MHI to build two new multirole frigates for JMSDF
MHI has been awarded a contract by the Japanese MoD to build the first two of four ships of a new class of multirole frigate (seen here in computer-generated imagery) for the JMSDF. Source: MHI
https://www.janes.com/article/84241/mhi-to-build-two-new-multirole-frigates-for-jmsdf
บริษัท Mitsubishi Heavy Industries(MHI) ญี่ปุ่นได้ประกาศเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2018 ว่าตนได้รับสัญญาจากกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นเพื่อการสร้างเรือฟริเกตเอนกประสงค์ชั้นใหม่ 2ลำแรกจาก 4ลำสำหรับกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่น(JMSDF: Japan Maritime Self-Defense Force)
แม้ว่า MHI ญี่ปุ่นไม่ได้เปิดเผยวงเงินของสัญญา แต่กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นได้รับการจัดสรรงบประมาณวงเงิน 92.2 billion Yen($816 million) ในปีงบประมาณ 2018 สำหรับการสร้างเรือฟริเกตชั้นใหม่ 2ลำความยาว 130m กว้าง 13m ซึ่งคาดว่าจะส่งมอบได้ในเดือนมีนาคม 2022
ในเดือนสิงหาคม 2018 กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นได้ร้องของบประมาณวงเงิน 99.5 billion Yen จากรัฐบาลญี่ปุ่นสำหรับการสร้างเรือฟริเกตชั้นใหม่อีก 2ลำหลัง โดยคาดว่าจะส่งมอบได้ในเดือนมีนาคม 2023 อย่างไรก็ตามสัญญาสำหรับเรือฟริเกตชั้นใหม่อีก 2ลำยังไม่มีการประกาศในขณะนี้
แบบเรือและข้อเสนอของบริษัท MHI ได้รับเลือกเป็นผู้ชนะเหนือแบบเรือของบริษัท Mitsui Engineering and Shipbuilding(MES) และบริษัท Japan Marine United อย่างไรก็ตามบริษัท MES ญี่ปุ่นได้รับเลือกให้เป็นผู้รับสัญญารายย่อย
การสร้างเรือฟริเกตใหม่ขนาด 3,900tons ลำแรกจะดำเนินการต่อเรือที่อู่เรือ Nagasaki Shipyard & Machinery Works ของ MHI ในจังหวัด Nagasaki ขณะที่เรือฟริเกตใหม่ลำที่สองจะสร้างที่อู่เรือ Tamano Shipyard ของ MES ในจังหวัด Okayama
การจัดสรรการดำเนินงานดังกล่าวเป็นการแสดงให้เห็นเป็นครั้งแรกว่าบริษัท MHI ญี่ปุ่นจะสร้างเรือในฐานะผู้นำในการเป็นผู้รับสัญญารายหลัก
ตามข้อมูลจากกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น เรือฟริเกตชั้นใหม่ซึ่งมีจุดประสงค์ในการดำเนินภารกิจตรวจการณ์ในน่านน้ำรอบหมู่เกาะญี่ปุ่น จะได้รับการติดตั้งด้วยการขยายขีดความสามารถอย่างพหุภารกิจ รวมถึงขีดความสามารถในการปฏิบัติการสงครามต่อต้านทุ่นระเบิด
ซึ่งจนถึงปัจจุบันเป็นภารกิจที่ดำเนินการปฏิบัติโดยเรือล่าทำลายทุ่นระเบิดเดินสมุทรของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่น เช่น เรือสนับสนุนการต่อต้านทุ่นระเบิดชั้น Uraga ขนาด 5,500tons
เรือฟริเกตชั้นใหม่แต่ละลำจะรองรับการปฏิบัติการและวางกำลังเฮลิคอปเตอร์ไปกับเรือได้ 1เครื่อง เช่นเดียวกับยานผิวน้ำไร้คนขับยานผิวน้ำไร้คนขับ(USV: Unmanned Surface Vehicle) และยานใต้น้ำไร้คนขับ(UUV: Unmanned Underwater Vehicle) ระบบอาวุธที่คาดว่าจะติดตั้งประกอบด้วย
อาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศพิสัยกลาง Type 03(Chu-SAM Kai), ปืนใหญ่เรือ 5"(127mm)/62cal, แท่นยิงแนวดิ่ง(VLS: Vertical Launch System), อาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำ และระบบป้องกันระยะประชิด(CIWS: Close-In Weapon System) อาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ SeaRAM ครับ