แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Military Industry of Indonesia แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Military Industry of Indonesia แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2568

รัสเซียเสนอรถรบทหารราบ BMP-3 รุ่นปรับปรุงใหม่แก่ประเทศต่างๆในเอเชีย-แปซิฟิก

Special Report: Russia offers upgraded BMP-3 to Asia-Pacific countries





The upgraded BMP-3 IFV is seen displayed at VIDEX 2024 in Hanoi, Vietnam. (Linh Pham/AFP via Getty Images, Rosoboronexport)

รัสเซียกำลังเสนอรถรบทหารราบ BMP-3 IFV(Infantry Fighting Vehicle) รุ่นปรับปรุงใหม่ของตนที่ผลิตโดย High Precision Systems รัฐวิสาหกิจผู้ผลิตยุทโธปกรณ์ทางทหาร
ในเครือ Rostec กลุ่มรัฐวิสาหกิจอุตสาหกรรมความมั่นคงรัสเซีย เพื่อส่งออกแก่ลูกค้าต่างๆในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก(https://aagth1.blogspot.com/2019/05/30mm-57mm.html)

โฆษกของ Rosoboronexport หน่วยงานด้านการส่งออกอาวุธยุทโธปกรณ์ของรัสเซียซึ่งยังอยู่ในเครือ Rostec รัสเซียเช่นกันได้กล่าวกับ Janes ล่าสุดว่า
รถรุ่นปรับปรุงและรถรุ่นใหม่ในตระกูลรถรบทหารราบ BMP-3 IFV กำลังมุ่งเป้าไปที่การสนับสนุนความพยายามในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่จะปรับปรุงความทันสมัยกองกำลังยานเกราะ

ตามข้อมูลจากโฆษก Rosoboronexport รัสเซีย พื้นฐานรถรบทหารราบ BMP-3 IFV ได้รับการเพิ่มขยายหลายๆอย่าง รวมถึงการบูรณาการของชุดคำสั่ง firmware ที่ทำให้รถสามารถปฏิบัติการอย่างอัตโนมัติได้
โฆษก Rosoboronexport รัสเซียกล่าวว่ารถรบทหารราบ BMP-3 IFV ได้ถูกดัดแปลงภายหลัง "โดยการคำนึงประสบการณ์ในการนำมาใช้ในการรบ"

รถรบทหารราบ BMP-3 IFV รุ่นปรับปรุงใหม่ได้ถูกนำมาจัดแสดงในงานแสดง Vietnam International Defence Expo(VIDEX) 2024 ที่จัดขึ้นในนครหลวง Hanoi ระหว่างวันที่ 19-22 ธันวาคม 2024
ในเอเชีย-แปซิฟิกรถรบทหารราบ BMP-3 IFV ได้ถูกนำเข้าประจำการแล้วโดยอินโดนีเซีย(https://aagth1.blogspot.com/2019/04/bt-3f-bmp-3f-pandur-ii.html) และสาธารณรัฐเกาหลี(https://aagth1.blogspot.com/2015/04/bmp-3-t-80u.html

ขณะที่กองทัพบกประชาชนเวียดนาม(VPA: Vietnam People's Army) มีประจำการด้วยกองกำลังรถรบทหารราบ BMP-1 IFV และรถรบทหารราบ BMP-2 IFV ผสมกันจำนวนหลายร้อยคัน
ที่ถูกจัดหามาตั้งแต่ปลายปี 1970s(https://aagth1.blogspot.com/2025/09/80-hanoi.html), กองทัพบกกัมพูชา(Royal Cambodian Army) ยังมีประจำการด้วยรถรบทหารราบ BMP-1 IFV รุ่นเก่ากว่า 

ตามข้อมูลจาก Janes World Navies นาวิกโยธินอินโดนีเซีย(Indonesian Marine Corps, KORMAR: Korps Marinir) มีประจำการด้วยรถรบทหารราบ BMP-3F IFV จำนวน 54คันซึ่งเป็นรุ่นสะเทินน้ำสะเทินบกของ BMP-3 
ที่ถูกจัดหาจากรัสเซียในสองระยะในปี 2008 และปี 2012 นาวิกโยธินอินโดนีเซียยังมีประจำการด้วยรถเกราะลำเลียงพลสะเทินน้ำสะเทินบก BT-3F APC(Armoured Personnel Carrier) จำนวน 54คัน ซึ่งมีพื้นฐานจาก BMP-3

