วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2563

อิสราเอลคัดค้านการซื้อเครื่องบินขับไล่ F-35 ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

Israel rejects UAE F-35 buy part of peace agreement



With the F-35 providing the IAF’s qualitative military edge, Prime Minister Benjamin Netanyahu has opposed the sale to any country in the Middle East, including Arab countries that have peace agreements with the State of Israel. (Israeli Air Force)



อิสราเอลได้คัดค้านอย่างรุนแรงต่อแนวคิดที่ว่าข้อตกลงสันติภาพครั้งประวัติศาสตร์ของตนกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(UAE: United Arab Emirates) ได้รวมการอ้างอิงใดๆในการยกเลิกข้อจำกัดการขายอาวุธให้กลุ่มชาติอ่าว Persian โดยทั่วไป
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการขายเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-35 Lightning II Joint Strike Fighter(JSF) ของสหรัฐฯ

สำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอล(PMO: Prime Minister’s Office) ได้ออกแถลงการเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2020 หักล้างการอ้างที่วนเวียนในสื่อและที่ต่างๆว่าข้อตกลงกับ UAE ที่ประกาศเมื่อห้าวันก่อน
ได้รวมถึงการขายอาวุธใดๆที่ปัจจุบันมีการจำกัดที่เป็นผลจากของการให้การรับประกันที่ยาวนานรัฐบาลสหรัฐฯใน Washington เพื่อดำรงขอบคุณภาพที่เหนือกว่าทางทหารของอิสราเอล

"ข้อตกลงสันติภาพกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไม่ได้รวมถึงการอ้างอิงใดๆต่อการขายอาวุธ และสหรัฐฯได้ทำให้ชัดเจนว่าจะดูแลอย่างเข้มงวดเสมอเพื่อดำรงของคุณภาพที่ล้ำหน้ากว่าของอิสราเอล
ตั้งแต่แรกเริ่ม นายกรัฐมนตรีอิสราเอล Benjamin Netanyahu ได้คัดค้านการขาย F-35 และระบบอาวุธขั้นก้าวหน้าอื่นแก่ประเทศใดๆในตะวันออกกลางรวมถึงประเทศอาหรับที่มีข้อตกลงสันติภาพกับรัฐอิสราเอล" สำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอลกล่าว

ปัจจุบันกองทัพอากาศอิสราเอล(Israeli Air Force) เป็นผู้ใช้งานรายเดียวในกลุ่มชาติตะวันออกกลางสำหรับเครื่องบินขับไล่ F-35A รุ่นขึ้นลงตามแบบ CTOL(Conventional Take-Off and Landing)
ที่สั่งจัดหาจำนวน 50เครื่องเข้าประจำการในชื่อเครื่องบินขับไล่ F-35I Adir(ภาษาฮีบรูแปลว่า "ผู้ทรงฤทธา") โดยมีการเปิดตัวเครื่องแรกในเดือนมิถุนายนปี 2016(https://aagth1.blogspot.com/2016/06/lockheed-martin-f-35.html)

กองทัพอากาศอิสราเอลนำเครื่องบินขับไล่ F-35I เข้าประจำการในสองฝูงบินคือฝูงบินที่140(140 Squadron) และฝูงบินที่116(116 Squadron) ฝูงละ 25เครื่อง ณ ฐานทัพอากาศ Nevatim
โดยมองที่จะจัดหาเพิ่มเติมอีก 25เครื่องสำหรับจัดตั้งฝูงบินที่สามรวมเป็น 75เครื่อง และเป็นชาติแรกในโลกที่นำเครื่องบินขับไล่ F-35 ออกปฏิบัติการรบจริงในปี 2018 ด้วย(https://aagth1.blogspot.com/2018/05/f-35a.html)

ในปี 2017 รัฐบาลสหรัฐฯได้กล่าวว่าตนได้มีการหารือเบื้องต้นกับรัฐบาล UAE ใน Abu Dhabi เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการขายเครื่องบินขับไล่ F-35 แต่ต่อมาได้ถอนตนออกห่างจากความเป็นได้ของข้อตกลงใดๆ 
และแทนที่ด้วยการให้ความสนใจการปรับปรุงเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-16E/F Block 60 ที่ประจำการในกองทัพอากาศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(UAEAF&D: United Arab Emirates Air Force and Defence) อยู่ก่อนแล้วครับ