วันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2561

เครื่องบินขับไล่ F-35B สหรัฐฯปฏิบัติการบินครั้งแรกจากเรือบรรทุกเครื่องบิน HMS Queen Elizabeth อังกฤษ

With historic first F-35B landings on HMS Queen Elizabeth, the UK is back in the saddle of carrier aviation




Royal Navy sailors await orders to unchain an F-35B sitting on the flight deck of the HMS Queen Elizabeth, the U.K. newest aircraft carrier conducting developmental testing off of the United States.
https://www.defensenews.com/breaking-news/2018/09/28/with-historic-first-f-35b-landings-on-hms-queen-elizabeth-the-uk-is-back-in-the-saddle-of-carrier-aviation/





วันที่ 25 กันยายน 2018 ณ มหาสมุทร Atlantic ห่างจากชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ เรือบรรทุกเครื่องบิน R08 HMS Queen Elizabeth กองทัพเรือสหราชอาณาจักร(Royal Navy) ระวางขับน้ำ 65,000tons ราคา 3 billion pound sterling ได้สร้างเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งใหม่
เมื่อ นาวาโท Nathan Gray ราชนาวีอังกฤษ และ นาวาอากาศตรี Andy Edgell กองทัพอากาศสหราชอาณาจักร(Royal Air Force) ได้นำเครื่องบินขับไล่ยุคที่5 Lockheed Martin F-35B Lightning II Joint Strike Fighter(JSF) สหรัฐฯ ลงจอดและบินขึ้นจากดาดฟ้าบินของเรือครั้งแรก
ทั้งสองนายเป็นนักบินของสหราชอาณาจักรชุดแรกที่ทำการลงจอดบนเรือบรรทุกเครื่องบินอังกฤษในรอบ 8ปี เป็นการนำกองทัพเรือสหราชอาณาจักรเริ่มต้นขั้นตอนทดลองการพัฒนาที่มีระยะเวลา 2เดือน(http://aagth1.blogspot.com/2018/04/f-35b-hms-queen-elizabeth-hms-ocean.html)

เรือบรรทุกเครื่องบิน HMS Queen Elizabeth ซึ่งได้รับการสั่งจัดหาในปี 2008 และเข้าประจำการเมื่อเดือนธันวาคมปี 2017(http://aagth1.blogspot.com/2017/12/hms-queen-elizabeth.html)
การลงจอดบนดาดฟ้าบินของเครื่องบินขับไล่ F-35B นับเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของกองทัพเรือสหราชอาณาจักรในกลับมามีขีดความสามารถเรือบรรทุกเครื่อง และเป็นการปฏิเสธถึงปัญหาด้านกำลังรบทางเรือที่ผ่านมา(http://aagth1.blogspot.com/2016/11/blog-post_22.html)
โดยการทำงานร่วมกับนักบินทดสองของนาวิกโยธินสหรัฐฯ(USMC: U.S. Marine Corps) ที่สถานีอากาศนาวี Naval Air Station Pax River เรือบรรทุกเครื่องบิน HMS Queen Elizabeth จะเดินทางกลังอังกฤษในปีหน้าหลังจากที่มีการทดสอบและรับรองการฝึกนักบินใหม่บนเรือแล้ว

แต่สำหรับตอนนี้เป้าหมายคือการจำกัดการทดลองเพื่อทำความเข้าใจในค่าวงจำกัดของลมและสภาพอากาศที่จะปลอดภัยสำหรับการลงจอดของเครื่องบินขับไล่ F-35B
"สำหรับผมความสำคัญของเรื่องนี้คือเป็นอีกครั้งที่เราได้รับการจัดตั้งองค์ประกอบการบิน(flight envelope)โดยนักบินทดสอบ ซึ่งทำให้เราสามารถปฏิบัติการได้อย่างปลอดภัย
จากนั้นผมสามารถเริ่มนำเหล่านักรบในแนวหน้าของผมเข้าไปในการเริ่มต้นการสร้างกำลังด้านขีดความสามารถการรบสงครามได้" พลอากาศตรี Harvey Smyth กองทัพอากาศอังกฤษให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวที่ขึ้นมาบนเรือ

