แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ T-72 แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ T-72 แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

โครเอเชียจัดหารถถังหลัก Leopard 2A8 เยอรมนีและจรวดหลายลำกล้องอัตตาจร M142 HIMARS สหรัฐฯ

Croatia procures Leopard 2A8 MBTs and HIMARS



Croatia is procuring Leopard 2A8s, whose standard equipment includes the Trophy active protection system (pictured). (KNDS)




Croatia is also procuring M142 HIMARS, seen here in USMC sevice during the exercise Keen Sword 25. (USMC) 

โครเอเชียกำลังจัดหารถถังหลัก Leopard 2A8 MBT(Main Battle Tank) เยอรมนี(https://aagth1.blogspot.com/2024/11/leopard-2a7a1-trophy-aps.html, https://aagth1.blogspot.com/2024/10/leopard-2a8-46.html)
และระบบจรวดหลายลำกล้องอัตตาจรล้อยาง M142 HIMARS(High Mobility Artillery Systems) สหรัฐฯ(https://aagth1.blogspot.com/2023/12/lockheed-martin-prsm.html) รองประธานาธิบดีโครเอเชียและรัฐมนตรีกลาโหมโครเอเชีย Ivan Anušić กล่าวต่อรัฐสภาโครเอเชียเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2024

การตอบการตั้งคำถามของรัฐสภาโครเอเชีย รองประธานาธิบดีและรัฐมนตรีกลาโหมโครเอเชีย Anušić กล่าวว่าโครงเอเชียจะจัดหารถถังหลัก Leopard 2A8 จำนวน 40-50คัน โดยสายการผลิตจำนวนมากกำลังเริ่มต้นหลังจากสัญญาได้รับการลงนามและการส่งมอบใน 2ปีหลังจากการลงนาม
ราคาของรถถังหลัก Leopard 2A8 จะถูกลดโดยจำนวนการสนับสนุนทางการเงินที่โครเอเชียจะได้รับจากเยอรมนีสำหรับการส่งมอบรถหุ้มเกราะสำหรับยูเครนภายใต้จดหมายแสดงความจำนง(LoI: Letter of Intent) ที่ได้รับการลงนามระหว่างสองประเทศ

รองประธานาธิบดีและรัฐมนตรีกลาโหมโครเอเชีย Anušić และรัฐมนตรีกลาโหมเยอรมนี Boris Pistorius ได้ลงนามจดหมายแสดงความจำนง LoI ในนครหลวง Berlin เยอรมนีเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2024 สำหรับสองประเทศ
ที่จะส่งมอบรถถังหลัก M-84 จำนวน 30คันและรถรบทหารราบสายพาน M-80 IFV(Infantry Fighting Vehicle) จำนวน 30คันที่ผลิตในอดีตยูโกสลาเวีย(https://aagth1.blogspot.com/2020/06/m-84as1.html) รวมถึงชิ้นส่วนอะไหล่และเครื่องกระสุนแก่ยูเครนจากคลังของโครเอเชีย

ในวันเดียวกับการลงนามจดหมายแสดงความจำนง LoI รัฐมนตรีกลาโหมเยอรมนี Pistorius กล่าวว่า "รถถังชุดแรกจะถูกส่งมอบให้แก่ยูเครนในปีนี้...ข้อเท็จจริงที่ว่าโครเอเชียกำลังมุ่งมั่นสำหรับการจัดซื้อจัดจ้างร่วมของรถถังหลัก Leopard 2A8 กับเรา
เสริมความแข็งแกร่งเยอรมนีในฐานะที่ตั้งทางภาคอุตสาหกรรมและดำรงมาตรฐานคุณสมบัติร่วมต่างๆภายใน NATO" นี่เป็นการจัดซื้อจัดจ้างครั้งใหญ่ที่สุดของกองทัพบกโครเอเชีย(Croatian Army) ตั้งแต่สงครามมาตุภูมิ(Homeland War) หรือสงครามประกาศอิสระภาพ(war of independence) ตามที่ Anušić กล่าว

การจัดซื้อจัดจ้างอื่นๆที่เกี่ยวข้อง รองประธานาธิบดีและรัฐมนตรีกลาโหมโครเอเชีย Anušić  กล่าวว่าโครเอเชียจะได้รับรถรบทหารราบสายพาน M2A2 Bradley ODS(Operation Desert Storm) IFV สหรัฐฯ จำนวน 8คัน(https://aagth1.blogspot.com/2022/02/bradley-ifv.html)
และลงนามสัญญากับสหรัฐฯสำหรับระบบจรวดหลายลำกล้องอัตตาจรล้อยาง HIMARS ภายในสิ้นปี 2024 สำนักงานความร่วมมือความมั่นคงกลาโหมสหรัฐฯ(DSCA: Defense Security Cooperation Agency) ประกาศในเดือนสิงหาคม 2024 ว่า

รัฐบาลสหรัฐฯได้อนุมัติการขายระบบจรวดหลายลำกล้องอัตตาจรล้อยาง M142 HIMARS จำนวน 8ระบบ พร้อมกระสุนจรวดแบบต่างๆ, อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง และการสนับสนุนเป็นวงเงินประมาณ $390 million โดยมีผู้รับสัญญาหลักคือบริษัท Lockheed Martin สหรัฐฯ
โครเอเชียได้ลงนามจัดหารถรบทหารราบสายพาน Bradley IFV จำนวน 89คันภายใต้ความช่วยเหลือรูปแบบการขายยุทโธปกรณ์ส่วนเกิน Excess Defense Articles(EDA) ในเดือนมกราคม 2022 เป็นวงเงิน $196.4 million รถชุดแรก 22คันได้มาถึงโครเอเชียในเดือนธันวาคม 2023 และเข้าสู่การซ่อมใหญ่(overhaul) ในประเทศโดยรถ 62คันจะพร้อมเข้าประจำการได้ในปี 2026 ครับ

