12-14 February 2019 n Gulf of Thailand, Royal Thai Navy's newest frigate FFG-471 HTMS Bhumibol Adulyadej and CVH-911 HTMS Chakri Naruebet helicopter carrier sailed alongside during training include Replenishment/Fuelling-at-Sea (RAS/FAS)
and operating flight deck with Sikorsky SH-60B Seahawk anti-submarine helicopters
ใน ๑๔ ก.พ.๖๒ ร.ล.ภูมิพลอดุลยเดชออกทดสอบขีดสมรรถนะและการทดสอบทดลอง ฝึก รับ-ส่ง น้ำมันเชื้อเพลิงในทะเล และปฏิบัติการร่วมกับอากาศยาน (ฮ.ปด.๑ กับ ร.ล. จักรีนฤเบศร)
- ใน ๑๔ ก.พ.๖๒ เวลา ๐๙๐๐ - ๑๓๐๐ น.ร.ล.ภูมิพลอดุลยเดช ฝึก รับ-ส่ง น้ำมันเชื้อเพลิงในทะเลกับ ร.ล. จักรีนฤเบศร
- ใน ๑๔ ก.พ.๖๒ เวลา ๑๔๐๐ -๑๗๐๐ น. ร.ล.ภูมิพลอดุลยเดช ฝึก ปฏิบัติการร่วมกับอากาศยาน (ฮ.ปด.๑ )
http://www.fleet.navy.mi.th/frigate1/index.php/today/detail/content_id/99
https://www.facebook.com/iron.thainavy
หลังจากที่เรือฟริเกตสมรรถนะสูงลำใหม่ล่าสุดของกองทัพเรือไทยเรือหลวงภูมิพลอดุลยเดชได้เดินทางมาฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ ๗ มกราคม พ.ศ.๒๕๖๒(2019) โดยเข้าประจำการใน กองเรือฟริเกตที่๑ กองเรือยุทธการ(https://aagth1.blogspot.com/2019/01/blog-post_7.html)
ร.ล.ภูมิพลอดุลยเดช ก็ได้เริ่มภารกิจแรกในอ่าวไทย ในการฝึกร่วมกับเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ เรือหลวงจักรีนฤเบศร และเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำ ฮ.ปด.๑ SH-60B ช่วงวันที่ ๑๒-๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ เพื่อให้กำลังพลมีความพร้อมในการปฏิบัติงานเป็นภารกิจปกติหนึ่งที่ทหารเรือไทยกทำสม่ำเสมอ
แม้ว่า ร.ล.จักรีนฤเบศร จะถูกผู้ไม่หวังดีต่อกองทัพเรือโจมตีอยู่บ่อยครั้งว่าไม่เคยออกเรือไปทะเลได้จอดอยู่ที่ท่าเรือของฐานทัพเรือสัตหีบให้นักท่องเที่ยวชมตลอดทั้งปี แต่ก็เห็นได้จากภาพตามความเป็นจริงว่าเรือทุกลำของกองทัพเรือไทยมีการออกเรือเพื่อปฏิบัติการต่างๆตามวงรอบอยู่ไม่ขาด
ตามที่บริษัท Daewoo Shipbuilding & Marine Engineering(DSME) ผู้สร้างและเจ้าของแบบเรือ DW3000H ได้ทำพิธีส่งมอบเรือเมื่อวันที่ ๑๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๑(2018) ณ อู่ต่อเรือ Okpo-Dong ใน Busan สาธารณรัฐเกาหลี(https://aagth1.blogspot.com/2018/12/blog-post_16.html)
บริษัท DSME เกาหลีใต้ก็หวังที่จะได้รับสัญญาจัดหาลำที่สองจากกองทัพเรือไทย ที่จะมีการถ่ายทอด Technology การสร้างในไทย ณ อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ(https://aagth1.blogspot.com/2017/03/blog-post_8.html) ตามความต้องการที่ควรจะมีเรือฟริเกตชุดใหม่ ๒ลำ
โดยการมีเรือฟริเกตชุดเรือหลวงนเรศวร ๒ลำ และชุด ร.ล.ภูมิพลอดุลยเดช ๒ลำที่เชื่อมโยงเป็นเครือข่าย Network Centric ผ่าน Data Link ร่วมกันจะมีประสิทธิภาพสูงมาก แต่การต่อเรือฟริเกตสมรรถนะสูงลำที่๒ ในไทยก็คงจะมีการตัดสินใจภายหลังการเลือกตั้งในวันที่ ๒๔ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๒ ครับ
