วันจันทร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2566

กองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น JSDF วางแผนจะทดแทนอากาศยานมีนักบินบางส่วนด้วยอากาศยานไร้คนขับ UAV

Rise of the machines: Japan plans to replace some manned air assets with UAVs







The Japan Ground Self-Defense Force's fleet of Bell AH-1S Huey Cobras is scheduled to be replaced by unmanned combat aerial vehicles by 2027. 
This photos of JGSDF AH-1Ss and a AH-64DJP Apaches attack helicopter. (US Marine Corps/US Army/Japan Self-Defense Force)

กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นในกรุง Tokyo กล่าวว่าตนกำลังวางแผนที่จะลงทุนงบประมาณวงเงิน $1 trillion Yen($7.1 billion) ในช่วงตลอด 5ปีข้างหน้าที่จะทดแทนหน่วยที่มีคนขับบ้างส่วนของกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น(JSDF: Japan Self-Defense Forces) ด้วยระบบไร้คนขับ
การจัดสรรงบประมาณจะสนับสนุน "การวางกำลังล่วงหน้าของทรัพยากรระบบไร้คนขับหลายแบบ" โฆษกกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นกล่าวกับ Janes(https://aagth1.blogspot.com/2022/04/ai-uav.html)

การผลักดันของญี่ปุ่นที่จะจัดหาระบบไร้คนขับมีพื้นฐานบนเอกสารโครงการเตรียมการกลาโหม(DBP: Defense Buildup Program) ใหม่ของประเทศ นโยบายซึ่งเผยแพร่เมื่อเดือนธันวาคม 2022 ได้เรียกร้องให้กองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่นที่จะลดความแข็งแกร่งด้านกำลังพลลง
กองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่นมีจำนวนกำลังพลที่ได้รับการอนุมัติที่ 247,153นาย อย่างไรก็ตามความพยายามของกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นที่จะบรรลุจำนวนกำลังพลที่ตัวเลขนี้มีความท้าทายเพิ่มขึ้นจากจำนวนประชากรที่ลดลงและผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นของญี่ปุ่น

ในสมุดปกขาวกลาโหมญี่ปุ่นปี 2022(Defense of Japan 2022 White Paper) กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นกล่าวว่าจำนวนของประชากรผู้มีสิทธิสำหรับสมัครเข้าร่วมกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่นได้ตั้งแต่ปี 2020-2030 ถูกคาดการณ์ว่าจะลดลงร้อยละ12 
จาก 25.51ล้านคนในปี 2020 เป็น 22.37ล้านคนปีใน 2030 เพื่อให้สอดคล้องกับมุมมองนี้ ญี่ปุ่นมองที่จะตัดลดกำลังพลในประจำการกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่นลงประมาณ 2,000นาย ตามเอกสารโครงการเตรียมการกลาโหม DBP ในภาษาญี่ปุ่น

นี่รวมถึงกำลังพลประมาณ 500นายผ่านการปลดประจำการอากาศยานบางส่วนเช่น เครื่องบินลำเลียง/ค้นหาและกู้ภัย BAE Systems U-125A และเครื่องบินลำเลียง/ค้นหาและกู้ภัย Gates Learjet U-36A ของกองกำลังป้องกันตนเองทางอากาศญี่ปุ่น(JASDF: Japan Air Self-Defense Force)
เอกสาร DBP เสริมว่าท่ามกลางการลดลงของทรัพยากรมนุษย์ กองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่นจำเป็นต้อง "สร้างความมั่นใจที่มีประสิทธิภาพ" ของขีดความสามารถต่างๆของตน

ในเอกสารปกขาว 2022 White Paper กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นยังเชื่อมโยงระบบไร้คนขับต่างๆกับการริเริ่มแนวทาง 'การใช้ประโยชน์สูงสุดจากทรัพยากรบุคคลที่จำกัด' การนำระบบไร้คนขับต่างๆเหล่านี้มาใช้ยังรวมถึง
กองกำลังป้องกันตนเองทางบกญี่ปุ่น(JGSDF: Japan Ground Self-Defense Force) ที่จะทดแทนเฮลิคอปเตอร์โจมตีและเฮลิคอปเตอร์ตรวจการณ์บางส่วนของตนด้วยอากาศยานรบไร้คนขับ(UCAV: Unmanned Combat Aerial Vehicle)

กองกำลังป้องกันตนเองทางบกญี่ปุ่นปัจจุบันมีประจำการด้วยหน่วยบินเฮลิคอปเตอร์โจมตี Bell AH-1S Huey Cobra จำนวน 50เครื่อง และเฮลิคอปเตอร์โจมตี Boeing/Subaru AH-64DJP Apache จำนวน 12เครื่อง และเฮลิคอปเตอร์ตรวจการณ์ Kawasaki OH-1 Ninja จำนวน 37เครื่อง
กองกำลังป้องกันตนเองทางบกญี่ปุ่นเดิมมีแผนที่จะจัดหาเฮลิคอปเตอร์โจมตีใหม่ราว 40เครื่อง หลังจากที่แผนจัดหาเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64DJP จำนวน 62เครื่องถูกระงับเนื่องจากเหตุผลด้านราคา และอุบัติเหตุตกในเดือนกุมภาพันธ์ 2018 ซึ่งนักบินทั้งสองนายและมีพลเรือนบนพื้นเสียชีวิต

อย่างไรก็ตามแผนการจัดหาเฮลิคอปเตอร์โจมตีใหม่(https://aagth1.blogspot.com/2018/12/ah-1s-cobra.html) รวมถึงแผนการทดแทนเฮลิคอปเตอร์ตรวจการณ์ Hughes OH-6D Cayuse ด้วย OH-1 ได้ถูกยกเลิก(https://aagth1.blogspot.com/2019/03/oh-1-3.html)
เฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-1S Cobra ของกองกำลังป้องกันตนเองทางบกญี่ปุ่นทั้งหมดมีแผนที่จะปลดประจำการลงภายในปี 2027 เช่นเดียวกับเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64DJP Apache และเฮลิคอปเตอร์ตรวจการณ์ OH-1 Ninja ที่จะถูกทดแทนด้วยขีดความสามารถอากาศยานรบไร้คนขับ UCAV ครับ