US Marine Corps CH-53K performs first sea trials
The US Marine Corps (USMC) Sikorsky CH-53K King Stallion heavy-lift helicopter
performed sea trials during a two-week period in early June over the Atlantic
Ocean. (US Marine Corps)
เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงหนัก Sikorsky CH-53K King Stallion นาวิกโยธินสหรัฐฯ(USMC:
US Marine Corps) ได้ดำเนินการทดสอบการปฏิบัติการในทะเลครั้งแรกของตน
ระหว่างช่วงระยะเวลาสองสัปดาห์ในต้นเดือนมิถุนายน 2020 เหนือมหาสมุทรแอตแลนติก
ตามการแถลงของกองทัพเรือสหรัฐฯ(USN: US Navy)
การทดสอบดำเนินขึ้นบนเรืออู่ยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์(LHD: Landing
Helicopter Dock) ชั้น Wasp คือ LHD-1 USS Waps
ชุดการทดลองในทะเลเป็นส่วนหนึ่งของชุดการทดสอบเพื่อประมินค่าสมรรถนะของอากาศยานปีกหมุนในทะเล
โดยนาวิกโยธินสหรัฐฯมีแผนจะจัดหาเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงหนัก CH-53K รวมทั้งหมด
200เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2019/05/hh-60w.html,
https://aagth1.blogspot.com/2018/05/ch-53k.html)
การดำเนินการทดสอบรวมถึงการทดลองการบินขึ้นและลงจอด,
การติดเครื่องยนต์หมุนใบพัดและดับเครื่อง, ความเข้ากันได้กับการปฏิบัติการบนเรือ
การทดสอบทั้งหมดดำเนินการในความเร็วลมที่เพิ่มขึ้นและหลายหลายทิศทางลม
การทดสอบส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับกับการปฏิบัติการบินขึ้นและลงจอดบนเรือ
โฆษกกองทัพเรือสหรัฐฯ Megan Wasel กล่าวเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2020
ว่าทีมทดสอบในการเพิ่มเติมการขยายคุณลักษณะรูปแบบการบินขึ้นและลงจอด
ที่ถูกดำเนินการทดสอบความเข้ากันได้กับการปฏิบัติการประจำเรือหลายแบบ
การทดสอบต่างๆเหล่านี้รวมถึงการเชื่อต่อกับระบบเติมเชื้อเพลิงอากาศยานและระบบกำเนิดพลังงานไฟฟ้าภายนอกประจำเรือ
การทดสอบยังรวมถึงการบำรุงรักษาเฮลิคอปเตอร์ขณะวางกำลังบนเรือ
เพื่อให้มั่นใจว่าเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงหนัก CH-53K
จะมีขนาดพอดีในทุกพื้นที่ตลอดดาดฟ้าบินและโรงเก็บอากาศยานภายในของเรือ
และการประเมินค่าขั้นตอนการร้อยสายโซ่และผูกมัดตรึงตัวเครื่องกับพื้นเรือ
ฮ.ลำเลียงหนัก CH-53K ดำเนินการปฏิบัติการลงจอดและบินขึ้นจากเรือ
364ครั้งจากจุดลงจอดทั้ง 9จุดบนเรืออู่ยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ LHD-1 USS
Waps ระหว่างการทดสอบระยะเวลาสองสัปดาห์
CH-53K King Stallion
เป็นเฮลิคอปเตอร์ที่สร้างใหม่เพื่อทดแทนเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงหนัก Sikorsky CH-53E
Super Stallion นาวิกโยธินสหรัฐฯที่มีอายุการใช้งานมานาน
โดยใช้การออกแบบอัจฉริยะยุคใหม่ ให้มีความน่าเชื่อถือสูง,
ต้องการการบำรุงรักษาต่ำ, มีความพร้อมปฏิบัติการสูง
และเพิ่มความอยู่รอดในการปฏิบัติการ
จากฐานปฏิบัติการส่วนหน้าส่วนใหญ่ที่ยากลำบากและห่างไกลครับ