Royal Thai Navy include LPD-791 HTMS Angthong, LCU-781 HMTS Mannok, P.53 Marsun M18 Fast Assault, Airbus Helicopters H145M, Bell 212 and Royal Thai Marine Corps include BTR-3E1 8x8 joint with U.S. Navy LPD-20 USS Green Bay U.S. Marine Corps (USMC) include AAV7A1, Bell UH-1Y and Bell AH-1Z and Republic of Korea Marine Corps (ROKMC) conduct Amphibious Exercise (AmphibEx) in Cobra Gold 2019 at Hat Yao Beach, Sattahip, Chonburi, Thailand
(https://www.facebook.com/CobraGoldThailand.RTARF/posts/2157793524259324, https://www.facebook.com/rtarfhq.pr/posts/2151877014877973, https://www.facebook.com/ExerciseCobraGold/posts/2173348529391836)
การเลือกตั้งที่จะมีในเดือนมีนาคม ๒๕๖๒ มีการเสนอแนวคิดจากกลุ่มต่างๆที่เกี่ยวข้องกองทัพไทยโดยตรง ทั้งการลดขนาดสามเหล่าทัพ เลิกการจัดซื้ออาวุธ๑๐ปี ยกเลิกการมีทหารกองประจำการและอาสาสมัครทหารพราน ถอนทหารจากชายแดนเช่นที่ภาคใต้ และจัดตั้งคณะเสนาธิการร่วมแทนกองบัญชาการกองทัพไทย เป็นต้น
แนวความคิดมีผลกระกระทบอย่างมากคือการปรับลดกำลังพลกองทัพไทยจากราว ๓๓๕,๔๒๕นาย ให้เหลือเพียงประมาณ ๑๗๐,๐๐๐นาย และงบประมาณกระทรวงกลาโหมให้เหลือเพียงไม่เกิน ๑๕๐,๐๐๐ล้านบาท จากปัจจุบันในงบประมาณประจำปี พ.ศ.๒๕๖๒ ที่ได้รับวงเงินราว ๒๒๗,๖๗๑ล้านบาท
ซึ่งแนวคิดที่ว่านี้คาดว่ากองทัพเรือไทยจะถูกปรับกำลังพลจากประมาณ ๗๑,๐๐๐นาย เหลือเพียง ๕๐,๐๐๐นาย แต่กำลังพลที่หายไปถึง ๒๑,๐๐๐นายจะทำมีคำถามว่ากองเรือยุทธการ นาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ และกองการบินทหารเรือ จะยังป้องกันประเทศทางทะเลได้หรือไม่
ความเคลื่อนไหวที่พยายามจะดึงกองทัพเรือไทยมาเกี่ยวข้องอีกเรื่องก็มีแนวคิดการยกเลิกการจัดหาเรือดำน้ำในทุกรูปแบบ ทั้งที่สร้างในไทยคือ โครงการวิจัยและพัฒนาสร้างเรือดำน้ำขนาดเล็ก(Midget Submarine) สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพเรือ สวพ.ทร.(https://aagth1.blogspot.com/2018/10/bmt.html) ที่ถูกมองว่าไม่มีประโยชน์
หรือโครงการจัดหาเรือดำน้ำแบบ S26T ลำแรกที่ทำพิธีตัดเหล็กแผ่นแรกเมื่อ ๔ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๑(2018) ซึ่งเป็น 'วันเรือดำน้ำไทย' ณ Wuhan จีน(https://aagth1.blogspot.com/2018/09/s26t.html) ก็มีแนวคิดที่จะยกเลิกสัญญาสร้างเรือกับจีน และไม่มีการสั่งสร้างลำที่สองและลำที่สามตามมา
ถ้ารวมกับการตัดลด งป.กลาโหมในข้างต้นที่ปัจจุบันกองทัพเรือก็ได้งบประมาณจำนวนไม่มากนักอยู่แล้ว และได้พึ่งพาตนเองในจัดหาเรือและอาวุธที่สร้างในไทยมาตลอด ทร.อาจจะมีสภาพเป็นแค่หน่วยยามฝั่งที่มีแต่เรือตรวจการณ์ถ้าไม่มีการจัดการกำลังพลและเชื้อเพลิงสำหรับเรือที่เหมาะสมพอครับ