ตามข้อมูลจาก Janes World Armies กองทัพบกสาธารณรัฐเกาหลี(RoKA: Republic of Korea Army) มีประจำการด้วยรถรบทหารราบ BMP-3 IFV จำนวน 70คันตั้งแต่ปี 1996
เช่นเดียวกับรถถังหลัก T-80U จำนวน 33คัน และรถถังหลักที่บังคับการ T-80UK จำนวน 2คันที่จัดหาจากรัสเซียเช่นกันที่ถูกใช้ในการฝึกเป็นหน่วยข้าศึกสมมุติ(aggressor) ครับ

วันพุธที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2568

เรือฟริเกตชั้น Brawijaya ลำแรก KRI Brawijaya เดินทางมาถึงอินโดนีเซียแล้ว

Indonesia's first Brawijaya-class frigate arrives home







KRI Brawijaya seen here while it was arriving its home at Tanjung Priok base in North Jakarta on 8 September. (Indonesian Navy)



เรือตรวจการณ์ไกลฝั่งอเนกประสงค์ PPA(Pattugliatore Polivalente d'Altura)/MPCS(Multipurpose Combat Ship) ลำแรกที่สร้างในอิตาลีของอินโดนีเซียได้เดินทางมาถึงอินโดนีเซียแล้ว
เรือฟริเกตชั้น Brawijaya ลำแรก เรือฟริเกต KRI Brawijaya หมายเลขเรือ 320 ซึ่งมีพิธีขึ้นระวางประจำการในเดือนกรกฎาคม 2025(https://aagth1.blogspot.com/2025/07/ppa-kri-brawijaya.html)

ได้รับการต้อนรับอย่างเป็นทางการโดยกองทัพเรืออินโดนีเซีย(Indonesian Navy, TNI-AL: Tentara Nasional Indonesia-Angkatan Laut) ณ ฐานทัพเรือ Tanjung Priok ใน North Jakarta เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2025
เรือฟริเกต KRI Brawijaya (320) ได้มาถึงฐานทัพเรือ Tanjung Priok หลังจากเสร็จสิ้นการเดินเรือเป็นเวลา 44วันจากอิตาลีและเยือนท่าเรือต่างๆในห้าประเทศตลอดเส้นทางรวมถึงนครหลวง Colombo ศรีลังกา

พิธีต้อนรับเรือฟริเกต KRI Brawijaya นำโดยรัฐมนตรีกลาโหมอินโดนีเซีย Sjafrie Sjamsoeddin ร่วมกับผู้บัญาชาการกองทัพอินโดนีเซีย(Indonesian National Armed Forces, TNI: Tentara Nasional Indonesia) พลเอก Agus Subiyanto
"นี่เป็นเหตุการณ์ที่น่าภาคภูมิใจ แต่ยังเป็นความท้าทายสำหรับเราที่จะดำรงทักษะต่างๆและความพร้อมที่ถูกคาดหวังโดยประชาชนอินโดนีเซีย" รัฐมนตรีกลาโหมอินโดนีเซีย Sjamsoeddin กล่าวในการปราศรัยของเขาในพิธีต้อนรับเรือ

ซึ่งพิธีต้อนรับเรือฟริเกต KRI Brawijaya ได้มีการถ่ายทอดสดเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2025 ผ่านหลากหลายช่องทางสื่อสังคม online บนผู้ให้บริการ streaming ของบัญชีทางการของรัฐและสื่ออินโดนีเซีย
รัฐมนตรีกลาโหมอินโดนีเซียยังได้อธิบายเรือฟริเกต KRI Brawijaya ในฐานะเรือรบที่จะมีบทบาททางยุทธศาสตร์ในการปกป้องทรัพยากรทางทะเลของอินโดนีเซีย โดยเฉพาะในการเผชิญหน้ากับความท้าทายในภูมิภาคที่เพิ่มสูงขึ้น

KRI Brawijaya เป็นหนึ่งในเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งอเนกประสงค์ PPA ที่ได้ถูกจัดหาสำหรับกองทัพเรืออินโดนีเซียภายใต้สัญญาวงเงิน 1.18 billion Euros($1.39 billion) ที่ได้รับการประกาศให้กับบริษัท Fincantieri อิตาลีผู้สร้างเรือในเดือนมีนาคม 2024
ที่เดิมถูกกำหนดสำหรับกองทัพเรืออิตาลี(Italian Navy, Marina Militare) และเดิมควรจะเข้าประจำการในชื่อเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง P433 Marcantonio Colonna(https://aagth1.blogspot.com/2024/03/ppa.html

