Marines Considering Flying U.S. F-35Bs Off of Japan’s Largest Warships
An F-35B Lightning II with Marine Fighter Attack Squadron 211, 13th Marine Expeditionary Unit (MEU), prepares to land aboard the Wasp-class amphibious assault ship USS Essex (LHD 2),
while another F-35B Lightning II flies over on Dec. 4, 2018. US Marine Corps Photo
Helicopter carrier Izumo (DDH-183) and Kaga (DDH-184). Japan Maritime Self-Defense Force Photos
https://news.usni.org/2019/08/23/marines-considering-flying-u-s-f-35bs-off-of-japans-largest-warships
เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลญี่ปุ่นได้ร้องขอต่อนาวิกโยธินสหรัฐฯ(USMC: US Marine Corps) ให้นำเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-35B Lightning II Joint Strike Fighter(JSF) มาวางกำลังปฏิบัติการบนเรือพิฆาตบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ชั้น Izumo
ซึ่งเป็นเรือรบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่น(JMSDF: Japan Maritime Self-Defense Force) เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯยืนยันกับ USNI News เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2019
นาวิกโยธินสหรัฐฯกำลังศึกษาความเป็นไปได้ที่จะวางกำลังเครื่องบินขับไล่ F-35B รุ่นบินขึ้นระยะสั้นลงจอดทางดิ่ง STOVL(Short Take-Off Vertical Landing) ของตนบนเรือพิฆาตบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ DDH-183 JS Izumo และ DDH-184 JS Kaga ของญี่ปุ่น
โดยเรือพิฆาตบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ชั้น Izumo ระวางขับน้ำเต็มที่ 24,000ton ที่มีดาดฟ้าบินขนาดใหญ่ยาวตลอดลำตัวเรือนี้ เดิมถูกออกแบบมาเพื่อวางกำลังฝูงบินเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำ(ASW: Anti-Submarine Warfare) และตอบสนองการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ
อย่างไรก็ตามในเดือนธันวาคม 2018 นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น Shinzo Abe ได้อนุมัติความเคลื่อนไหวที่จะปรับปรุงเรือพิฆาตบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ชั้น Izumo ทั้งสองลำให้รองรับการวางกำลังเครื่องบินขับไล่ F-35B STOVL(https://aagth1.blogspot.com/2018/12/izumo-f-35.html)
คู่ขนานไปกับการจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-35B จำนวน 42เครื่องสำหรับกองกำลังป้องกันตนเองทางอากาศญี่ปุ่น(JASDF: Japan Air Self-Defense Force) ที่จะนำมาวางกำลังบนเรือชั้น Izumo(https://aagth1.blogspot.com/2019/08/f-35b-f-35a.html)
ในเดือนมีนาคม 2019 รัฐบาลนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น Abe ได้สอบถามอดีตผู้บัญชาการนาวิกโยธินสหรัฐฯในขณะนั้น พลเอก Robert Neller ว่าสหรัฐฯจะพิจารณาการนำ F-35B ของนาวิกโยธินสหรัฐฯมาวางกำลังปฏิบัติการจากเรือพิฆาตบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ Izumo และ Kaga หรือไม่
การร้องขอโดยญี่ปุ่นนี้ ขณะนี้นาวิกโยธินสหรัฐฯได้จัดตั้งกลุ่มทำงานเพื่อตัดสินใจความเป็นไปได้ทางเทคนิคในการวางกำลัง F-35B สหรัฐฯจากเรือชั้น Izumo ทั้งสองลำก่อนที่กองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่นจะนำ F-35B ของตนวางกำลังบนเรือตามมา
ขณะที่เรือพิฆาตบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ชั้น Izumo ทั้งสองลำของญี่ปุ่นถูกสร้างโดยมองหน้าไปยังการปฏิบัติการด้วยเครื่องบินขับไล่ STOVL สหรัฐฯมีอิสระในการตัดสินใจว่าจะนำเครื่องบินขับไล่ F-35B ของตนปฏิบัติการบนเรือพิฆาตบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ Izumo และ Kaga หรือไม่
ตัวอย่างเช่นเรืออู่ยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์(LHD: Landing Helicopter Dock) ชั้น Wasp กองทัพเรือสหรัฐฯ(US Navy) ต้องได้รับเสริมความแข็งแรงและการรองรับการทนความร้อนของดาดฟ้าบิน ตามที่นาวิกโยธินสหรัฐฯเปลี่ยนแบบเครื่องบินโจมตี AV-8B Harrier มาเป็น F-35B
ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าจะต้องมีงานปรับปรุงเพิ่มเติมอะไรบ้างที่จำเป็นสำหรับการทำให้เรือชั้น Izumo ของญี่ปุ่นทั้งสองลำพร้อมรองรับ F-35B ปัจจุบันนาวิกโยธินสหรัฐฯได้วางกำลังเครื่องบินขับไล่ F-35B ในฐานส่วนหน้าของตนที่ญี่ปุ่น ณ ฝูงบินขับไล่โจมตี VMFA-121 "Green Knights"
ที่ปฏิบัติการร่วมกับกลุ่มเรือยกพลขึ้นบกพร้อมรบ LHD-1 USS Wasp(Wasp Amphibious Ready Group) เป็นส่วนหนึ่งของหน่วยรบนาวิกโยธินนอกประเทศที่31(31st MEU: Marine Expediniaory Unit)(https://aagth1.blogspot.com/2017/01/f-35b.html)
นาวิกโยธินสหรัฐฯได้สร้างความสัมพันธ์ลักษณะเดียวกันนี้กับกองทัพเรือสหราชอาณาจักร(Royal Navy) ในการวางกำลังฝูงบิน F-35B ของตนจากเรือบรรทุกเครื่องบิน R08 HMS Queen Elizabeth ใหม่ของอังกฤษในการวางกำลังครั้งแรก
(https://aagth1.blogspot.com/2018/09/f-35b-hms-queen-elizabeth.html, https://aagth1.blogspot.com/2018/10/f-35b-hms-queen-elizabeth.html)
สำหรับญี่ปุ่นความเคลื่อนไหวนี้มีตามมาจากที่กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน(PLA: People's Liberation Army) ได้ขยายนาวิกานุภาพของตนไปทั่วทั้งภูมิภาค "ขีดความสามารถทางกองทัพเรือของจีนกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในภูมิภาค
และผมคิดว่านี่เป็นก้าวสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งความเป็นพันธมิตรสหรัฐ-ญี่ปุ่น" Eric Wertheim ผู้เขียนหนังสือ Combat Fleets ของสถาบันทางเรือสหรัฐฯ(U.S. Naval Institute) กล่าวกับ USNI News เมื่อ 23 สิงหาคม 2019
"การจัดหา F-35B ของญี่ปุ่นจะขยายขีดความสามารถทางทะเลและอากาศยานของพวกเขาในภูมิภาค และจะเพิ่มการส่งเสริมการปฏิบัติการร่วมกันระหว่างกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่นและกองทัพสหรัฐฯ
มันจะยังช่วยแบ่งเบาภาระในทรัพยากรของสหรัฐฯที่ถูกรีดให้บางลงในการตอบสนองต่อรายการอันยาวเหยียดของภาวะวิกฤติที่เกิดขึ้นทั่วโลก" Wertheim กล่าว
รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนได้วิจารณ์ความเคลื่อนไหวของญี่ปุ่นการนำเครื่องบินขับไล่ F-35B บนเรือพิฆาตบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ชั้น Izumo ทั้งสองลำว่า จีนสามารถพิจารณาว่านี่เป็นระบบอาวุธโจมตีเชิงรุกและขัดต่อรัฐธรรมนูญสันติภาพของญี่ปุ่น
ในเดือนมีนาคม 2019 อดีตผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติและอดีตผู้บัญชาการกองบัญชาการแปซิฟิกกองทัพสหรัฐฯ(US Pacific Command) พลเรือเอก Dennis Blair กล่าวว่าการวางกำลัง F-35B บนเรือ Izumo และ Kaga สามารถพิจารณาว่าเป็นความเคลื่อนไหวในการป้องกันตน
"ความท้าทายที่จะป้องกันกองเรือป้องกันตนเองต่ออากาศยานที่ติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีร่อน(หรืออาวุธนำวิถีร่อนความเร็วเหนือเสียง Hypersonic) เน้นย้ำความจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงเรือชั้น Izumo เพื่อปฏิบัติการด้วยเครื่องบินขับไล่ F-35B STOVL
ตามที่อาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำมีระยะยิงเฉลี่ยได้หลายร้อย miles ขณะที่ระบบป้องกันภัยทางอากาศอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศต่อต้านอากาศยานและต่อต้านอาวุธปล่อยนำวิถีมีระยะยิงเฉลี่ยเพียงราว 100 miles" พล.ร.อ.Blair เขียนในหนังสือ Proceeding
"การติดอาวุธต่อต้านเรือผิวน้ำพิสัยใกล้ F-35B จะมีประสิทธิภาพอย่างมากในการต่อต้าน 'ยุทธวิธีการโจมตีเป็นฝูง' โดยเรือตรวจการณ์หรือเรือติดอาวุธทางทหารขนาดเล็ก
ในสถานการณ์ 'ชิงหมู่เกาะ' F-35B จะมีคุณค่าในการจัดตั้งการควบคุมทางอากาศท้องถิ่นที่จำเป็นสำหรับกรมยกพลขึ้นบกใหม่ของกองกำลังป้องกันตนเองทางบกญี่ปุ่น(JGSDF: Japan Ground Self-Defense Force) ในการชิงหมู่เกาะที่ห่างไกลคืน" นายพลเรือ Blair เขียนครับ