Sikorsky UH-60L Black Hawk 9th Aviation Battalion, Aviation Regiment, Army Aviation Center, Royal Thai Army, Royal Thai Army armed with two M60D machine gun
Royal Thai Army's former Bell UH-1H Huey Gunship armed with two M134 Minigun gatling gun 7.62mm and two M260 7-Tube Hydra 70 2.75" rocket pod
Royal Thai Army's former Bell UH-1H Huey Gunship armed with two M134 Minigun gatling gun 7.62mm and two M158 7-Tube Mk 40 FFAR(Folding-Fin Aerial Rocket) 2.75" (70mm) rocket pod(https://www.facebook.com/ball.kittidej)
กองวิทยาการ กรมสรรพาวุธทหารบกจะดำเนินการจัดทำคุณลักษณะเฉพาะสิ่งอุปกรณ์สายสรรพาวุธของระบบปืนกล M134 Minigun ขนาด 7.62x51mm ติดตั้งกับเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป ฮ.ท.๖๐ Sikorsky UH-60L/UH-60M Black Hawk กองพันบินที่๙ กรมบิน ศูนย์การบินทหารบก
เดิมทีนั้น ศบบ.มีเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป ฮ.ท.๑ Bell UH-1H Gunship ที่ติด ปก.M134 Minigun สองกระบอกที่ประตูแต่ละข้าง และสองคานอาวุธข้างลำตัวติดกระเปาะจรวดขนาด 2.75" ความจุ ๗นัด ซึ่งเคยมีประจำการใน กองบินปีกหมุนที่๑, กองบินปีกหมุนที่๒ และกองบินปีกหมุนที่๓ เป็นต้น
โดยที่ผ่านมา ฮ.ท.๖๐ UH-60L/UH-60M จะติดเพียงปืนกล M60D 7.62x51mm สองกระบอกที่ช่องหน้าต่างข้างลำตัวแต่ข้างเพื่อป้องกันตัวเท่านั้น การนำ ปก.Minigun ที่เคยใช้กับ ฮ.ท.๑ UH-1H ที่ปลดประจำการไปแล้วจะเป็นการเพิ่มอำนาจการยิงในการป้องกันตัวทางยุทธวิธีมากขึ้นครับ
Bell AH-1F Cobra 3rd Aviation Battalion, Aviation Regiment, Army Aviation Center, Royal Thai Army in Children's Day 2019 at Army Aviation Center, Lop Buri province(https://www.facebook.com/GeneralSupportAviationBattalion)
Royal Thai Army and US Army conduct Field Training Exercise (FTX) in Cobra Gold 2019 at Phisanulok, Thailand(https://www.facebook.com/armyprcenter/posts/2076077329124635)
Royal Thai Army include Stingray light tank, BTR-3E1 8x8 APC and HMMWV 4x4 Royal Thai Air Force EC725 and Alpha Jet with US Marine Corps include M1A1 Abrams main battle tanks and M142 HIMARS ,US Army include M777 155mm howitzer and Stryker 8x8, Malaysian Armed Forces, Indonesian Armed Forces and Singapore Armed Forces conduct Combined Arms Live Fire Exercise (CALFEX) in Cobra Gold 2019 at RTA 3rd Army Area firing range, Ban Dan Lan Hoi, Sukhothai, Thailand, 22 February 2019
(https://www.facebook.com/CobraGoldThailand.RTARF/posts/2166816050023738 ,https://www.facebook.com/rtarfhq.pr/posts/2161372843928390, https://www.facebook.com/sompong.nondhasa/posts/1576722352430870)
Clip Live: CALFEX Cobra Gold 2019 Ban Dan Lan Hoi, Sukhothai, Thailand, 22 February 2019