เรืออีกลำที่อยู่ในสัญญาซึ่งเดิมควรจะเข้าประจำการในกองทัพเรืออิตาลีในชื่อเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง P435 Ruggiero di Lauria ขณะนี้เป็นที่รู้จักในชื่อเรือฟริเกต KRI Prabu Siliwangi หมายเลขเรือ 321
เรือฟริเกตชั้น Brawijaya ลำที่สอง เรือฟริเกต KRI Prabu Siliwangi (321) กำลังได้รับการเตรียมการสำหรับการส่งมอบให้แก่กองทัพเรืออินโดนีเซีย(https://aagth1.blogspot.com/2025/02/ppa-2025.html)

ตามแถลงการณ์ของกองทัพเรืออินโดนีเซีย เรือฟริเกตชั้น Brawijaya มีความเร็วเรือสูงสุดที่ 32knots และรองรับกำลังพลประจำเรือที่ 171นาย และจะเป็นเรือรบผิวน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประจำการกองทัพเรืออินโดนีเซียปัจจุบัน
โดยกำหนดประเภทเรือเป็น 'เรือฟริเกต' อย่างไรก็ตาม KRI Brawijaya ถูกส่งมอบให้อินโดนีเซียโดยยังไม่ได้รับการติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้นต่อต้านเรือผิวน้ำและ Torpedo เบาปราบเรือดำน้ำครับ

วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2568

PT PAL อินโดนีเซียมีความล่าช้าในการสร้างเรือยกพลขึ้นบกอู่ลอยชั้น Tarlac SSV ลำที่สามและสี่ของฟิลิปปินส์

Delays hamper Philippines' follow-on Tarlac-class LPDs





The Philippine Navy's first SSV, BRP Tarlac , seen here arriving in Surabaya for an MRO work in April 2025. Construction work for follow-on vessels to this class has been delayed. (PT PAL)

โครงการที่จะนำเรือยกพลขึ้นบก SSV(Strategic Sealift Vessel) รูปแบบคล้ายเรือยกพลขึ้นบกอู่ลอย(LPD: Landing Platform Dock) ชั้น Tarlac เพิ่มเติมสองลำเข้าประจำการในกองทัพเรือฟิลิปปินส์(PN: Philippine Navy) 
ได้ล่าช้ากว่ากำหนดการหลังจาก PT PAL รัฐวิสาหกิจผู้สร้างเรือของอินโดนีเซียล้มเหลวที่จะบรรลุเหตุการณ์หลักสำคัญสี่ประการที่ถูกระบุในสัญญาที่ตนได้ลงนามกับรัฐบาลฟิลิปปินส์ในนครหลวง Manila

เอกสารสัญญาต่างๆที่ถูกมอบให้แก่ Janes โดยแหล่งข่าวในภาคอุตสาหกรรมการต่อเรือยืนยันว่าเหตุการณ์สำคัญเหล่านี้คือกำหนดวันปล่อยเรือลงน้ำและวันส่งมอบเรือยกพลขึ้นบกชั้น Tarlac SSV ลำที่สามและลำที่สี่ตามลำดับ
ฟิลิปปินส์ได้ลงนามสัญญาสำหรับจัดหาเรือยกพลขึ้นบกชั้น Tarlac SSV เพิ่มเติมจำนวน 2ลำกับ PT PAL อินโดนีเซียในเดือนมิถุนายน 2022 สัญญามีขึ้นตามหลังจากสัญญาวงเงิน $92 million 

ที่ได้รับการลงนามระหว่างรัฐบาลฟิลิปปินส์และ PT PAL อินโดนีเซียในเดือนมิถุนายน 2014 สำหรับการสร้างเรือยกพลขึ้นบก SSV สองลำเช่นเดียวกัน ซึ่งทั้งสองลำประจำการในกองทัพเรือฟิลิปปินส์ในชื่อเรือยกพลขึ้นบกอู่ลอยชั้น Tarlac
เรือลำแรก เรือยกพลขึ้นบกอู่ลอย LD-601 BRP Tarlac ถูกขึ้นระวางประจำการในเดือนมิถุนายน 2016 ขณะที่เรือลำที่สอง เรือยกพลขึ้นบกอู่ลอย LD-602 BRP Davao del Sur ถูกขึ้นระวางประจำการในเดือนพฤษภาคม 2017

