วันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2563

เครื่องบินขับไล่ F-15QA กาตาร์ทำการบินครั้งแรก

Maiden flight for Qatari F-15QA

A screenshot of a Qatari MoD video showing the conclusion of the maiden flight of the first F-15QA for Qatar. Source: Qatari MoD via Twitter
https://www.janes.com/article/95484/maiden-flight-for-qatari-f-15qa


เครื่องบินขับไล่ Boeing F-15QA Advanced Eagle เครื่องแรกจากจำนวน 36เครื่องสำหรับกาตาร์ได้ทำการบินครั้งแรกจากโรงงานอากาศยานของบริษัท Boeing สหรัฐฯที่ St Louis ในมลรัฐฯ Missouri
ก้าวย่างที่สำคัญนี้ได้รับการประกาศโดยกระทรวงกลาโหมกาตาร์เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2020 หลังจากที่ลงนามสัญญาจัดหาในเดือนธันวาคมปี 2017(https://aagth1.blogspot.com/2017/12/boeing-f-15qa-36.html)

เครื่องบินขับไล่ F-15QA เป็นเครื่องบินขับไล่ตระกูล Advanced Eagle รุ่นเฉพาะสำหรับกาตาร์ เช่นเดียวกับเครื่องบินขับไล่ F-15SA สำหรับซาอุดีอาระเบีย และเครื่องบินขับไล่ F-15EX สำหรับกองทัพอากาศสหรัฐ(USAF: US Air Force)
(https://aagth1.blogspot.com/2019/12/f-15ex-8-2020.html, https://aagth1.blogspot.com/2019/03/f-15ex-8-f-35a-48-2020.html, https://aagth1.blogspot.com/2019/03/4-f-15x.html)

เครื่องบินขับไล่ตระกูล F-15 Advanced Eagle ได้เพิ่มขยายขีดความสามารถจากคุณสมบัติของอุปกรณ์และชุดคำสั่งจำนวนมากที่เหนือกว่าเครื่องบินขับไล่ F-15 Eagle รุ่นก่อนหน้า
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณสมบัติเหล่านี้ประกอบด้วยการเพิ่มตำบลติดอาวุธใต้ปีกอีกสองจุดแข็ง(ทำให้ตำบลอาวุธเพิ่มจากเดิม 9จุดแข็งเป็น 11จุดแข็ง),

ตัวเลือกในการติดตั้งห้องนักบินพร้อมจอแสดงผลขนาดใหญ่(LAD: Large-Area Display) ซึ่งเครื่องบินขับไล่ F-15SA ซาอุดิอาระเบียไม่ได้นำทางเลือกนี้มาใช้, ระบบควบคุมการบินแบบ fly-by-wire,
AESA(Active Electronically Scanned Array) radar แบบ Raytheon AN/APG-82(V)1 หรือ AN/APG-63(V)3, เครื่องยนต์ไอพ่น Turbofan แบบ General Electric GE F-110-129(https://aagth1.blogspot.com/2020/01/general-electric-f-15ex.html),

หมวกนักบินติดศูนย์เล็ง Digital JHMCS(Joint Helmet-Mounted Cueing System) ทั้งห้องนักบินหน้าและห้องเจ้าหน้าที่ระบบอาวุธ(WSO: Weapon Systems Officer) ด้านหลัง และระบบสงคราม Electronic(EW: Electronic Warfare) Digital เช่นเดียวกับการปรับปรุงอื่นๆ
เครื่องบินขับไล่ F-15QA กาตาร์ยังจะได้รับการติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำ Boeing AGM-84L Harpoon Block 2 ด้วย(https://aagth1.blogspot.com/2019/05/f-15qa-harpoon-block-2-f-16v.html)

กองทัพอากาศกาตาร์(QEAF: Qatar Emiri Air Force) นอกจากการจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-15QA สหรัฐฯ 36เครื่อง ที่การผลิตเครื่องได้เริ่มต้นในเดือนสิงหาคม 2018 และการส่งมอบจะดำเนินไปจนถึงสิ้นปี 2022 แล้ว
ยังได้สั่งจัดหาเครื่องบินขับไล่ Dassault Rafale ฝรั่งเศส 36เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2019/06/rafale.html) และเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon 24เครื่องจากสหราชอาณาจักรด้วยครับ(https://aagth1.blogspot.com/2017/09/eurofighter-typhoon.html)

วันพุธที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2563

กองทัพบกสหรัฐฯยืดเวลาการแข่งขันยานเกราะล้อยาง Stryker ติดป้อมปืนใหญ่กล 30mm อีกครั้ง

Covid-19: US Army extends up-gunned Stryker competition again
Stryker Infantry Carrier Vehicles make up the tactical action centre for the 2nd Cavalry Regiment during Dragoon Ready in Hohenfels, Germany, in 2018.




The US Army is moving out with a new requirement to up-gun its Stryker ICVs with a 30 mm cannon, but has now given companies an additional two months to submit proposals because of Covid-19. Source: US Army
https://www.janes.com/article/95453/covid-19-us-army-extends-up-gunned-stryker-competition-again


การแข่งขันของผู้ขายสำหรับสัญญาเพื่อเพิ่มขนาดปืนของยานเกราะล้อยาง Stryker กองทัพบกสหรัฐฯ(US Army) ด้วยปืนใหญ่กล 30mm ขณะนี้ได้ถูกเลื่อนไปอีกสองเดือนที่ผู้เข้าแข่งขันจะส่งข้อเสนอของตน
แม้ว่ากองทัพบกสหรัฐฯจะกล่าวว่าการตัดสินใจไม่ควรทำให้แผนที่จะวางกำลังระบบอาวุธแก่ทหารในปี 2022 ล่าช้าก็ตาม(https://aagth1.blogspot.com/2016/10/stryker-30mm.html)

กองทัพบกสหรัฐฯประกาศเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2020 ว่าผู้เข้าแข่งขันโครงการระบบอาวุธลำกล้องขนาดกลาง(MCWS: Medium Caliber Weapons System) ขณะนี้มีเวลาจนถึงวันที่ 10 สิงหาคม 2020 ที่จะส่งข้อเสนอลายลักษณ์อักษร, ตัวอย่างการแข่งขัน และแบบแผนยานเกราะ
กองทัพบกสหรัฐฯกล่าวกับ Jane's ว่าการตัดสินใจนี้ถูกนำมาใช้เพื่อดำรงการแข่งขัน ณ เวลาที่ประเทศชาติกำลังต่อสู้กับผลกระทบของการระบาดของ coronavirus Covid-19

"การยืดเวลาเป็นผลจาก Covid-19 ที่เกี่ยวข้องกับปิดโรงงานของผู้ขายหลายแห่งและการจำกัดการเดินทางที่ขัดขวางความคืบหน้าของข้อเสนอ การยืดเวลาปกป้องการเข้าถึงความพยายามการแข่งขัน"
Ashley John ผู้อำนวยการฝ่ายสาธารณะและรัฐสภา สำนักงานบริหารโครงการระบบการรบภาคพื้นดิน เขียนในจดหมาย Email เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2020

แรกเริ่มบริษัทต่างๆมีเวลาจนถึงวันที่ 8 มิถุนายน 2020 ที่จะส่งมอบตัวอย่างการแข่งขันโครงการ MWCS ที่ยังเรียกว่า "ตัวอย่างระบบพร้อมสายการผลิต", แบบแผนเกราะ และข้อเสนอลายลักษณ์อักษรแก่กองทัพบกสหรัฐฯ
แต่ในกลางเดือนมีนาคม 2020 ผู้จัดการโครงการเลือกที่จะอนุญาตให้ผู้เข้าแข่งขันมีเวลาเพิ่มเติมอีก 30วันเพื่อส่งมอบตัวอย่างการแข่งขันและแบบแผนยานเกราะของตน

อย่างไรก็ตามหลังได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ขาย กองทัพบกสหรัฐฯเลือกที่จะยืดเวลาเส้นตายการส่งมอบสำหรับทุกอย่างรวมถึงข้อเสนอลายลักษณ์อักษรจนถึงวันที่ 10 สิงหาคม 2020
ซึ่งยานเกราะล้อยางลำเลียงพล M1296 Stryker Infantry Carrier Vehicle(ICV) Dragoon รุ่นติดป้อมปืนใหญ่กล 30mm ของบริษัท General Dynamics Land Systems(GDLS) ได้เคยถูกนำไปทดสอบที่ยุโรปมาแล้ว(https://aagth1.blogspot.com/2017/10/stryker.html)

"การตอบสนองต่อการสอบถามระบุว่าการยืดเวลาเพิ่มเติม 30วันจะรับประกันในคำสั่งเพื่อมอบโอกาสสูงสุดต่อผู้แข่งขันทั้งหมดสำหรับข้อเสนอที่ประสบความสำเร็จ
ผู้จัดการโครงการจะจะเป็นเจ้าภาพการประชุมข้อเสนอล่วงหน้าเฉพาะรายในช่วงปลายเดือนเมษายน โดยผู้เข้าแข่งขันแต่ละรายเพื่อจะประเมินผลกระทบของ Covid-19 เพิ่มเติมบนพื้นฐานการพัฒนาความเข้าใจของสถานการณ์" John กล่าวครับ

วันอังคารที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2563

เอกสารวิจัยชี้ถึงวิทยาการเรือดำน้ำนิวเคลียร์ยุคอนาคตของกองทัพเรือจีน

Research papers point to PLAN’s next-generation submarine technologies


The PLAN’s next generation of nuclear-powered submarines is likely to incorporate significant technological advances over the systems used by the Type 093-class SSNs, one of which is seen here. Source: Via www.81.cn
https://www.janes.com/article/95445/research-papers-point-to-plan-s-next-generation-submarine-technologies

สองเอกสารงานวิจัยของจันที่ปรากฎขึ้นในต้นเดือนเมษายนตาม social media ได้ให้หลักฐานเพิ่มเติมของการพัฒนาวิทยาการที่สำคัญต่างๆ
ที่อาจจะนำมาใช้ร่วมในการออกแบบเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ยุคอนาคตสำหรับกองทัพเรือปลดปล่อยประชาชนจีน(PLAN: People's Liberation Army Navy)

เอกสารแรกเกี่ยวกับ "การเพิ่มประสิทธิภาพที่เหมาะสมของแท่นยิงอาวุธปล่อยนำวิถีแนวดิ่ง" และเอกสารที่สองเกี่ยวกับ "การวิเคราะห์การแพร่คลื่นเสียงของระบบขับเคลื่อนไร้ใบจักร pumpjet"
ถ้าเอกสารเหล่านี้สะท้อนวิทยาการที่จะถูกนำมาใช้เข้ากับเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ยุคที่สามของจีน มันจะเป็นการบ่งชี้ถึงความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่กว่าความสำเร็จในการพัฒนาเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ยุคแรกและยุคที่สองของจีน

จากเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ยุคแรกของจีนคือเรือดำน้ำโจมตีพลังงานนิวเคลียร์ชั้น Type 091(NATO กำหนดรหัสชั้น Han) ที่ถูกปลดประจำการลงแล้ว(https://aagth1.blogspot.com/2016/10/type-091-han-8.html)
สู่เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ยุคที่สองคือเรือดำน้ำโจมตีพลังงานนิวเคลียร์ชั้น Type 093 SSN(NATO กำหนดรหัสชั้น Shang) และเรือดำน้ำติดขีปนาวุธพลังงานนิวเคลียร์ชั้น Type 094 SSBN(NATO กำหนดรหัสชั้น Jin)(https://aagth1.blogspot.com/2019/04/type-055-type-094.html)

แนวคิดการปฏิบัติการของกองทัพเรือปลดปล่อยประชาชนจีนสำหรับเรือดำน้ำโจมตีนิวเคลียร์และเรือดำน้ำโจมตีตามแบบ(SSK) ดูเหมือนจะให้ความสำคัญกับสงครามปราบเรือผิวน้ำ(AsuW: Anti-Surface ship Warfare) มากกว่าสงครามปราบเรือดำน้ำ(ASW: Anti-Submarine Warfare)
ดังนั้นจึงมีการคาดการณ์แพร่หลายว่าเรือดำน้ำโจมตีพลังงานนิวเคลียร์ชั้น Type 095 SSN จะติดตั้งท่อยิงแนวดิ่งสำหรับอาวุธปล่อยนำวิถีร่อนต่อต้านเรือผิวน้ำ(ASCM: Anti-Ship Cruise Missile) และยังเป็นไปได้กับอาวุธปล่อยนำวิถีร่อนโจมตีภาคพื้นดิน(LACM: Land-Attack Cruise Missile)