วันอังคารที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2567

มาเลเซียสอบสวนปัญหาร้ายแรงต่างๆที่กำลังก่อหายนะต่อรถถังหลัก PT-91M

Malaysia investigates ‘critical problems' plaguing fleet of PT-91M tanks





A Malaysian Army PT-91M main battle tank (MBT). The country has begun investigations into “critical problems” plaguing the fleet, including issues with the vehicle's transmission and fire-control systems. (Malaysia Ministry of Defence)



มาเลเซียได้จัดตั้งทีมสอบสวนร่วมเพื่อที่จะแก้ไขรายการของ "ปัญหาร้ายแรงต่างๆ" ที่ก่อหายนะต่อกรมรถถังหลัก PT-91M Pendekar ของกองทัพบกมาเลเซีย(Malaysian Army, Tentera Darat Malaysia)(https://aagth1.blogspot.com/2015/05/blog-post_8.html)
ทีมสอบสวนนี้ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการของยุทโธปกรณ์และตัวแทนผู้รับสัญญาที่จัดส่งการบริการปรนนิบัติบำรุงรักษาและอะไหล่ต่างๆแก่รถถังหลัก PT-91M Pendekar เหล่านี้(https://aagth1.blogspot.com/2016/09/pt-16-t-72-pt-91.html)

รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซีย Mohamed Khaled Nordin เปิดเผยเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2024 ในการตอบคำถามของเขาต่อรัฐสภาสหพันธรัฐมาเลเซีย คำถามได้ถูกยกขึ้นมาอภิปรายโดยสมาชิกสภามาเลเซียสำหรับ Tanah Merah 
Ikmal Hisham Bin Abdul Aziz ผู้ซึ่งชี้ให้เห็นว่าผู้จัดส่งอะไหล่เหล่านี้ Bumar-Łabędy โปแลนด์ไม่ได้ผลิตชิ้นส่วนบางอย่างที่เกี่ยวกับรถถังหลัก PT-91M อีกต่อไป(https://aagth1.blogspot.com/2017/09/pt-17-pt-91m2-t-72.html)

เขายังเน้นย้ำให้เห็นถึง "สมรรถนะที่ย่ำแย่" ของรถถังหลัก PT-91M Pendekar ในสงครามกำลังดำเนินอยู่ระหว่างรัสเซียและยูเครนเป็นที่น่ากังวล(https://aagth1.blogspot.com/2016/01/pt-91.html)
กองทัพบกมาเลเซียมีประจำการด้วยรถถังหลัก PT-91M Pendekar จำนวน 48คัน และรถถังหลัก PT-91 ได้ถูกส่งมอบแก่มาเลเซียโดย PHZ Bumar โปแลนด์ระหว่างปี 2007-2011

PT-91M Pendekar ทั้ง 48คันประจำการในกรมที่11(11th Regiment, Rejimen ke-11), เหล่าทหารยานเกราะ(Royal Armoured Corps, KAD: Kor Armor Diraja) ของกองทัพบกมาเลเซีย ที่มีที่ตั้ง ณ ค่าย Syed Sirajuddin Camp ใน Gemas ในรัฐ Negeri Sembilan 
รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซียกล่าวในการตอบคำถามของเขา "รถถัง Pendekar เหล่านี้เป็นทรัพยากรเชิงรุกที่มีความสำคัญสำหรับการป้องกันประเทศและมอบการป้องปรามในการปกป้องแผ่นดิน" Mohamed Khaled กล่าว

"เพื่อให้มั่นใจว่ารถถังหลัก Pendekar มีความสามารถที่ใช้ทำงานได้ในหน้าที่การปฏิบัติการและการฝึก รัฐบาลมาเลเซียได้ประกาศสัญญาสำหรับการมอบบริการบำรุงรักษาและอะไหล่ต่างๆ
ที่นำความเชี่ยวชาญในประเทศมาใช้ ลดการพึ่งพาของเราในผู้ผลิตสิ่งอุปกรณ์ดั้งเดิม(OEM: Original Equipment Manufacturer) และความเสี่ยงต่อชิ้นส่วนประกอบต่างๆที่ไม่มีการผลิตอีกต่อไปแล้ว" เขาเสริม

ชิ้นส่วนประกอบต่างๆที่เป็นปัญหาของรถถังหลัก PT-91M Pendekar มาเลเซียเหล่านี้รวมถึงเครื่องเปลี่ยนความเร็ว(transmission) ของ Renk เยอรมนี และระบบควบคุมการยิง(FCS: Fire-Control System) แบบ Sagem Savan-15 ฝรั่งเศส
โดยมีพื้นฐานพัฒนาจากรถถังหลัก T-72M1 รัสเซียซึ่งเป็นรุ่นส่งออกที่ลดสมรรถนะลง กองทัพบกโปแลนด์(Polish Army) เคยมีรถถังหลัก PT-91 ประจำการรวม 232คัน ซึ่งกำลังถูกทยอยปลดประจำการและส่วนหนึ่งถูกส่งมอบให้ยูเครนเพื่อต่อต้านการรุกรานของรัสเซียครับ

วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

รถรบยิงสนับสนุนรถถัง BMPT Terminator เปิดตัวในการรบจริงที่ยูเครน

BMPT Terminator makes combat debut in Ukraine







A 90th Guards Tank Division BMPT providing fire support to T-72 tanks during a March 2021 exercise in Russia's Central Military District. (Russian MoD)



สำนักข่าว RIA Novosti รายงานยืนยันเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2022 ถึงการวางกำลังของรถรบยิงสนับสนุนรถถัง(Tank Support Fighting Vehicle, BMPT: Boevaya Mashina Podderzhki Tankov) Terminator
สามวันหลังจากมีวีดิทัศน์แสดงถึงรถรบยิงสนับสนุนรถถัง BMPT Terminator สี่คันประกอบกำลังกับรถถังหลักตระกูล T-72 จำนวนหนึ่ง ที่อ้างว่าถ่ายได้ในแคว้น Luhansk ทางตะวันออกของยูเครนเริ่มเผยแพร่ในสื่อสังคม online ของรัสเซีย

