Thailand's Defence Technology Institute (DTI) and Royal Thai Army (RTA) were testing and evaluating two prototype of 105mm light howitzer CS/AH2 at RTA Artillery Center's firing range Khao Phulon, Lopburi Province, Thailand, on 27-30 August 2024.
เมื่อวันที่ 27-30 สิงหาคม 2567 สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ โดยโครงการร่วมวิจัยและพัฒนาต้นแบบปืนใหญ่เบากระสุนวิถี (ปบค.) ขนาด 105 มม.แบบ CS/AH2 ร่วมกับคณะทำงานทดสอบและประเมินผลโครงการฯ ของกองทัพบก
ดำเนินทดสอบและประเมินผลต้นแบบ ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีโค้ง (ปบค.) ขนาด 105 มม. แบบ CS/AH2 จำนวน 2 กระบอก ในระหว่างวันที่ 27 - 30 สิงหาคม 2567 ณ สนามยิงปืนใหญ่ ศูนย์การทหารปืนใหญ่ จังหวัดลพบุรี
โดยได้รับการสนับสนุนจาก โรงเรียนทหารปืนใหญ่ ศูนย์การทหารปืนใหญ่ และ กองพันทหารปืนใหญ่ ศูนย์การทหารปืนใหญ่ หน่วยผู้ใช้งานในการดำเนินการทดสอบและประเมิน
ซึ่งคณะทำงานทดสอบและประเมินผลโครงการฯ ของกองทัพบก ได้กำหนดแนวทาง วิธีการและหลักเกณฑ์การทดสอบโดยคำนึงถึงคุณลักษณะทั่วไป ข้อมูลทางขีปนวิธี และคุณสมบัติที่สำคัญทางด้านยุทธวิธี การส่งกำลังบำรุง และเทคนิค ให้สามารถรองรับภารกิจการใช้งานทางทหาร
ใช้การทดสอบเชิงประจักษ์และการแสดงผลทางเอกสาร ในการพิสูจน์ทราบคุณสมบัติและขีดความสามารถของต้นแบบ ปบค.ฯ และทำการยิงทดสอบประเมินผลทางด้านยุทธวิธี การทดสอบยิงระยะยิงไกลสุด 11.4 กิโลเมตร ด้วยกระสุนระเบิด การยิงหาผลเพื่อทดสอบความแม่นยำ การยิงต่อเนื่อง และการยิงเล็งตรง
ซึ่งผลการทดสอบนี้เป็นไปตามเกณฑ์ที่คณะทำงานทดสอบและประเมินผลโครงการฯ ได้กำหนดไว้สามารถนำเข้าสู่การพิจารณารับรองเป็นผลงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารได้ต่อไป
ต้นแบบปืนใหญ่เบากระสุนวิถีโค้ง CS/AH2 ขนาด 105mm จำนวน ๒กระบอก ที่เป็นโครงการร่วมวิจัยและพัฒนาระหว่างระหว่างสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ สปท. DTI(Defence Technology Institute) และศูนย์การทหารปืนใหญ่ ศป.(Artillery Center) กองทัพบกไทย(RTA: Royal Thai Army)
ได้รับการดำเนินการทดสอบและประเมินผล ซึ่งรวมถึงการทดสอบยิงที่ระยะยิงไกลสุด 11.4km ด้วยกระสุนระเบิด(High Explosive) ขนาด 105mm(ทั้งกระสุนที่จัดหาจากจีนและกระสุนที่ผลิตในไทย) ณ สนามยิงปืนใหญ่ ศูนย์การทหารปืนใหญ่ จังหวัดลพบุรี ระหว่างวันที่ ๒๗-๓๐ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๗(2024) ที่ผ่านมา DTI post ในบัญชี facebook ทางการของตนเมื่อวันที่ ๓๑ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๗
