วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2563

กองทัพอากาศสหรัฐฯจะเริ่มแผนปรับปรุง ARES สำหรับเครื่องบินขับไล่ F-22

USAF to launch ARES modernisation plan for F-22 fighter



The proposed ARES modernisation plan for the F-22 will follow on from the REDI II effort and will potentially run for 10 years. (Janes/Patrick Allen)





กองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force) กำลังเริ่มต้นการขับเคลื่อนการปรับปรุงความทันสมัยล่าสุดของตนสำหรับเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-22 Raptor
ในชื่อโครงการเพิ่มขยายขีดความสามารถและดำรงสภาพ Raptor ขั้นก้าวหน้า ARES(Advanced Raptor Enhancement and Sustainment)

เอกสารสรุปบทคัดย่อก่อนการเชิญชวน(pre-solicitation synopsis) ที่อยู่ใน website การจัดซื้อจัดจ้างของรัฐบาลสหรัฐฯ beta.sam.gov โดยสำนักงานโครงการ F-22(AFLCMC/WAU, F-22 Program Office) เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2020
เน้นย้ำว่ากองทัพอากาศสหรัฐฯมีความประสงค์ที่จะประกาศสัญญาแหล่งที่มารายเดียวกับบริษัท Lockheed Martin สหรัฐฯ เพื่อการปรับปรุงในอนาคตแก่ 'เครื่องบินขับไล่ยุคที่5'

"สัญญาที่เสนอเป็นความพยายามที่ตามมาต่อสัญญาโครงการเพิ่มขยาย, พัฒนา และบูรณาการที่สอง REDI II(Raptor Enhancement, Development, and Integration II) 
และจะตอบสนองความต้องการการปรับปรุงความทันสมัย, การจัดการองค์กร และการเลือกความต้องการการดำรงสภาพในอนาคตเพื่อเพิ่มพูนประสิทธิภาพภายในโครงการ F-22" บทคัดย่อกล่าว

เอกสารยังเสริมว่ามีการกำหนดล่วงหน้าว่าสัญญาการส่งมอบไม่แน่นอน/จำนวนไม่แน่นอน(ID/IQ: indefinite delivery/indefinite quantity) จะมีการประกาศภายในเดือนมิถุนายน 2021 โดยพื้นฐานช่วงการสั่งจัดซื้อใน 5ปีและตัวเลือกอีก 5ปี
กองทัพอากาศสหรัฐฯไม่ได้เน้นว่าแผนการปรับปรุงความทันสมัยเฉพาะใดที่จะถูกรวมในความพยายาม ARES หรือไม่ได้กล่าวว่าโคงการจะมีมูลค่าที่วงเงินเท่าไร

ตามการระบุโดย Janes World Air Forces ตั้งแต่ที่ถูกนำเข้าประจำการในปี 2003 เครื่องบินขับไล่ F-22 ได้เป็นประเด็นที่จะนำไปสู่เส้นทางการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
ที่รวมถึงการปรับปรุงระบบ Avionic, ระบบพยุงชีพที่ได้รับการปรับปรุง และระบบอาวุธอากาศสู่อากาศและอากาศสู่พื้นใหม่

F-22 เป็นเครื่องบินขับไล่ยุคที่5แบบแรกของโลกที่ถูกนำเข้าประจำการจริงในกองทัพอากาศสหรัฐฯ โดยมีความยาว 18.92m ปีกกว้าง 13.56 m และสูง 5.08 m มีพิสัยทำการไกลสุด 1,840nmi รัศมีการรบ 410nmi เพดานบินสูงสุด 65,000ft.
ติดตั้งเครื่องยนต์ไอพ่น Turbofan แบบปรับทิศทางแรงขับได้ Pratt & Whitney F119-PW-100 สองเครื่องแรงขับสูงสุดเมื่อใช้สันดาปท้าย 35,000lbf ทำความเร็วได้สูงสุด Mach 2.25 และมีขีดความสามารถการบินด้วยความเร็วเหนือเสียงโดยไม่ใช้สันดาปท้าย supercruise

ระบบอาวุธติดตั้งปืนใหญ่อากาศ M61A2 Vulcan หกลำกล้องหมุนขนาด 20mm ความจุกระสุน 480นัด มีจุดแข็งได้ปีกรวม 4ตำบล ห้องบรรทุกอาวุธภายในลำตัวรองรับอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้ AIM-9X Sidewinder 2นัด 
และอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยกลาง AIM-120C AMRAAM(Advanced Medium-Range Air-to-Air Missile) 6นัด รวมถึงระเบิดนำวิถีดาวเทียม GBU-32 JDAM(Joint Direct Attack Munition) ขนาด 1,000lbs 2นัดหรือ GBU-39 SDB(Small Diameter Bomb) ขนาด 250lbs 8นัดครับ