รถรบยิงสนับสนุนรถถัง BMPT เป็นรถเกราะสายพานติดอาวุธขนาดหนัก มีเกราะป้องกันและความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ซึ่งเทียบได้กับรถถังหลัก ออกแบบมาเพื่อมอบการยิงกดดันต่อทหารราบข้าศึก
BMPT ได้รับการกำหนดแบบโดยกรมยานยนต์-ยานเกราะ-รถถังหลัก(GABTU) รหัสดัชนี Object 199(Obyekt 199) และถูกเรียกในขั้นต้นว่า Ramka 99(Frame 'กรอบ' ในภาษารัสเซีย)

BMPT ถูกทำตลาดแก่ลูกค้าต่างประเทศในชื่อรถรบยิงสนับสนุนรถถัง Terminator น่าจะได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ Hollywood ดังของสหรัฐฯในชื่อเดียวกัน
ซึ่งภายหลังยังได้ถูกนำมาใช้เรียกโดยกระทรวงกลาโหมรัสเซีย(https://aagth1.blogspot.com/2020/09/armata.html, https://aagth1.blogspot.com/2018/06/bmpt-terminator.html, https://aagth1.blogspot.com/2018/04/bmpt-terminator.html)

รถรบยิงสนับสนุนรถถัง BMPT Terminator ใช้รถแคร่ฐานของรถถังหลัก T-72 ที่ดัดแปลงโดยมีล้อกดสายพานหกล้องเช่นเดียวกัน ตัวรถในประจำการกองทัพรัสเซียได้รับการป้องกัน
โดยเกราะปฏิกิริยาแรงระเบิด(ERA: Explosive Reactive Armour) ตระกูล Relikt บนกระโปรงข้างรถ เกราะลูกกรงครอบในส่วนท่อไอเสียเครื่องยนต์และด้านหลังของรถ แผงแผ่นเกราะ ERA ยังป้องกันส่วนลาดด้านหน้าของตัวถังรถ

ป้อมปืนติดตั้งอาวุธด้วยปืนกลหนัก 2A42 ขนาด 30x165mm ป้อนกระสุนสองด้านมีระบบรักษาการทรงตัวสองกระบอก, อาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถังตระกูล Ataka-T สี่นัด ติดตั้งในชุดบรรจุสองท่อยิงในด้านข้างซ้ายและขวา 
และปืนกลร่วมแกน PMT ขนาด 7.62x54Rmm นอกจากนี้ยังมีเครื่องยิงลูกระเบิดอัตโนมัติ AG-17D ขนาด 30mm สองกระบอกติดตั้งภายในแท่นยิงของด้านหน้าตัวรถเหนือสายพานรถด้านหน้าแต่ละข้าง

รถรบยิงสนับสนุนรถถัง BMPT Terminator ได้ถูกสร้างต้นแบบจำนวนหนึ่งเพื่อทดสอบมาตั้งแต่ปี 2005 ต่อมากระทรวงกลาโหมรัสเซียได้สั่งจัดหารถรบยิงสนับสนุนรถถัง BMPT Terminator ในจำนวนไม่มากเข้าประจำการ
โดยหน่วยแรกๆของกองทัพรัสเซียที่นำเข้าประจำการคือ กองพลรถถังพิทักษ์รัฐที่90(90th Guards Tank Division) ซึ่งถูกพบภาพระหว่างการซ้อมรบในมณฑลทหารภาคกลาง(Central Military District) ช่วงเดือนมีนาคม 2021 ครับ

วันอังคารที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2565

รัสเซียเสนออินเดียที่จะพัฒนารถถังหลักใหม่ที่มีพื้นฐานจาก T-14 Armata

Russia Offers India to Develop New Tank Based on Armata, Military Agency Says



A T-14 Armata main battle tank.



รัฐบาลรัสเซียได้เสนอรัฐบาลอินเดียที่จะพัฒนารถถังหลักใหม่ของอินเดียที่มีพื้นฐานจากรถถังหลัก T-14 ในตระกูลระบบรบรถสายพาน Armata(https://aagth1.blogspot.com/2021/01/t-14-armata-t-15.html)
Valeria Reshetnikova โฆษกหญิงของกองบริการด้านความร่วมมือทางทหารและเทคนิคสหพันธรัฐรัสเซีย(Federal Service for Military-Technical Cooperation, FSVTS) กล่าวกับ Sputnik

"โดยคำนึกถึงแผนทางทหารของอินเดียในการเริ่มต้นการพัฒนารถถังหลักใหม่ ในกรอบการทำงานของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลรัสเซีย-อินเดียล่าสุดเกี่ยวกับความร่วมมือทางทหารและเทคนิคและการประชุมสุดยอดรัสเซีย-อินเดีย
หุ้นส่วนของเราอินเดียได้รับข้อเสนอทิศทางใหม่ของความร่วมือ รวมถึงการพัฒนารถรบหุ้มเกราะที่มีพื้นฐานจากระบบ Armata และการสอบถามทางเทคนิคของกลุ่มลูกค้า" Reshetnikova กล่าวในการให้สัมภาษณ์

รัสเซียวางแผนจะเริ่มต้นการส่งมอบรถถังหลัก T-14 Armata ในสายการผลิตจำนวนมากแก่กองทัพรัสเซียในปี 2022 ด้วยส่วนป้อมปืนแบบไร้พลประจำภายในและควบคุมจากระยะไกลแบบสมบูรณ์
พลประจำรถสามนาย(ผู้บังคับรถ, พลขับ, พลยิง) ถูกแยกต่างหากในห้องควบคุมหุ้มเกราะจากส่วนถังเชื้อเพลิงและคลังกระสุน T-14 Armata ติดตั้งอาวุธต่างๆรวมถึงปืนใหญ่รถถังลำกล้องเรียบขนาด 125mm

