วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

รถเกราะล้อยางอเนกประสงค์ CHAISERI First Win II 4x4 ได้รับการขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมไทยด้านยุทโธปกรณ์ความมั่นคง




The Factory of Thailand's company Chaiseri metal & rubber Co. Ltd., includes Armored Wheel Vehicle "First Win II" Multi Purpose Vehicle 4x4.
CHAISERI First Win II MPV 4x4 was registered as Thai Innovation Account for Defense Materials in January 2021.

ด้านยุทโธปกรณ์ความมั่นคง: ครุภัณฑ์ยุทโธปกรณ์ความมั่นคง รหัส : 13020011
ชื่อสามัญของผลงานนวัตกรรมไทย : รถเกราะล้อยางอเนกประสงค์ (Multi Purpose Vehicle)
ชื่อทางการค้าของผลงานนวัตกรรมไทย : ชัยเสรี (CHAISERI)
หน่วยงานที่พัฒนา : บริษัท ชัยเสรีเม็ททอลแอนด์รับเบอร์ จำกัด
ผู้จำหน่าย : บริษัท ชัยเสรีเม็ททอลแอนด์รับเบอร์ จำกัด
หน่วยงาน บริษัท หรือผู้ขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทย : บริษัท ชัยเสรีเม็ททอลแอนด์รับเบอร์ จำกัด
ช่วงเวลาที่ขึ้นทะเบียน : มกราคม ๒๕๖๔ - มกราคม ๒๕๖๙ (๕ ปี 2021-2026)

