วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ญี่ปุ่นเลือก Lockheed Martin สหรัฐฯเพื่อสนับสนุน Mitsubishi ในการพัฒนาเครื่องบินขับไล่ยุคอนาคต F-X

Japan selects Lockheed Martin to support MHI in developing next-generation fighter aircraft
A conceptual image of Japan’s future F-X fighter aircraft released by the MoD in Tokyo in December 2019. (Japanese MoD)



The US company was selected because it has considerable experience in developing fifth-generation fighters – the F-22 and F-35.

กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นประกาศเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2020 ว่าตนได้เลือกบริษัท Lockheed Martin สหรัฐฯเพื่อสนับสนุนผูัรับสัญญาหลักบริษัท Mitsubishi Heavy Industries(MHI) ญี่ปุ่น
ในการพัฒนาเครื่องบินขับไล่ยุคอนาคต F-X สำหรับกองกำลังป้องกันตนเองทางอากาศญี่ปุ่น(JASDF: Japan Air-Self-Defense Force)(https://aagth1.blogspot.com/2020/04/f-x.html, https://aagth1.blogspot.com/2020/03/fx.html)

ญี่ปุ่นกล่าวว่า Lockheed Martin สหรัฐฯถูกเลือกเนื่องจากบริษัทประสบการณ์อย่างมากมายในการพัฒนาเครื่องบินขับไล่ยุคที่5 คือเครื่องบินขับไล่ F-22 Raptor และเครื่องบินขับไล่ F-35 Lightning II 
เมื่อเปรียบเทียบผู้เข้าแข่งขันอื่นอีกสองรายคือบริษัท BAE Systems สหราชอาณาจักร และบริษัท Boeing สหรัฐฯ ซึ่งได้ตอบสนองต่อเอกสารร้องขอข้อมูล(RFI: Request for Information) จากกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นเช่นกัน

กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นกล่าวว่าตนได้มีการตัดสินใจหลังการประเมินค่าข้อเสนอของบริษัทต่างๆบนพื้นฐานสามเกณฑ์หลักที่ประกอบด้วย การบูรณาระบบภารกิจต่างๆ, 
ความเข้ากันได้ระหว่างสมรรถนะทางจลนศาสตร์และขีดความสามารถการตรวจจับได้ยาก(stealth) และและขีดความสามารถที่จะสร้างการออกแบบรายละเอียดต่างๆผ่านการจำลองด้วย computer

"แม้ว่าเราไม่ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ในเอกสารใดๆ เรายังคำนึงถึงการมีระดับสูงขึ้นของความเป็นอิสระที่จะสร้างการดัดแปลงต่างๆ" เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นกล่าวกับ Janes ภายใต้เงื่อนไขของการไม่เปิดเผยชื่อตน
กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นชี้ให้เห็นว่า Lockheed Martin สหรัฐฯยังคงเป็น "ผู้เข้าสมัครเป็นหุ้นส่วน" อย่างเป็นทางการอยู่ ตามที่บริษัท MHI ญี่ปุ่นยังไม่ได้บรรลุเงื่อนไขข้อตกลงกับ Lockheed Martin

ขณะเดียวกันญี่ปุ่นกล่าวว่าตนจะเดินหน้ามองหาหุ้นส่วนต่างๆที่จะทำงานกับชิ้นส่วนเฉพาะและระบบย่อยต่างๆสำหรับเครื่องบิน รวมถึงเครื่องยนต์และระบบ Avionic
ในบริบทนี้กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นกล่าวว่าตนจะแสวงหาความเป็นไปได้ที่จะร่วมมือกับสหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ(https://aagth1.blogspot.com/2020/01/f-x.html)

เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นกล่าวว่ากระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นได้รับการจัดสรรงบประมาณวงเงิน 57.6 billion Yen($556.8 million) สำหรับปีงบประมาณ 2021
เพื่อเป็นเงินทุนการพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับโครงการเครื่องบินขับไล่ F-X เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ519 มากกว่าที่ได้รับในปีงบประมาณปัจจุบัน 2020 ครับ