วันพุธที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2562

ญี่ปุ่นทำพิธีประจำการเรือพิฆาตชั้น Asahi ลำที่สอง DD-120 Shiranui

Japan commissions second Asahi-class guided-missile destroyer



The JMSDF commissioned on 27 February its second Asahi-class destroyer in a ceremony held in Nagasaki Prefecture. Source: MHI
https://www.janes.com/article/87013/japan-commissions-second-asahi-class-guided-missile-destroyer


กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่น(JMSDF: Japan Maritime Self-Defense Force) ได้ทำพิธีขึ้นระวางประจำการเรือพิฆาตติดอาวุธปล่อยนำวิถีชั้น Asahi ลำที่สอง DD-120 JS Shiranui เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2019 ในจังหวัด Nagasaki
เรือพิฆาต DD-120 JS Shiranui ความยาวตัวเรือ 151m จะเข้าประจำการ ณ หมวดเรือคุ้มกันที่7 กองเรือคุ้มกันที่3 ที่มีที่ตั้งที่ฐานทัพเรือ Ominato ใน Mutsu จังหวัด Aomori อย่างรวดเร็ว
ตามหลังการส่งมอบเรือโดยบริษัท Mitsubishi Heavy Industries(MHI) ญี่ปุ่น ที่อู่ต่อเรือ Nagasaki Shipyard & Machinery Works ของบริษัท ตามการแถลงของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่น

เรือพิฆาต DD-120 Shiranui เป็นเรือพิฆาตลำแรกของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่นที่มีคุณสมบัติติดตั้ง Radar ตรวจจับกล้องตาเรือดำน้ำ(Periscope)
เรือพิฆาต DD-120 Shiranui ถูกปล่อยลงน้ำเมื่อเดือนตุลาคม 2017(https://aagth1.blogspot.com/2017/10/asahi-dd-120-shiranui.html) และเริ่มการทดลองเรือในทะเลเมื่อเดือนกรกฏาคม 2018
เรือลำแรกของชั้นคือเรือพิฆาต DD-119 JS Asahi ได้เข้าประจำการในเดือนมีนาคม 2018(https://aagth1.blogspot.com/2018/03/asahi-dd-119-asahi.html)

โฆษกของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่นกล่าวกับ Jane's เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2019 ว่ายังไม่มีแผนที่จะสร้างเรือพิฆาตชั้น Asahi เพิ่มเติม โดยญี่ปุ่นมีแผนที่จะสร้างเรือฟริเกตเอนกประสงค์ชั้นใหม่ขนาด 3,900tonnes รวมทั้งหมด 8ลำในปีงบประมาณ 2021
ซึ่งบริษัท MHI ญี่ปุ่นได้ประกาศเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2018 ว่าตนได้รับสัญญาจากกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นเพื่อการสร้างเรือฟริเกตเอนกประสงค์ชั้นใหม่ 2ลำแรกจาก 4ลำ(https://aagth1.blogspot.com/2018/11/mitsubishi-2.html)
ที่เรือฟริเกตเอนกประสงค์ชั้นใหม่ลำแรกจะดำเนินการสร้าง ณ อู่เรือ Nagasaki ของ MHI และลำที่สองจะสร้างที่อู่เรือ Tamano Shipyard ของบริษัท Mitsui Engineering and Shipbuilding(MES) ในจังหวัด Okayama

ตามข้อมูลจาก Jane's Fighting Ships เรือพิฆาตชั้น Asahi มีระวางขับน้ำปกติที่ 5,100tonnes(5,628tons) ติดตั้งระบบขับเคลื่อนเครื่องยนต์ Gas turbine General Electric LM2500 สองเครื่องและเครื่องยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบ COGLAG(Combined Gas Turbine-Electric and Gas-Turbine)
เรือมีความเร็วสูงสุดที่ 30knots และมีกำลังพลประจำเรือ 220นาย เรือแต่ละลำสามารถรองรับเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทางทะเล Mitsubishi/Sikorsky SH-60K หนึ่งเครื่องบนดาดฟ้าบินลาดจอด ฮ.และอีกหนึ่งเครื่องในโรงเก็บเฮลิคอปเตอร์ท้ายเรือ
เรือพิฆาตชั้น Asahi ติดตั้งอาวุธปืนใหญ่เรือขนาด 127mm เป็นอาวุธหลัก และระบบป้องกันระยะประชิด(CIWS: Close-In Weapon System) ปืนใหญ่กล Phalanx ขนาด 20mm หกลำกล้องหมุน สองระบบ

เรือพิฆาตชั้น Asahi ยังติดตั้งแท่นยิงอาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำ(ASM: Anti-Ship Missile) แบบ Type 90 แท่นยิง 8นัด และอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ RIM-162 ESSM(Evolved SeaSparrow Missile)
ด้านขีดความสามารถการปราบเรือดำน้ำเรือชั้นนี้ติดตั้งจรวดปราบเรือดำน้ำ Type 07 VL-ASROC ในแท่นยิงแนวดิ่ง Mk41 VLS(Vertical Launching System) 32ท่อยิงรวมกับอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ ESSM
และแท่นยิง Torpedo เบาปราบเรือดำน้ำแฝดสามขนาด 324mm สองแท่นยิง พร้อม Sonar ที่ตัวเรือแบบ OQQ-24 และ Sonar ลากท้ายแบบ OQR-4 TACTAS(Tactical Towed Array System) ครับ