ถ่ายทอดสดการฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง (CALFEX) และพิธีปิด การฝึกร่วม/ผสม คอบร้าโกลด์ 2019 22 ก.พ.62 ณ พื้นที่ฝึกทางยุทธวิธีกองทัพภาคที่ 3 อ.บ้านด่านลานหอย จังหวัดสุโขทัย
ตามแนวคิดการปรับลดกำลังพลของกองทัพไทย เป็นที่คาดว่ากองทัพบกไทยจะถูกปรับกำลังพลจากประมาณ ๒๑๐,๐๐๐นาย ให้เพียงเหลือ ๙๐,๐๐๐นายเท่านั้น ซึ่งนับเป็นเหล่าทัพที่ผลกระทบมากที่สุดจากแนวคิดนี้ที่กำลังพลที่หายไปถึงกว่า ๑๒๐,๐๐๐นายหรือเกินมากกว่าครึ่งหนึ่งของที่มีในตอนนี้
เพราะอย่าว่าแต่การเลิกการเกณฑ์ทหารกองประจำการ ยุบทหารพราน กับการปลดกำลังพลระดับชั้นนายพลออกไปเกือบทั้งกองทัพบกก็ยังไม่พอ ต้องปลดนายทหารชั้นสัญญาบัตรและนายทหารชั้นประทวนอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็ไม่ทราบว่าจะเพียงพอต่อการป้องกันประเทศทางบกทั้งชายแแดนหรือไม่
นี่ก็รวมถึงการยกเลิกโครงการจัดซื้ออาวุธเป็นเวลา ๑๐ปีที่ถูกพิจารณาว่าไม่ความจำเป็นจะยกเลิกไป ทั้งเฮลิคอปเตอร์โจมตีแบบใหม่ทดแทน ฮ.จ.๑ AH-1F, รถถังหลัก VT4, ยานเกราะล้อยาง VN1 8x8 รวมถึงอาวุธประจำกายและเครื่องกระสุนที่เกี่ยวข้อง ไม่ให้กองทัพบกมีการจัดหาอะไรอีกต่อไปครับ
กองทัพอากาศไทยได้ประกาศโครงการจ้างปรับปรุงโครงสร้างอากาศยานและระบบ Avionics รวมทั้งระบบอาวุธของเครื่องบินโจมตีแบบที่๗ บ.จ.๗ Dornier Alpha Jet พร้อมอะไหล่ขั้นต้น อุปกรณ์เครื่องมือที่จำเป็น การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่นักบินและเจ้าหน้าที่เทคนิคที่เกี่ยวข้องจำนวน ๑งาน
สำหรับ บ.จ.๗ Alpha Jet ๑๔เครื่องเป็นเงิน ๓,๓๘๘,๐๐๐,๐๐๐บาท($108,519,334) โดยโดยบริษัท อาร์ วี คอนเน็กซ์ จำกัด (RV Connex) ไทย เป็นอีกโครงการปรับปรุงความทันสมัยอากาศยานกองทัพอากาศไทยของบริษัทต่อจากเครื่องบินโจมตีธุรการ บ.จธ.๒ AU-23A ฝูงบิน๕๐๑ กองบิน๕
แม้ว่าจะไม่มีรายละเอียดการปรับปรุงว่ามีอะไรบ้างในขณะนี้ แต่แสดงให้เห็นว่ากองทัพอากาศไทยมีนโยบายที่จะยังคงประจำการ บ.จ.๗ Alpha Jet เยอรมนี ณ ฝูงบิน๒๓๑ กองบิน๒๓ อุดรธานี ต่อไปอีกหลายสิบปี โดยปรับปรุงให้มีความทันสมัยคุ้มค่าการใช้ปฏิบัติการมากที่สุดครับ
Weapons of Dornier Alpha Jet light attack aircraft 231 Squadron, Wing 23 Udorn, Royal Thai Air Force in Children's Day 2019(https://www.facebook.com/people/สัมฤทธิ์ผล-นิ่มวัฒนกุล/100001357941378)
Thai company RV Connex has awarded to upgrade 14 Alpha Jet attack aircraft's airframe, avionic and weapons system by Royal Thai Air Force Term of Reference for Alpha Jet Upgrade Programe (AUP)กองทัพอากาศไทยได้ประกาศโครงการจ้างปรับปรุงโครงสร้างอากาศยานและระบบ Avionics รวมทั้งระบบอาวุธของเครื่องบินโจมตีแบบที่๗ บ.จ.๗ Dornier Alpha Jet พร้อมอะไหล่ขั้นต้น อุปกรณ์เครื่องมือที่จำเป็น การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่นักบินและเจ้าหน้าที่เทคนิคที่เกี่ยวข้องจำนวน ๑งาน