ก่อนหน้านี้ในปี 2021 กองทัพบกอินเดีย(Indian Army) ได้ออกเอกสารขอข้อมูล(RFI: Request for Information) สำหรับโครงการรถพร้อมรบอนาคต (FRCV: Future Ready Combat Vehicle) จำนวน 1,770คัน ภายในปี 2030
รถถังหลักใหม่ในโครงการ FRCV จะถูกนำมาทดแทนรถถังหลัก T-72 Ajeya และรถถังหลัก T-90 Bhishma ของกองทัพบกอินเดีย ซึ่งอินเดียได้รับสิทธิบัตรการผลิตภายในประเทศจากรัสเซีย(https://aagth1.blogspot.com/2021/04/aps-t-90ssk.html)

ความต้องการของกองทัพบกอินเดียยังรวมถึงการแข่งขันโครงการรถถังเบาใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะนำมาใช้ปฏิบัติการในพื้นที่ภูเขาสูงอากาศเบาเบางทางตอนเหนือของอินเดียที่เป็นพรมแดนติดกับจีน(https://aagth1.blogspot.com/2021/02/type-15-xinjiang.html)
Rosoboronexport หน่วยงานส่งออกอาวุธยุทโธปกรณ์ของรัสเซียได้เสนอรถถังเบาสะเทินน้ำสะเทินบก Sprut-SDM1 แก่อินเดียพร้อมสายการผลิตภายในประเทศ(https://aagth1.blogspot.com/2021/12/sprut-sdm1.html)

Sprut-SDM1 เป็นรถรบสะเทินน้ำสะเทินขนาดเบาแบบเดียวในประเภทเดียวกันที่มีอำนาจการยิงเทียบเท่ารถถังหลักและติดตั้งปืนใหญ่รถถังขนาด 125mm ผู้อำนวยการบริหาร Rosoboronexport รัสเซีย Alexander Mikheyev กล่าวเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2021
"กระสุนทั้งหมดที่ผลิตในอินเดียสำหรับนำมาใช้งานกับรถถังหลัก T-72M1 และรถถังหลัก T-90S สามารถนำมาใช้ได้กับ Sprut-SDM1 ซึ่งไม่มีคู่แข่ง" หัวหน้า Rosoboronexport รัสเซียเน้นย้ำครับ

วันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2564

รัสเซียจะเสนอรถถังเบา Sprut-SDM1 เข้าแข่งขันสำหรับอินเดีย

Russia to bid in tender for delivery of light tanks to India 







"Rosoboronexport with the Sprut-SDM1 lightweight amphibious tank will take part in India’s tender for the delivery of light tanks and will offer the technology transfer and, quite probably, the arrangement of local production of separate units and assemblies," Alexander Mikheyev said







Rosoboronexport หน่วยงานส่งออกอาวุธยุทโธปกรณ์ของรัฐบาลรัสเซียมุ่งหมายที่จะเสนอรถถังเบาสะเทินน้ำสะเทินบก Sprut-SDM1 และสายการผลิตภายประเทศของหน่วยแยกอิสระของพวกมัน
ในการแข่งขันสำหรับการส่งมอบรถถังเบาแก่อินเดีย ผู้อำนวยการบริหาร Rosoboronexport รัสเซีย Alexander Mikheyev กล่าวเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2021(https://aagth1.blogspot.com/2018/09/sprut-sdm1-kaplan-mt.html)

"Rosoboronexport กับรถถังเบาสะเทินน้ำสะเทินบก Sprut-SDM1 จะจำเป็นที่ต้องมีส่วนร่วมในการแข่งขันของอินเดียสำหรับการส่งมอบรถถังเบา 
และจะยังเสนอการถ่ายทอดวิทยาการ และน่าจะค่อนข้างเป็นไปได้ในการจัดวางสายการผลิตภายในประเทศของหน่วยแยกอิสระและการประกอบของพวกมัน" ผู้อำนวยการบริหาร Rosoboronexport รัสเซียกล่าว

Sprut-SDM1 เป็นรถรบสะเทินน้ำสะเทินขนาดเบาแบบเดียวในประเภทเดียวกันที่มีอำนาจการยิงเทียบเท่ารถถังหลักและติดตั้งปืนใหญ่รถถังขนาด 125mm เขาเสริม
"กระสุนทั้งหมดที่ผลิตในอินเดียสำหรับนำมาใช้งานกับรถถังหลัก T-72M1 และรถถังหลัก T-90S สามารถนำมาใช้ได้กับ Sprut-SDM1 ซึ่งไม่มีคู่แข่ง" หัวหน้า Rosoboronexport รัสเซียเน้นย้ำ(https://aagth1.blogspot.com/2021/04/aps-t-90ssk.html)

Sprut-SDM1 สามารถข้ามสิ่งกีดขวางทางน้ำขณะที่ทำการยิงปืนใหญ่รถถังได้ สามารถขนส่งทางทะเลได้ และยังสามารถปฏิบัติการได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
บนภูมิประเทศที่ไม่สามารถผ่านได้สำหรับรถประเทศเดียวกัน เช่นพื้นที่สูงในภูเขาท่ามกลางเบาบาง ในพื้นที่สูงมากและอุณหภูมิต่ำมาก Mikheyev ระบุ