เอกสารหนึ่งที่ปรากฎขึ้นล่าสุดนั้นได้รับการเผยแพร่ในวารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเรือ(Ship Science and Technology Journal) ฉบับบเดือนเมษายน 2017
แต่เอกสารวิจัยอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับระบบแท่นยิงแนวดิ่ง(VLS: Vertical Launch System) ย้อนไปได้ถึงอย่างน้อยปี 2005 สะท้อนว่านี้เป็นงานวิจัยที่มีการดำเนินพื้นที่การทำงานสำหรับช่วงระยะเวลาที่ยาวนานมาก

ขีดความสามารถต่างๆที่มีในเรือดำน้ำโจมตีพลังงานนิวเคลียร์ชั้น Virginia กองทัพเรือสหรัฐฯ(US Navy) รูปแบบขั้นต้นประกอบด้วยท่อยิงแนวดิ่งเอกเทศ 12ท่อ และภายหลังเป็นท่อยิง Virginia Payload Tube สองท่อที่สามารถรองรับอาวุธปล่อยนำวิถีในจำนวนเท่ากัน
จะได้รับการศึกษาและทำแบบจำลองอย่างจริงจังโดยสถาบันวิจัยทางเรือหลายๆแห่งของจีน และและอาจมีอิทธิพลต่อการออกแบบเรือดำน้ำโจมตีนิวเคลียร์ชั้น Type 095

ระบบขับเคลื่อน pumpjet ที่ถูกอ้างถึงในเอกสารวิจัยที่สองถูกเผยแพร่ในวารสารกลศาสตร์ทางเรือ(Journal of Ship Mechanics) ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2018
เป็นทางเลือกต่อระบบขับเคลื่อนตามแบบ ประกอบด้วยกังหันหลายใบจักรและแกน stator ที่ไม่เคลื่อนที่ภายในท่อ เช่นเดียวกับในแนวคิดกังหัน single-stage turbine ครับ

วันจันทร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2563

Boeing สหรัฐฯและออสเตรเลียมีความคืบหน้าการพัฒนาอากาศยานไร้คนขับ Loyal Wingman

Boeing Australia advances Loyal Wingman development
The first Loyal Wingman unmanned aircraft prototype has entered the systems installation and functional testing phase following its latest development milestones. Source: Boeing Australia
https://www.janes.com/article/95446/boeing-australia-advances-loyal-wingman-development

ต้นแบบอากาศยานไร้คนขับ Loyal Wingman เครื่องแรกของบริษัท Boeing Australia สหรัฐฯ-ออสเตรเลีย ได้ถูกติดตั้งบนฐานล้อของตนและเดินเครื่องระบบไฟฟฟ้าของตนเป็นครั้งแรก ตามที่บริษัทประกาศเมื่อ 8 เมษายน 2020
ก้าวสำคัญของการพัฒนาล่าสุดมีตามหลังการประกอบส่วนโครงสร้างลำตัวแรกของอากาศยานในเดือนกุมภาพันธ์ และนำไปสู่การติดตั้งระบบต่างๆเพิ่มเติมและการทำงานและการทดสอบการบูรณาการจากฐานล้อลงจอดของเครื่องเอง

อากาศยานไร้คนขับนี้เป็นหนึ่งในสามเครื่องที่ได้รับการพัฒนาในฐานะส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาขั้นก้าวหน้าคู่บินภักดี(Loyal Wingman-Advanced Development Programme) ที่ยังรู้จักในอีกชื่อว่า Airpower Teaming System(ATS)
ในความเป็นหุ้นส่วนกับกองทัพอากาศออสเตรเลีย(RAAF: Royal Australian Air Force)(https://aagth1.blogspot.com/2019/02/boeing-airpower-teaming-system.html)

"หลักก้าวย่างน้ำหนักบนฐานล้อคือเมื่อโครงสร้างลำตัวหลักวางบนฐานล้อของมันเป็นครั้งแรก พลังงาน(ยังได้รับ)การเปิดขึ้นผ่านระบบจ่ายไฟฟ้าของเครื่องซึ่งสนับสนุนการเริ่มต้นของการทดสอบรับรองระดับโรงงาน
ก้าวย่างนี้ทำให้มีความคืบหน้าที่รวดเร็วสำหรับการติดตั้งระบบและการทำงานและการทดสอบการบูรณาการจากฐานล้อลงจอดของตัวเครื่องเอง" Dr Shane Arnott ผู้อำนวยการโครงการ Boeing ATS กล่าวกับ Jane's ในจดหมายแถลง

"ตามหลังการรับรองระดับโรงงานของอากาศยาน มันจะไปสู่การทดสอบบนทางขับที่ก้าวไปสู่การบินขึ้นครั้งแรกซึ่งจะมีขึ้นในปี 2020 ที่ออสเตรเลีย นอกเหนือจากนั้นเราไม่ได้ให้การระบุวันที่หรื่อสถานที่ของการทำการบิน
อย่างไรก็ตามเราทราบว่าอากาศยานแบบนี้ต้องถูกออกแบบมาสำหรับการผลิตแบะทดสอบที่รวดเร็ว และเราได้ได้ทำเสร็จเช่นนั้น" Dr Arnott อธิบายเสริม

ต้นแบบเครื่องแรกยังจะให้บทเรียนสำคัญไปสู่การผลิตของอากาศยานไร้คนขับ ATS ซึ่ง Boeing Australia กำลังพัฒนาสำหรับการตลาดภาคความมั่นคงทั่วโลก
มันเป็นการจินตนาการว่าผู้ปฏิบัติงานที่เป็นไปได้ในอนาคตจะสามารถปรับแต่งระบบตรวจจับและระบบต่างของอากาศยานไร้คนขับ ATS เพื่อให้ตรงความต้องการเฉพาะของตน