แบบเรือยกพลขึ้นบกชั้น Tarlac SSV ของ PT PAL อินโดนีเซียมีพื้นฐานจากเรืออเนกประสงค์ขนาด 122-125m ที่ประจำการในกองทัพเรืออินโดนีเซีย(Indonesian Navy, TNI-AL: Tentara Nasional Indonesia-Angkatan Laut)
ซึ่งในทางกลับกันมีพื้นฐานการออกแบบจากบริษัท Dae Sun Shipbuilding สาธารณรัฐเกาหลี(https://aagth1.blogspot.com/2024/05/lunas-mou-pt-pal.html, https://aagth1.blogspot.com/2023/03/lpd-pt-pal.html)

เรือยกพลขึ้นบกอู่ลอยชั้น Tarlac SSV ลำที่สามและลำที่สี่ในสัญญาจัดหาเพิ่มเติมจะมีคุณลักษณะความยาวตัวเรือรวมยาวกว่าเล็กน้อยที่ 124m เมื่อเปรียบเทียบกับเรือสองลำแรกที่มีความยาวเรือ 123m
พิธีวางกระดูกงูเรือของเรือยกพลขึ้นบกอู่ลอยชั้น Tarlac SSV รุ่นปรับปรุงลำแรกซึ่งเป็นลำที่สามของชั้นในภาพรวมมีขึ้นโดยอู่เรือ PT PAL อินโดนีเซียในเดือนมกราคม 2024(https://aagth1.blogspot.com/2024/01/pt-pal-tarlac-ssv.html)

ขณะที่พิธีวางกระดูกงูเรือของเรือยกพลขึ้นบกอู่ลอยชั้น Tarlac SSV รุ่นปรับปรุงลำที่สองภายใต้สัญญานี้ซึ่งเป็นลำที่สี่ของชั้นมีขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2024(https://aagth1.blogspot.com/2024/06/pt-pal-tarlac-ssv.html)
เรือชั้น Tarlac SSV ลำแแรก เรือยกพลขึ้นบกอู่ลอย BRP Tarlac ได้เดินเรือมาถึงอู่เรือ PT PAL ใน Surabaya อินโดนีเซียในเดือนเมษายน 2025 เพื่อรับการดำเนินงานซ่อมบำรุง, ซ่อมแก้ และซ่อมทำใหญ่(MRO: Maintenance, Repair and Overhaul) ครับ

วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2568

เรือหลวงกระบี่กองทัพเรือไทยเข้าร่วมการสวนสนามทางเรือ ASEAN Fleet Review 2025 และการฝึก AMNEX 2025 ที่มาเลเซีย




















The exercise ASEAN Multilateral Naval Exercise (AMNEX) 2025 on 15-22 August 2025 and ASEAN Fleet Review 2025 on 21 August 2025 at Penang, Malaysia, involved with Royal Thai Navy (RTN) OPV-551 HTMS Krabi the Krabi-class offshore patrol vessels (OPV). (Royal Thai Navy/Royal Malaysian Navy)



The ASEAN Fleet Review was held today at the Swettenham Pier Cruise Terminal, featuring 10 ships. The event was graced by Yang Di-Pertua Negeri of Penang, TYT Tun Dato' Seri Utama Hj Ramli bin Ngah Talib, as the guest of honour.
The arrival of the Yang Di-Pertua Negeri and distinguished guests were met by the Chief of Navy, Admiral Tan Sri (Dr.) Zulhelmy bin Ithnain and ASEAN naval leaders.
Tun Dato' Seri Utama Hj Ramli received salutations from each participating ship. Three vessels from the Royal Malaysian Navy (RMN) are KD LEKIU, KD LEKIR and KD KEDAH. Other participating ships are KDB DARULAMAN from the Royal Brunei Navy, 
KRI BUNG TOMO (Indonesian Navy), UMS KING SIN PHYU SHIN (Myanmar Navy), BRP ANTONIO LUNA (Philippine Navy), RSS VIGOUR (Republic of Singapore Navy), HTMS KRABI (Royal Thai Navy) and VPNS QUANG TRUNG (Viet Nam People’s Navy).
The dignitaries also witnessed a helicopter fly-past, which featured one AW139, one Super Lynx Mk 100, and two AS555 Fennec from the RMN.

