วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2562

โปแลนด์ลงนามจัดหาเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำและกู้ภัย AW101

Poland signs for AW101 helicopters

Seen here in UK Royal Navy service, the AW101 has been selected by Poland, primarily in an anti-submarine role but also with a secondary combat search-and-rescue role. Source: IHS Jane’s/Patrick Allen
https://www.janes.com/article/88102/poland-signs-for-aw101-helicopters


โปแลนด์ได้ลงนามสัญญาสำหรับจัดหาเฮลิคอปเตอร์ AgustaWestland AW101 เพื่อตอบสนองความต้องการขีดความสามารถสงครามปราบเรือดำน้ำ(ASW: Anti-Submarine Warfare) และการค้นหาและกู้ภัยในพื้นที่การรบ(CSAR: Combat Search-and-Rescue ) ของตน
นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ Mateusz Morawiecki และรัฐมนตรีกลาโหมโปแลนด์ Mariusz Blaszczak ได้ลงนามสัญญาจัดหาเฮลิคอปเตอร์ AW101 จำนวน 4เครื่อง ณ โรงงานอากาศยาน PZL-Swidnik ทางตะวันออกของโปแลนด์เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2019
ตามข้อมูลจาก PZL-Swidnik โปแลนด์ในเครือบริษัท Leonardo อิตาลี-สหราชอาณาจักร วงเงินในข้อตกลงซึ่งรวมการส่งกำลังบำรุง, การสนับสนุน, การฝึก และชุดอุปกรณ์การแพทย์จะอยู่ที่ 16.5 billion Polish Zloty($430 million)

ตามที่ Jane's ได้รายงานก่อนหน้านี้ บริษัท Leonardo จะมอบวงเงินชดเชยทางอุตสาหกรรม 400 million Polish Zloty ภายใต้ข้อตกลงซึ่งโปแลนด์จะนำไปใช้ขับเคลื่อนการจ้างงาน, การส่งออกของชาติ และการพัฒนาอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ
ทั้งกระทรวงกลาโหมโปแลนด์และ Leonardo ไม่ได้เปิดเผยระยะเวลาการส่งมอบ ฮ.AW101 ใหม่ ซึ่งจะมาทดแทนเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำ Mil Mi-14(NATO กำหนดรหัส Haze) รัสเซียยุคกติกา Warsaw Pact ที่ประจำการในกองทัพเรือโปแลนด์(Polish Navy)
ขณะที่การประกาศการสั่งจัดหามีขึ้นสำหรับเฮลิคอปเตอร์ AW101 จำนวน 4เครื่อง ที่อาจจะมีการสั่งจัดหาเพิ่มเติมอีก 4เครื่องตามมาในภายหลัง (Mi-14 มีพื้นฐานจากเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป Mil Mi-8 รัสเซีย)

ตามที่ Leonardo ระบุ AW101 มีความเหมาะสมอย่างกับภานกิจปราบเรือดำน้ำและค้นหากู้ภัยในพื้นที่การรบเหนือน้ำ ที่ใช้ประโยชน์จากความปลอดภัยด้วยสามเครื่องยนต์, ระบบป้องกันน้ำแข็งเต็มรูปแบบสำหรับการต่อสู้ในสภาวะน้ำแข็ง,
พิสัยปฏิบัติการไกลและมีระยะเวลาทำการนาน ด้วยระยะทาง 1,300km และชุด Gearbox ที่พิสูจน์ทำงานแบบ run dry ได้ 30นาที, เช่นเดียวกับคุณสมบัติการทำงานซ้อนกันหลายๆระบบควบคู่กันในส่วนระบบ Avionic และระบบภารกิจ
AW101 มีประตูข้างห้องโดยสารและมีประตูเปิดด้านท้ายเครื่องขนาดใหญ่ทำให้สามารถเข้าออกได้ง่ายสำหรับกำลังพล, ผู้ประสบภัย และอุปกรณ์ในห้องบรรทุกขนาด 27ลูกบาศก์เมตร ซึ่งสามารถยืนขึ้นถึงศีรษะได้ตลอด

เฮลิคอปเตอร์ AW101 ยังสามารถติดตั้งชุดอุปกรณ์ค้นหาและกู้ภัยในพื้นที่การรบ/ค้นหาและกู้ภัย CSAR/SAR ขั้นก้าวหน้าได้หลายระบบ
ซึ่งรวมถึง Radar ตรวจการณ์แบบ Multi-Panal AESA(Active Electronically Scanned Array) แบบ Osprey จากบริษัท Leonardo ที่การทำงานครอบคลุม 360องศา,
ระบบควบคุมการบินอัตโนมัติ(AFCS: Automatic Flight Control System) แบบ Digital สี่แกน, รอกกว้านกู้ภัย 2ชุด, ไฟฉายค้นหา, กล้องตรวจจับ Electro-Optical และระบบ Avionic และภารกิจบูรณาการเต็มรูปแบบครับ