Royal Thai Navy's Frigate FFG-457 HTMS Kraburi conduct firing C-802A Anti-Ship Missile for first time with CVH-911 HTMS Chakri Naruebet helicopter carrier observed at 180km from coast of Phangnga RTN Naval Base in Andaman Sea, 5 April 2019.
กองทัพเรือ ฝึกยิงอาวุธปล่อยวิถีจากพื้นสู่พื้นแบบ C- 802A ระยะยิงไกลสุดในภูมิภาคเป็นครั้งแรก ถูกเป้าหมายอย่างแม่นยำ !
วันนี้ (5 เมษายน 2562) เวลา 11.29 น. กองทัพเรือ ได้ทำการฝึกยิงอาวุธปล่อยนำวิถีจากพื้นสู่พื้นแบบ C - 802A บนเรือหลวงกระบุรี บริเวณทะเลอันดามัน อันเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2562
โดยมี พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พลเรือเอก โสภณ วัฒนมงคล รองผู้บัญชาการทหารเรือ พลเรือเอก สุกิตติ เสงี่ยมพงษ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน เสนาธิการทหารเรือ พลเรือเอก นพดล สุภากร ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ
และคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือร่วมสังเกตการณ์ฝึกบนเรือหลวงจักรีนฤเบศร
การฝึกยิงอาวุธปล่อยนำวิถีฯ ในครั้งนี้ กองทัพเรือ ได้ทำการฝึกยิงอาวุธปล่อยนำวิถีแบบ C - 802A จากเรือหลวงกระบุรี เป็นเรือยิง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบขีดความสามารถที่แท้จริงของอาวุธปล่อยนำวิถี C - 802A
ซึ่งการฝึกยิงในวันนี้ เป็นการยิงผ่านการรายงานของหน่วยชี้เป้า ไปยังเป้าหมาย ที่เคลื่อนที่ได้โดยอิสระ (การยิงทางยุทธวิธีขั้นสูงสุด) โดยพื้นที่ทำการฝึกยิงอยู่ห่างจากฝั่ง ประมาณ 180 กิโลเมตร จากฐานทัพเรือพังงา
โดยในเวลา 11.34 น. หลังจากที่อาวุธปล่อย C - 802A ได้ถูกปล่อยออกจากท่อยิงบนเรือหลวงกระบุรี วิ่งเข้าหาเป้าที่อยู่ห่างออกไป 100 กิโลเมตร ด้วยความเร็ว 0.94 มัค และทำลายเป้า ได้อย่างแม่นยำ
ซึ่งการยิงอาวุธปล่อยนำวิถีในครั้งนี้นับได้ว่าเป็นการยิงอาวุธปล่อยที่ระยะยิงไกลที่สุดเป็นครั้งแรกของกองทัพเรือและเป็นครั้งแรกของภูมิภาคอาเซียน
ทั้งนี้ อาวุธปล่อยนำวิถีแบบ C - 802A เป็นอาวุธปล่อยนำวิถีประเภท พื้น - สู่ - พื้น ผลิตจาก สาธารณรัฐประชาชนจีน ใช้ต่อต้านเรือผิวน้ำ
โดยเมื่อถูกปล่อยออกจากท่อยิงจะโคจรเรี่ยน้ำ ด้วยความเร็วต่ำกว่าเสียง ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงแข็ง หัวรบเป็นแบบกึ่งเจาะเกราะ และมีชนวนกระทบแตก หน่วงเวลาการระเบิด มีวงจรต่อต้านการรบกวน สามารถใช้ได้ในสภาวะท้องทะเลปกติ จนถึง สภาพทะเลระดับ 5
โดย กองทัพเรือ จัดหาเข้าประจำการในกองทัพเรือ และติดตั้งไว้ในเรือหลวงกระบุรี และ ร.ล.สายบุรี
สำหรับอาวุธปล่อยนำวิถีแบบ C - 802A มีคุณลักษณะความยาว 6.383 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 0.36 เมตร กว้างขณะกางปีก 1.22 เมตร ขณะพับปีก 0.72 เมตร น้ำหนักรวม 802 กิโลกรัม
โดยการฝึกยิงอาวุธครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการฝึกภาคสนามภาคทะเลประจำปี 2562 ในรหัสการฝึกกองทัพเรือ 62 ณ ฝั่งทะเลอันดามัน
ทั้งนี้เพื่อให้กำลังพลทุกระดับ และทุกหน่วยรบ มีความพร้อมสูงสุด ส่งผลให้กองทัพเรือสามารถรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลได้ ตั้งแต่สถานการณ์ปกติจนถึงสถานการณ์วิกฤตขั้นสูงสุด ไม่ยิ่งหย่อนกว่าชาติใดในภูมิภาค
บรรลุตามวิสัยทัศน์ กองทัพเรือที่ว่า "เป็นหน่วยงานความมั่นคงทางทะเลที่มีบทบาทนำในภูมิภาค และเป็นเลิศในการบริหารจัดการ" สามารถส่งมอบคุณค่าให้กับประชาชนและสังคม "เป็นกองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ"
กองประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ
https://www.facebook.com/prthainavy/posts/2373015892749753
Clip: ดูกันชัดๆ ขณะอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้นแบบ C - 802A ถูกปล่อยออกจากท่อยิง ของเรือหลวงกระบุรี เมื่อช่วงเช้าวันนี้ โดยได้พุ่งเข้าหาเป้าที่อยู่ระยะห่างออกไปเกือบ 100 กิโลเมตร ด้วยความเร็ว 0.9 มัค ได้อย่างแม่นยำ
โดยการฝึกยิงในครั้งนี้นับได้ว่าเป็นการยิงอาวุธปล่อยนำวิถีที่ระยะยิงไกลสุดในภูมิภาคอาเซียน
https://www.facebook.com/prthainavy/videos/270173930588322/
https://www.facebook.com/thaiarmedforce/videos/326381421566015/
เรือฟริเกตชุดเรือหลวงเจ้าพระยาทั้ง ๔ลำที่ประกอบด้วย ร.ล.เจ้าพระยา 455 และ ร.ล.บางปะกง 456 แบบเรือ Type 053HT มีป้อมปืนใหญ่เรือ 100mm แท่นคู่ ๒ป้อมหัวเรือ-ท้ายเรือ กับ ร.ล.กระบุรี 457 และ ร.ล.สายบุรี 458 แบบเรือ Type 053HT(H) มีลานจอดเฮลิคอปเตอร์ท้ายเรือนั้น
กองทัพเรือไทยได้ดำเนินการปรับปรุงความทันสมัยของเรือฟริเกตชุด ร.ล.เจ้าพระยา ๒ลำหลังคือ ร.ล.กระบุรี และ ร.ล.สายบุรี ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๕๒(2009) โดยได้มีการติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้นต่อต้านเรือผิวน้ำแบบ C-802A จำนวน ๘นัดใหม่แทน
เดิม ร.ล.กระบุรี และ ร.ล.สายบุรี ที่ได้เข้าประจำการในกองทัพเรือไทยตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๓๕(1992) นั้นติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้นต่อต้านเรือผิวน้ำ C-801 ระยะยิง 42km จำนวน ๘นัด ขณะที่อาวุธปล่อยนำวิถี C-802A ใหม่มีระยะยิงไกลสุดถึง 180km
เนื่องจากติดขัดเรื่องความปลอดภัยสนามฝึกใช้อาวุธในทะเล ทำให้ตั้งแต่ที่เรือได้รับการปรับปรุงมาเกือบ ๑๐ปีนั้น นี่เป็นครั้งแรกที่กองทัพเรือไทยได้ฝึกยิงอาวุธปล่อยนำวิถี C-802A ต่อเป้าหมายในทะเลจริงเป็นระยะห่าง 100km เมื่อวันที่ ๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๒(2019)
ทั้งนี้เรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ เรือหลวงจักรีนฤเบศร 911 และเรือฟริเกตสมรรถนะสูงชุดใหม่คือ เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช 471 และเรือฟริเกตชุดเรือหลวงนเรศวร เรือหลวงตากสิน 422 พร้อมกำลังอากาศยาน เช่น เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำ ฮ.ปด.๑ Sikorsky SH-60B กองการบินทหารเรือ นั้น
กำลังวางกำลังในทะเลอันดามันเพื่อเข้าร่วมการฝึกผสม Guardian Sea 2019 กับกองทัพเรือสหรัฐฯ(US Navy) ระหว่างวันที่ ๗-๑๑ เมษายน ๒๕๖๒ โดยเป็นการฝึกปราบเรือดำน้ำ(Anti-Submarine Warfare) กับเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ
โดยตลอดทั้งเดือนมีนาคม-พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๒ นี้ กองทัพเรืออยู่ในระหว่างการฝึกกองทัพเรือประจำปี ๒๕๖๒ ในพื้นที่ทั้งด้านอ่าวไทยและฝั่งทะเลอันดามัน ที่ประกอบด้วย การฝึกยิงอาวุธทางยุทธวิธี การฝึกจุดทุ่นระเบิดปราบเรือดำน้ำแบบล่องหน และการฝึกปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก
รวมถึงกำลังรบจากกองทัพบกไทย และอากาศยานจากกองทัพอากาศไทย ที่จะเข้าร่วมการฝึกกับกองทัพเรือ เป็นต้น แสดงถึงขีดความสามารถในการฝึกเพื่อดำรงความพร้อมรบตลอดเวลาของกองทัพเรือไทยครับ