The 3RD AMNEX PHOTEX: A testament to maritime camaraderie and coaction, where trust forms the wake and unity charts the course.

พิธีเปิดการฝึกผสม AMNEX 2025
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2568 นาวาเอก สถาพร วาจรัตน์ รองเสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะผู้บังคับหน่วยเรือฝึกผสม AMNEX 2025 ทัพเรือภาคที่ 3 พร้อมด้วย นาวาโท สุทธิพงศ์ ม่วงเรือง ผู้บังคับการเรือหลวงกระบี่ เข้าร่วมพิธีเปิดการฝึกผสม AMNEX 2025 โดยมี 
VICE ADMIRAL DATO' BAHARUDIN BIN WAN MD NOR Western Fleet Commander เป็นประธานในพิธีฯ ณ ห้อง Royale Ballroom, Royale Chulan Penang  ประเทศมาเลเซีย
สำหรับการฝึกผสม AMNEX 2025 ครั้งนี้มีเรือจากประเทศในอาเซียนเข้าร่วมการฝึก จำนวน 8 ประเทศ ประกอบด้วย มาเลเซีย เมียนมา ไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ บรูไน สิงคโปร์ และ อินโดนีเซีย

“Asean Fleet Review 2025”
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2568 เรือหลวงกระบี่ พร้อมด้วยกำลังหน่วยเรือฝึกผสม และกำลังพลเรือหลวงกระบี่ ที่เข้าร่วมการฝึกผสม AMNEX 2025 เข้าร่วมในพิธีสวนสนามทางเรืออาเซียน 2025 (Asean Fleet Review 2025) โดยมี Dato’ Seri Utama Ramli Ngah Talib ตำแหน่ง Governor of Penang, Federation of Malaysia เป็นประธานในพิธี 
ณ บริเวนอ่าวหน้าท่าเทียบเรือ Swettenham Pier Cruise Terminal รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย เพื่อแสดงออกถึงความพร้อมเพรียงและความสามัคคีของกองทัพเรือมิตรประเทศในอาเซียน

เรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชุดเรือหลวงกระบี่ เรือหลวงกระบี่ กองทัพเรือไทย(RTN: Royal Thai Navy) ได้เสร็จสิ้นการเข้าร่วมการฝึกผสมทางเรือนานาชาติ ASEAN Multilateral Naval Exercise (AMNEX) 2025 และพิธีการสวนสนามทางเรือ ASEAN Fleet Review 2025 ณ Penang มาเลเซียระหว่างวันที่ ๑๕-๒๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๘(2025) ที่ผ่านมา
หน่วยเรือฝึกผสม เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง เรือหลวงกระบี่ ได้ออกเดินเรือจากฐานทัพเรือพังงา กองทัพเรือภาคที่๓ ทรภ.๓(3rd NAC: Third Naval Area Command) ฝั่งทะเลอันดามันของไทย ในวันที่ ๑๔ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๘ และมาถึงท่าเทียบเรือ Swettenham Pier Cruise Terminal  รัฐ Penang มาเลเซียเมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๘ สบทบกับเรือรบจากกองทัพเรือกลุ่มชาติ ASEAN รวม ๘ชาติ

การสวนสนามทางเรือ ASEAN Fleet Review 2025 และการฝึกผสม AMNEX 2025 ระหว่างกองทัพเรือกลุ่มชาติ ASEAN นี้เป็นการจัดขึ้นครั้งที่๓ แล้วนับจากครั้งแรกที่มีไทยเป็นเจ้าภาพในพิธีการสวนสนามทางเรือนานาชาติ International Fleet Review 2017 เมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๐(2017) ณ พัทยา จังหวัดชลบุรี ประเทศไทย(https://aagth1.blogspot.com/2017/12/blog-post.html)
และครั้งที่สองที่มีฟิลิปปินส์เป็นเจ้าภาพในพิธีการสวนสนามทางเรือ ASEAN Fleet Review 2023 เมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๖(2023) ณ อ่าว Subic ร่วมกับการฝึกผสม AMNEX 2023 ระหว่างวันที่ ๑๓-๑๖ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๖ ซึ่งกองทัพเรือไทยส่งเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชุดเรือหลวงปัตตานี เรือหลวงปัตตานี เข้าร่วม(https://aagth1.blogspot.com/2023/05/asean-fleet-review-2023.html)