"รถถังนี้สร้างความสนใจจากหลายๆประเทศที่เงื่อนไขสภาพทางภูมิศาสตร์ที่ซับซ้อนที่ผสมผสานการมีอยู่สิ่งกีดขวางทางน้ำ, ลุ่มน้ำ และเทือกเขา
รถรบติดตั้งด้วยอาวุธปล่อยนำวิถีที่ออกแบบเพื่อโจมตีเป้าหมายหุ้มเกราะ รวมถึงรถที่ติดติดตั้งด้วยเกราะปฏิกิริยา(reactive armor) ที่ระยะไกลถึง 5km" หัวหน้า Rosoboronexport รัสเซียกล่าว

รถถังเบาสะเทินน้ำสะเทินบก Sprut-SDM1 ได้รับการพัฒนาโดยบริษัท High Precision Weapons Company ในเครือ Rostec รัฐวิสาหกิจกลุ่มอุตสาหกรรมความมั่นคงรัสเซีย
และมีพื้นฐานจากปืนใหญ่ต่อสู้รถถังอัตตาจร Sprut-SD รถถังเบา Sprut-SDM1 ใหม่มีคุณสมบัติปรับปรุงทีมควบคุมผ่านอุปกรณ์พิเศษที่ติดตั้งสำหรับปฏิบัติการภายในระบบบัญชาการและควบคุมระดับยุทธวิธีที่เป็นหนึ่งเดียวกัน

อำนาจการยิงของรถถังเบา Sprut-SDM1 ได้รับการเพิ่มขยายโดยระบบควบคุมการยิง digital ใหม่ สามารถทำการเคลื่อนที่โดยปราศจากการเติมเชื้อเพลิงใหม่ได้ที่ระยะทาง 500km
สามารถทำการขนส่งได้โดยเรือยกพลขึ้นบกจู่โจม(amphibious assault ship) และเครื่องบินลำเลียงทางทหารและทำการส่งทางอากาศได้โดยวิธีการลงจอดหรือทิ้งร่มพร้อมกันกับพลประจำรถภายในตัวรถ

TASS รายงาน ณ งานแสดงกลาโหมทางทะเลนานาชาติในมหานคร St. Petersburg เมื่อเดือนมิถุนายน 2021 ว่า การเสร็จสิ้นขั้นการทดสอบของรถถังเบา Sprut-SDM1 ได้มีกำหนดการที่จะเริ่มต้นในปี 2022 ซึ่งตามด้วยสายการผลิตจำนวนมากของพวกมันจะถูกจัดวาง
เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2021 ตามการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีรัสเซีย Vladimir Putin และนายกรัฐมนตรีอินเดีย Narendra Modi รัสเซียและอินเดียได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือทางทหารและเทคนิคร่วมกันในช่วงปี 2021-2031

เอกสารที่ได้รับการลงนามโดยการปรากฎตัวของรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย พลเอก Sergei Shoigu และรัฐมนตรีกลาโหมอินเดีย Rajnath Singh(https://aagth1.blogspot.com/2021/11/s-500.html)
ล่าสุดรัสเซียได้กล่าว่าตนได้เริ่มต้นการส่งมอบระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 แก่อินเดียแล้ว และลงนามสัญญาส่งมอบปืนเล็กยาวจู่โจม AK-203 จำนวน 600,000 กระบอกพร้อมถ่ายทอดสายการผลิตในอินเดียด้วยครับ

วันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2564

รัสเซียสั่งจัดหาระบบรถถังหลักไร้คนขับ Shturm

Army 2021: Russia orders Shturm unmanned battle tank system



The Russian MoD has awarded Uralvagonzavod a contract for a prototype of the Shturm UGV system based on the T-72B3 MBT (pictured). (Russian MoD)




Tank Biathlon 2021 ARMY-2021/1 arrival 
Division 1: Russia, China, Uzbekistan. Division 2: Laos, Kyrgyzstan, Mali, Myanmar.


Tank Biathlon 2021: Division 1 2nd arrival Vietnam, Mongolia, Syria, Venezuela 


Tank Biathlon 2021: Division 2 3rd arrival: Laos, Kyrgyzstan, Myanmar 




Tank Biathlon 2021: Division 1 5th arrival Vietnam, Mongolia, Syria, Venezuela


Tank Biathlon 2021: Division 2 5th arrival Laos, Kyrgyzstan, Myanmar

กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้ลงนามสัญญาแรกสำหรับต้นแบบระบบยานยนต์ไร้คนขับ(UGV: Unmanned Ground Vehicle) แบบ Shturm(Project Storm 'พายุ' ในภาษารัสเซีย) ที่มีพื้นฐานบนรถถังหลัก T-72
ณ งานแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์และสัมมนาทางทหาร-เทคนิคนานาชาติ Army 2021 ที่จัดขึ้นใน Kubinka นอกนครหลวง Moscow ระหว่างวันที่ 22-28 สิงหาคม 2021 สำนักข่าว TASS รัสเซียรายงานเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2021

ยานยนต์ไร้คนขับ Shturm UGV เป็นแนวคิดที่มีพื้นฐานบนรถถังหลัก T-72B3 จำนวน 4คัน ที่พัฒนาโดยสถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์กลางที่สาม(Third Central Scientific Research Institute)
และ Uralvagonzavod รัฐวิสาหกิจผู้ผลิตรถถังหลักของรัสเซียรวมถึงรถถังหลัก T-72 ที่อยู่ในเครือ Rostec รัฐวิสาหกิจกลุ่มอุตสาหกรรมความมั่นคงของรัสเซีย

ตามที่วาดแนวความคิดไว้แต่แรก ระบบยานยนต์ไร้คนขับ Shturm UGV จะประกอบด้วยรถถังหลัก T-72B3 ที่ดัดแปลงสำหรับปฏิบัติการไร้คนขับ
คันที่หนึ่งติดตั้งปืนใหญ่รถถังลำกล้องเรียบความยาวกระบอกสั้นแบบ D-414 ขนาด 125mm, คันที่สองติดตั้งเครื่องยิงจรวด thermobaric แบบ RPO-2 Shmel-M,

