะส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันโครงการและกระบวนการสร้างเรือที่แท้จริง 
เขายังเสริมว่า "นี่จะมีผลกระทบเชิงบวกทั่วทั้งภาคอุตสาหกรรม" อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า Hanwha Ocean จะรับข้อเสนอนี้จาก HD HHI หรือไม่ ก่อนหน้านี้ Hanwha Ocean ได้เผยแพร่ในแถลงการณ์ของตนว่า 

"ในตลาดส่งออกเรือดำน้ำต่างประเทศ 'Team Korea' ได้ถูกจัดตั้งขึ้นโดยบริษัทหุ้นส่วนในเกาหลีประมาณ 200ราย ที่จัดส่งสิ่งอุปกรณ์สำหรับเรือดำน้ำชั้น KSS-III ที่ผลิตในประเทศ ซึ่งบรรลุผลการอัตราการทำในประเทศร้อยละ80 ทีมนี้ไม่เป็นเพียงความร่วมมือเกี่ยวกับการจัดหาเรือดำน้ำ 
แต่ยังวาดภาพการดำเนินการร่วมกันของโครงการการบำรุงรักษาในอนาคต Hanwha Ocean มีความมุ่งมั่นที่จะทำงานกับบริษัทหุ้นส่วนต่างๆในประเทศมากกว่า 200ราย เพื่อค้นหาแนวทางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผลประโยชน์ของชาติและการปกป้องความมั่นคงของพันธมิตร"

เมื่อเร็วๆนี้ Hanwha Ocean สาธารณรัฐเกาหลีได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ(MOU: Memorandum of Understanding) กับบริษัทความั่นคงต่างๆของแคนาดาสำหรับโครงการเรือดำน้ำลาดตระเวน CPSP(Canadian Patrol Submarine Project) ที่กำลังจะมีขึ้น
รัฐบาลแคนาดากำลังเตรียมการที่จะลงทุนวงเงิน CA$60 billion(ราว 58 trillion Korean won) เพื่อจะจัดหาเรือดำน้ำใหม่ 12ลำทดแทนเรือดำน้ำชั้น Victoria ของกองทัพเรือแคนาดา(RCN: Royal Canadian Navy)

เป็นที่คาดว่าหลายประเทศรวมถึงสาธารณรัฐเกาหลี, ญี่ปุ่น, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, สเปน, และสวีเดนจะมีส่วนร่วมในขั้นตอนการแข่งขัน HD HHI สาธารณรัฐเกาหลีวางแผนที่จะมีส่วนแบ่งในโครงการเรือดำน้ำ CPSP แคนาดา(https://aagth1.blogspot.com/2023/06/hd-hhi.html
โดยบริษัทได้ลงนามความร่วมมือด้านเทคนิคกับบริษัท Babcock Canada สหราชอาณาจักร-แคนาดาระหว่างงานแสดง MADEX 2023 บริษัทยังวางแผนที่จะขยายความร่วมมือของตนกับบริษัทความมั่นคงต่างๆของแคนาดาในโครงการเรือดำน้ำ CPSP ด้วย

นอกจากนี้ HD HHI สาธารณรัฐเกาหลีล่าสุดได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ MOU กับบริษัท Polska Grupa Zbrojeniowa(PGZ, Polish Armement Group) โปแลนด์ สำหรับโครงการเรือดำน้ำ Orka ของกองทัพเรือโปแลนด์(Polish Navy)
ผ่าน MOU ทั้งสองบริษัทเห็นชอบเกี่ยวกับความร่วมมือซึ่งกันและกันสำหรับโครงการเรือดำน้ำ Orka และเห็นชอบที่จะสำรวจภาคส่วนความร่วมมือในอนาคตในมิติทางทะเล(https://aagth1.blogspot.com/2023/09/hanwha-ocean-kss-iii.html)

บริษัท HD HHI สาธารณรัฐเกาหลีได้สร้างเรือดำน้ำชั้น Son Won-il(เรือดำน้ำ Type 214/KSS-II) จำนวน 6ลำจากทั้งหมด 9ลำของกองทัพเรือสาธารณรัฐเกาหลี(RoKN: Republic of Korea Navy)(https://aagth1.blogspot.com/2022/10/type-214.html)   
และเป็นผู้ออกแบบร่วมและเป็นผู้สร้างเรือดำน้ำชั้น Dosan Ahn Changho(KSS-III Batch 1) จำนวน 3ลำด้วยครับ(https://aagth1.blogspot.com/2021/10/hhi-kss-iii-ss-086-roks-shin-chaeho.html)

วันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2565

ข้อบกพร่องสำคัญต่างๆถูกพบในเรือดำน้ำชั้น Type 214 ทุกลำของกองทัพเรือเกาหลีใต้




APRA HARBOR, Guam (Sept. 24, 2022) The Republic of Korea Sohn Wonyil class diesel-electric submarine ROKS SINDOLSEOK (SS 082) sails into Apra Harbor towards Naval Base Guam, Sept. 24. (U.S. Navy)



