วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

เฮลิคอปเตอร์ค้นหากู้ภัย HH-60W กองทัพอากาศสหรัฐฯทำการบินครั้งแรก

VIDEO: Maiden sortie for initial HH-60W combat rescue helicopter
Sikorsky has performed the first flight of the HH-60W combat search and rescue helicopter it is developing for the US Air Force (USAF), with the event taking place from the manufacturer's facility in West Palm Beach, Florida.

Separately, Sikorsky has been awarded a $1.13 billion contract by the US Navy covering the production of 12 CH-53K heavy-lift helicopters under the programme’s second and third lots of Low Rate Initial Production; deliveries of those aircraft will begin in 2022.
https://www.flightglobal.com/news/articles/video-maiden-sortie-for-initial-hh-60w-combat-rescu-458311/


บริษัท Sikorsky สหรัฐฯได้ทำการบินครั้งแรกของเฮลิคอปเตอร์ค้นหาและกู้ภัยในพื้นที่การรบ HH-60W ที่ถูกพัฒนามาสำหรับกองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force)
การทำการบินครั้งแรกของเฮลิคอปเตอร์ค้นหาและกู้ภัย HH-60W มีขึ้น ณ โรงงานอากาศยานของ Sikorsky ใน West Palm Beach มลรัฐ Florida สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2019

เที่ยวบินครั้งแรกของเฮลิคอปเตอร์ค้นหาและกู้ภัย Sikorsky HH-60W เป็นเวลา 1ชั่วโมง 20นาที ประกอบด้วยการตรวจสอบการควบคุมการลอยตัวนิ่งกลางอากาศ, การบินความเร็วต่ำ และการบินผ่านสนามบิน
การบินทดสอบครั้งที่สองมีกำหนดดำเนินการภายหลังในสัปดาห์นี้(19-25 พฤษภาคม 2019) ตามด้วยเฮลิคอปเตอร์เพิ่มเติมอีก 2เครื่องที่จะมีตามมาในเดือนถัดไป Sikorsky ในเครือบริษัท Lockheed Martin สหรัฐฯกล่าว

ข้อมูลที่ได้รับจาการประเมินค่านี้จะสนับสนุนการตัดสินใจในหลักขั้นที่เรียกว่า Milestone C ที่มีกำหนดในเดือนกันยายน 2019 ที่จะทำให้ Sikorsky จะเริ่มการผลิต ฮ.HH-60W ที่มีพื้นฐานจากเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป UH-60M Black Hawk ได้
ภายใต้โครงการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ค้นหาและกู้ภัยในพื้นที่การรบ กองทัพอากาศสหรัฐฯจะจัดหาเฮลิคอปเตอร์ HH-60W จำนวน 113เครื่อง เพื่อทดแทนฝูงบินเฮลิคอปเตอร์ค้นหาและกู้ภัยในพื้นที่การรบ HH-60G Pave Hawk เดิม

เฮลิคอปเตอร์ค้นหาและกู้ภัย HH-60W มีการพัฒนาปรับปรุงไปจาก ฮ.UH-60M ดั้งเดิมประกอบด้วยถังเชื้อเพลิงขนาดใหญ่ซึ่งขณะนี้มีความจุที่ 660USgal(2,500 litres) ทำให้มีรัศมีการรบได้ถึง 195nmi(361km)
เช่นเดียวกับการขยายเพิ่มขีดความสามารถระบบป้องกันตนเอง ระบบความปลอดภัยทาง Cyber ระบบการเชื่มโยงเป็นเครือข่าย network centric ลดการเสี่ยงในการตกอยู่ภายใต้สภาพอันตราย และระบบอาวุธ

แยกออกไปอีกเรื่อง บริษัท Sikorsky สหรัฐฯได้รับสัญญาวงเงิน $1.13 billion โดยกองทัพเรือสหรัฐฯ(USN: US Navy) ครอบคลุมสายการผลิตเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงหนัก CH-53K King Stallion จำนวน 12เครื่อง
ภายใต้โครงการจัดหาสายการผลิตระดับต่ำ(LRIP: Low Rate Initial Production) Lot 2 และ Lot 3 การส่งมอบ ฮ.ลำเลียงหนัก CH-53K ชุดดังกล่าวจะเริ่มต้นได้ในปี 2022

นาวิกโยธินสหรัฐฯ(USMC: US Marine Corps) จะจัดหาเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงหนัก Sikorsky CH-53K รวมทั้งหมด 200เครื่อง โดยมีการส่งมอบแล้ว 2เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2018/05/ch-53k.html)
Fleets Analyzer บันทึกข้อมูลว่าปัจจุบันฝูงบินของ Sikorsky มี ฮ.ลำเลียงหนัก CH-53K จำนวน 4เครื่องที่ได้ทำการบินทดสอบไปแล้ว 1,400ชั่วโมงบินครับ