คุณสมบัตินวัตกรรม :
รถเกราะล้อยางอเนกประสงค์ แบบ 4X4 รุ่น First Win II สามารถป้องกันกระสุนระดับ Level 2 ที่ระยะยิง 30m (กระสุนขนาด 7.62x39mm API BZ) และป้องกันระเบิดตามมาตรฐาน STANAG 4569 Level3 ที่ใต้ท้องรถ 
โดยออกแบบกระดองรูปทรงตัววี (V-shape) นำไปทดสอบการป้องกันระเบิด พบว่ากระดองรูปทรงตัววีสามารถลดแรงผลักดันจากการระเบิด และป้องกันการชำรุดเสียหายได้ในระดับที่ยอมรับได้ ตามมาตรฐาน STANAG 4569 level 3 
ซึ่งรถเกราะล้อยางอเนกประสงค์ แบบ 4X4 รุ่น First Win II สามารถใช้บรรทุกกำลังพล พร้อมสัมภาระได้ ๑๐(๙+๑)นาย และ/หรือภารกิจอื่นๆ มีความแข็งแรงทนทานต่อสภาพการใช้งานในพื้นที่ที่มีการโจมตี และวางระเบิดแสวงเครื่อง 
โดยสามารถปฏิบัติงาน ในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คุณลักษณะเฉพาะ
๑. รถเกราะล้อยางอเนกประสงค์ ชนิดขับเคลื่อน ๔ ล้อ
๒. มีขีดความสามารถป้องกันกระสุนระดับ Level 2 ที่ระยะยิง 30m (กระสุนขนาด 7.62x39mm API BZ)
๓. มีขีดความสามารถต้านทานแรงระเบิด อ้างอิงวิธีการทดสอบตามมาตรฐาน STANAG Level 3
๔. เครื่องยนต์ ดีเซล ขนาด 300hp
๕. เครื่องเปลี่ยนความเร็ว Transmission และเครื่องเพิ่มเพลาขับ (TRANFER CASE) ขับเคลื่อน ๔ ล้อตลอดเวลา
๕.๑ แบบอัตโนมัติ
๕.๒ ความเร็วเดินหน้า ไม่น้อยกว่า ๖ ระดับความเร็ว
๕.๓ ความเร็วถอยหลัง ไม่น้อยกว่า ๑ ระดับความเร็ว
๖. เพลาล้อ
๖.๑ เพลาล้อหน้า (FRONT AXLE) มีชุดเฟืองขับที่ปลายเพลา และระบบเบรค ABS จำนวน ๑ เพลา
๖.๒ เพลาล้อหลัง (REAR AXLE) มีชุดเฟืองขับที่ปลายเพลา และระบบเบรค ABS จำนวน ๑ เพลา
๗. ยางและกงล้อ
๗.๑ ใช้ยางเดี่ยวแบบไม่มียางในขนาด 395/85 R 20 พร้อมวงยางในแบบตัน (RUN - FLAT) จำนวน ๔ ล้อ เมื่อยางปราศจากความดันลมยังสามารถรับน้ำหนักรถและเคลื่อนที่ต่อไปได้ไม่น้อยกว่า 50km ตามมาตรฐาน FINABEL 20.A.5
๗.๒ ดอกยางสามารถใช้งานบนถนนและในภูมิประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
๗.๓ กงล้อ ขนาด 20"
๗.๔ มีระบบอัตโนมัติในการเติมลม และปล่อยลมยางล้อรถ เพื่อวิ่งใช้งานบนถนนและเข้าพื้นที่ดินอ่อนลุ่ม หรือดินทราย
๘. ระบบบังคับเลี้ยว
๘.๑ พวงมาลัยติดตั้งทางด้านขวาของตัวรถ
๘.๒ มีเครื่องช่วยผ่อนแรงการบังคับเลี้ยวแบบ HYDRAULIC (POWER STEERING)
๘.๓ รัศมีวงเลี้ยว ไม่มากกว่า 8.50m
๘.๔ มีอุปกรณ์เพิ่มความปลอดภัยช่วยการทรงตัว ของรถขณะขับเคลื่อน และเมื่อยางล้อหน้าระเบิด (SAFETY PLUS)
๙. ตัวกระดองรถ (HULL) เป็นเหล็กเกราะเชื่อมขึ้นรูป (MONOCOQUE) ทำด้วยแผ่นเหล็กเกราะป้องกันกระสุน และระเบิด ดังนี้
๙.๑ หลังคารถทำด้วยเหล็กเกราะป้องกันกระสุน (ARMORED STEEL) มีช่องทางออกบนหลังคา ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เล็กกว่า 600mm พร้อมฝาครอบ 
มีชุดฐานป้อมปืนพร้อม การ์ดป้องกันกระสุน (ระดับ Level 2 ที่ระยะยิง 30m (กระสุนขนาด 7.62x39mm API BZ)) 
มีกระจกด้านข้าง ๒ ด้าน ป้องกันกระสุน (ระดับ Level 2 ที่ระยะยิง 30m (กระสุนขนาด 7.62x39mm API BZ)) 
และขาตั้งปืนกล ขนาด 5.56mm หรือ 7.62mm หรือ 12.7mm หรือปืนกลหลายลำกล้อง M134 Minigun แบบใดแบบหนึ่ง ป้อมปืนหมุนเคลื่อนที่ได้ 360 degree โดยใช้เฟืองเกียร์ทด ช่วยผ่อนแรงในการหมุน
๙.๒ กระดองรถด้านข้างทั้งห้องเครื่องยนต์และห้องโดยสาร ทำด้วยเหล็กเกราะป้องกันกระสุน (ARMORED STEEL) ป้องกันกระสุนได้ระดับ Level 2 ที่ระยะยิง 30m (กระสุนขนาด 7.62x39mm API BZ) มีช่องยิงสำหรับสอดลำกล้องปืนออกนอกกระดองรถ สามารถเปิด - ปิด ได้อย่างรวดเร็ว ๑๓ ช่อง
๙.๓ กระดองรถด้านใต้ท้องรถทำด้วยเหล็กเกราะป้องกันระเบิด (ARMORED STEEL) อัดขึ้นรูปเป็นตัวอักษรวี (V) สามารถลดแรงผลักดัน จากการระเบิด และป้องกันการชำรุดเสียหายได้ในระดับ ที่ยอมรับได้ ตามมาตรฐาน STANAG 4569 level 3