Major defects found on South Korea’s Type 214 Submarine Fleet 

ตามรายงานที่ยื่นโดย Shin Wonsik สมาชิกสมัชชาแห่งชาติสาธารณรัฐเกาหลีจากพรรคพลังประชาชน(People Power Party) ข้อบกพร่องที่สำคัญต่างๆได้ถูกพบในเรือดำน้ำชั้น Son Won-il ทั้ง 9ลำของกองทัพเรือสาธารณรัฐเกาหลี(RoKN: Republic of Korea Navy)
เรือดำน้ำชั้น Son Won-il ถูกปรับปรุงจากแบบเรือดำน้ำ Type 214 เยอรมนีในชื่อโครงการเรือดำน้ำ KSS-II นี่เป็นการระเบิดครั้งใหญ่ต่อกองเรือดำน้ำกองทัพเรือสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งพึ่งพาเรือชั้นนี้อย่างหนัก

ตามข้อมูลจากสมาชิกสมัชชาแห่งชาติ Shin ข้อกพร่องต่างๆในสาย cable ของ inverter module ถูกพบในเรือดำน้ำชั้น Son Won-il จำนวน 7ลำ ขณะที่เรือดำน้ำ 2ลำมีข้อกพร่อง "ด้านการทำงาน" ในตัวระบบ inverter module เอง
inverter module นี้ถูกผลิตโดยบริษัท Siemens เยอรมนีเป็นส่วนประกอบที่สำคัญยิ่งระบบขับเคลื่อนของเรือดำน้ำ Naval News ได้รายงานก่อนหน้านี้ว่าเรือดำน้ำชั้น Son Won-il สามลำได้รับผลกระทบจากปัญหากับระบบ
การบรรยายสรุปล่าสุดโดยสมาชิกสมัชชาแห่งชาติ Shin ได้ยืนยันว่าปัญหาที่สำคัญนี้มีความใหญ่โตมากกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้า(https://aagth1.blogspot.com/2022/02/type-214.html)

เพื่อทำให้ประเด็นนี้แย่ลงไปอีก สาเหตุที่แท้จริงของข้อบกพร่องต่างที่เกี่ยวกับสาย cable ยังไม่เป็นที่ทราบ หมายความว่าเรือดำน้ำชั้น Son Won-il 7ลำของกองทัพเรือสาธารณรัฐเกาหลีได้ถูกวางกำลังโดยปราศจากการซ่อมทำที่จำเป็น
นี่ได้นำไปสู่อุบัติเหตุจำนวนมาก รวมถึงหนึ่งกรณีที่เกี่ยวของกับเรือชั้น Son Won-il ลำที่สาม เรือดำน้ำ SS-075 ROKS An Jung-geun ที่ถูกลากจูงกลับมายังชายฝั่งหลังเรือต้องจอดนิ่งอยู่กลางทะเลตะวันออกเมื่อ inverter module ทำงานล้มเหลวกะทันหันในเดือนมกราคม 2021

"ปัญหาใหญ่ที่สุดกับเรื่องนี้นั่นคือ กองทัพเรือสาธารณรัฐเกาหลีได้เดินหน้าที่จะปฏิบัติงานเรือดำน้ำต่อไปโดยปราศจากการค้นหาสาเหตุของปัญหา ตามที่ถ้ามันไม่มีปัญหากับระบบขับเคลื่อน...
พวกเขาอ้างว่ามันไม่มีปัญหา ขัดแย้งต่อข้อเท็จจริงที่ว่าพวกเขาพยายามที่ได้รับ module มาเปลี่ยนทดแทน ผู้นำระดับสูงของกองทัพเรือสาธารณรัฐเกาหลีจำเป็นต้องค้นหาว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น" Shin Wonsik สมาชิกสมัชชาแห่งชาติสาธารณรัฐเกาหลีกล่าว

Shin ยังกล่าวต่อว่า ปัญหาที่ "เป็นไปได้มากที่สุด" เป็นผลมาจากการแตกสลายของโครงสร้างอณู polymer(depolymerization) ของการเคลือบสาย cable ชั้นนอกแทนที่จะเป็นข้อบกพร่องในตัวสาย cable เอง เพราะตัวสายมีการป้องกันสามชั้น
อย่างไรก็ตามมันอาจจะมีปัญหาอื่นๆเพิ่มเติม ตัวอย่างเช่นเรือชั้น Son Won-il ลำที่สอง เรือดำน้ำ SS-073 ROKS Jeong Ji ไม่ได้ถูกวางกำลังตั้งแต่เดือนตุลาคม 2019 เนื่องจากการรั่วไหลของระบบหล่อเย็นที่ได้รับความเสียหายจาก inverter module
Naval News สัมภาษณ์ผู้บังคับการเรือดำน้ำ ROKS Jeong Ji ระหว่างงานแสดง MADEX 2019 มากไปกว่านั้น ความเสียหายเพิ่มเติมน่าจะเกิดขึ้นกับ inverter module ได้จากสนิมที่เกิดจากตัวสาย cable