คันที่สามติดตั้งปืนใหญ่กล 2A42 ขนาด 30mm สองกระบอก(https://aagth1.blogspot.com/2020/09/armata.html) และคันที่สี่ติดตั้งระบบอาวุธลักษณะเดียวกับเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องอัตตาจร thermobaric หนัก TOS-1A
ระบบยานยนต์ไร้คนขับ Shturm UGV คาดว่าจะถูกควบคุมโดยทีมควบคุมที่แข็งแกร่งจำนวน 8นาย ที่ปฏิบัติการภายในรถคันที่ห้าที่ยังมีพื้นฐานบนรถถังหลัง T-72B3

รถถังหลัก T-72B3 เป็นการปรับปรุงความทันสมัยของรถถังหลัก T-72B เดิมรวมถึงการติดตั้งเกราะปฏิกิริยาแรงระเบิด(ERA: Explosive Reactive Armour) แบบ Kontakt-5 และกล้องเล็งพลยิงแบบ Sosna-U
รัสเซียได้ทำการปรับปรุงมาตรฐานรถถังหลัก T-72B3 ของตนเป็นจำนวนมาก และถูกนำมาจัดแสดงในหลายงาน รวมถึงการแข่งขันทางทหาร Tank Biathlon ที่เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งทางทหาร Army Games ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2018/08/tank-biathlon-2018-asean.html)

วันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2563

รัสเซียจะพัฒนารถรบยิงสนับสนุนรถถังที่มีพื้นฐานจากรถถังหลัก Armata

Russian defense firm to develop tank support combat vehicle based on Armata platform

BMP T-15 Armata with Kinzhal combat module (https://vitalykuzmin.net)
The new combat vehicle will get a 57mm gun and will receive a Russian name, possibly the Ilya Muromets, according to the defense manufacturer

Foreign customers file requests for Russia’s advanced tank support combat vehicle

The combat vehicles were demonstrated to foreign customers at the Army-2020 forum in Kubinka last week, the defense manufacturer recalled 

First batch of latest Armata tanks to arrive for Russian troops

The new combat vehicle features fully digitized equipment, an unmanned turret and an isolated armored capsule for the crew (https://vitalykuzmin.net)



Uralvagonzavod ผู้ผลิตรถถังหลักของรัสเซีย(เป็นส่วนหนึ่งของ Rostec รัฐวิสาหกิจอุตสาหกรรมความมั่นคงรัสเซีย) กำลังทำงานกับรถรบสนับสนุนรถถังแบบใหม่ที่มีพื้นฐานจากมาตรฐานระบบยานเกราะสายพานตระกูล Armata 
Alexander Potapov ผู้อำนวยการทั่วไปของ Uralvagonzavod รัสเซียกล่าวกับ TASS เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2020 โดยรถรบรุ่นใหม่จะติดปืนใหญ่กล 57mm และจะได้รับการตั้งชื่อแบบรัสเซียเป็นได้ว่า Ilya Muromets เขากล่าว

"ถ้าเราพูดเกี่ยวกับรถรบสนับสนุนรถถัง ป้อมปืนนี้สามารถติดตั้งบนระบบรถแคร่ฐานสายพาน Armata ด้วยปืนใหญ่กลขนาด 57mm ในขั้นต่อไป เรากำลังทำงานกับตัวเลือกนี้เช่นเดียวกัน เราจะเดินหน้างานวิจัยและพัฒนาในทิศทางนี้" Potapov กล่าว
รถรบสนับสนุนรถถังรุ่นก่อนหน้ามีมีพื้นฐานจากรถถังหลัก T-72 และถูกเรียกว่า Terminator(https://aagth1.blogspot.com/2018/04/bmpt-terminator.html) เมื่อเปรียบเทียบกัน รถรบสนับสนุนรถถังรุ่นใหม่จะมีชื่อเป็นรัสเซีย 

"สิ่งเดียวก็คือชื่อ Terminator เป็นที่นิยมมาก แต่เรายังคงต้องการชื่อรัสเซีย ให้ Terminators อยู่ในสหรัฐฯ ขณะที่เราจะมี Ilya Muromets, Vladimir Monomakh หรืออย่างอื่น" หัวหน้า Uralvagonzavod รัสเซียกล่าว
กองทัพรัสเซีย(Russian Army) ปัจจุบันประจำการรถรบสนับสนุนรถถัง Terminator บนพื้นฐานรถแคร่ฐานของรถถังหลัก T-72(https://aagth1.blogspot.com/2018/06/bmpt-terminator.html)

รถรบสนับสนุนรถถัง Terminator มีคุณสมบัติติดตั้งปืนใหญ่กล 2A42 ขนาด 30mm สองกระบอก พร้อมบรรจุกระสุน 900นัด รถรบยังติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถัง Ataka-T ในท่อยิง 4นัด, เครื่องยิงระเบิดอัตโนมัติ 30mm และปืนกลขนาดลำกล้องใหญ่
รถรบสนับสนุนรถถัง Terminator ถูกออกแบบเพื่อมอบการยิงสนับสนุนสำหรับยานเกราะในการรุก รวมถึงหน้าที่ต่อสู้กับข้าศึกบุคคลติดอาวุธปล่อยต่อสู้รถถังแบบพกพา ซึ่งได้พิสูจน์คุณค่าของตัวมันเองในปฏิบัติการรบที่ซีเรีย

ลูกค้าต่างประเทศได้ส่งคำร้องขอหลายอย่างสำหรับรถรบสนับสนุนรถถัง Terminator รุ่นใหม่ล่าสุด "เราได้รับข้อเรียกร้องสำหรับรถรบสนับสนุนรถถังในฐานะส่วนหนึ่งของความร่วมมือทางทหารและเทคนิค" ผู้อำนวยการทั่วไป Uralvagonzavod กล่าว
โดยเสริมว่ารถรบได้รับการแสดงสาธิตแก่ลูกค้าต่างประเทศในงานประชุมสัมมนาทางทหารและเทคนิคนานาชาติ Army-2020 ที่จัดขึ้นใน Kuniba ใกล้นครหลวง Moscow ระหว่างวันที่ 23-29 สิงหาคม 2020 ที่ผ่านมา

