An image of a prototype of Japan’s new wheeled self-propelled howitzer featuring an 8x8 MAN tactical truck. Source: Acquisition, Technology & Logistics Agency
http://www.janes.com/article/81478/japan-develops-new-self-propelled-howitzer
Taiwan seeking to buy M1A2 Abrams MBTs from US
http://www.janes.com/article/81684/taiwan-seeking-to-buy-m1a2-abrams-mbts-from-us
ญี่ปุ่นกำลังมีความคืบหน้าในโครงการพัฒนาระบบปืนใหญ่อัตตาจรล้อยาง(SPH: Self-Propelled Howitzer) ขนาด 155mm/52caliber แบบใหม่
เพื่อทดแทนปืนใหญ่ลากจูงแบบ FH-70 ขนาด 155mm ที่ใช้งานมานานของกองกำลังป้องกันตนเองทางบกญี่ปุ่น(JGSDF: Japan Ground Self-Defense Force)
ตามการแถลงเมื่อปลายเดือนมิถุนายน สำนักงานจัดซื้อจัดจ้าง, วิทยาการ และการส่งกำลังบำรุง(ATLA: Acquisition, Technology & Logistics Agency) กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นกล่าวว่า
เมื่อเร็วๆนี้ได้มีการรับมอบปืนใหญ่อัตตาจรล้อยางต้นแบบ 5ระบบซึ่งถูกพัฒนาโดยบริษัท Japan Steel Works ญี่ปุ่น ATLA ยังไม่ได้กำหนดแบบเรียกสำหรับ ป.อัตตาจรล้อยางระบบใหม่นี้
ATLA กล่าวว่าจะมีการประเมินค่าและทดสอบปืนใหญ่อัตตาจรล้อยางในเร็วๆนี้ ซึ่งใช้รถแคร่ฐานเป็นรถยนต์บรรทุก 8x8 ก่อนจะมีความเป็นไปได้ในการสั่งจัดหาระบบต่อไป
เมื่อเปรียบเทียบกับ ป.ลากจูง FH-70 แล้ว ATLA เสริมว่าระบบใหม่ได้มอบการเพิ่มประสิทธิภาพในด้านการเคลื่อนที่, เครือข่าย, การนำร่อง และการชี้เป้าหมาย
ตามข้อมูลที่เผยแพร่จาก ATLA ญี่ปุ่น ระบบปืนใหญ่อัตตาจรล้อยางใหม่มีความยาว 11.4m กว้าง 2.5m สูง 3.4m และปกติจะมีกำลังพลปฏิบัติการประจำระบบ 5นาย
ภาพที่เผยแพร่โดย ATLA แสดงให้เห็นว่าระบบปืนใหญ่อัตตาจรล้อยางใหม่ญี่ปุ่นติดตั้งบนรถยนต์บรรทุกทางทหารที่ผลิตโดยบริษัท MAN เยอรมนี
Japan Steel Works ญี่ปุ่นได้รายงานว่าได้เริ่มงานพัฒนาระบบปืนใหญ่อัตตาจรล้อยางในปี 2012 ภายใต้สัญญาวงเงิน $100 million จากกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น
โดยก่อนหน้านั้นภายใต้ข้อตกลงกับบริษัท Rheinmetall เยอรมนี Japan Steel Works ญี่ปุ่นยังได้สิทธิบัตรการผลิตระบบปืนใหญ่ลากจูง FH-70 ในญี่ปุ่น
เป็นที่เข้าใจว่ากองกำลังป้องกันตนเองทางบกญี่ปุ่นจะมีปืนใหญ่ลากจูง FH-70 155mm อยู่ราว 300กระบอกที่ประจำการมาตั้งแต่ต้นปี 1980s
ซึ่งที่ผ่านมากองกำลังป้องกันตนเองทางบกญี่ปุ่นมีประจำการเฉพาะระบบปืนใหญ่อัตตาจรสายพาน เช่น M110A2 ขนาด 203mm, Type 75 ขนาด 155mm/30cal และ Type 99 ขนาด 155mm/52cal ครับ
กระทรวงกลาโหมไต้หวันได้รับการอนุมัติการสนับสนุนจากคณะรัฐมนตรีไต้หวันเพื่อการจัดซื้อรถถังหลัก M1A2 Abrams จากสหรัฐฯ
เพื่อทดแทนรถถังหลักเก่าบางส่วนของกองทัพบกไต้หวัน(ROCA: Republic of China Army) เช่น รถถังหลัก M60A3 และรถถังหลัก M48H CM11
เจ้าหน้าที่กลาโหมไต้หวันได้ถูกอ้างคำกล่าวในบทความของหนังสือพิมพ์ China Times เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า กองทัพไต้หวันจะได้รับการผลักดันวงเงิน $990 million สำหรับการจัดซื่อรถถังหลัก M1A2 สหรัฐฯ 108คัน พร้อมกระสุนที่ใช้งานร่วม
รายงานกล่าวว่าวงเงินดังกล่าวจะถูกบรรจุในงบประมาณกลาโหมของไต้หวันที่จะมาถึงในปีหน้า 2019 ถ้าการขายได้รับไฟเขียว ถ.หลัก M1A2 จะถูกวางกำลังในสองกองพันยานเกราะ ภายใต้สายการบังคับบัญชาของกองทัพน้อยที่6ที่มีฐานที่ตั้งใน Taoyuan ทางตอนเหนือของไต้หวัน
รัฐมนตรีกลาโหมไต้หวัน Yen Teh-fa ได้กล่าวต่อคณะกรรมาธิการต่างประเทศและกลาโหมแห่งชาติไต้หวันเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่ารถถังมีจำเป็นเพื่อคงรักษา
"ความพร้อมรบของไต้หวันในการเผชิญหน้ากับภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นของการใช้กำลังปฏิบัติการทางทหารต่อเกาะไต้หวันโดยสาธารณรัฐประชาชนจีน"
ไต้หวันได้ร้องขอการจัดหารถถังหลัก M1A2 จากสหรัฐฯครั้งแรกเมื่อเกือบ 18ปีที่แล้ว ในฐานส่วนของการร้องขอที่ดำเนินการภายใต้ฝ่ายบริหารของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ George W Bush ในขณะนั้น แม้ว่าการขายจะเคยได้รับการอนุมัติในปี 2001 แต่ไม่มีการปฏิบัติใดๆเพิ่มเติมเกิดขึ้น
ไต้หวันได้ร้องขอการอนุมัติเดียวกันในปี 2009 และอีกครั้งในปี 2015 สำหรับรถถังหลัก M1A2 จำนวนสี่กองพัน ที่เป็นรถส่วนเกินที่เก็บสำรองไว้หลังจากผ่านการประจำการในอัฟกานิสถานและอิรักมาแล้ว
อย่างไรก็ตามการร้องขอการจัดซื้อ ถ.หลัก M1A2 ของไต้หวันในปี 2015 ได้นำมาซึ่งคำถามจากสมาชิกสภา Congress สหรัฐฯ ถึงความกังวลที่ว่า
มีความเป็นไปได้ในการปฏิบัติการแค่ไหนที่จะวางกำลัง M1A2 ในไต้หวัน ที่มีสภาพภูมิประเทศเป็นเกาะประกอบด้วยชายฝั่งพื้นที่ป่าชายเลนและเทือกเขาสูงภายในตัวเกาะครับ