สำนักงานโครงการจัดหากลาโหม(DAPA: Defense Acquisition Program Administration) สาธารณรัฐเกาหลีได้จ่ายให้บริษัท Siemens เป็นวงเงิน 7.1 billion Korean won($5 million) เพื่อการซ่อมทำ
คาดว่ากระบวนการซ่อมทำสำหรับเรือดำน้ำ Type 2014 ที่ได้รับการปรับแต่งแต่ละลำ รวมถึงเวลาที่จะใช้ในการขนส่งตัว module จะใช้เวลา 6เดือน นี่น่าจะเป็นผลกระทบเชิงลบต่อความพร้อมของกองเรือดำน้ำกองทัพเรือสาธารณรัฐเกาหลีในอีกหลายปีต่อไปที่จะมาถึง
คณะผู้บริหารชุดปัจจุบันของสำนักงานโครงการจัดหากลาโหมสาธารณรัฐเกาหลีกกล่าวโทษคณะผู้บริหารชุดก่อนของ DAPA สาธารณรัฐเกาหลีสำหรับความล้มเหลวนี้

"ความสำคัญของเรือดำน้ำต่อยุทธศาสตร์ทางทหารของเรา กำลังเติบโตขึ้นในแต่ละวัน...ข้อเท็จจริงคือคณะผู้บริหารชุดก่อนเพิกเฉยปัญหานี้ ท่ามกลางสถานการณ์ความมั่นคงที่ร้ายแรงอย่างมากที่ชาติเรากำลังอยู่ในการไร้ความรับผิดชอบและน่าสมเพช" 
Shin กล่าว อย่างไรก็ตามนักสังเกตการณ์เกาหลีใต้บางรายยังได้เขียนในสื่อ online ว่า คณะผู้บริหารชุดปัจจุบันควรจะยังต้องรับผิดชอบและหยุดการวิพากษ์วิจารณ์เพื่อเปลี่ยนประเด็นได้แล้ว

เรือดำน้ำชั้น Son Won-il ได้รับการจัดหาในฐานะส่วนหนึ่งของโครงการ KSS-II มีพื้นฐานจากเรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้าแบบ Type 214 ที่พัฒนาโดยบริษัท Howaldtswerke-Deutsche Werft(HDW) ในเครือ ThyssenKrupp Marine Systems(TKMS) เยอรมนี
เรือดำน้ำชั้น Son Won-il ซึ่งถูกตั้งชื่อตามผู้บัญชาการกองทัพเรือสาธารณรัฐเกาหลีคนแรก พลเรือเอก Son Won-il เป็นหลักก้าวย่างที่สำคัญจากการที่ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบไม่ใช้อากาศ(AIP: Air Independent Propulsion)

เรือดำน้ำชั้น Son Won-il ทั้ง 9ลำที่ประจำการในกองทัพเรือสาธารณรัฐเกาหลี เรือสามลำแรกคือ SS-072 ROKS Son Won-il, SS-073 ROKS Jeong Ji และ SS-075 ROKS An Jung-geun ถูกสร้างโดยอู่เรือบริษัท Hyundai Heavy Industries(HHI) สาธารณรัฐเกาหลี
โดยเรือที่เหลือถูกแบ่งการสร้างระหว่าง HHI และอู่เรือบริษัท Daewoo Shipbuilding & Marine Engineering(DSME) สาธารณรัฐเกาหลี เรือลำแรก ROKS Son Won-il เข้าประจำการในปี 2007 เรือลำสุดท้าย เรือดำน้ำ SS-082 ROKS Shin Dol-seok เข้าประจำการในปี 2020 ครับ

คุณลักษณะเรือดำน้ำชั้น Son Won-il
ระวางขับน้ำ: 1,690 tons ที่ผิวน้ำ / 1,860 tons ขณะดำใต้น้ำ
ความยาว: 65m
ความกว้าง: 6.3m
กินน้ำลึก: 6m
อาวุธ: ท่อยิง torpedo หนักขนาด 533mm จำนวน 8ท่อยิง รองรับอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้นต่อต้านเรือผิวน้ำ UGM-84 Sub-Harpoon 4นัด
ระบบขับเคลื่อน: เครื่องยนต์ดีเซล MTU 16V-396 สองเครื่อง, เครื่องกำเนิดพลังงานไฟฟ้า Piller สองเครื่อง, ระบบ AIP แบบ HDW PEM สองระบบ, motor ไฟฟ้า Siemens Permasyn กำลัง 2.85MW หนึ่งเครื่อง
ความเร็ว: 10 knots บนผิวน้ำ, 20 knots ขณะดำใต้น้ำ
ระยะทำการ: 12,000nmi ที่ผิวน้ำ, 420nmi เมื่อดำใต้น้ำ
กำลังพล: 27นาย

วันพุธที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2565

กองทัพเรือไทยฝึกสถานีดับเพลิงหลักสูตรเรือดำน้ำ Diesel นานาชาติกองทัพเรือสหรัฐฯ










GROTON, Conn. (09AUG22) Congratulations to the international diesel course group for completing the firefighting trainer course. 
Firefighting trainers helps stimulate fighting a fire in a controlled and safe environment with certified instructors. 
During this course they learn how to combat a alpha type fire which consists of organic combustible materials, Class bravo fires which consists of combustible liquids and class Charlie which consists of electrical fires.
BZ Students!!!