การสวนสนามทางเรือ ASEAN Fleet Review 2025 นอกอ่าวนคร George Town เมืองหลวงของรัฐ Penang มาเลเซีย ที่มีขึ้นเมื่อวันที่ ๒๑ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๘ ร.ล.กระบี่ ได้เข้าร่วมกับเจ้าภาพกองทัพเรือมาเลเซีย(RMN: Royal Malaysian Navy, TLDM: Tentera Laut DiRaja Malaysia) ที่นำเรือรบของตนเข้าร่วมประกอบด้วย
เรือฟริเกตชั้น Lekiu เรือฟริเกต FFG30 KD Lekiu(https://aagth1.blogspot.com/2025/01/nsm-lekiu.html), เรือคอร์เวตชั้น Kasturi ลำที่สอง เรือคอร์เวต FSG26 KD Lekir(https://aagth1.blogspot.com/2025/08/scorpene-torpedo.html), และเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชั้น Kedah เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง F171 KD Kedah(https://aagth1.blogspot.com/2022/08/kedah-nsm.html),

กองทัพเรือบรูไน(RBN: Royal Brunei Navy, TLDB: Tentera Laut Diraja Brunei) นำเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชั้น Darussalam เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง KDB Darulaman(08), กองทัพเรืออินโดนีเซีย(Indonesian Navy, TNI-AL: Tentara Nasional Indonesia-Angkatan Laut) นำเรือคอร์เวคชั้น Bung Tomo เรือคอร์เวต KRI Bung Tomo(357)(https://aagth1.blogspot.com/2023/08/pt-pal-mbda-bung-tomo.html),
กองทัพเรือพม่า(Myanmar Navy) นำเรือฟริเกต F14 UMS Sin Phyu Shin(https://aagth1.blogspot.com/2024/03/f14-ums-sin-phyu-shin-radar-revathi.html), กองทัพเรือฟิลิปปินส์(PN: Philippine Navy) นำรือฟริเกตชั้น Jose Rizal เรือฟริเกต FF-151 BRP Antonio Luna(https://aagth1.blogspot.com/2025/05/mistral-brp-jose-rizal.html, https://aagth1.blogspot.com/2021/03/jose-rizal-ff-151-brp-antonio-luna.html),

กองทัพเรือสิงคโปร์(RSN: Republic of Singapore Navy) นำเรือคอร์เวตชั้น Victory เรือคอร์เวต RSS Vigour(92)(https://aagth1.blogspot.com/2024/07/carat-2024-open.html, https://aagth1.blogspot.com/2024/07/singsiam-2024-open.html), และกองทัพเรือประชาชนเวียดนาม(VPN: Vietnam People's Navy) นำเรือฟริเกตชั้น Gepard เรือฟริเกต VPNS HQ-016 Quang Trung
ยังรวมถึงเฮลิคอปเตอร์ AW139 ๑เครื่อง, เฮลิคอปเตอร์ใช้งานทางทะเล Super Lynx Mk 100 ๑เครื่อง และเฮลิคอปเตอร์ AS555 Fennec ๒เครื่องของกองทัพเรือมาเลเซียร่วมประกอบกำลังหมู่เรือสวนสนามและหมู่เรือฝึกผสม เป็นการแสดงถึงความแข็งแกร่งและความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของกองทัพเรือไทยและกองทัพเรือชาติ ASEAN ครับ

วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

อากาศยานไร้คนขับตรวจการณ์ Elang Hitam UAV อินโดนีเซียทำการบินครั้งแรก

Indonesia's Elang Hitam surveillance UAV makes maiden flight




A screen-grab from a PTDI video showing the maiden flight of its Elang Hitam UAV at West Java International Airport (BIJB) in Majalengka on 28 July. (PTDI)



PT Dirgantara Indonesia(PTDI) รัฐวิสาหกิจด้านการบินของอินโดนีเซียประกาศเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2025 ว่าอากาศยานไร้คนขับ(UAV: Unmanned Aerial Vehicle) แบบ Elang Hitam(Black Eagle 'อินทรีดำ') ได้ทำการบินครั้งแรกแล้วของตน
PTDI อินโดนีเซียกล่าวว่าอากาศยานไร้คนขับเพดานบินปานกลางระยะทำการนาน(MALE UAV: Medium-Altitude Long-Endurance Unmanned Aerial Vehicle) แบบ Elang Hitam ของตน

