วันอาทิตย์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2566

พิธีสวนสนามทางอากาศครบรอบ 40ปีการฝึกผสมกองทัพอากาศไทยและสิงคโปร์


The 40th ACE flypast!




A closer look at the fighter aircraft from both air forces that made up the flypast


The years of training with the RTAF has forged stronger bonds between both air forces and our personnel.
For MAJ Julian Low (on the right) from 149 SQN, training with the RTAF allowed him to meet Wing Commander (Wg.Cdr.) Suttiwat Sukeenung.
"We first met during Exercise Cope Tiger (XCT) 2016, when I was a junior pilot. We both participated in a mission together, and that is where our friendship began. I have met Wg.Cdr. Suttiwat at every edition of XCT since.
We are now both senior instructors, and beyond our professional interactions, we have also forged a strong friendship on a personal level. I attended his wedding in Chiang Mai in 2018, and our families have also grown to know each other.
We regard each other like family, and I look forward to meeting up with him whenever there is a chance to.”

Here’s to 40 years of bilateral exercises with the กองทัพอากาศไทย Royal Thai Air Force (RTAF) Over the past few days, our personnel have been in Korat Air Base, Thailand for the 40th RSAF - RTAF Anniversary Combined Exercise (ACE)! 
To commemorate this milestone, a flypast comprising our F-15SG and F-16 fighter aircraft and the JAS 39, F-16 and F-5 fighter aircraft from the RTAF was held yesterday morning. 
The event came to a close with a dinner where personnel from both air forces came together to celebrate 40 years of close and long-standing relations. 
Also in attendance to witness the occasion were Chief of Air Force, MG Kelvin Khong, and RTAF Commander-in-Chief, ACM Alongkorn Vannarot.
Thank you RTAF for the hospitality, and we look forward to many more years of close defence ties
Photos by S Shiva and CPT Christian Teo





ครบรอบ 40 ปี ของการฝึกผสมระหว่างกองทัพอากาศและกองทัพอากาศสิงคโปร์
พลอากาศเอก อลงกรณ์  วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ พร้อมด้วย นาวาอากาศเอกหญิง พรรณประภา  วัณณรถ นายกสมาคมแม่บ้านทหารอากาศ ให้การต้อนรับ พลอากาศตรี เคลวิน  คอง (MG Kelvin Khong) ผู้บัญชาการทหารอากาศสิงคโปร์ พร้อมภริยา และคณะ 
เนื่องในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของกองทัพอากาศ ระหว่างวันที่ 15 – 18 สิงหาคม 2566 เพื่อรับเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์มงกุฎไทย (ป.ม.) 
และร่วมพิธีประดับเครื่องหมายความสามารถในการบินกิตติมศักดิ์กองทัพอากาศ แก่นายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพอากาศสิงคโปร์ ณ กองบัญชาการกองทัพอากาศ เมื่อวันพุธที่ 16 สิงหาคม 2566
จากนั้นได้เดินทางไปร่วมกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ในวาระครอบรอบ 40 ปี ของการฝึกผสมระหว่างกองทัพอากาศและกองทัพอากาศสิงคโปร์ ณ กองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 สิงหาคม 2566
ทั้งนี้ กองทัพอากาศไทย เริ่มต้นเข้าร่วมการฝึกกับกองทัพอากาศสิงคโปร์ครั้งแรกเมื่อปี 2526 ภายใต้รหัสการฝึก “AIR THAISING 1/83” โดยมี พลอากาศตรี วรนาถ  อภิจารี เป็นผู้อำนวยการกองอำนวยการฝึก 
ซึ่งครั้งนั้นได้ทำการฝึกภาคบังคับการ (Command Post Exercise – CPX) ณ ฐานทัพอากาศ PAYA LEBAR ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 10 - 26 สิงหาคม 2526 
และทำการฝึกปฏิบัติภาคอากาศ (Air Maneuvering Exercise – AMX) ณ กองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 19 - 23 กันยายน 2526 โดยกองทัพอากาศสิงคโปร์ได้ส่งเครื่องบินขับไล่โจมตีแบบ HUNTER เข้าร่วมการฝึกกับเครื่องบินแบบ F-5 ของกองทัพอากาศไทย 
จากนั้นได้ทำการฝึกร่วมกันรวมทั้งสิ้น 12 ครั้ง โดยผลัดกันเป็นเจ้าภาพ คือ การฝึกที่บังคับการ (Command Post Exercise – CPX) จะทำการฝึก ณ ประเทศสิงคโปร์ ส่วนการฝึกภาคปฏิบัติ (Air Maneuvering Exercise – AMX) จะทำการฝึกที่ประเทศไทย 
ต่อมากองทัพอากาศทั้งสองประเทศก็ได้เข้าร่วมการฝึกอื่น ๆ มาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การฝึกผสม Cope Thunder และการฝึกผสม Cope Tiger 
ทำให้กำลังพลของทั้งสองประเทศ ทั้งในส่วนของผู้ทำการบินและฝ่ายสนับสนุน ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน และสร้างความสัมพันธ์อันดีมาจนปัจจุบัน