นายทหารจากกองทัพเรือไทย(RTN: Royal Thai Navy) ร่วมกับทหารเรือจากกองทัพเรือมิตรประเทศคือโคลอมเบีย จำนวน ๑นาย, เอกวาดอร์ จำนวน ๑นาย, สาธารณรัฐเกาหลี จำนวน ๒นาย และอินโดนีเซีย จำนวน ๑นาย
ได้เสร็จสิ้นการฝึกการควบคุมความเสียหายเรือดำน้ำ สถานีดับเพลิง(firefighting) ในหลักสูตรเรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้านานาชาติ(International Diesel Submarine course) เมื่อวันที่ ๙ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๕
ณ โรงเรียนเรือดำน้ำ(NSS: Naval Submarine School) ฐานทัพเรือดำน้ำ New London(NAVSUBASE NLON: Naval Submarine Base New London) กองทัพเรือสหรัฐฯ(USN: US Navy) ใน Groton, New London มลรัฐ Connecticut

การควบคุมความเสียหายจากเหตุไฟไหม้เรือมีความสำคัญอย่างมากสำหรับเรือรบโดยเฉพาะเรือดำน้ำ เช่นเดียวกับการควบคุมความเสียหายจากเหตุน้ำรั่วเข้าเรือ ที่มีการฝึกแล้วไปเมื่อวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๖๕(https://aagth1.blogspot.com/2022/08/international-diesel-submarine.html)
ประเภทการเกิดเพลิงไหม้บนเรือสามารถจำแนกได้เป็น Class Alpha(A) ซึ่งเกิดจากวัสดุอินทรีย์ที่ติดไฟได้, Class Bravo(B) ซึ่งเกิดจากของเหลวที่ติดไฟได้ และ Class Charlie ซึ่งเป็นการเกิดเพลิงไหม้จากสาเหตุทางไฟฟ้า โดยการเกิดเพลิงไหม้บนเรือดำน้ำจะมีความอันตรายกว่าเรือผิวน้ำอย่างมาก
เนื่องจากเรือดำน้ำเป็นเรือที่มีพื้นที่จำกัดและเต็มไปด้วยสิ่งอุปกรณ์หรือวัสดุที่เป็นอุปสรรคในการดับเพลิงเช่นเชื้อเพลิงหรือ Battery ตามคุณลักษณะการออกแบบเรือ โดยการเกิดไฟไหม้ในเรือดำน้ำจะทำให้อากาศที่มีอยู่จำกัดหมดลงจากการเผาไหม้และสร้างความเสียหายแก่ตัวเรือด้วย

กองทัพเรือห้าชาติที่เข้ารวมการฝึกหลักสูตรเรือดำน้ำดีเซลนานาชาติของกองทัพเรือสหรัฐฯ มีสี่ชาติที่มีเรือดำน้ำประจำการอยู่แล้วคือกองทัพเรือโคลอมเบีย(Colombian Navy) มีเรือดำน้ำชั้น Type 209/1200 จำนวน ๒ลำ และเรือดำน้ำชั้น Type 206A จำนวน ๒ลำ,
กองทัพเรือเอกวาดอร์(Ecuadorian Navy มีเรือดำน้ำชั้น Type 209/1300 จำนวน ๒ลำ, กองทัพเรืออินโดนีเซีย(Indonesian Navy) มีเรือดำน้ำชั้น Cakra(Type 209/1300) จำนวน ๑ลำ และเรือดำน้ำชั้น Nagapasa(DSME 209/1400) จำนวน ๓ลำ
และกองทัพเรือสาธารณรัฐเกาหลี(RoKN: Republic of Korea Navy) มีเรือดำน้ำชั้น Chang Bogo(KSS-I, Type 209/1200) จำนวน ๙ลำ, เรือดำน้ำชั้น Sohn Won-yil(KSS-II, Type 214) จำนวน ๙ลำ และเรือดำน้ำชั้น Dosan Ahn Changho(KSS-III) จำนวน ๑ลำ