ได้ถูกทดสอบที่ท่าอากาศยานนานาชาติ West Java International Airport(BIJB) ใน Majalengka เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2025(https://aagth1.blogspot.com/2022/09/elang-hitam-uav.html)
อากาศยานไร้คนขับ Elang Hitam UAV ถูกออกแบบเพื่อดำเนินการปฏิบัติการข่าวกรอง ตรวจการณ์ และลาดตระเวน(ISR: Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance) ต่างๆ

อากาศยานไร้คนขับ Elang Hitam UAV มีคุณลักษณะสถาปัตยกรรมเปิดและ modular เพื่อทำให้สามารถที่จะพัฒนาได้เพิ่มเติมบนพื้นฐานความต้องการภารกิจต่างๆ
ปัจจุบันอากาศยานไร้คนขับ Elang Hitam UAV สามารถทำการบินได้นานถึง 24ชั่วโมงที่เพดานบินความสูงถึง 20,000feet PTDI อินโดนีเซียเสริม(https://aagth1.blogspot.com/2022/07/uav.html)

อากาศยานไร้คนขับ Elang Hitam UAV นี้ได้รับการพัฒนาโดยกลุ่มกิจการค้าร่วมที่นำโดย PTDI อินโดนีเซียที่รวมถึงสำนักงานการประเมินค่าและการประยุกต์ใช้วิทยาการอินโดนีเซีย(Agency for the Assessment and Application of Technology, BPPT: Badan Pengkajian Dan Penerapan Teknologi),
สถาบันการบินและอวกาศแห่งชาติอินโดนีเซีย(National Institute of Aeronautics and Space, LAPAN: Lembaga Penerbangan dan Antariksa Nasional) และและสถาบันเทคโนโลยี Bandung(Bandung Institute of Technology, ITB: Institut Teknologi Bandung)

การพัฒนาอากาศยานไร้คนขับ Elang Hitam UAV ได้รับการสนับสนุนโดยกระทรวงกลาโหมอินโดนีเซีย และกองทัพอากาศอินโดนีเซีย(Indonesian Air Force, TNI-AU: Tentara Nasional Indonesia-Angkatan Udara) PTDI เสริม
"การบินทดสอบถูกใช้ในฐานะการพิสูจน์แนวคิดสำหรับการเรียนรู้วิทยาการหลักต่างๆ(ที่รวมใน Elang Hitam UAV) ซึ่งรวมถึงการออกแบบรูปแบบระบบ, ระบบควบคุมการบินอัตโนมัติ และระบบสื่อสารระยะไกล"

"การพิสูจน์แนวคิดนี้ถูกใช้ในฐานะการอ้างอิงพื้นฐานสำหรับการพัฒนาเพิ่มเติมของ MALE UAV ในความสอดคล้องกับความต้องการแห่งชาติต่างๆ" Moh Arif Faisal ผู้อำนวยการฝ่ายการค้า, วิทยาการ และการพัฒนาของ PTDI อินโดนีเซียกล่าว
ระหว่างการทดสอบ เครื่องบิน Kodiak ที่ PTDI อินโดนีเซียเป็นเจ้าของได้ทำหน้าที่เป็นเครื่องบินประกบข้าง(chase aircraft) สำหรับอากาศยานไร้คนขับ Elang Hitam UAV เพื่อติดตามสมรรถนะและสร้างความมั่นใจความปลอดภัยทางการบิน PTDI กล่าว

การทดสอบต่างๆจพเดินหน้าต่อไปจนกว่าอากาศยานไร้คนขับ Elang Hitam UAV จะได้รับ "การรับรองอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานที่มีอำนาจที่เกี่ยวข้อง" PTDI อินโดนีเซียเสริม ตามข้อมูลจาก Janes All the World's Aircraft: Unmanned 
อากาศยานไร้คนขับ Elang Hitam MALE UAV มีความยาว 8.65m สูง 2.6m และมีปีกกว้าง 16m มีน้ำหนักบินขึ้นสูงสุดที่ 1,300kg มีน้ำหนักภารกรรมบรรทุกสูงสุดที่ 300kg และมีความจุเชื้อเพลิงที่ 420 litres ครับ

วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

อินโดนีเซียลงนามสัญญาจัดหาเครื่องบินขับไล่ Kaan ตุรกี 48เครื่องแม้จะขาดการจัดสรรงบประมาณ

Indonesia inks contract for 48 Kaan fighter aircraft despite lack of fund allocation





Indonesia has signed a contract for 48 units of the Kaan fighter aircraft. (Turkish Aerospace)

กระทรวงกลาโหมอินโดนีเซียได้ลงนามสัญญาที่จะจัดหาเครื่องบินขับไล่ Kaan จำนวน 48เครื่องจากตุรกี แม้ว่าจะขาดการมองเห็นได้ว่ารัฐบาลอินโดนีเซียในนครหลวง Jakarta มีความตั้งใจจะจัดสรรงบประมาณได้อย่างไร
พิธีลงนามสัญญาได้ถูกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2025 ณ งานแสดงอุตสาหกรรมป้องกันประเทศนานาชาติ International Defence Industry Fair (IDEF) 2025 ในมหานคร Istanbul ระหว่างวันที่ 22-27 กรกฎาคม 2025

กระทรวงกลาโหมอินโดนีเซียประกาศในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2025 ตัวแทนฝ่ายอินโดนีเซียในพิธีการลงนามสัญญาคือรัฐมนตรีกลาโหมอินโดนีเซีย Sjafrie Sjamsoeddin
และพลอากาศโท Yusuf Jauhari หัวหน้าฝ่ายสำนักงานสิ่งอำนวยความสะดวกทางกลาโหมของกระทรวงกลาโหมอินโดนีเซีย(https://aagth1.blogspot.com/2025/07/istanbul-2.html)

สัญญาที่ได้รับการลงนามล่าสุดนี้มีขึ้นตามข้อตกลงรัฐบาลต่อรัฐบาล(G2G: Government-to-Government) ที่ได้รับการลงนามระหว่างอินโดนีเซียและตุรกีเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2025
ณ นิทรรศการและการประชุมการป้องกันประเทศ Indo Defence Expo and Forum (Indo Defence) 2025 ในนครหลวง Jakarta ระหว่างวันที่ 11-14 มิถุนายน 2025(https://aagth1.blogspot.com/2025/06/kaan-48.html)

นอกเหนือจากการได้รับมอบเครื่องบินขับไล่ Kaan จากตุรกี อินโดนีเซียจะได้รับประโยชน์จาก "โอกาสอันยิ่งใหญ่เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของอินโดนีเซีย" จากแถลงการณ์โดยกระทรวงกลาโหมอินโดนีเซีย
"ความร่วมมือนี้สะท้อนความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างอินโดนีเซียและตุรกีไม่เพียงในการทูตกลาโหมแต่ยังในการถ่ายทอดวิทยาการและเสริมสร้างความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมป้องกันประเทศภายในประเทศของเรา" กระทรวงกลาโหมอินโดนีเซียเสริม

Kaan เป็นเครื่องบินขับไล่ยุคที่ห้าตรวจจับได้ยาก stealth ที่พัฒนาโดยบริษัท Turkish Aerospace(TA) ตุรกี ถูกออกแบบสำหรับภารกิจการครองอากาศและพหุภารกิจต่างๆ(https://aagth1.blogspot.com/2025/05/turkish-aerospace-kaan.html)
เครื่องบินขับไล่ Kaan มีความยาวที่ 21m มีปีกกว้างที่ 14m และมีความสูงที่ 6m ทำความเร็วได้สูงสุดที่ Mach 1.8 และมีเพดานบินได้สูงที่ 55,000ft และทำการบินครั้งแรกของตนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024(https://aagth1.blogspot.com/2024/02/kaan.html)

การออกแบบของเครื่องบินขับไล่ Kaan ได้นำวัสดุดูดซับคลื่น radar(RAM: Radar-Absorbent Material) และรูปทรงภาคตัดขวาง radar(RCS: Radar Cross-Section) เพื่อเพิ่มขยายขีดความสามารถการถูกตรวจจับได้ยาก stealth
เครื่องบินขับไล่ Kaan ติดตั้งด้วย AESA(Active Electronically Scanned Array) radar และห้องบรรทุกอาวุธภายในลำตัวที่สามารถติดอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศและอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น เช่นเดียวกับอาวุธนำวิถีความแม่นยำสูงต่างๆได้ครับ