INS Khanderi was commissioned on 28 September at Naval Dockyard Mumbai. Source: Richard Scott/NAVYPIX
https://www.janes.com/article/91618/india-commissions-second-project-75-submarine
India commissions second Scorpene submarine, launches first Project 17A frigate
MDL launched Nilgiri, the first of seven Shivalik II (Project 17A)-class frigates on order for the IN, in a ceremony held on 28 September at the shipyard’s facilities in Mumbai. Source: Indian Navy
https://www.janes.com/article/91597/india-commissions-second-scorp%E8ne-submarine-launches-first-project-17a-frigate
กองทัพเรืออินเดีย(Indian Navy) ได้ทำพิธีประจำการเรือดำน้ำโจมตีดีเซล-ไฟฟ้า(SSK) ชั้น Kalvari (เรือดำน้ำแบบ Scorpene) ลำที่สอง S22 INS Khanderi เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2019
เรือดำน้ำ INS Khanderi ความยาวเรือ 67.5m มีพิธีขึ้นระวางประจำการ ณ อู่เรือใน Mumbai อินเดีย โดยมีรัฐมนตรีกลาโหมอินเดีย Rajnath Singh เป็นประธานในพิธี
กองทัพเรืออินเดียกล่าวในการแถลงว่าเรือดำน้ำ "ได้รวมวิทยาการล้ำสมัยต่างที่จะทำให้มั่นใจถึงการตรวจจับได้ยาก, การปฏิบัติการเงียบใต้น้ำ" และเสริมว่าเรือดำน้ำได้รับการติดตั้ง
"ด้วย Torpedo, อาวุธปล่อยนำวิถี และระบบตรวจจับหลากหลายแบบ ที่ทำให้เธอจะตรวจจับ, พิสูจน์ทราบ และทำลายเป้าหมายข้าศึก"
พิธีที่มีขึ้นนี้เกิดขึ้นแม้ว่าแหล่งข่าวในกองทัพเรืออินเดียได้ให้ข้อมูลว่าการประจำการเรือดำน้ำ S22 INS Khanderi น่าจะถูกเลื่อนออกไปจนไปจนถึงปี 2020 เพื่อ "แก้ไข" ข้อสังเกตหรือข้อบกพร่อง 36รายการที่ตรวจพบในเรือ
ข้อสังเกตที่ถูกตรวจพบดังกล่าวรวมถึงสิ่งที่ถูกอธิบายในเวลานั้นว่า "ไม่สามารถยอมรับได้" ทั้งระดับเสียงเครื่องยนต์และใบจักรที่สูง และปัญหากับเครื่องวัดระดับการลอยตัวของเรือและห้องน้ำในเรือ ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าข้อบกพร่องเหล่านี้ได้รับการแก้ไขแล้วหรือจะจัดการในอนาคตอันใกล้หรือไม่
เรือดำน้ำ INS Khanderi ซึ่งถูกปล่อยลงน้ำเมื่อเดือนมกราคม 2017 และได้เริ่มการทดลองเรือในทะเลในอีกไม่กี่เดือนให้หลัง(https://aagth1.blogspot.com/2017/06/scorpene-kalvari-ins-khanderi.html)
เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Project 75 วงเงิน 235.62 billion Indian Rupee($3.33 billion) สำหรับการสร้างเรือดำน้ำแบบ Scorpene จำนวน 6ลำ ที่รวมชุดการถ่ายทอดวิทยาการที่ครอบคลุม การปรับปรุงอู่เรือและการสร้างเรือทั้งหมดในอินเดีย
ซึ่งในเดือนตุลาคม 2005 ได้ทำสัญญากับบริษัท Armaris ที่ต่อมาคือบริษัท DCNS และปัจจุบันบริษัท Naval Group ฝรั่งเศสตามลำดับ และผู้รับสัญญาย่อยบริษัท Thales ยุโรป รวมถึงให้การรับรองหลายบริษัทของอินเดียเพื่อจัดตั้งฐานผู้จัดส่งแก่เรือดำน้ำ
อู่เรือ Mazagon Dock Shipbuilders Limited(MDL) ขอรัฐบาลอินเดียซึ่งส่งมอบเรือดำน้ำ INS Khanderi ให้กองทัพเรืออินเดียเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2019 (ณ อู่เรือ no 11876) ได้รับสิทธิบัตรการสร้างเรือดำน้ำทั้งหมด 6ลำโดยความร่วมมือกับ Naval Group ฝรั่งเศส
เรือลำแรกของชั้นคือเรือดำน้ำ S21 INS Kalvari ได้ถูกส่งมอบในเดือนกันยายน 2017เข้าประจำการเมื่อเดือนธันวาคม 2017 เป็นเวลา 6ปีที่ล่าช้าจากกำหนดการ เรือดำน้ำชั้น Kalvari ซึ่งมีระวางขับน้ำ 1,615tonnes ขณะลอยเรือที่ผิวน้ำและ 1,775tonnes เมื่อดำลงใต้น้ำ
ได้รับการติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำโคจรเรียดผิวน้ำยิงจากท่อ Torpedo เรือดำน้ำแบบ Exocet SM39 และระบบต่อต้าน Torpedo แบบ C303/S
จากการพูดคุยกับผู้บัญชาการกองทัพเรืออินเดีย พลเรือเอก Karambir Singh กล่าวว่าเรือดำน้ำที่เหลือทั้ง 4ลำอยู่ในช่วงการทดลองเรือหรืออยู่ระหว่างก่อสร้างที่แตกต่างกัน "เรือลำที่สาม S23 INS Karanj กำลังดำเนินการทดลองเรือในทะเลและบรรลุการดำที่ความลึกปฏิบัติการมากสุดของเธอ
เรือลำที่สี่ S25 INS Vela ได้ถูกปล่อยลงน้ำในเดือนพฤษภาคม 2019 และจะดำเนินการทดลองเรือในทะเลโดยเร็ว เรือลำที่ห้าและลำที่หกกำลังอยู่ระหว่างการตกแต่งและจะถูกปล่อยลงน้ำในปี 2020 และ 2021 ตามลำดับ"
การส่งมอบเรือดำน้ำ INS Khanderi เป็นเสร็จสิ้นบทบาทการให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคของ Naval Group ฝรั่งเศสต่อโครงการ Project 75
ขณะที่บริษัทจะยังคงให้การสนับสนุนทางเทคนิคและการออกแบบเมื่อ MDL อินเดียร้องขออยู่ โดยอู่เรือ MDL จะรับผิดชอบอย่างเต็มรูปแบบในการส่งมอบเรือดำน้ำชั้น Kalvari ที่เหลือทั้ง 4ลำ
ในวันที่ 28 กันยายน 2019 เช่นเดียวกันรัฐมนตรีกลาโหมอินเดีย Rajnath Singh ได้เป็นประธานในพิธีปล่อยเรือฟริเกตชั้น Shivalik II โครงการ Project 17A ลำแรก INS Nilgiri ลงน้ำ ณ อู่เรือของ MDL อินเดียใน Mumbai
เรือฟริเกต INS Nilgiri ระวางขับน้ำ 6,670tonnes ความยาวเรือ 149m เป็นเรือลำแรกของเรือฟริเกตชั้น Nilgiri ทั้งหมด 7ลำที่ได้รับการสั่งจัดหาจากกองทัพเรืออินเดียวงเงิน 850 billion Indian Rupee($12 billion) ที่เริ่มสร้างในเดือนธันวาคม 2017 และคาดว่าจะเข้าประจำการได้ในปี 2022 ครับ