Jane's ได้รายงานก่อนหน้านี้ว่า มีมากกว่า 20บริษัทกำลังสนับสนุน Boeing Australia ในความพยายามนี้ ด้วยการออกแบบ, การพัฒนา และการผลิตอากาศยานไร้คนขับต้นแบบ
ที่ได้รับการดำเนินงานทั่วพื้นที่ของสามรัฐในออสเตรเลียที่ไม่เปิดเผย แม้ว่าบริษัท Boeing สหรัฐฯปฏิเสธที่ให้ชื่อหรือระบุสถานที่ตั้งก็ตามครับ

วันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2563

กองทัพอากาศไทยยกเลิกการจัดหาเครื่องบินขับไล่และฝึก T-50TH เกาหลีใต้เพิ่ม ๒เครื่อง


Royal Thai Air Force's Korea Aerospace Industries (KAI) T-50TH Golden Eagle 401st Squadron, Wing 4 Takhli .(https://www.facebook.com/chittapon.kaewkiriya, https://www.facebook.com/people/Tanapol-Arunwong/100002183542138)

Royal Thai Air Force canceled procurement for additional two KAI T-50TH Golden Eagle
กองทัพอากาศยกเลิกประกาศเชิญชวนชื้อเครื่องบินฝึกนักบินขับไล่ขั้นต้น จำนวน ๒เครื่อง พร้อมอะไหล่ อุปกรณ์ เครื่องมือที่จำเป็น และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่จำเป็น โดยวิธีเฉพาะเจาะจง
http://www.dae.rtaf.mi.th/attachments/article/1142/63047016888.pdf


เอกสารของ กรมช่างอากาศ กองทัพอากาศไทย ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ ๑ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๓(2020) ระบุถึงการยกเลิกประกาศเชิญชวนชื้อเครื่องบินฝึกนักบินขับไล่ขั้นต้น จำนวน ๒เครื่อง วงเงิน ๒,๔๔๙,๙๙๙,๕๓๑.๕๐บาท($78,285,000)
โดยเป็นการยกเลิกโครงการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่และฝึกแบบที่๒ บ.ขฝ.๒ T-50TH Golden Eagle ระยะที่๔ จากบริษัท Korea Aerospace Industries(KAI) สาธารณรัฐเกาหลี เพิ่มเติม ๒เครื่อง ตามที่ได้มีเอกสารประกาศก่อนหน้าเมื่อวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓

เป็นที่เข้าใจว่าการยกเลิกการจัดหา บ.ขฝ.๒ T-50TH เพิ่ม ๒เครื่องของกองทัพอากาศไทย เป็นส่วนหนึ่งของแผนการตัดงบประมาณกระทรวงกลาโหมช่วงปี ๒๕๖๓-๒๕๖๔(2020-2021) เนื่องจากการระบาดของ coronavirus Covid-19(https://aagth1.blogspot.com/2020/04/covid-19.html)
นั่นทำให้เครื่องบินขับไล่และฝึก บ.ขฝ.๒ T-50TH ที่ได้มีการสั่งจัดหาเข้าประจำการ ณ ฝูงบิน๔๐๑ กองบิน๔ ตาคลี จะมีเครื่องประจำฝูงรวม ๑๒เครื่องเท่านั้น จากที่ตั้งไว้ว่าที่ฝูงบินขับไล่โจมตีควรจะมีที่จำนวน ๑๔เครื่องต่อหนึ่งฝูงบิน

กองทัพอากาศไทยได้สั่งจัดหาเครื่องบินขับไล่และฝึก บ.ขฝ.๒ T-50TH จาก KAI สาธารณรัฐเกาหลีรวมสองระยะ โดยระยะที่๑ จำนวน ๔เครื่องซึ่งมีพิธีบรรจุเข้าประจำการเมื่อวันที่ ๔ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๑(2018)(https://aagth1.blogspot.com/2018/04/t-50th.html)
และระยะที่๒ จำนวน ๘เครื่องซึ่งได้รับมอบในช่วงปลายปี พ.ศ.๒๕๖๒(2019) ถึงปี ๒๕๖๓ โดยกองทัพอากาศได้นำ บ.ขฝ.๒ T-50TH ไปปฏิบัติภารกิจต่างๆรวมถึงการฝึกใช้อาวุธทางอากาศจริงแล้ว(https://aagth1.blogspot.com/2019/12/blog-post_21.html)

ขณะที่โครงการจัดหาเครื่องบินฝึกนักบินขับไล่ขั้นต้น ระยะที่๓ ของกองทัพอากาศไทยนี้เป็นการปรับปรุงขีดความสามารถของ บ.ขฝ.๒ T-50TH ฝูงบิน๔๐๑ ทั้ง ๑๒เครื่อง วงเงิน 62.3 billion Korean Won($52.5 million ประมาณ ๑,๖๕๙,๓๖๐,๕๐๐บาท)
ประกอบด้วยการติดตั้ง Radar แบบ Elta EL/M-2032 อิสราเอล, ระบบแจ้งเตือนการถูกตรวจจับด้วย Radar(RWR: Radar Warning Receiver) และระบบจ่ายเป้าลวง(CMDS: Countermeasures Dispenser System) เพิ่มเติม(https://aagth1.blogspot.com/2019/05/kai-t-50th.html)

ตามแผนเดิมนอกจากโครงการจัดหาเครื่องบินฝึกนักบินขับไล่ขั้นต้น ระยะที่๔ ในการจัดหา บ.ขฝ.๒ T-50TH เพิ่มเติม ๒เครื่อง ยังจะรวมถึงการปรับปรุงขีดความสามารถเพิ่มเติมทั้งการบูรณาการระบบเครือข่าย Link-T Data Link ที่ไทยพัฒนาเอง
และขีดความสามารถการใช้อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้ Diehl IRIS-T เยอรมนี(https://aagth1.blogspot.com/2018/11/iris-t.html) เช่นที่ได้รับการติดตั้งกับเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๑๘ F-5TH Super Tigris(https://aagth1.blogspot.com/2019/11/f-5th-super-tigris-iris-t.html)