มีข้อสังเกตว่าเรือดำน้ำที่ประจำการในกองทัพเรือสี่ชาติเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นเรือดำน้ำที่มีที่มาจากเยอรมนีโดยหลักคือเรือดำน้ำชั้น Type 209 ซึ่งหนึ่งชาติคือสาธารณรัฐเกาหลีออกแบบและสร้างเรือดำน้ำได้ในประเทศ(https://aagth1.blogspot.com/2022/02/type-214.html
อีกชาติคืออินโดนีเซียประกอบเรือดำน้ำโดยการถ่ายทอดวิทยาการจากต่างประเทศได้(https://aagth1.blogspot.com/2022/04/scorpene-aip.html, https://aagth1.blogspot.com/2022/02/scorpene.html, https://aagth1.blogspot.com/2022/01/tkms-type-214-type-209.html
ขณะที่กองทัพเรือไทยเป็นเพียงชาติเดียวที่เข้าร่วมฝึกที่ยังไม่มีเรือดำน้ำประจำการในตอนนี้ โดยกำลังสั่งจัดหาเรือดำน้ำแบบ S26T ระยะที่๑ จำนวน ๑ลำจากจีน ที่มีปัญหาล่าช้าจากการพิจารณาเพื่อเปลี่ยนเครื่องยนต์ดีเซลขับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า CHD 620 แทน MTU 396 หรือยกเลิกโครงการครับ

วันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

กองทัพเรือเกาหลีใต้พบข้อบกพร่องสำคัญในเรือดำน้ำชั้น Type 214 สามลำของตน

ROK Navy Finds Major Defects on Three of its Type 214 Submarines 

ROKS Yun Bong-gil (SS-077), the fifth Son Won Il-class KSS-II submarine, in Guam on 4-5 June 2019. (wikipedia.org) 


ROKS Jeong Ji (SS-073), the second Son Won Il-class KSS-II submarine, at Busan naval base during MADEX 2019.





กองทัพเรือสาธารณรัฐเกาหลี(RoKN: Republic of Korea Navy) ประกาศว่ามีข้อบกพร่องต่างๆถูกพบในเรือดำน้ำชั้น Son Won-il(KSS-II) 3ลำจาก 9ลำ เรือดำน้ำ Type 214 ที่พัฒนาโดย Howaldtswerke-Deutsche Werft(HDW) ในเครือบริษัท ThyssenKrupp Marine Systems(TKMS) เยอรมนี
ที่ปัจจุบันอยู่ในประจำการกองเรือดำน้ำกองทัพเรือสาธารณรัฐเกาหลีจะเผชิญหน้ากับความล้มเหลวครั้งสำคัญในอีกหลายเดือนที่จะถึงข้างหน้า ตามที่เรือดำน้ำหลายลำเข้าสู่การซ่อมทำใหญ่ และรอชิ้นส่วนที่กำลังถูกส่งจากเยอรมนีสำหรับการซ่อมแก้

กองทัพเรือสาธารณรัฐเกาหลีพบข้อบกพร่องต่างๆในสาย cable ของ inverter module หนึ่งในส่วนประกอบกลางของระบบขับเคลื่อนบนเรือดำน้ำ SS-072 ROKS Son Won-il, เรือดำน้ำ SS-077 ROKS Yoon Bong-gil และเรือดำน้ำ SS-078 ROKS Yoo Gwan-soon
ซึ่งเป็นเรือดำน้ำชั้น Son Won-il ลำที่แรก, ลำที่ห้า และลำที่หกตามลำดับ เรือดำน้ำแต่ละลำจะต้องผ่านการซ่อมทำใหญ่ที่ซับซ้อนและได้รับการซ่อมแก้ นี่จะทำให้เรือแต่ละลำไม่สามารถวางกำลังปฏิบัติการได้อย่างน้อย 4เดือน

โดยทำให้เรื่องต่างๆนี้แย่ลง inverter module ถูกผลิตโดยบริษัท Siemens เยอรมนีนั้นไม่สามารถทำการแก้ไขในอู่เรือของเกาหลีได้เนื่องจากอุปสรรคที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายทอดวิทยาการและทรัพย์สินทางปัญญา 
ดังนั้นชิ้นส่วนเหล่านี้จะจำเป็นต้องถูกส่งไปเยอรมนีเพื่อซ่อม โดยวงรอบการเดินทางขนส่งคาดว่าจะใช้เวลาถึง 2เดือน ทำให้เรือดำน้ำแต่ละลำจะไม่สามารถปฏิบัติงานได้เป็นเวลาอย่างน้อย 6เดือน

นี่เป็นที่คาดว่าจะส่งผลกระทบเชิงลบที่สำคัญต่อความพร้อมของกำลังรบ เรือดำน้ำชั้น Son Won-il ถูกพิจารณาว่าเป็นหนึ่งในเรือรบที่มีคุณค่าสูงสุดของกองทัพเรือสาธารณรัฐเกาหลี
ในการมอบการป้องปรามที่แข็งแกร่งต่อการคุกคามที่แข็งกร้าวจากกองทัพประชาชนเกาหลี(KPA: Korean People's Army) สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี(https://aagth1.blogspot.com/2019/10/tiger-shark-torpedo-2020.html)