รถถังหลัก T-14 Armata รุ่นใหม่ล่าสุดจะถูกส่งมอบให้กองทัพรัสเซียในเวลาอันสั้น "รถถังชุดแรกจะถูกส่งมอบให้กองทัพในเวลาอันสั้น" ผู้อำนวยการบริหาร Uralvagonzavod รัสเซียกล่าว
Armata เป็นที่สนใจอย่างยิ่งสำหรับทั้งกองทัพรัสเซียและลูกค้าต่างประเทศซึ่งสอบถามความเป็นไปได้ในการส่งมอบหรือสิทธิบัตรการผลิตรถถังหลัก T-14 นี้ หัวหน้า Uralvagonzavod รัสเซียกล่าว

รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้ารัสเซีย Denis Manturov กล่าวก่อนหน้านี้ในการให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ TV Zvezda ว่า รถถังหลัก T-14 Armata จะถูกยอมรับเพื่อเข้าประจำการในกองทัพรัสเซียสิ้นปีนี้หรือต้นปีหน้า(https://aagth1.blogspot.com/2020/04/t-14-armata.html)
Armata เป็นระบบมาตรฐานแคร่ฐานรถสายพานหนักที่ถูกใช้เป็นพื้นฐานเพื่อพัฒนาเป็นรถถังหลัก, รถรบทหารราบ, รถสายพานลำเลียง และยานเกราะอื่นๆบางแบบ(https://aagth1.blogspot.com/2020/02/t-14-armata-2020.html)

รถถังหลัก T-14 ที่มีพื้นฐานจากระบบ Armata ได้เปิดตัวต่อสาธารณชนครั้งแรก ณ จตุรัสแดง นครหลวง Moscow ในการสวนสนามวันชัยชนะสงครามโลกครั้งที่สองเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2015(https://aagth1.blogspot.com/2015/05/2015.html)
รถถังหลักแบบใหม่นี้มีคุณสมบัติติดตั้งอุปกรณ์ Digital เต็มรูปแบบ, ป้อมปืนไร้พลประจำป้อม และเกราะแบบ Capsule แยกต่างหากสำหรับสถานีพลประจำรถทั้ง 3นาย(ผู้บังคับการรถ, พลขับ, พลยิง) ครับ

วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2563

กองทัพรัสเซียต้องการจะทดแทนรถถังหลัก T-14 Armata ด้วยรถถังแห่งอนาคตแบบสองตอน

Russia’s top brass wants to replace Armata with two-section ‘tank of the future’



The concept of a two-section ‘tank of future’ was presented at the Army-2020 international military and technical forum

แนวคิดของ 'รถถังแห่งอนาคต' แบบสองตอนที่ถูกออกแบบเพื่อทดแทนยานเกราะสายพานตระกูล Armata หลังปี 2040s ได้ถูกจัดแสดงในงานประชุมสัมมนาทางทหารและเทคนิคนานาชาติ Army-2020 เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2020
แนวคิดได้ถูกเสนอโดยสถาบันวิจัยและพัฒนาและทดสอบสิ่งอุปกรณ์และอาวุธหุ้มเกราะที่38 ซึ่งเป็นแบบร่างความต้องการสำหรับยานเกราะขั้นก้าวหน้า
ผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยเชื่อว่ารถถังหลัก T-14 Armata และยานเกราะรุ่นต่างๆของมันจะมีประสิทธิภาพในสนามรบจนถึงปี 2040s แต่มันมีความจำเป็นแล้วตอนนี้ที่จะต้องวางรากฐานสำหรับรถถังแห่งอนาคตอันห่างไกล

"ผู้เชี่ยวชาญของสถาบันที่38 ตอนนี้ได้มองเห็นถึงรถรบดังกล่าวในตัวเลือกการออกแบบสองตอนคู่ ส่วนการรบด้านหน้าอาจจะมีห้องควบคุมโดยมีกำลังพล 3นายใน capsule หุ้มเกราะที่ได้รับการป้องกันสูง
ส่วนกลางของ Module คาดว่าจะรองรับป้อมปืนแบบไร้พลประจำภายในป้อมโดยติดตั้งปืนใหญ่ไฟฟ้า-เคมีความร้อน(Electro-Thermochemical) พร้อมระบบบรรจุกระสุนอัตโนมัติ" รองหัวหน้าสถาบันที่38 พันเอก Yevgeny Gubanov กล่าว
ตอนที่สองควบคู่ของรถถังซึ่งส่วนแรกจะรองรับเครื่องยนต์ Gas Turbine ใช้เชื้อเพลิงได้หลายประเภทกำลัง 3,000hp ส่วน module ที่สองยังสามารถติดอากาศยานไร้คนขับหรือยานยนต์ไร้คนขับเพื่อปฏิบัติการลาดตระเวน, ค้นหาทุ่นระเบิด และดำเนินการทำงานรักษาความปลอดภัย

ปืนใหญ่ไฟฟ้า-เคมีความร้อนของรถถังอนาคตจะใช้ส่วนประกอบดินส่งใหม่แทนดินปืนที่จะถูกจุดชนวนโดยตัวจุดชนวนไฟฟ้า รถถังอนาคตจะทำการยิงกระสุนความเร็วเหนือเสียงสูงมาก Hypersonic
ส่วน Module ด้านหน้าของรถถังจะยังติดตั้งเกราะปฏิกิริยา(reactive armor), ระบบทำลายการเล็งด้วยอาวุธนำวิถี Laser และเครื่องกำเนิดคลื่นพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า(EMP: Electromagnetic Pulse)
ส่วน Module ด้านหลังจะรองรับอาวุธปล่อยนำวิถีแบบทำการยิงจากแนวดิ่ง(Vertical Launching Missiles) โดยมีพิสัยปฏิบัติการยิงถึง 12km