การพัฒนากำลังทางอากาศที่มีการเผยเพร่ในสมุดปกขาวกองทัพอากาศไทย White Paper 2020(https://aagth1.blogspot.com/2020/02/2020.html) ในช่วง ๒๕๖๓-๒๕๖๔(2020-2021) คาดว่ายังมีอีกหลายโครงที่จะถูกยกเลิกตามนโยบายตัดงบประมาณกลาโหมที่เป็นผลกระทบจาก Covid-19
เช่น โครงจัดหาเครื่องบินฝึกทดแทนเครื่องบินฝึก บ.ฝ.๑๙ Pilatus PC-9 สวิตเซอร์แลนด์ ที่จะปลดประจำการในปี พ.ศ.๒๕๖๖(2023), โครงจัดหาเครื่องบินฝึกนักบินลำเลียงขั้นต้น จำนวน ๔เครื่อง ที่น่าจะเป็นการจัดหาเครื่องบินฝึก บ.ฝ.๒๐ Diamond DA42 ออสเตรีย เพิ่มเติม ณ โรงเรียนการบิน,

โครงการปรับปรุงขีดความสามารถเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ บ.ค.๑ SAAB 340 AEW Erieye ฝูงบิน๗๐๒ กองบิน๗ สุราษฏร์ธานี, โครงการพัฒนาขีดความสามารถการส่งกำลังบำรุงเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๒๐/ก SAAB Gripen 39 C/D ฝูงบิน๗๐๑ กองบิน๗
และโครงจัดหาเครื่องบินโจมตีเบา จำนวน ๑๒เครื่อง ทดแทนเครื่องบินขับไล่และฝึก บ.ขฝ.๑ Aero Vodochody L-39ZA/ART Albatros สาธารณรัฐเช็กที่ใช้งานมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๓๗(1994) ที่ปัจจุบันประจำการ ณ ฝูงบิน๔๑๑ กองบิน๔๑ เชียงใหม่ เป็นฝูงเดียวและฝูงสุดท้าย เป็นต้นครับ

วันเสาร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2563

จีนสามารถใช้เครื่องบินลำเลียง Y-20 ขนส่งรถถังเบา Type 15 ได้สองคัน

China’s Y-20 aircraft capable of transporting two Type 15 lightweight tanks, claims state media




Computer-generated imagery from a 7 April CCTV 7 report showing two Type 15 tanks in the cargo bay of a Y-20 transport aircraft. Source: CCTV 7
https://www.janes.com/article/95441/china-s-y-20-aircraft-capable-of-transporting-two-type-15-lightweight-tanks-claims-state-media


สื่อของรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนอ้างว่าเครื่องบินลำเลียงทางยุทธศาสตร์สี่เครื่องยนต์ไอพ่น Turbofan Xian Aircraft Corporation(XAC) Y-20A Kunpeng มีขีดความสามารถในการขนส่งรถถังเบา Type 15(หรือยังมักถูกอ้างถึงในชื่อรถถังเบา ZTQ-15) ได้ถึง 2คัน
เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2020 ในรายงานเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และวิทยาการทางทหารของสถานีโทรทัศน์ China Central Television 7(CCTV 7) จีน

รายการของสถานีโทรทัศน์ CCTV 7 ยังได้เผยแพร่ภาพที่สร้างจาก Computer กำลังแสดงถึงรถถังเบา Type 15 จำนวน 2คันในห้องบรรทุกของเครื่องบินลำเลียงทางยุทธศาสตร์ Y-20A
ซึ่งมีการประมาณว่าเครื่องบินลำเลียง Y-20A มีน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 66tonnes และมีน้ำหนักบินขึ้นสูงสุด 220tonnes ตามข้อมูลจาก Jane's All the World's Aircraft

แหล่งข้อมูลทางการจีนได้ให้พิสัยทำการของเครื่องบินลำเลียง Y-20A ซึ่งหนังสือพิมพ์ของรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน Global Times อ้างว่า
เครื่องบินลำเลียง Y-20A ยังมีขีดความสามารถขนส่งรถถังหลักตระกูล Type 99A น้ำหนัก 52-54tonne ได้ในพิสัยการบิน 4,000km ด้วยน้ำหนักบรรทุกสูงสุด

รถถังเบา Type 15 ซึ่งเข้าประจำการอย่างเป็นทางการในกองทัพบกปลดปล่อยประชาชนจีน(PLAGF: People's Liberation Army Ground Force) ในปี 2018(https://aagth1.blogspot.com/2019/01/fc-31-type-15.html)
เป็นที่เชื่อว่ามีน้ำหนัก 33tonnes ในรูปแบบพื้นฐาน และอาจจะมีน้ำหนักเพิ่มเป็น 36tonnes ถ้าเสริมการติดตั้งชุดเกราะปฏิกิริยาแรงระเบิด(ERA: Explosive Reactive Armour)

Global Times จีนอ้างคำกล่าวของ Fu Qianshao ผู้เชี่ยวชาญการป้องกันทางอากาศจีนว่า "เครื่องบินลำเลียง Y-20 หลายเครื่องสามารถขนส่งการผสมของรถถังเบา Type 15, รถถังหลัก Type 99A และยานเกราะแบบอื่น
นำไปสู่การปรับปรุงที่สำคัญในการวางกำลังเคลื่อนที่เร็วพิสัยไกลและขีดความสามารถการขนส่งทางยุทธศาสตร์ของจีน " Y-20 เข้าประจำการอย่างเป็นทางการในกองทัพอากาศปลดปล่อยประชาชนจีน(PLAAF: People’s Liberation Army Air Force) ปี 2016(https://aagth1.blogspot.com/2016/07/y-20.html)

รถถังเบา Type 15 ซึ่งติดตั้งอาวุธปืนใหญ่รถถังขนาด 105mm ได้รับการป้องกันในการต่อต้านการถูกโจมตีด้วยอาวุธต่อสู้รถถังแบบถือได้ด้วยมือ
ปถ.105mm คาดว่าสามารถยิงกระสุนเจาะเกราะทิ้งเปลือกทรงตัวด้วยหาง(APFSDS: Armor-Piercing Fin-Stabilized Discarding Sabot) ที่น่าจะสามารถเจาะเกราะหนา 500mm จากระยะยิงในการรบปกติครับ

วันศุกร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2563

ไทยพิจารณาระงับการจัดหาทางทหารเนื่องจาก Covid-19

Covid-19: Thailand considers postponing military acquisitions
Thailand is reviewing defence procurement plans with a view to possible postponements in response to the impact of Covid-19, reportedly include the Royal Thai Navy's procurement of S26T submarines from China.