พิธีสวนสนามทางอากาศในโอกาสครบรอบ ๔๐ปีการฝึกผสมทางอากาศ(ACE: Air Combined Exercise) ระหว่างกองทัพอากาศไทย(RTAF: Royal Thai Air Force) และกองทัพอากาศสิงคโปร์(RSAF: Republic of Singapore Air Force) ณ กองบิน๑ โคราช วันที่๑๗ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๖(2023)
การบินหมู่และการจัดแสดงภาคพื้นดินของตัวแทนกำลังรบทางอากาศของทั้งสองชาติ กองทัพอากาศไทยประกอบด้วยเครื่องบินขับไล่แบบที่๑๘ข/ค บ.ข.๑๘ข/ค Northrop F-5E/F TH Super Tigris ฝูงบิน๒๑๑ กองบิน๒๑ อุบลราชธานี ซึ่งได้รับการปรับปรุงความทันสมัยเสร็จทั้งหมด ๑๓เครื่องแล้ว
เครื่องบินขับไล่แบบที่๑๙/ก บ.ข.๑๙/ก Lockheed Matin F-16AM/BM EMLU ฝูงบิน๔๐๓ กองบิน๔ ตาคลี ที่ผ่านการปรับปรุงความทันสมัยแล้วทั้ง ๑๘เครื่อง และเครื่องบินขับไล่แบบที่๒๐/ก บ.ข.๒๐/ก Saab Gripen C/D ฝูงบิน๗๐๑ กองบิน๗ สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่ที่ทันสมัยใหม่ที่สุด

กองทัพอากาศสิงคโปร์ประกอบด้วยเครื่องบินขับไล่ Boeing F-15SG Strike Eagle ฝูงบิน149(149 Squadron) และเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-16C/D Block 52 Fighting Falcon ฝูงบิน143(143 Squadron) ซึ่งปัจจุบันวางกำลังที่กองบิน๑ จังหวัดนครราชสีมาในไทย
การฝึกผสมทางอากาศระหว่างกองทัพอากาศไทยและสิงค์โปร์ได้เริ่มต้นมาตั้งแต่การฝึก AIR THAISING 1983 ในปี พ.ศ.๒๕๒๖ จนปรับเปลี่ยนเป็นการฝึก Cope Tiger ในปี พ.ศ.๒๕๓๘(1995) โดยมีกองทัพอากาศสหรัฐฯเข้าร่วมเพิ่ม(https://aagth1.blogspot.com/2023/04/cope-tiger-2023.html)
นับตั้งแต่ที่เริ่มการฝึกครั้งแรกในปี 1983 จนถึงการฝึก Cope Tiger 2023 ล่าสุดในห้วงเดือนมีนาคม ๒๕๖๖ ที่ผ่านมา อากาศยานของกองทัพอากาศสิงคโปร์ที่เคยเข้าร่วมการฝึกเช่น เครื่องบินขับไล่ Hawker Hunter, เครื่องบินขับไล่ F-5S/T และเครื่องบินโจมตี A-4 Skyhawk ก็ได้ปลดประจำการไปหมดแล้ว 

แต่กองทัพอากาศไทยนั้นเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๑๘ข/ค F-5E/F ที่เคยเข้าร่วมการฝึก AIR THAISING จนมาเป็นการฝึก Cope Tiger ก็ยังคงประจำการอยู่ โดยถ้านับระยะเวลาจากที่เครื่องชุดแรกที่เข้าประจำการในปี พ.ศ.๒๕๒๑(1978) นั้นในปัจจุบันก็ประจำการมาถึง ๔๕ปีแล้ว
เช่นเดียวกับเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๑๙/ก F-16A/B Block 15 OCU ฝูงบิน๑๐๓ กองบิน๑ ที่เข้าประจำการในปี พ.ศ.๒๕๓๑(1988) ใกล้เคียงกับที่กองทัพสิงคโปร์นำเครื่องบิน F-16A/B ของตนเข้าประจำการและต่อมาส่งมอบให้กองทัพอากาศไทยในปี พ.ศ.๒๕๔๗(2004) ในฝูงบิน๑๐๓
สิงคโปร์จะได้รับมอบเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-35B Lightning II ชุดแรกสี่เครื่องจาก ๑๒เครื่องในปี 2026(https://aagth1.blogspot.com/2023/03/f-35b-stovl.html) ทั้งนี้ความสัมพันธ์ทางทหารอันแข็งแกร่งระหว่างกองทัพอากาศทั้งสองชาติจะยังคงมีต่อไปผ่านการฝึกร่วมกันครับ