ESSM Block 2 with Active Seeker Successfully Intercepts Aerial Target
File picture: ESSM Block 2 vertically launched
http://navyrecognition.com/index.php/news/defence-news/2018/july-2018-navy-naval-defense-news/6339-essm-block-2-with-active-seeker-successfully-intercepts-aerial-target.html
สำนักงานโครงการ NATO Seasparrow Project Office ได้ประสบความสำเร็จล่าสุดในการดำเนินการทดสอบการยิงอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศจากเรือผิวน้ำ RIM-162 Evolved Seasparrow Missile(ESSM) Block 2
ในการสกัดกั้นเป้าบินแบบ BQM-74E ตามที่กองทัพเรือสหรัฐฯ(USN: US Navy) ประกาศเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา
การทดสอบการยิงอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ ESSM Block 2 นี้เป็นครั้งแรกในการนำระบบนำวิถีแบบ Active Radar Homing มาใช้กับระบบค้นหาเป้าหมายในส่วนหัวจรวด
โดย ESSM Block 2 จะสามารถทำงานได้ทั้งรูปแบบระบบนำวิถี Semi-Active Radar Homing และ Active Radar Homing เพื่อให้ตรงความต้องการในการต่อต้านภัยคุกคามในปัจจุบันและที่คาดว่าจะมีในอนาคต
การทดสอบล่าสุดนี้มีขึ้นตามหลังจากความสำเร็จในการทดสอบการบินของอาวุธปล่อยนำวิถีในการทดสอบการควบคุม(Controlled Test Vehicle) 2ครั้งเมื่อเดือนมิถุนายน 2017
และการทดสอบล่าสุดนี้เป็นการทดสอบการยิงจริงครั้งแรกในชุดการทดสอบที่จะนำไปสู่การเข้าสู่สายการผลิตของอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ RIM-162 ESSM Block 2
"การทดสอบยิงนี้เป็นความสำคัญยิ่งเพื่อการสาธิตทาง Technology สำหรับ ESSM Block 2 ผมภูมิใจอย่างมากต่อทุกทีมโครงการ NATO Seasparrow จากหุ้นส่วนภาคอุตสาหกรรมของเรา ถึงกิจกรรมภาคสนามและภาคสถานที่ทดสอบ
สำหรับทุกงานที่หลากหลายที่นำไปสู่การทำให้เหตุการณ์นี้ประสบความสำเร็จ" นาวาเอก Bruce Schuette ผู้จัดการโครงการ NATO Seasparrow Project กล่าว
NATO Seasparrow Project เป็นกลุ่มความร่วมมือ 12ชาติที่ประกอบด้วย ออสเตรเลีย เบลเยี่ยม แคนาดา เดนมาร์ก เยอรมนี กรีซ เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ โปรตุเกส สเปน ตุรกี และสหรัฐฯ
ที่เป็นหุ้นส่วนในด้านวิศวกรรม การพัฒนา การผลิต และการบำรุงรักษา ของอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศตระกูล Seasparrow รวมถึงอุปกรณ์สนับสนุนที่เกี่ยวข้อง
NATO Seasparrow Project ถูกจัดตั้งขึ้นในปี 1968 โดยกลุ่มชาติสมาชิก NATO ผู้ใช้งานอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศตระกูล Seasparrow
นับเป็นโครงการความร่วมมือด้านอาวุธร่วมของชาติสมาชิก NATO ที่ดำเนินการมานานที่สุดและประสบความสำเร็จมากที่สุด ซึ่งได้ฉลองการครบรอบปีที่ 50ในปี 2018 นี้
ESSM เป็นอาวุธปล่อยนำวิถีด้วย Radar พิสัยกลางทุกกาลอากาศ ซึ่งสามารถโจมตีได้ทั้งในบทบาทอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ และอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้น เช่น การต่อต้านเรือผิวน้ำ
ESSM มีพื้นฐานพัฒนามาจากอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ RIM-7 Sea Sparrow ที่ถูกพัฒนาและใช้งานมาเป็นเวลากว่า 43ปี
ในกลุ่มชาติสมาชิกโครงการ NATO Seasparrow Project มี 10ชาติที่มีอาวุธปล่อยนำวิถี ESSM ประจำการคือ สหรัฐฯ ออสเตรเลีย แคนาดา เดนมาร์ก เยอรมนี กรีซ เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ สเปน และตุรกี
และส่งออกให้มิตรประเทศในรูปแบบการขาย Foreign Military Sales(FMS) คือ ญี่ปุ่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกองทัพเรือไทย(Royal Thai Navy) บนเรือฟริเกตชุดเรือหลวงนเรศวร(http://aagth1.blogspot.com/2015/09/rim-162-essm-carat-2015-thailand.html) และเรือหลวงท่าจีน(http://aagth1.blogspot.com/2017/01/blog-post_23.html)
ESSM มีคุณสมบัติในการใช้ระบบควบคุมทิศทางที่ท้ายจรวด ระบบนำวิถีที่มีขีดความสามารถสูงด้วยหัวระบบค้นหาที่มีประสิทธิภาพ ปรับปรุงระบบขับเคลื่อนและความแม่นยำ
ทำให้ ESSM สามารถที่จะโคจรเข้าถึงจุดสกัดกั้นเป้าหมายด้วยความเร็วที่จะที่ต่อต้านทำลายภัยคุกคามได้รวดเร็วและว่องไวมากขึ้น
ESSM มีขีดความสามารถที่เป็นสะพานเชื่อช่องว่างระหว่างระบบป้องกันระยะประชิด(CIWS: Close-In Weapon System) และระบบป้องกันภัยทางอากาศพื้นที่ท้องถิ่น(Local Area Defense System)
ผลลัพธ์ทางกลศาสตร์การเคลื่อนไหวช่วยลดระยะเวลาที่จรวดโคจรถึงเป้าหมาย และยังเป็นระบบอาวุธพหุภารกิจที่มีประสิทธิภาพสูงในการต่อต้านภัยคุกคามความเร็วสูงหรือความเร็วต่ำ
ตามข้อมูลจากแหล่งที่มาเปิดอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ RIM-162 ESSM มีพิสัยการยิง 27nmi(50km) และมีความเร็วสูงสุดที่ Mach 4+
ESSM Block 2 แตกต่างจาก ESSM Block 1 ด้วยการใช้ Active Radar Homing สนับสนุนการเข้าสกัดเป้าหมายในขั้นสุดท้ายโดยที่ไม่ต้องใช้ Radar ควบคุมการยิงจากเรือที่ยิงแพร่คลื่นจับเป้าหมายตลอดเวลา ทั้งนี้ ESSM Block 2 จะเข้าประจำการในกองทัพเรือสหรัฐฯตั้งแต่ปี 2020 ครับ