These procurements are likely to include additional Krabi-class OPVs (the second of which is pictured above at its ceremonial launch in August 2019). Source: Royal Thai Navy
https://www.janes.com/article/95427/covid-19-thailand-considers-postponing-military-acquisitions

รัฐบาลไทยกำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการระงับโครงการจัดหาทางทหาร ในการตอบสนองต่อการคาดการณ์ถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของ coronavirus Covid-19 พลโท คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหมไทย กล่าวเมื่อวันที่ ๘ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๓(2020)
พล.ท.คงชีพ ยังกล่าวว่าความเป็นไปได้ในความล่าช้าใดๆต่อการจัดซื้อจัดจ้างทางกลาโหมจะมีการหารือภายในกระทรวงกลาโหมไทย และกับผู้จัดส่งต่างประเทศเพื่อลดผลกระทบต่อกองทัพไทย(Royal Thai Armed Forces) ให้น้อยที่สุด

ไม่เหมือนกับหลายๆประเทศในเอเชีย กระทรวงกลาโหมไทยไม่ได้มองที่จะจัดหายุทโธปกรณ์กลาโหมผ่านเงินสินเชื่อที่มาจากผู้จัดส่งนานาชาติ แต่ดูเหมือนว่าจะกระจายวงเงินการจัดซื้อผ่านงบประมาณกลาโหมในช่วงหลายปีงบประมาณ
ถึงกระนั้น พล.ท.คงชีพ ให้ความเห็นยืนยันว่า กระทรวงกลาโหมไทยเป็นที่แรกในภูมิภาคที่ชี้ให้เห็นถึงความยุ่งยากการจัดซื้อจัดจ้างในอนาคตตามผลสืบเนื่องมาจาก Covid-19

"เรากำลังพิจารณาว่าอะไรที่จำเป็น ถ้าเราคิดว่ามันจำเป็นต้องระงับโครงการ(จัดซื้อทางทหาร) หลายปีในอนาคต เราจะระงับมันเพื่อไม่ให้กระทบกับสัญญากับผู้จัดส่งต่างประเทศ
นี่เป็นบางสิ่งที่เราจำเป็นต้องพูดคุยตามมา แต่ผมคิดว่าประเทศอื่นกำลังมีประสบการณ์จากผลกระทบเช่นเดียวกัน และเราจะเข้าใจว่าอะไรที่จำเป็น" ความเห็นของ พล.ท.คงชีพ ถูกรายงานโดยสถานีโทรทัศน์ของไทย

พล.ท.คงชีพ เสริมว่า "เราไม่ได้กำลังมองที่เพียง(การจัดซื้อจัดจ้าง)ในปี ๒๕๖๓ เรากำลังมองที่ปี พ.ศ.๒๕๖๔(2021) เมื่เราอาจต้องลด(งบประมาณ)ในสายด้วยความต้องการของชาติที่จำเป็น เราเตรียมการอย่างเต็มที่ที่จะทำงานให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล"
พล.ท.คงชีพ ไม่ได้ระบุเฉพาะเจาะจงถึงโครงการใดบางที่จะมีการทบทวน อย่างไรก็ตามมีรายงานว่ารวมถึงโครงการจัดหาเรือดำน้ำจากจีนของกองทัพเรือไทย(RTN: Royal Thai Navy)

กองทัพเรือไทยได้ทำสัญญากับ China Shipbuilding and Offshore International Company(CSOC) รัฐวิสาหกิจการส่งออกอุตสาหกรรมทางเรือของสาธารณรัฐประชาชนจีนในเดือนพฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๐(2017)
เพื่อจัดหาเรือดำน้ำโจมตีดีเซล-ไฟฟ้า(SSK) แบบ S26T จำนวน ๑ลำวงเงิน ๑๓,๕๐๐,๐๐๐บาท($410 million) ที่ทำพิธีวางกระดูกงูเรือเมื่อวันที่ ๕ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๒(2019)(https://aagth1.blogspot.com/2019/09/s26t.html) และมีกำหนดส่งมอบในปี พ.ศ.๒๕๖๖(2023)

โครงการอื่นๆของกองทัพเรือไทยที่อาจจะถูกพิจารณาระงับยังรวมถึงโครงการสร้างเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชุดเรือหลวงกระบี่เพิ่มเติม จากที่เรือลำที่สองของชุดเรือหลวงประจวบคีรีขันธ์มีพิธีรับมอบเรือเมื่อวันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๖๒(https://aagth1.blogspot.com/2019/09/blog-post_28.html)
โดยมีพื้นฐานจากแบบเรือ 90m OPV(Offshore Patrol Vessel) ที่บริษัทอู่กรุงเทพได้ซื้อสิทธิบัตรจากบริษัท BAE System สหราชอาณาจักร เรือ ตกก. ร.ล.กระบี่ และ ร.ล.ประจวบคีรีขันธ์ ทั้งสองลำถูกสร้างที่ อู่เรือราชนาวีมหิดลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ ภายในไทยครับ

วันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2563

FFG ชนะงานปรับปรุงยานเกราะสายพาน Wiesel 1 เยอรมนี

FFG wins upgrade work for German Wiesel 1 weapon carriers


A Wiesel 1 reconnaissance vehicle fitted with the E6-II-A1 turret armed with a Rheinmetall 20 mm MK 20 Rh 202 dual-feed cannon. This is one of the three versions to be upgraded by FFG for the German Army. Source: Rheinmetall
https://www.janes.com/article/95321/ffg-wins-upgrade-work-for-german-wiesel-1-weapon-carriers