เรือดำน้ำชั้น Son Won-il ระวางขับน้ำขณะดำอยู่ใต้น้ำ 1,860 tons ติดตั้งระบบขับเคลื่อนแบบไม่ใช้อากาศ(AIP: Air Independent Propulsion) ทำให้เรือสามารถดำอยู่ใต้น้ำได้นานถึง 2สัปดาห์
เรือดำน้ำชั้น Son Won-il สามารถยิงอาวุธปล่อยนำวิถีร่อนพื้นสู่พื้น Hyunmoo III ที่สามารถโจมตีเป้าหมายที่ระยะไกลถึง 1,000 km ได้(https://aagth1.blogspot.com/2021/09/slbm-kss-iii.html)

คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้เรือดำน้ำชั้น Son Won-il มีประสิทธิภาพอย่างยิ่งในการทำลายศักยภาพของฐานยิงขีปนาวุธอัตตาจรของกองทัพประชาชนเกาหลีภายในภาคพื้นดิน
มีบางส่วนกังวลว่าการลดความพร้อมกำลังรบของกองทัพเรือสาธารณรัฐเกาหลี จะเชื้อเชิญการยั่วยุจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ที่อาจจะมองการซ่อมทำใหญ่เรือดำน้ำเป็นโอกาสในการแสดงท่าทีคุกคามมากขึ้น

Siemens เยอรมนีได้รับการประกาศสัญญาวงเงิน 7 billion Korean Won($6 million) เพื่อจะทำการซ่อมเรือดำน้ำชั้น Son Won-il ทั้ง 3ลำแล้ว
งานซ่อมทำเรือดำน้ำ ROKS Son Won-il เริ่มต้นในเดือนมกราคม 2022, งานซ่อมเรือดำน้ำ ROKS Yoon Bong-gil และเรือดำน้ำ ROKS Yoo Gwan-soon จะเริ่มต้นในเดือนสิงหาคม 2022 และเดือนกุมภาพันธ์ 2023 ตามลำดับ

"เรากำลังมีความร่วมมือกับผู้ผลิต ช่วงเวลาการซ่อมทำใหญ่ได้รับการเว้นระยะลงเพื่อลดผลกระทบเชิงลบของความพร้อมกำลังรบให้น้อยที่สุด" แหล่งข่าวในกองทัพเรือสาธารณรัฐเกาหลีกล่าวกับสื่อท้องถิ่น
เรือดำน้ำชั้น Son Won-il 3ลำแรกถูกสร้างโดยบริษัท Hyundai Heavy Industries(HHI) สาธารณรัฐเกาหลี เรือลำที่4, ลำที่6 และลำที่8 สร้างโดยบริษัท Daewoo Shipbuilding & Marine Engineering(DSME) สาธารณรัฐเกาหลี สลับกับลำที่ 5, ลำที่7 และลำที่9 ที่สร้างโดย HHI

เรือดำน้ำชั้น Son Won-il ลำแรกเข้าประจำการในปี 2007 ในฐานะส่วนหนึ่งของโครงการเรือดำน้ำ KSS-II ของกองทัพเรือสาธารณรัฐเกาหลี เรือลำสุดท้ายของชั้นเรือดำน้ำ SS-082 ROKS Shin Dol-seok เข้าประจำการในปี 2020
เรือดำน้ำชั้น Son Won-il ถูกตั้งชื่อตาม พลเรือเอก Son Won-il ผู้บัญชาการกองทัพเรือสาธารณรัฐเกาหลีคนแรก โดยมีความยาวเรือ 65m และกว้าง 6.3m มีกำลังพลประจำเรือ 32นาย และสามารถทำความเร็วขณะดำใต้น้ำที่ 20 knots ครับ

คุณลักษณะหลักของเรือดำน้ำชั้น Son Won-il
ระวางขับน้ำ: 1,690 tons ที่ผิวน้ำ / 1,860 tons ขณะดำใต้น้ำ
ความยาว: 65m
ความกว้าง: 6.3m
กินน้ำลึก: 6m
อาวุธ: ท่อยิง torpedo หนักขนาด 533mm จำนวน 8ท่อยิง รองรับอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้นต่อต้านเรือผิวน้ำ UGM-84 Sub-Harpoon 4นัด
ระบบขับเคลื่อน: เครื่องยนต์ดีเซล MTU 16V-396 สองเครื่อง, เครื่องกำเนิดพลังงานไฟฟ้า Piller สองเครื่อง, ระบบ AIP แบบ HDW PEM สองระบบ, motor ไฟฟ้า Siemens Permasyn กำลัง 2.85MW หนึ่งเครื่อง
ความเร็ว: 10 knots บนผิวน้ำ, 20 knots ขณะดำใต้น้ำ
ระยะทำการ: 12,000nmi ที่ผิวน้ำ, 420nmi เมื่อดำใต้น้ำ
กำลังพล: 27+5นาย

วันศุกร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2565

กองทัพเรืออินโดนีเซียหารือกับ TKMS เยอรมนีสำหรับเรือดำน้ำ Type 214 และ Type 209

Indonesia, TKMS discuss HDW Class 209, 214 submarines for navy's requirements







A Portuguese Navy Tridente (Type 214)-class submarine. Indonesia has held another round of talks with TKMS for the latest variant of this submarine type. (TKMS)