มีขึ้นหลังการส่งมอบต้นแบบ ปบค.CS/AH2 105mm จำนวน ๒กระบอกแก่กองพันทหารปืนใหญ่(Artillery Battalion) ศูนย์การทหารปืนใหญ่(https://aagth1.blogspot.com/2024/04/dti-csah2-105mm.html) หลังผ่านการทดสอบยิงและสาธิตการยิงในห้วงปี พ.ศ.๒๕๖๖(2023)(https://aagth1.blogspot.com/2023/12/dti-csah2-105mm.html, https://aagth1.blogspot.com/2023/09/dti-csah2-105mm.html)
DTI ไทยได้ประกาศสัญญากับบริษัท POLY TECHNOLOGIES, INC. สาธารณรัฐประชาชนจีน สำหรับโครงการวิจัยร่วมและพัฒนาจัดสร้างต้นแบบปืนใหญ่เบากระสุนวิถีโค้งขนาด 105mm แบบ CS/AH2 ระยะที่๑ วงเงิน ๔๘,๐๐๐,๐๐๐บาท($1,439,712) ในเดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๖๔(2021)
ต่อมา DTI ไทยและศูนย์การทหารปืนใหญ่ กองทัพบกไทยลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเมื่อวันที่ ๑๕ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๖( https://aagth1.blogspot.com/2021/09/dti-csah2-105mm.html) นำมาสู่การสร้างต้นแบบส่งมอบแก่หน่วยทดลองใช้งาน สาธิตการยิง และทดสอบและประเมินผลได้ในที่สุด
โดย CS/AH2 เป็นปืนใหญ่เบาที่พัฒนาสำหรับการส่งออกโดย POLY DEFENSE รัฐวิสาหกิจอุตสาหกรรมกลาโหมของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับปืนใหญ่เบากระสุนวิถีโค้ง ปบค.๔๙ BAE Systems M119(L119) ซึ่งทำการประกอบรวมในไทยจำนวน ๒๒กระบอก เข้าประจำการในกองทัพบกไทยตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๔๙(2006)
ต้นแบบปืนใหญ่เบากระสุนวิถีโค้ง ปบค.CS/AH2 105mm ยังพบว่าติดตั้งจอแสดงผลที่ตัวปืน ที่คล้ายคลึงกับปืนใหญ่เบากระสุนวิถีโค้งแบบลากจูง ขนาด 105mm แบบที่๑ NEXTER LG1 Mk III จำนวน ๑๒กระบอกที่เข้าประจำการในปี พ.ศ.๒๕๖๖ ด้วย(https://aagth1.blogspot.com/2023/09/lg1-mk3-105mm.html)
ทำให้พิจารณาได้ว่าปืนใหญ่เบากระสุนวิถีโค้ง ปบค.CS/AH2 105mm น่าจะมีคุณสมบัติระบบควบคุมการยิง Digital ระบบหาพิกัดดาวเทียม ระบบตรวจวัดอุณหภูมิดินขับกระสุนกระแสลม และการเชื่อมโยงกับผู้ตรวจการณ์หน้า(FOO: Forward Observation Officer) เช่นเดียวกัน ซึ่งทั้งหมดต่างใช้กระสุนปืนใหญ่ขนาด 105mm มาตรฐานร่วมกัน(แม้ว่าต้นแบบ ปบค.CS/AH2 จะทดสอบโดยแนะนำให้ใช้กระสุนที่จีนผลิตอยู่ก็ตาม)
เป็นที่เข้าใจว่ากองทัพบกไทยยังมีความต้องการปืนใหญ่เบาขนาด 105mm ใหม่เพื่อทดแทนระบบเก่าที่ใช้งานมานานและล้าสมัยเป็นจำนวนมาก เช่น ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีโค้งอัตตาจรล้อยาง M425 จำนวน ๑๒กระบอก และปืนใหญ่เบากระสุนวิถีโค้งลากจูง M618A2 ๓๒กระบอก ที่สร้างในไทยเป็นต้นครับ