ในเดือนธันวาคม 2019 กระทรวงกลาโหมเยอรมนีได้ประกาศสัญญาแก่บริษัท Flensburger Fahrzeugbau Gesellschaft(FFG) เยอรมนีเพื่อปรับปรุงยานเกราะสายพานตระกูล Wiesel 1 AWC(Armoured Weapon Carrier) จำนวน 181คัน
เพื่อยืดอายุการปฏิบัติการวางกำลังประจำการไปอีกอย่างน้อยจนถึงปี 2025 บริษัท FFG ปฏิเสธที่จะเปิดเผยข้อมูลวงเงินของสัญญาและกำหนดการส่งมอบ

ตามการแข่งขันในเดือนมิถุนายน 2017 บริษัท FFG ได้รับการประกาศสัญญาเพื่อสร้างรถต้นแบบจำนวน 3คันของยานเกราะสายพาน Wiesel 1 AWC ที่ได้รับการปรับปรุง
ยานเกราะสายพาน Wiesel 1 รุ่นปรับปรุงต้นแบบเหล่าได้สร้างเสร็จในปี 2018 และส่งมอบให้กองทัพบกเยอรมนี(German Army, Heer) สำหรับการทดสอบกำลังรบอย่างครอบคลุม

Benjamin Lindsay ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายขายและการพัฒนาโครงการของแผนกโครงการทางทหาร FFG กล่าวกับ Jane's ว่าบริษัทได้รับมอบยานเกราะ Wiesel 1 AWC จำนวน 25คันที่ปราศจากอาวุธ
ซึ่งรถชุดนี้จะได้รับการปรับปรุงโดย FFG และส่งคืนให้กองทัพบกเยอรมนี ซึ่งจะได้รับการติดตั้งอุปกรณ์ประกอบของรัฐบาล(GFE: Government Furnished Equipment) เช่น วิทยุและอาวุธต่างๆ

ยานเกราะสายพานตระกูล Wiesel 1 AWC ทั้ง 3รุ่นที่ประจำการจะได้รับการปรับปรุงโดยบริษัท FFG หนึ่งรุ่นติดตั้งป้อมปืน E6-II-A1 พร้อมปืนใหญ่กลป้อนกระสุนสองทาง Rheinmetall MK 20 Rh 202 ขนาด 20mm,
โดยอีกหนึ่งรุ่นเป็นรุ่นต่อสู้รถถังที่ติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถัง(ATM: Anti-Tank Missile) และอีกหนึ่งรุ่นเป็นรุ่นลาดตระเวน ตามข้อมูลจาก FFG เยอรมนี

ยานเกราะสายพาน Wiesel 1 รุ่นต่อสู้รถถังเดิมติดตั้งแท่นยิงอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถัง Raytheon TOW A1 สหรัฐฯ แต่จะถูกแทนที่โดยอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถัง Eurospike MELLS
Eurospike MELLS เป็นรุ่นสำหรับเยอรมนีของอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถัง Rafael Spike-LR อิสราเอล ที่ถูกนำเข้าประจำการในกองทัพบกเยอรมนีในหลายรูปแบบการประยุกต์ใช้

ยานเกราะสายพานตระกูล Wiesel 1 AWC ถูกออกแบบมาสำหรับหน่วยทหารพลร่มเยอรมนี โดยสามารถส่งทางอากาศโดยการทิ้งร่มจากเครื่องบินลำเลียง หรือเคลื่อนที่ทางอากาศโดยเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงหนัก เช่น CH-53G กองทัพอากาศเยอรมนี(German Air Force, Luftwaffe) ได้
Wiesel 1 มีความยาวตัวรถเพียง 3.31-3.55m กว้าง 1.82 สูง 18.3-1.9m และมีน้ำหนักรถเพียง 3-3.3tons ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลกำลัง 87hp สามารถทำความเร็วบนถนนได้สูงสุด 80km/h บนภูมิประเทศ 50km/h มีระยะปฏิบัติการไกลสุดบนถนน 290km และในภูมิประเทศ 200km ครับ

วันพุธที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2563

เกาหลีใต้วางแผนจะปรับปรุงรถถังหลัก K1A2

South Korea planning to upgrade RoKA’s K1A2 MBTs


South Korea’s DATQ has announced that it is planning to upgrade the RoKA’s K1A2 MBTs Source: Dae Young Kim
https://www.janes.com/article/95362/south-korea-planning-to-upgrade-roka-s-k1a2-mbts


กระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐเกาหลีกำลังวางแผนที่จะเพิ่มสมรรถนะโดยรวมของรถถังหลัก K1A2 กองทัพบกสาธารณรัฐเกาหลี(RoKA: Republic of Korea Army) ในฐานะส่วนหนึ่งของโครงการปรับปรุง
องค์การเพื่อวิทยาการและคุณภาพกลาโหม(DATQ: Defense Agency for Technology and Quality) ประกาศเมื่อเดือนมีนาคม 2020 ว่าตนจะดำเนิน "การวิจัยขั้นก้าวหน้า" ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงตุลาคม 2020 เพื่อตัดสินใจวิธีที่ดีที่สุดเพื่อขยายสมรรถนะของระบบในหลายภาคส่วน

ท่ามกลางการปรับปรุง DATQ เกาหลีใต้กำลังมองไปยังการติดตั้งระบบการหยั่งรู้สถานการณ์เพื่อทำให้พลประจำรถจะตรวจสอบสถานการสนามรบจากภายในตัวรถได้ดีขึ้น นอกจากนี้กล้องตาเรือสร้างภาพความร้อนสำหรับพลขับคาดว่าจะถูกติดตั้งด้วย
DATQ ยังมองที่จะเพิ่มการป้องกันของรถถังต่ออาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถังโดยการเอาเกราะที่มีอยู่ออกและติดตั้งเกราะพิเศษสมรรถนะสูงแบบใหม่แทน มากไปกว่านี้ DATQ กำลังพิจารณาให้รถถังติดตั้งด้วยขีดความสามารถระบบป้องกันเชิงรุกในการสะกัดกั้นอาวุธปล่อยนำวิถีดังกล่าวด้วย