๙.๔ กระจกด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลังเป็นกระจกใสพิเศษมองผ่านได้อย่างปกติ กระจกทุกบานใส่อยู่ในกรอบเหล็กเกราะยึดติดกับตัวกระดองด้วยสกรูแบบพิเศษ (หัวกลมป้องกันกระสุน) กรณีกระจก แตก ร้าว หรือเป็นฝ้า สามารถยกถอดเปลี่ยนได้ทั้งกรอบ ด้วยการถอดสกรูออก 
กระจกป้องกันกระสุนระดับ Level 2 ที่ระยะยิง 30m (กระสุนขนาด 7.62x39mm API BZ) (ยกเว้นกรณีที่ถูกยิงซ้ำที่มีระยะห่างน้อยกว่า 10cm)
๙.๕ มีที่นั่ง ๑๐ (๙+๑) นาย รวมพลขับ เป็นเบาะฟองน้ำหุ้มด้วยหนังสีดำพร้อมเข็มขัดนิรภัยมีจุดยึด ๕ ตำแหน่ง ที่นั่งพลปืนติดตั้งกับเสากลาง สามารถพับพนักพิงลงเป็นฐานยืนยิงปืน ปรับเลื่อน ขึ้นลงได้ตามความต้องการของพลปืน 
เบาะนั่งที่เหลือยึดติดกับผนังด้านข้าง ที่นั่งทั้งหมด มีชุดสปริงลดแรงกระแทกจากการถูกระเบิด
๙.๖ มีประตูทาง เข้า - ออก ๓ บาน ด้านข้างพลขับ ด้านข้างผู้บังคับการณ์รถ และด้านท้าย
๙.๗ มีบันไดขึ้น - ลง ๒ ระดับ บันไดตัวล่าง สามารถพับขึ้นได้ กรณีใช้งานในภูมิประเทศที่เป็นหลุมบ่อ
๑๐. สมรรถนะ (ไม่มีน้ำหนักบรรทุก)
๑๐.๑ ความเร็วสูงสุดบนถนน ไม่น้อยกว่า 110km/h
๑๐.๒ ไต่ลาดชันได้ ไม่น้อยกว่า 60%
๑๐.๓ ไต่ลาดเอียงได้ ไม่น้อยกว่า 30%
๑๐.๔ มุมถึงลาด (หน้า) ไม่มากกว่า 35 degree
๑๐.๕ มุมถึงลาด (หลัง) ไม่มากกว่า 35 degree
๑๐.๖ ข้ามเครื่องกีดขวางได้สูง ไม่น้อยกว่า 500mm
๑๐.๗ ระยะปฏิบัติการบนถนน ไม่น้อยกว่า 600km
๑๐.๘ บรรทุกน้ำหนักได้ ไม่น้อยกว่า 2,000kg
๑๑. มีเครื่องปรับอากาศ สามารถปรับระดับแรงลม และความเย็นได้ จำนวน ๑ ชุด
๑๒. มีระบบดับเพลิงอัตโนมัติภายในห้องโดยสารและห้องเครื่องยนต์ จำนวน ๑ ชุด
๑๓. มีกล้องสำหรับมองภาพด้านหลัง พร้อมจอภาพ จำนวน ๑ ชุด
๑๔. มีไฟฉายส่องสว่างด้านหน้า สามารถส่องสว่างได้ 1.5km หมุนได้รอบ 360 degree ปรับมุม สูง - ต่ำ ได้ จำนวน ๑ ชุด
๑๕. มีพัดลมดูดควันปืนออกจากห้องโดยสารของรถ ติดตั้งบนหลังคา จำนวน ๑ ชุด
๑๖. มีถังน้ำมันเชื้อเพลิง ติดตั้งภายในกระดอง บรรจุได้ไม่น้อยกว่า ถังละ 110 liter จำนวน ๒ ถัง
๑๗. มีถังเก็บลมและแม่ปั้มเบรค ติดตั้งอยู่ภายในกระดองรถ จำนวน ๒ ถัง
๑๘. มีหม้อแบตเตอรี่แบบมาตรฐานทางทหาร (MIL - PRF - 32143) สำหรับใช้กับยานยนต์รบ ขนาด 12V ความจุ 120 Ah จำนวน ๒ หม้อ
๑๙. ระบบไฟฟ้า 24V สามารถใช้กับเครื่องมือสื่อสารทางทหารได้ มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าชนิดกระแสสลับ (ALTERNATER) แรงเคลื่อน 24V ขนาด 200A
๒๐. มีหนังสือคู่มือ ชื่อ และหมายเลขชิ้นส่วนต่าง ๆ ของทุกระบบ รวมทั้งคู่มือซ่อม (ภาษาอังกฤษ) และ คู่มือการใช้งานภาษาไทย
๒๑. กว้านประจำรถ ติดตั้งอยู่หลังกันชนหน้า มีคุณลักษณะเฉพาะดังนี้
๒๑.๑ ให้กำลังฉุดลาก 18,000lbs
๒๑.๒ ความยาวลวดสลิงกว้านไม่น้อยกว่า 20m
๒๑.๓ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ไม่น้อยกว่า 12.7mm
๒๒. ชุดเครื่องมือประจำรถ
๒๒.๑ มีชุดเครื่องมือประจำรถ จำนวน ๑ ชุด
๒๒.๒ มีแม่แรงชนาด 10 tons พร้อมด้าม จำนวน ๑ ชุด
๒๒.๓ มีประแจถอดล้อ จำนวน ๑ ชุด
๒๒.๔ มีกระบอกอัดจาระบี พร้อมสายอ่อน จำนวน ๑ ชุด
๒๒.๕ มีหัวเติมลมยางพร้อมมาตรวัดแรงดันลมและสายยาง จำนวน ๑ ชุด
๒๒.๖ มีอุปกรณ์ใช้ลากจูง (Tow Bar) แบบ 2 ก้าน รูปตัววี (V) จำนวน ๑ ชุด
๒๒.๗ มีถังน้ำมันอะไหล่ ขนาด 20 liter จำนวน ๒ ถัง
๒๒.๘ มีเครื่องมือโยธาสนามพร้อมกล่องเหล็ก จำนวน ๑ ชุด
๒๒.๙ มีเตียงพยาบาลพร้อมกล่องเหล็ก จำนวน ๑ ชุด
๒๒.๑๐ มียางอะไหล่พร้อมกะทะล้อ และวงยางในแบบตัน (Run Flat) จำนวน ๑ วง
๒๒.๑๑ มีเหล็กหนุนล้อกันรถไหล (Wheel Choke) จำนวน ๒ อัน
๒๓. ฐานสำหรับติดตั้งวิทยุสนาม และฐานเสาอากาศ จำนวน ๑ ชุด