สำหรับ บ.จ.๗ Alpha Jet ๑๔เครื่องเป็นเงิน ๓,๓๘๘,๐๐๐,๐๐๐บาท($108,519,334) โดยโดยบริษัท อาร์ วี คอนเน็กซ์ จำกัด (RV Connex) ไทย เป็นอีกโครงการปรับปรุงความทันสมัยอากาศยานกองทัพอากาศไทยของบริษัทต่อจากเครื่องบินโจมตีธุรการ บ.จธ.๒ AU-23A ฝูงบิน๕๐๑ กองบิน๕
แม้ว่าจะไม่มีรายละเอียดการปรับปรุงว่ามีอะไรบ้างในขณะนี้ แต่แสดงให้เห็นว่ากองทัพอากาศไทยมีนโยบายที่จะยังคงประจำการ บ.จ.๗ Alpha Jet เยอรมนี ณ ฝูงบิน๒๓๑ กองบิน๒๓ อุดรธานี ต่อไปอีกหลายสิบปี โดยปรับปรุงให้มีความทันสมัยคุ้มค่าการใช้ปฏิบัติการมากที่สุดครับ
F-16A/B Block 15 OCU 103rd Squadron and F-16A/B ADF 102nd Squadron of Wing 1, F-16AM/BM EMLU 403rd Squadron of Wing 4 and C-130H 601st Squadron of Wing 6, Royal Thai Air Force with F-16C Block 40 35th Fighter Squadron, 8th Fighter Wing, USAF
conduct Air Traning exercise in Cobra Gold 2019 at Wing 1 RTAF Base, Korat, Thailand(https://www.facebook.com/sompong.nondhasa/posts/1575540039215768)
ตามแนวคิดการลดกำลังพลกองทัพไทยเช่นเดียวกันนั้น คาดว่ากองทัพอากาศไทยจะถูกปรับกำลังพลจากประมาณ ๔๕,๐๐๐นาย เหลือเพียง ๓๐,๐๐๐นายเท่านั้น ซึ่งนั้นจะทำให้กำลังพลในหลายส่วนๆถูกปลดออกไปถึง ๑๕,๐๐๐นาย เช่น ช่างอากาศยาน เหล่าอากาศโยธิน รวมถึงเหล่าสนับสนุนต่างๆ
แม้แต่เหล่านักบินที่เป็นกำลังหลักเองก็จะได้รับผลกระทบจากการที่อาจจะไม่มีการอนุมัติโครงการจัดหาอากาศยานใหม่ทดแทนอีกเลยเป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินขับไล่ใหม่ทดแทน บ.ข.๑๙/ก F-16A/B Block 15 ADF ฝูงบิน๑๐๒ กองบิน๑ ที่จะเข้าประจำการครบ๒๐ปีในปี พ.ศ.๒๕๖๕(2022)
หรือเครื่องบินลำเลียงยุทธวิธีใหม่ทดแทน บ.ล.๘ C-130H ฝูงบิน๖๐๑ กองบิน๖ ที่จะครบรอบ ๔๐ปีในปี พ.ศ.๒๕๖๓(2020) เป็นต้น ซึ่งการที่อาจจะมีหลายฝูงบินที่ต้องกลายเป็นฝูงบินว่างไม่มีอากาศยานแบบอื่นมาทดแทนนั้น ก็เป็นคำถามว่าจะเพียงพอต่อการป้องกันประเทศทางอากาศได้หรือไม่
ซึ่งสำหรับ บ.ล.๘ C-130H/C-130H-30 ทั้ง ๑๒เครื่อง กองทัพอากาศไทยมีโครงการจ้างปรับปรุงขีดความสามารถเครื่องยนต์จำนวน ๒๐เครื่อง วงเงิน ๙๐๖,๘๑๘,๓๐๐บาท($28,950,627) มีผู้เสนอราคากลางคือบริษัท Segers Aero Corporation สหรัฐฯ และบริษัท StandardAero แคนาดา
เป็นการแสดงให้เห็นว่าแม้ว่าเครื่องบินลำเลียง Lockheed C-130H ชุดแรก ๓เครื่อง(หมายเลข 60101, 60102 และ 60103) จะเข้าประจำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๒๓(1980) แต่กองทัพอากาศไทยก็จะยังคงมีแนวคิดจะใช้งานเครื่องบินม้างานผู้ซื่อสัตย์และอดทนและถูกใช้ในการช่วยเหลือประชาชนนี้ต่อไปอีกนาน
ทว่าจากกรณีเครื่องยนต์ขัดข้องระหว่าเที่ยวบินเดินทางของนายกรัฐมนตรีจากองบิน๖ ไปเกาะสมุยของ C-130H หมายเลข 60109 กลับมีผู้ไม่หวังดีโจมตีกองทัพอากาศว่ามีแต่เครื่องบินเก่าล้าสมัยใกล้จะพัง แต่ก็คัดค้านที่จะให้จัดหาเครื่องบินลำเลียงใหม่ที่ทันสมัยเพราะสิ้นเปลืองภาษีประชาชนครับ