เพื่อเพิ่มความคล่องแคล่วการเคลื่อนที่ ระบบกันกระเทือน hydro-pneumatic ของรถถังที่มีอยู่น่าจะถูกแทนที่ด้วยระบบกันกระเทือน ISU(In-arm Suspension Unit) เช่นเดียวกับที่ใช้ในรถถังหลัก K2 กองทัพบกสาธารณรัฐเกาหลี
นอกจากนี้เครื่องกำเนินพลังงานเสริมจะถูกติดตั้ง และกำลังขับเครื่องยนต์คาดว่าจะถูกเพิ่มขั้น แม้ว่าจะยังไม่มีการตัดสินว่าจะจะเป็นการปรับปรุงเครื่องยนต์ที่มีอยู่เดิม หรือติดตั้งเครื่องยนต์ใหม่ที่ทรงพลังมากขึ้น

การป้องกันกำลังพลประจำรถจากภัยคุกคาม เคมี, ชีวะ และรังสี(CBR: Chemical, Biological and Radiological) ถูกกำหนดที่จะเพิ่มขยาย ผ่านการใช้ระบบควบคุมสภาพแวดล้อมแบบผสมผสานที่จะรักษาอุณหภูมิปานกลางภายในตัวรถ
DATQ ยังพิจารณาความเป็นไปได้ของป้อมปืน Remote ถ้าบูรณาการเข้ากับกล้องเล็งผู้บังคับรถนี่ไม่เพียงจะเพิ่มขยายการหยั่งรู้สถานการณ์เพิ่มเติม แต่ยังทำให้ ผบ.รถจะสามารถโจมตีบ้างกลุ่มเป้าหมายอย่างอิสระจากพลยิงด้วย

รถถังหลัก K1A2 เป็นรุ่นปรับปรุงของรถถังหลัก K1A1 ที่ผลิตโดยบริษัท Hyundai Rotem สาธารณรัฐเกาหลีซึ่งเป็นผู้ผลิตทั้งรถถังหลัก K1 รุ่นเก่าที่เข้าประจำการตั้งแต่ปี 1980s และรถถังหลัก K2 รุ่นใหม่ล่าสุด(https://aagth1.blogspot.com/2019/10/hyundai-rotem-k2.html)
รถถังหลัก K1A2 ยังคงมีอาวุธหลักเป็นปืนใหญ่รถถังลำกล้องเรียบ KM256 ขนาด 120mm ขณะที่รถถังหลัก K1E1 ที่เป็นรุ่นปรับปรุงสมรรถนะของ K1 ยังคงใช้ปืนใหญ่รถถังลำกล้องเกลียว KM68 ขนาด 105mm ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2014/07/k1e1.html)

วันอังคารที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2563

รถหุ้มเกราะล้อยาง Hawkei ชุดแรกในสายการผลิตระดับต่ำถูกส่งมอบให้กองทัพบกออสเตรเลีย

First LRIP Hawkei vehicles delivered to Australian motorised infantry battalion


The 1st Battalion Royal Australian Regiment released an image on its Facebook page on 24 March showing five recently delivered Hawkei vehicles. Source: 1st Battalion Royal Australian Regiment
https://www.janes.com/article/95319/first-lrip-hawkei-vehicles-delivered-to-australian-motorised-infantry-battalion


กองพันทหารราบยานยนต์ กองทัพบกออสเตรเลีย(Australian Army) ได้รับมอบรถหุ้มเกราะล้อยางขนาดเบา Hawkei Protected Mobility Vehicles-Light(PMV-L) จำนวนหลายคัน
เป็นที่เชื่อว่าน่าจะเป็นรถชุดแรกในสายการผลิตขั้นต้นระดับต่ำ(LRIP: Low-Rate Initial Production) ของรถหุ้มเกราะล้อยาง 4x4 แบบนี้

กองพันที่1 กรมทหารราบหลวงออสเตรเลีย(RAR: Royal Australian Regiment) ที่มีที่ตั้งใน Townsville รัฐ Queensland เปิดเผยใน Website ของตนว่า
เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2020 ได้รับมอบรถหุ้มเกราะล้อยาง Hawkei อย่างเป็นทางการจำนวนอย่างน้อย 5คัน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางยานยนต์ของหน่วยที่ปัจจุบันมีรถหุ้มเกราะล้อยางขนาดกลาง  Bushmaster Protected Military Vehicles-Medium(PMV-M)

ภายใต้สัญญาวงเงิน A$ 1.3 billion($975 million) ที่ลงนามในเดือนตุลาคม 2015 บริษัท Thales Australia จะส่งมอบรถหุ้มเกราะล้อยาง Hawkei ขนาด 7tonne จำนวน 1,100คัน พร้อมการฝึกผู้ร่วมงาน 1,058นาย
เพื่อทดแทนรถหุ้มเกราะล้อยางป้องกันแรงระเบิด Land Rover ของกองทัพบกออสเตรเลียในภารกิจบัญชาการ, สื่อสาร, ธุรการ และลาดตระเวน(https://aagth1.blogspot.com/2015/10/hawkei-land-rover.html)

โครงการรถหุ้มเกราะล้อยาง Hawkei 4x4 ได้มีความล่าช้าเนื่องจากปัญหาความน่าเชื่อถือและการออกแบบ ในเดือนกรกฎาคม 2019 บริษัท Thales ยุโรปได้เข้าซื้อบริษัท Steyr Motors ออสเตรียซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องยนต์
หลังจากที่บริษัท Steyr Motors ออสเตรียที่ล้มละลายได้เข้าสู่การสั่งพิทักษ์ทรัพย์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2019 ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการจัดส่งเครื่องยนต์สำหรับโครงการ Hawkei

เดิมรถหุ้มเกราะล้อยาง Hawkei 4x4 มีกำหนดว่ารถชุดนำร่องจะประกอบเสร็จจากโรงงานในต้นปี 2016 ตามมาด้วยรถชุดแรกจะส่งมอบจริงในสิ้นปี 2017 และเข้าสู่สายผลิตเต็มอัตราในปี 2018
ทั้งนี้การที่รัฐบาลออสเตรเลียเลือกจัดหารถหุ้มเกราะล้อยาง Hawkei นั้นจะเป็นการสร้างตำแหน่งงานและเงินหมุนเวียนแก่ภาคอุตสาหกรรมท้องถิ่นภายในออสเตรเลียด้วยครับ