ในสหราชอาณาจักรเหตุการณ์นี้ได้เป็นการฉลองสำหรับรัฐบาลสหราชอาณาจักร "เรือรบที่ใหญ่ที่สุดในปะวัติศาสตร์อังกฤษได้เข้าร่วมกำลังรบด้วยเครื่องบินขับไล่ที่ก้าวหน้าที่สุดในโลก นี่คือเครื่องหมายแห่งการกำเนิดใหม่ของอำนาจการโจมตีอย่างเด็ดขาดของเราจากทะเลทุกแห่งในโลก
ประวัติศาสตร์การลงจอดครั้งแรกบนดาดฟ้าเรือ HMS Queen Elizabeth เป็นเหตุการณ์อนุสรณ์ในความภาคภูมิใจของประวัติศาสตร์ทางทหารของประเทศเรา มันยังเป็นการแถลงการถึงการป้องปรามของอังกฤษเพื่อส่งเสริมสันติภาพและหลีกเลี่ยงสงคราม"
Gavin Williamson รัฐมนตรีกลาโหมสหราชอาณาจักรแถลง ตามที่กองทัพเรือสหรัฐฯ(U.S. Navy) และชาติพันธมิตรตะวันตกเข้าร่วมสงครามปราบปรามผู้ก่อการร้ายมานานกว่าสองทศวรรษ การถือกำเนิดใหม่ของเรือบรรทุกเครื่องบินอังกฤษจึงถือเป็นเหตุการสำคัญที่ไม่อาจจะมองข้ามได้

เรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Queen Elizabeth ลำที่สอง R09 HMS Prince of Wales ซึ่งมีกำหนดจะเข้าประจำการในปี 2020 เป็นสัญญาณที่จำเป็นต่อบรรเทาสถานการณ์ความมั่นคงที่กำลังดำเนินตามแนวทาง(http://aagth1.blogspot.com/2017/09/hms-prince-of-wales-f-35b.html)
"การเพิ่มขึ้นในความสำคัญของทะเล Atlantic เหนือ และ Mediterranean การมีขีดความสามารถจากเรือบรรทุกเครื่องบินกองทัพเรือสหราชอาณาจักร 2ลำ เพิ่มเติมต่อเรือบรรทุกเครื่องบินฝรั่งเศส Charles de Gaulle ได้สร้างสถานการณ์ที่ว่า
เรือบรรทุกเครื่องบินของเราไม่จำเป็นต้องรับภาระการปฏิบัติการตามลำพัง และข้อเท็จจริงที่ว่าอากาศยานอย่าง F-35B เป็นการเสริมกำลังอย่างมหาศาล" Bryan McGrath อดีตผู้บังคับการเรือพิฆาตและหัวหน้าที่ปรึกษากลาโหมของ FerryBridge Group กล่าว

ปัจจุบันอังกฤษมีเครื่องบินขับไล่ F-35B ประจำการ 16เครื่องจาก 138เครื่องที่มีแผนจะจัดหาและยังคงอยู่ในแผนการวางกำลังในปี 2021(http://aagth1.blogspot.com/2018/06/f-35b-marham.html)
ในปี 2019 เรือบรรทุกเครื่องบิน HMS Queen Elizabeth จะอัดแน่นไปด้วยกำลังพลประจำเรือและนาวิกโยธินมากกว่า 1,400นาย นาวาเอก Jerry Kyd ผู้ที่เคยเป็นผู้บังคับการเรือบรรทุกเครื่องบิน HMS Ark Royal ที่ปฏิบัติการส่งเครื่องบินโจมตี Harrier ขึ้นบินครั้งสุดท้ายเมื่อ 8ปีก่อนกล่าว
เมื่อเดินทางกลับอังกฤษเรือจะได้รับการติดตั้งระบบป้องกันระยะประชิด(CIWS: Close-In Weapons System) ปืนใหญ่กลหกลำกล้องหมุน Phalanx 20mm และชุดระบบสื่อสารใหม่เพิ่มเติม ก่อนจะเดินทางไปสหรัฐฯอีกครั้งเพื่อทำการทดสอบเพิ่มเติม

"เราจะกลับไปในเดือนกันยายนปีหน้าสำหรับการทดสอบการปฏิบัติการ เราจะนำเครื่องบินขับไล่ 7เครื่องไปด้วย และเราจะเข้าสู่การเริ่มต้นการนำมาปฏิบัติการของเรือ เรียนรู้ว่าจะต่อสู้กับเรือและอากาศยานอย่างไรร่วมกัน พิสูจน์ถึงระบบสื่อสารทั้งหมดและทุกองค์ประกอบยุคที่5" นาวาเอก Kyd กล่าว
ในปี 2020 เรือบรรทุกเครื่องบิน Queen Elizabeth และหมู่เรือคุ้มกันจะออกเดินเรื่อเพื่อรับรองการปฏิบัติการในการฝึกที่นอกชายฝั่ง Scotland โดยเครื่องบินขับไล่ F-35B ฝูงบินขับไล่โจมตีนาวิกโยธินสหรัฐฯ VMFA-211 จะวางกำลังปฏิบัติการบนเรือด้วย
นาวาโท Gray นักบินราชนาวีอังกฤษที่ทำการลงจอดและบินขึ้นจากเรือบรรทุกเครื่องบิน HMS Queen Elizabeth ครั้งแรกทำการบินกับเครื่องบินขับไล่ F-35B จากฝูงบินทดสอบ VX-23 ผสมกองทัพเรือสหรัฐ-นาวิกโยธินสหรัฐ จากสถานีอากาศนาวี Pax River ในมลรัฐ Maryland สหรัฐฯครับ