เจ้าหน้าที่จากกองทัพเรืออินโดนีเซีย(Indonesian Navy, TNI-AL: Tentara Nasional Indonesia-Angkatan Laut) และกระทรวงกลาโหมอินโดนีเซีย ได้จัดการประชุมอีกครั้งกับบริษัท ThyssenKrupp Marine Systems(TKMS) เยอรมนีผู้สร้างเรือ
ครั้งนี้เป็นการหารือเรือดำน้ำ HDW Class 209/1400mod สำหรับความต้องการสงครามใต้น้ำของรัฐบาลอินโดนีเซียใน Jakarta การประชุมจัดขึ้นในรูปแบบเสมือนเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2022 แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับการหารือได้ให้ข้อมูลกับ Janes

ประเด็นที่ได้รับการหารือรวมถึงรูปแบบภารกิจของเรือดำน้ำ Type 209/1400mod และเรือสามารถปฏิบัติภารกิจตามความต้องการของกองทัพเรืออินโดนีเซียได้หรือไม่
ที่รวมถึงสงครามเรือดำน้ำตามแบบ และปฏิบัติการอื่นๆอย่างเช่น การรวบรวมข่าวกรอง และการส่งหน่วยรบพิเศษเข้าแทรกซึม(https://aagth1.blogspot.com/2021/07/1.html)

HDW Class 209/1400mod เป็นเรือดำน้ำรุ่นล่าสุดในตระกูลเรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้า Type 209 ของ TKMS เยอรมนี มีความยาวเรือรวม 62m ถังความดันตัวเรือมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 6.2m และมีระวางขับน้ำประมาณ 1,450 tonnes ที่ผิวน้ำ 
ติดตั้งท่อยิง Torpedo หนัก 8ท่อยิง และมีกำลังพลประจำเรือ 30นาย ยังมีการหารรือใหม่ระหว่างการประชุมคือตระกูลเรือดำน้ำ Class 214(Type 214) ซึ่งสามารถติดตั้งระบบขับเคลื่อนแบบไม่ใช้อากาศ(AIP: Air Independent Propulsion) ได้ด้วย

นี่เป็นการประชุมอย่างเป็นทางการครั้งที่สองที่เป็นที่ทราบระหว่างเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมอินโดนีเซียและ TKMS เยอรมนี ตามที่เคยรายงานโดย Janes ในเดือนมีนาคม 2021(https://aagth1.blogspot.com/2021/03/tkms-type-214.html)
ตัวแทนของ TKMS เยอรมนีได้เดินทางมาถึงนครหลวง Jakarta อินโดนีเซียในเดือนมีนาคม 2021 เพื่อบรรยายสรุปให้นักวางแผนกลาโหมอินโดนีเซียในการเสนอเรือดำน้ำ Class 214 ของบริษัท

กองทัพเรืออินโดนีเซียมีประจำการด้วยเรือดำน้ำชั้น Cakra(Type 2019/1300) ที่สร้างในเยอรมนี 1ลำคือเรือดำน้ำ KRI Cakra หมายเลขเรือ 401 ที่เข้าประจำการมาตั้งแต่ปี 1980s(https://aagth1.blogspot.com/2021/03/nagapasa-kri-alugoro-405.html)
และเรือดำน้ำชั้น Nagapasa(DSME 2019/1400) จากสาธารณรัฐเกาหลี 3ลำคือ เรือดำน้ำ KRI Nagapasa หมายเลขเรือ 403, เรือดำน้ำ KRI Ardadedali หมายเลขเรือ 404 และเรือดำน้ำ KRI Alugoro หมายเลขเรือ 405 ที่เข้าประจำการระหว่างปี 2017-2021

กองทัพเรืออินโดนีเซียสูญเสียเรือดำน้ำชั้น Cakra หนึ่งลำคือเรือดำน้ำ KRI Nanggala หมายเลขเรือ 402 จากอุบัติเหตุในเดือนเมษายน 2021 และตัวเรือพร้อมลูกเรือทั้งหมดที่เสียชีวิตไม่เคยได้รับการกู้คืนมาครับ

วันศุกร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2564

TKMS เยอรมนีเยือนอินโดนีเซียเพื่อหารือข้อเสนอเรือดำน้ำ Type 214

TKMS representatives arrive in Jakarta to discuss Type 214 submarines



TKMS is understood to be offering a Type 214 variant that is similar to the Hellenic Navy’s Papanikolis-class boats. (Michael Nitz/Naval Press Service)



