วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2563

เครื่องบินขับไล่ F-35A สหรัฐฯเริ่มเพิ่มความสามารถการทำลาย/กดดันการป้องกันภัยทางอากาศข้าศึก

DoD launches F-35A DEAD/SEAD retrofit



The USAF has begun the process of giving the F-35A a full-on destruction/suppression of enemy air defences capability for itself and international operators of the type.

กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯได้เริ่มความพยายามที่จะเริ่มต้นการเพิ่มขีดความสามารถการทำลายการป้องกันภัยทางอากาศข้าศึก(DEAD:Destruction of Enemy Air Defence)/กดดันการป้องกันภัยทางอากาศข้าศึก(SEAD: Suppression of Enemy Air Defence) 
ที่เสร็จสมบูรณ์เข้ากับเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-35A Lightning II Joint Strike Fighter(JSF) ตามเอกสารแจ้งเตือนสัญญาที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2020

กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯได้ประกาศสัญญาผู้ผลิตวงเงิน $36.78 million เพื่อสนับสนุนความพยายามทางวิศวกรรมที่ไม่เกิดขึ้นซ้ำเพื่อพัฒนาและรับรองแนวทางการเพิ่มความสามารถเพื่อสนับสนุนความต้องการด้านโครงสร้าง
สำหรับขีดความ DEAD/SEAD เต็มรูปแบบสำหรับเครื่องบินขับไล่ F-35A สายการผลิต Lot 14 และ Lot 15 ประกาศสัญญาซึ่งครอบคลุมเครื่องของกองทัพอากาศสหรัฐฯและผู้ใช้งานนานาชาติต่างๆ จะดำเนินการจนถึงเดือนสิงหาคม 2022

DEAD/SEAD เป็นหนึ่งในภารกิจหลักของเครื่องบินขับไล่ F-35 ร่วมกับการตอบโต้ทางอากาศเชิงรับ(DCA: Defensive Counter-Air), การสนับสนุนทางอากาศใกล้ชิด(CAS: Close Air Support), การขัดขวางทางอากาศ(AI: Air Interdiction), 
การโจมตี ประสานงาน และลาดตระเวน(SCAR: Strike, Co-ordination and Reconnaissance) และการข่าวกรอง ตรวจการณ์ และลาดตระเวนแบบใหม่(NTISR: Non-Traditional Intelligence, Surveillance and Reconnaissance)

กองทัพอากาศสหรัฐฯประกาศความพร้อมปฏิบัติการขั้นต้น(IOC: Initial Operational Capability) ของ F-35A ในเดือนสิงหาคม 2016 ซึ่งเวลานั้นกองทัพอากาศสหรัฐฯกล่าวว่าเครื่องสามารถทำภารกิจ DEAD/SEAD แบบ "จำกัด" ได้
แม้ว่ามันไม่ได้ให้การจำกัดที่ความชัดเจนว่าขีดความสามารถจำกัดหมายความว่าอย่างไร แต่น่าจะเป็นการรวมการปฏฺิบัติภารกิจโดยใช้ชุดระบบอาวุธพื้นฐานที่สามารถใช้ได้ ณ เวลานั้น

ซึ่งระบบอาวุธในเวลานั้นรวมถึงระเบิดนำวิถีดาวเทียม Boeing GBU-31 ขนาด 1,000lbs/GBU-32 ขนาด 2,000lbs JDAM(Joint Direct Attack Munition) ตั้งแต่นั้นชุดคำสั่งมาตรฐาน Block 3F ได้รวมขีดความสามารถการใช้อาวุธ(https://aagth1.blogspot.com/2018/04/f-35.html)
ที่รวมถึงระเบิดนำวิถีดาวเทียม Boeing GBU-39 SDB(Small Diameter Bomb) ขนาด 250lbs และอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้นร่อน Raytheon AGM-154A/AGM-154C JSOW(Joint Stand-Off Weapon) ซึ่งสามารถใช้ในบทบาทดังกล่าวได้

สำหรับภารกิจ DEAD/SEAD เต็มรูปแบบ(ยังรู้จักอีกอย่างว่าการต่อต้านการเข้าถึง/ปฏิเสธการใช้พื้นที่ A2: Anti-Access/AD: Area Denial) เครื่องบินขับไล่ F-35A จะได้รับอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น SiAW(Stand-in Attack Weapon) ด้วย
SiAW ที่ยังคงอยู่ระหว่างการพัฒนาเป็นอาวุธที่ยกระดับอย่างหนักของอาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านการแพร่คลื่นขั้นก้าวหน้า Northrop Grumman AGM-88E AARGM(Advanced Anti-Radiation Guided Missile) ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2020/01/siaw-f-35a.html