ตามที่ผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยอธิบาย การเสริมสร้างอำนาจการยิงและเกราะของรถถังภายใต้รูปแบบที่มีอยู่ในปัจจุบันได้เพิ่มขนาดของพวกมันอย่างมาก รถถังแบบสอนตอนคู่จะช่วยลดแรงกดต่อพื้นดิน(ground pressure) และแก้ปัญหาเหล่านี้
ผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยยังเชื่อว่าห้องเครื่องยนต์เอนกประสงค์ของรถถังสามารถจะใช้รวมกันกับห้องบรรทุกกำลังพลสำหรับทหารราบยานยนต์ และส่วนทำการรบพร้อมอาวุธหลากหลายขนาดและรูปแบบการกำหนดการใช้งาน
พลประจำรถถังจะหยั่งรู้สถานการรบด้วยความช่วยเหลือของวิทยาการมุมมองการมองเห็นแบบ 'เกราะโปร่งใส' เมื่อข้อมูลที่ได้รับจากระบบตรวจจับภายนอกหลายแบบถูกส่งให้พลประจำรถภายในห้อง Capsule หุ้มเกราะครับ

วันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2563

อิหร่านเปิดตัวรถถังหลัก T-72 รุ่นปรับปรุงใหม่ล่าสุด

Iran unveils T-72 upgrade












Iran’s T-72M1 upgrade. (Iranian Ministry of Defence and Armed Forces Logistics / Janes)

อิหร่านเปิดตัวการปรับปรุงความทันสมัยที่ดูเหมือนจะนำมาใช้กับรถถังหลัก T-72M1 ของตน เมื่อรัฐมนตรีกลาโหมอิหร่าน Amir Hatami ได้เข้าร่วมการเปิดสายผลิต ณ ศูนย์อุตสาหกรรมยานเกราะ Bani-Hashem ใกล้ Dorud เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2020
กระทรวงกลาโหมและการส่งกำลังบำรุงกองทัพอิหร่าน(MODAFL: Ministry of Defence and Armed Forces Logistics) ได้เผยแพร่ชุดภาพที่แสดงถึงรถถังหลัก T-72 ที่ได้รับการปรับปรุง

ที่ปรากฎว่าได้นำหลายส่วนประกอบมาจากรถถังหลัก Karrar ซึ่งถูกนำเสนอในฐานะรถถังหลักแบบใหม่เมื่อเปิดตัวในปี 2017 และรถถังหลัก T-72 ที่ได้รับการดัดแปลงที่ถูกจัดแสดงโดยกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามอิหร่าน(IRCG: Islamic Revolution Guards Corps) ในเดือนมิถุนายน 2020

ชุดภาพถ่ายได้แสดงถึงรถถังหลักหลายคันกำลังได้รับการดำเนินการทำงาน เช่นเดียวกับรถถังหลัก T-72M1 ที่ได้รับการปรับปรุงกำลังได้รับการทดสอบ แต่ไม่ได้ให้ข้อบ่งชี้ว่ามีรถถังหลัก Karrar ที่ได้รับการผลิตหรือไม่
ในปี 2018 สำนักข่าวท้องถิ่นของอิหร่านรายงานว่ากองทัพอิหร่านจะได้รับมอบรถถังหลักที่ผลิตใหม่และปรับปรุงรถถังหลักที่มีอยู่เดิมถึง 800คัน

การปรับปรุงรถถังหลัก T-72M1 ที่ปรากฎได้รวมการนำการดัดแปลงอย่างมากหลายอย่างต่อป้อมปืนที่มีอยู่เดิมเพื่อให้เกราะด้านหน้ามีความหนามากขึ้น เกราะด้านข้างของป้อมปืนขณะนี้ได้มีลักษณะที่เป็นทรงแบนมากกว่าที่จะเป็นทรงโค้งมน
ป้อม, ปืนกล และฝาปิดเปิดของสถานีผู้บังคับรถได้ถูกถอดออกไป โดยภายหลังได้เปลี่ยนเป็นฝาปิดเปิดไปทางด้านหน้าแบบพื้นฐาน 

ขณะที่มีหลายคำถามผุดขึ้นเกี่ยวกับขีดความสามารถของรถถังในการตรวจจับเป้าหมายตามที่กล้องเล็งของสถานี ผบ.รถ แบบ TKN-3 ได้ถูกถอดออกจากป้อม ผบ.รถ
เป็นไปได้ที่ ผบ.รถ อาจจะปฏิบัติการใช้ป้อมปืน Remote ใหม่(RWS: Remote Weapon Station) ที่วางบนสิ่งที่น่าจะเป็นหน่วยกำเนิดพลังงานเสริม(APU: Auxiliary Power Unit) ที่ติดไปทางด้านหลังของป้อมปืน

โดยติดตั้งอาวุธปืนกลขนาด 7.62mm นี่น่าจะสันนิษฐานว่าป้อมปืน RWS มีระบบกล้องเล็ง electo-optical ในตนเอง แม้ว่าจะไม่สามารถเห็นได้ในชุดภาพก็ตาม
สถานีพลยิงยังได้รับการติดตั้งกล้องเล็งแบบใหม่แทนกล้องเล็งหลักแบบ TPD-K1 ป้อมปืนยังพบการติดตั้งเสาระบบตรวจวัดสภาพอากาศ รวมถึงระบบแจ้งเตือนการถูกตรวจจับด้วย Laser สถานีพลขับด้านหน้ารถแคร่ฐานยังพบการติดตั้งกล้องช่วยเพิ่มการมองเห็นด้วยครับ