ราคา: ๑๘,๐๐๐,๐๐๐.๐๐ บาท/คัน ($601,694.82 per Vehicle)
หมายเหตุ :
๑. ผลิตภัณฑ์นี้เป็นสินค้าสั่งผลิต มีระยะเวลาในการผลิตประมาณ ๑ ปี นับหลังจากวันที่มีการสั่งซื้อ (ทั้งนี้ ระยะเวลาการผลิตขึ้นอยู่กับปริมาณวัตถุดิบหลักคงคลัง ณ วันสั่งซื้อด้วย)
๒. ราคานี้รวมค่าบริการหลังการส่งมอบรถ เป็นระยะเวลา ๒ ปี หรือ 100,000km อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน แต่ไม่รวมระบบอาวุธ
๓. ผลิตภัณฑ์รถเกราะนี้เป็นรถเกราะชนิดอเนกประสงค์ที่ทางบริษัทฯ เป็นผู้ถือสิทธิบัตรการออกแบบและผลิต

การได้รับการขึ้นทะเบียนในรายการนวัตกรรมไทยด้านยุทโธกรณ์ความมั่นคงของรถเกราะล้อยางอเนกประสงค์ CHAISERI First Win II MPV (Multi Purpose Vehicle ) 4x4 ในเดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๖๔(2021) ซึ่งมีอายุ ๕ปีจนถึงปี พ.ศ.๒๕๖๙(2026) 
มีขึ้นตามหลังการผ่านการทดสอบเพื่อการรับรองมาตรฐานยุทโธปกรณ์ของกระทรวงกลาโหมไทย โดยคณะกรรมการรับรองมาตรฐานยุทโธปกรณ์กระทรวงกลาโหม กมย.กห. ที่สนามฝึกขับและทดสอบยานพาหนะของกองทัพบกไทย(RTA: Royal Thai Army) ในกาญจนบุรี
ประกอบด้วยรถเกราะล้อยางอเนกประสงค์ First Win II MPV 4x4, รถรบหุ้มเกราะล้อยาง First Win AFV (Armoured Fighting Vehicle) 4x4 และรถเกราะล้อยางขนาดเบา First Win ALV (Armoured Light Vehicle) 4x4 เป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทย(แม้ว่าส่วนประกอบหลักเช่น เครื่องยนต์, เครื่องเปลี่ยนความเร็ว Transmission และระบบควบคุมการยิงและอาวุธ จะยังต้องจัดหาจากต่างประเทศอยู่ก็ตาม ซึ่งมีผลให้ราคาต่อคันยังสูงกว่ารถเกราะล้อยางจากต่างประเทศบางแบบ)

รถหุ้มเกราะล้อยางตระกูล First Win 4x4 ได้รับการจัดหาจากกองทัพไทยและหน่วยงานความมั่นคงของไทยเป็นจำนวนมาก ล่าสุดคือโครงการยานยนต์หุ้มเกราะอเนกประสงค์แบบ 4x4 จำนวน ๖คัน สำหรับนาวิกโยธิน(RTMC: Royal Thai Marine Corps) กองทัพเรือไทย(RTN: Royal Thai Navy)(https://aagth1.blogspot.com/2020/07/chaiseri-first-win-ii-4x4.html)
และโครงการรถยานยนต์หุ้มเกราะขนาดเบา จํานวน ๒คัน สำหรับกองร้อยรถเกราะ กรมปฏิบัติการพิเศษ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน(Armored security vehicle company, Special Operations Regiment, Security Force Command) กองทัพอากาศไทย(RTAF: Royal Thai Air Force)(https://aagth1.blogspot.com/2020/05/chaiseri.html)
Chaiseri ไทยประสบความสำเร็จการส่งออก First Win II แก่มาเลเซียพร้อมสิทธิบัตรการผลิตในชื่อ Deftech AV4 และอินโดนีเซียในชื่อ Hanoman และมีความร่วมมือกับสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ สทป.(DTI: Defence Technology Institute) เพื่อเสนอแก่ฟิลิปปินส์ในรูปแบบการขายรัฐต่อรัฐครับ(https://aagth1.blogspot.com/2019/10/first-win-4x4.html, https://aagth1.blogspot.com/2018/04/chaiseri-first-win-deftech-av4.html)