คณะตัวแทนจากบริษัท Thyssen-Krupp Marine Systems ผู้สร้างเรือเยอรมนีได้เดินทางมาถึงนครหลวง Jakarta อินโดนีเซียเพื่อหารือความเป็นไปได้ในการจัดหาของเรือดำน้ำโจมตีดีเซล-ไฟฟ้า(SSK) แบบ Type 214
สำหรับกองทัพเรืออินโดนีเซีย(Indonesian Navy, TNI-AL: Tentara Nasional Indonesia-Angkatan Laut)(https://aagth1.blogspot.com/2019/04/type-209-type-214-nagapasa.html)

คณะตัวแทนซึ่งนำโดยรองประธานอาวุโสของบริษัท TKMS เยอรมนีที่รับผิดชอบสำหรับภูมิภาคตะวันออก ได้เสร็จสิ้นการกักตัววันสุดท้ายตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด Covid-19 เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2021
และเริ่มต้นการหารือกับตัวแทนจากกระทรวงรัฐวิสาหกิจอินโดนีเซียและกระทรวงกลาโหมอินโดนีเซียเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2021 แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับการหารือที่กำลังมีขึ้นยืนยันกับ Janes

ท่ามการประเด็นต่างๆที่กำลังได้ถูกหารือรวมถึงความต้องการการปฏิบัติการของกองทัพเรืออินโดนีเซีย, การเตรียมการการแบ่งปันงานที่สามารถจะเสนอโดย TKMS เยอรมนีแก่ภาคอุตสาหกรรมการสร้างเรือของอินโดนีเซีย,
การสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน และกรอบเงื่อนไขทางการเงินที่จะทำให้โครงการจัดซื้อจัดจ้างสำหรับเรือดำน้ำเป็นรูปเป็นร่างได้ 

ทั้งตัวแทนจากรัฐบาลอินโดนีเซียและ TKMS เยอรมนี ยังจะเยี่ยมชมอู่สร้างเรือดำน้ำของ PT PAL รัฐวิสาหกิจอุตสาหกรรมทางเรือของอินโดนีเซียใน Surabaya 
ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบสร้างเรือดำน้ำชั้น Nagapasa(Type 209/1400, DSME 1400) ภายใต้สิทธิบัตรจากสาธารณรัฐเกาหลีสำหรับกองทัพเรืออินโดนีเซียด้วย(https://aagth1.blogspot.com/2020/04/nagapasa.html)

เรือดำน้ำ Type 214 จาก TKMS เยอรมนีเป็นหนึ่งในหลายโครงการที่ล่าสุดได้ถูกรวมใน 'สมุดปกน้ำเงิน'(Blue Book) ของกระทรวงกลาโหมอินโดนีเซีย อันเป็นรายการเสนอการจัดซื้อจัดจ้าง
ที่ทั้งได้รับการเสนอแล้วหรือกำลังจะได้รับการเสนอแก่กระทรวงการวางแผนการพัฒนาแห่งชาติอินโดนีเซีย(BAPPENAS: Kementerian Perencanaan Pembangunan Nasional) เพื่อการอนุมัติงบประมาณ

การเพิ่มขยายรายการซึ่งร่างเค้าโครงความต้องการสำหรับเรือดำน้ำ Type 214 จำนวนถึง 4ลำได้รับการเปิดเผยในสื่อสิ่งพิมพ์ประจำปี 2021 สำหรับกองทัพอินโดนีเซีย(Indonesian Armed Forces, TNI: Tentara Nasional Indonesia) 
และคณะกรรมการกระทรวงกลาโหมอินโดนีเซียที่รู้จักในชื่อ 'สมัชชาผู้นำ'(Leadership Assembly) สื่อสิ่งพิมพ์มีการลงคำกล่าวเปิดจากผู้บัญชาการกองทัพอินโดนีเซีย พลอากาศเอก Hadi Tjahjanto และรัฐมนตรีกลาโหมอินโดนีเซีย Prabowo Subianto

Janes ได้เคยรายงานก่อนหน้านี้ว่า กระทรวงกลาโหมอินโดนีเซียกำลังอยู่ในการหารือกับกลุ่มกิจการค้าร่วม(consortium) ที่นำโดยบริษัท Naval Group ฝรั่งเศส
สำหรับความเป็นไปได้ในการสั่งจัดหาเรือดำน้ำชั้น Riachuelo บราซิล(เรือดำน้ำแบบ Scorpene รุ่นปรับปรุง) เมื่อเดือนธันวาคม 2020(https://aagth1.blogspot.com/2020/12/naval-group-riachuelo.html)

กองทัพเรืออินโดนีเซียปัจจุบันมีประจำการด้วยเรือดำน้ำชั้น Cakra(Type 209/1300) ที่จัดหาจากเยอรมนี 2ลำคือ KRI Cakra 401 และ KRI Nanggala 402 ที่เข้าประจำการมาตั้งแต่ปี 1981
และเรือดำน้ำชั้น Nagapasa จำนวน 3ลำคือ KRI Nagapasa 403, KRI Ardadedali 404 และ KRI Alugoro 405 ซึ่งเป็นเรือดำน้ำลำแรกที่สร้างในอินโดนีเซีย และกำลังจัดหาเพิ่ม 3ลำครับ